ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1289 ซ่อนได้ลึกมาก (1)
เขาไม่มีทางให้ใครมาสร้างเรื่องทำร้ายฉิงฉิงอีก ไม่มีทางแน่นอน!!
สำหรับเรื่องที่หยวนหยูให้เครื่องดับฟังกับโจ๋วชิงจำเป็นต้องสืบให้ชัดเจน ดังนั้น เรื่องนี้เขาเอก็จำเป็นต้องทำให้ชัดเจนโจ่งแจ้ง
โจ๋วชิงได้ยินคำพูดของถังหลินในใจก็มีความรู้สึกผิดเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะรู้แล้ว พี่ใหญ่น่าจะไปตรวจกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล พี่ใหญ่ตรวจอย่างเร่งรีบแบบนี้แสดงว่าเรื่องนี้ต้องสำคัญมากๆ และรีบมากๆ เมื่อกี้เขาไม่ควรจะโกหกพี่ใหญ่จริงๆ
“ครับ” แน่นอนว่าโจ๋วชิงในตอนนี้ไม่มีทางปิดบังอะไรอีกแล้ว แน่นอนว่าโจ๋วชิงก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เกิดผลที่ตามมาแล้ว เขาไม่มีทางพูดว่าตัวเองไม่รู้เรื่องแน่นอน
“พี่ใหญ่ ต้องการให้ผมทำอะไรไหมครับ?” เสียงของโจ๋วชิงดูต่ำอย่างชัดเจน ความผิดนี้เขาเป็นคนก่อ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องหาวิธีชดเชย
“นายเลิกกับหยวนหยูหลายปีแล้วใช่ไหม?” ถังหลินที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ขมวดคิ้วแน่น “หลายปีที่ผ่านมานี้พวกนายยังติดต่อกันอยู่หรือเปล่า?”
“เลิกกันแปดปีแล้วครับ แปดปีนี้พวกผมไม่มีการติดต่อกันเลย และไม่เคยเจอหน้ากัน จู่ๆ เมื่อคืนเธอก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของผม มอบซองเอกสารนั้นให้ผม บอกว่าเป็นสิ่งของช่วงมหาวิทยาลัยของพวกผม ตอนนั้นผมก็นึกถึงเรื่องในเมื่อก่อนขึ้นมา ดังนั้น จึงไม่ได้ไปสงสัยเรื่องอื่น” โจ๋วชิงเข้าใจว่าถังหลินถามคำถามนี้เขาหมายความว่าอะไร ดังนั้นครั้งนี้โจ๋วชิงตอบอย่างละเอียดมาก
โจ๋วชิงหยุดพูดไปสักพัก นัยน์ตาคู่หนึ่งหม่นหมองลง ในตอนที่เปิดปากพูดอีกครั้ง น้ำเสียงยิ่งต่ำลง “พี่ใหญ่ครับ เมื่อวานผมไปโรงพยาบาลทำอะไร ขอแค่คนที่ดูการถ่ายทอดสดต่างก็รู้หมดครับ ดังนั้น เครื่องดับฟังอันนี้ของเธอถูกวางแผนไว้แล้ว ก็คืออยากจะดับฟังสถานการณ์ของบ้านถัง เธอน่าจะคิดว่าหลังจากผมจัดการงานเสร็จแล้วต้องส่งถังจื่อโม่กลับไป คิดได้ว่าผมจะไปที่บ้านถัง”
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าโจ๋วชิงไม่มีการปกป้องใดๆแล้ว เรื่องนี้สามารถพูดได้อย่างชัดเจนมากๆ แล้ว
“แต่ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้? เธอไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับบ้านถัง เธอกับฉิงฉิงก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกัน เธอไม่มีเหตุผลที่จะต่อต้านบ้านถัง อีกอย่างเมื่อกี้ฉันก็สืบดูแล้ว เธอไม่มีความเกี่ยวข้องกับถังไป๋เชียน ดังนั้นทำไมถึงต้องช่วยถังไป๋เชียนล่ะ?” หลังจากถังหลินสืบเจอกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ไปทำการสืบเรื่องอื่นๆ ของหยวนหยู ตอนแรกเธอคิดว่าระหว่างหยวนหยูกับถังไป๋เชียนจะมีความสัมพันธ์อะไรกัน หรืออาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกัน ทว่าตามที่เขาสืบเจอ หยวนหยูและถังไป๋เชียนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆต่อกันเลย
เขาก็ไม่ได้สืบเจอข้อแลกเปลี่ยนใดๆ ระหว่างหยวนหยูกับถังไป๋เชียน
ตามที่เขาสืบเจอ ความสัมพันธ์ต่างๆ ของหยวนหยูง่ายมาก ปกติแล้วเพื่อนๆ ที่คบอยู่ก็คือเพื่อร่วมงานที่พอเข้ากันได้ในโรงพยาบาล หลายปีมานี้หยวนหยูถึงขั้นไม่ร่วมงานเลี้ยงรุ่นเลย ไม่มีการติดต่อกับเพื่อนสมัยเรียนเลย
ผู้หญิงแบบนี้ทำไมถึงต้องใส่ร้ายบ้านถัง? ทำไมถึงต้องใส่ร้ายฉิงฉิง?
