ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1297 ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน (1)
สติหยวนหยูกระเจิดกระเจิงแล้ว แต่เธอรู้ว่าตัวเองต่อต้านไม่ได้ และเธอก็ไม่มีปัญญาต่อต้าน“เมื่อกี้ผมบอกคุณแล้ว คุณไม่ตายก็ได้ และผมก็จะช่วยคุณ คุณลองใช้สมองดู คุณเป็นคนฉลาด ผมเชื่อว่าคุณเข้าใจความหมายของผม”เสียงของอีกฝ่ายค่อยๆแว่วเข้ามา ประโยคสุดท้ายมีความหมายอย่างชี้แจ้ง
หยวนหยูกระพริบตารัวๆ ในสมองมีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมา เธอเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายเลือนรางแล้ว
“เข้าใจแล้วเหรอ?เข้าใจก็ดี”อีกฝ่ายฉลาดมากจริงๆ หยวนหยูยังไม่ได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็รู้ว่าหยวนหยูเข้าใจแล้ว ดังนั้นเวลานี้ น้ำเสียงของอีกฝ่ายปะปนไปด้วยเสียงหัวเราะ
“ทำไมต้องทำแบบนี้?คุณหมายความว่ายังไง?คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”หยวนหยูเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร
หยวนหยูรู้ว่าคนผู้นี้ เพื่อเป้าหมายของตัวเอง เขาทำได้ทุกอย่าง หยวนหยูก็รู้ว่าชีวิตของเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับอีกฝ่าย ดังนั้นคนผู้นั้นไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากเพียงนี้เลย
“ทำตามที่ฉันบอก ไม่ต้องถามเรื่องอื่น”น้ำเสียงของปลายสายเย็นเยียบและเข้มขรึมอีกครั้ง
“ยังมีอีก เมื่อคุยเสร็จแล้วก็รีบทำลายมือถือทิ้งทันที ต้องไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ ถังหลินไม่ใช่คนธรรมดา ให้เขาพบความผิดปกติไม่ได้แม้แต่นิดเดียว หากคุณทำไม่ได้ ฉันก็ไม่รับรองว่าจะทำตามที่รับปากคุณไว้ได้หรือไม่”สิ้นเสียง อีกฝ่ายก็ตัดสายทิ้งทันที เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมั่นใจว่าหยวนหยูจะเชื่อฟัง และต้องทำตามแน่นอน
หยวนหยูมองมือถือที่ถูกตัดสายก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่นึกเลยว่าคนผู้นั้นจะบีบให้เธอทำเช่นนี้
ทว่าเธอคัดค้านได้ไหม?ไม่ได้เลย เพราะหยวนหยูรู้ว่าหากเธอไม่ทำตาม ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
หากเธอทำตามที่คนผู้นั้นบอก หากเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ เรื่องอื่นก็จะ……
หยวนหยูกำลังครุ่นคิด มือถือก็ดังขึ้นกะทันหัน เธอรีบมองไปยังหน้าจอมือถือ พบว่าเป็นข้อความฉบับหนึ่ง ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนผู้นั้นส่งข้อความหาเธอ
คนผู้นั้นระมัดระวังมาก อีกฝ่ายส่งเป็นข้อความเสียงมา ถึงแม้จะเป็นมือถือใช้งานชั่วคราว ถึงแม้จะเป็นเบอร์ใหม่ใช้ได้ชั่วคราวเท่านั้น ทว่าคนผู้นั้นก็ระวังตัวเสมอ
‘ฉันขอเตือนว่าอย่าคิดตุกติกเด็ดขาด’ประโยคที่แสนเรียบง่าย ทว่าการเตือนและข่มขู่ชัดเจนมาก เมื่อครู่เธอคิดนอกลู่นอกทาง คนผู้นั้นก็ส่งข้อความมาทันที ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
หยวนหยูรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นั้น หากเธอคิดจะต่อกรกับคนผู้นั้น เธอต้องแพ้อย่างอเนจอนาถแน่
‘อะไรที่ฉันพูด ฉันทำได้ทั้งนั้น คุณควรเชื่อว่าฉันจะไม่หลอกคุณ เพราะทำแล้วก็เปล่าประโยชน์’อีกฝ่ายมองหยวนหยูจนทะลุปรุโปร่ง มีข้อความเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีการปกติของคนผู้นั้น