ขณะนี้ถังหลินเริ่มคิดไม่ออกแล้ว
โจ๋วชิงตะลึงงันไป เรื่องเมื่อกี้โจมตีเขาค่อนข้างหนัง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดมาก คำถามพวกนี้เขาเองก็คิดไม่ถึง พอได้ยินเสียงของถังหลินในตอนนี้แล้ว เขารู้สึกแปลกมาก
หยวนหยูไม่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นจริงๆ
ทว่าโจ๋วชิงนึกไปถึงเรื่องเมื่อแปดปีก่อน นึกขึ้นว่าเธอใช้เขาเป็นเครื่องมือ นึกถึงเธอหลอกใช้เขา สีหน้าของเขาก็สุขุมลงอีกครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยแสดงออกเลยว่าเธอใสซื่อขนาดนั้น ธรรมดาขาดนั้น ไม่เช่นนั้นระหว่างแปดปีนี้เขาก็คงไม่ถูกเธอหลอกแบบนี้
แต่ว่าพอเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดโจ๋วชิงก็ไม่ได้พูดออกมา
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไว้ใจผม ผมไปสืบให้ชัดเจนเองครับ” โจ๋วชิงสูดหายใจลึก ในแววตามีความเด็ดขาดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เรื่องเมื่อแปดปีก่อนที่เธอหลอกเขา เขาสามารถไม่เอาเรื่องได้ ทว่าเรื่องในวันนี้เขาต้องสืบให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะเพื่อพี่ใหญ่ หรือว่าเพื่อตัวเขาเอง เขาก็ต้องสืบให้ชัดเจน
“ก็ดี นายไปคุยกับเธอดีๆ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้นพวกนายถึงแยกทางกัน ฉันรู้สึกว่ามีปัญหาอะไรควรจะคุยกันดีๆ ภาพลักษณ์ของหยวนหยูที่มีต่อฉันนั้นไม่เลวมาโดยตลอด” ถังหลินเองก็รู้ว่าเรื่องนี้ให้โจ๋วชิงออกหน้าเองจะเหมาะสมกว่า
ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้โจ๋วชิงจะไม่พูดถึงเรื่องในตอนนั้นเลย ทว่าถังหลินรู้ โจ๋วชิงไม่ได้ลืมหยวนหยู ถึงแม้ว่าจะผ่านไปแปดปีแล้ว โจ๋วชิงก็ยังไม่ลืม หลายปีมานี้โจ๋วชิงเอาแต่ทุ่มเทกับงาน จนกลายเป็นคนบ้างาน ถังหลินรู้ว่าจริงๆแล้วโจ๋วชิงกำลังหนีอยู่
ตอนนี้มีโอกาสแบบนี้ที่โจ๋วชิงจะสามารถพูดคุยดีกับหยวนหยูได้ถือว่าไม่เลว ภาพลักษณ์ของหยวนหยูที่มีต่อเขาก็ไม่เลวอยู่แล้วแต่แรก หลังจากที่สืบเรื่องของหยวนหยูในเมื่อกี้แล้ว ยิ่งรู้สึกว่าหยวนหยูเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนใสซื่อธรรมดา อ่อนโยนใจดี เหมาะสมกับโจ๋วชิงมากจริงๆ