หยวนหยูเห็นข้อความนี้แล้ว ดวงตาพลันกระพริบถี่ๆ หยวนหยูเชื่อคำพูดของอีกฝ่าย เพราะคนผู้นั้นไม่เคยหลอกเธอมาก่อนจริงๆ สิ่งที่รับปากไว้ อีกฝ่ายทำได้เสมอ
คนอื่นทำเรื่องพวกนั้นไม่ได้ แต่คนผู้นั้นทำได้
ความคิดของหยวนหยูที่ผุดขึ้นมาเมื่อครู่ โดนสองข้อความนี้สยบเรียบร้อย อันที่จริงเธอก็ไม่กล้าขัดคำสั่งคนผู้นั้นจริงๆหรอก
ดังนั้นตอนนี้เธอต้องทำตามคนผู้นั้นเท่านั้น
ต้องบอกว่าคนผู้นั้นน่ากลัวขนานแท้เลย อีกฝ่ายสามารถจัดการทุกอย่างได้ดี ประหนึ่งภูษาไร้ตะเข็บ
แถมคนผู้นั้นสามารถควบคุมทุกอย่าง ไม่มีใครสามารถต้านทานได้เลย
หยวนหยูเข้าใจความหมายเมื่อสักครู่ดี เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่น
หยวนหยูมองมือถือที่ตนกำไว้ คนผู้นั้นสั่งให้ทำลายมือถือทิ้ง แถมต้องไม่ทิ้งร่องรอยไว้อีกต่างหาก หยวนหยูลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็ลุกขึ้น เธอนำซิมออกมาโยนใส่อ่างล้างมือ จากนั้นก็ปล่อยน้ำทิ้ง
อันที่จริงสิ่งที่อาจจะถูกเปิดเผยได้มากที่สุดก็คือซิมมือถือ แต่ก็คงไม่พบความลับอะไรมากนัก เพราะหยวนหยูรู้ว่าคนผู้นั้นระมัดระวังตัวสูงมาก คงต้องใช้บัตรปลอมลงทะเบียนซิมการ์ดนี้แน่นอน และต้องพึ่งจะลงทะเบียนมาใช้
ส่วนมือถือนั้นไม่มียี่ห้อ ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นมือถือในตลาดทั่วๆไป ไม่อาจสืบได้เลยว่าซื้อมาจากไหน
ทว่าถึงจะเป็นเช่นนี้ คนผู้นั้นก็ยังคงเรียกร้องให้เธอทำลายมือถือทิ้ง เห็นได้ว่ารอบคอบถึงขั้นไหน
ในอดีตคนผู้นั้นจัดการอย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม สามารถตบตาโจ๋วชิงได้
ทว่าตอนนี้คนผู้นั้นอาจโดนถังหลินจับได้ เห็นได้ชัดว่าถังหลินเก่งกาจมากเพียงใด หยวนหยูอยากทิ้งร่องรอยให้ถังหลินมาก แต่เธอก็ไม่กล้าเสี่ยง
เธอกลัวคนผู้นั้นจะรู้ทุกการกระทำของตน ถึงเวลานั้น……
หยวนหยูแอบถอนหายใจ สุดท้ายก็ทุบมือถือทิ้ง จากนั้นก็ราดน้ำให้ไหลลงท่อระบายน้ำเสีย
ภายในโรงพยาบาลตี้อี เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงได้รับสายจากถังหลินก็รีบมุ่งหน้ามาที่นี่ทันที
“พี่ใหญ่ พบเบาะแสอะไรบ้าง?”เย่ซือเฉินคิดว่าที่ถังหลินเรียกพวกเขาไปเพราะเจอเบาะแสอะไรบางอย่างแล้ว
“พี่สืบได้ว่าหยวนหยูเป็นคนให้อุปกรณ์ดักฟังกับโจ๋วชิง นายเคยเจอหน้าหยวนหยูแล้ว เธอเป็นแฟนโจ๋วชิงสมัยเรียนมหาลัย”ถังหลินเห็นเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงก็รีบวางเอกสารในมือลง
“ทำไมเธอต้องทำอย่างนั้น?”เย่ซือเฉินย้อนคิดดูแล้วถึงนึกหยวนหยูออก เย่ซือเฉินไม่เข้าใจว่าหยวนหยูทำไปเพื่ออะไร เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาเลย อย่างมากหยวนหยูก็เป็นแค่แฟนเก่าของพี่สองเท่านั้น
เวินลั่วฉิงกระพริบตาเบาๆ เธอรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้ ดังนั้นคุณชายสองโจ๋วกำลังปกป้องแฟนเก่าอยู่?
แน่นอน เวลานี้เวินลั่วฉิงก็ฉงนสนเท่ห์เฉกเช่นเดียวกับเย่ซือเฉิน เธอรู้สึกว่าเรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
“ใช่ หยวนหยูไม่ได้บอกสาเหตุ และเท่าที่พี่สืบมา หยวนหยูไม่รู้เรื่องด้วย คงถูกใช้เป็นเครื่องมือ หากอนุมานไปตามนี้ เมื่อวานต้องมีคนติดต่อหยวนหยูแน่ ไม่งั้นหยวนหยูคงไม่ไปคืนจดหมายให้โจ๋วชิงโดยที่ไม่ได้ติดต่อกันมาแปดปีหรอก พี่ให้คนไปสืบความเคลื่อนไหวของหยวนหยูเมื่อวานทั้งหมดแล้ว ไม่พลาดแม้แต่จุดเดียวแน่”ถังหลินรีบอธิบาย