ถึงแม่ว่าเครื่องดับฟังนั้นจะเป็นหยวนหยูที่เป็นคนให้โจ๋วชิง ทว่าถังหลินกลับรู้สึกว่าน่าจะไม่ใช่ความผิดของหยวนหยู หยวนหยูอาจจะถูกคนหลอกใช้แล้ว
หลังจากที่โจ๋วชิงวางสายถังหลินแล้ว จากนั้นก็หาเบอร์โทรศัพท์หนึ่งในรายชื่อติดต่อ มีเบอร์หนึ่งที่ไม่เคยกดโทรเป็นเวลาแปดปี ทว่ากลับเป็นเบอร์ที่เก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อเสมอมา จริงๆแล้วเบอร์นี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เก็บไว้ในรายชื่อติดต่อ เขาก็จำได้ จำได้อย่างชัดเจน เบอร์นั้นเหมือนดั่งสลักไว้ในใจของเขา ไม่มีทางลืมตลอดไป
จู่ๆเขาก็รู้สึกว่า จริงๆแล้วมีเรื่องราวมากมายในตอนนั้นที่เขาไม่เคยลืม ไม่เคยลืมมาโดยตลอด ทว่าแปดปีมากนี้ เขาห้ามให้ตัวเองไม่ไปคิด หนีมันมาโดยตลอด
นิ้วมือของเขาเลื่อนอยู่บนโทรศัพท์ เลื่อนไปถึงเบอร์โทรศัพท์นั้น กลับไม่ได้กดโทรออกไปสักที
แปดปีแล้ว แปดปีมานี้เขากับเธอไม่ได้ติดต่อกันเลย ตอนนี้จู่ๆจะกดโทรเบอร์นี้ออกไป เขารู้สึกว่าเขากลับมีความกลัวเล็กน้อย
โทรติดแล้ว เขาจะพูดอะไร?
ใช่ เขาจะถามเรื่องเครื่องดับฟัง เขาจะถามว่าเธอจะทำอะไรกันแน่?
โจ๋วชิงสูดหายใจลึก จากนั้นก็กดโทรเบอร์หนึ่งออกไป และแม้แต่โจ๋วชิงเองก็คงไม่เห็นว่า ในตอนที่เขาโทรเบอร์นี้ออกไป นิ้วของเขามีความสั่นเล็กน้อย
โทรศัพท์ดังไปไม่กี่เสียง ฝั่งตรงข้ามจึงจะรับ
“ฮัลโหล” เสียงของหยวนหยูดังผ่านมา เบามาก อ่อนโยนมาก ยังคงนุ่มนวลเหมือนดั่งเมื่อก่อนที่เธอกระซิบข้างหูทุกครั้ง
ความรู้สึกที่เธอให้ผู้อื่นนั้นอ่อนโยน และเงียบสงบมาโดยตลอด ทว่าตอนนั้นที่เธอทำเรื่องนั้นขึ้นมากลับดูพยายาม และยืนหยัดมากๆ เหมือนดังเรื่องในตอนนั้นที่เธอจีบเขา
ในตอนแรก เขาไม่สนใจเธอเลย ทว่าเธอกลับยืนหยัด ยืนหยัดไปครึ่งปี จนกระทั่งเขาตอบตกลง
เขาตอบตกลงแล้ว ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมดของเธอ เธอโกหกเขา เธอหลอกใช้เขา
ตอนนั้นเธอก็ใช้ความอ่อนโยนเงียบสงบนี้แหละมาทำให้เขาหลงใหล
พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ สีหน้าของโจ๋วชิงก็สุขุมลง เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วดูมืดมนลงเล็กน้อย!