ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1315 ที่แท้ต่างก็เป็นเรื่องปลอมทั้งนั้น (1)
โจ๋วอันหนานก่อเรื่องไปมากมายขนาดนั้น เขาก็ไม่เชื่อว่าโจ๋วอันหนานจะไม่เหลือข้อบกพร่องไว้แม้แต่น้อยเลย ขอแค่เขาให้คนไปสืบ ก็ต้องสืบเจอแน่นอน
“ซือเฉิน ปกป้องฉิงฉิงดีๆ” ถังหลินนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาลองใจโจ๋วอันหนานตรงห้องผู้ป่วยก็อดตกใจไม่ได้ โจ๋วอันหนานโหดร้ายเกินไปแล้วจริงๆ แม้กระทั่งน้องชายแท้ๆ ของเธอก็ไม่สนใจแล้ว ดังนั้นถังหลินกลัวมากจริงๆ ว่าโจ๋วอันหนานจะทำร้ายเวินลั่วฉิงอีก
เรื่องทั้งหมดที่โจ๋วอันหนานทำก่อนหน้านี้ต่างก็เพราะต่อต้านฉิงฉิง และโจ๋วอันหนานทำเรื่องพวกนี้ต่างก็เพื่อซือเฉิน ตอนนี้ซือเฉินออกหน้าสืบโจ๋วอันหนานเองแล้ว ถังหลินกลัวว่าโจ๋วอันหนานจะเป็นบ้ากว่าเดิม
คนแบบโจ๋วอันหนานน่ากลัวอยู่แล้วตั้งแต่แรก หากเป็นบ้าขึ้นมา ใครก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำเรื่องอะไรออกมา
ถึงแม้ถังหลินรู้ว่าความสามารถของฉิงฉิงไม่มีทางแพ้ให้กับโจ๋วอันหนาน ทว่าดูจากเรื่องที่โจ๋วอันหนานทำในตอนนี้แล้ว โจ๋วอันหนานคือคนบ้าชัดๆ เรื่องอะไรก็ทำออกมาได้จริงๆ
“ฉันรู้แล้ว” เย่ซือเฉินตอบกลับด้วยเสียงต่ำ สิ่งที่ถังหลินนึกถึงเย่ซือเฉินก็ต้องนึกถึงแน่นอน เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้ถังหลินพูด มีเขาอยู่ เขาไม่มีทางให้ฉิงฉิงได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยแน่นอน
“รู้เบาะแสอะไรแล้วเหรอ?” ถังหลินเข้าใจความสามารถของเย่ซือเฉินดี ตอนนี้เย่ซือเฉินได้ใช้ความสามารถและพลังงานทั้งหมดแล้ว ไม่รู้ว่าสืบเจออะไรบ้าง?
“ฉันไปหาหมอลู่อีกครั้ง ทว่าไม่เจอใครเลย ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะโชคไม่ค่อยดี โรงพยาบาลของผลตรวจดีเอ็นเอจากถังไป๋เชียน ฉันก็ให้คนไปสืบแล้ว ยังไม่เจออะไร ตอนที่เธอทำเรื่องพวกนี้ระมัดระวังมากจริงๆ” ถังหลินถามไป เย่ซือเฉินจึงพูดสถานการณ์ที่เขาสืบเจอออกมา น้ำเสียงของเย่ซือเฉินค่อนข้างต่ำ สองเรื่องนี้โจ๋วอันหนานทำแบบเปิดเผย ดังนั้นเขาจึงสืบสองเรื่องนี้ก่อน
“นายสืบเรื่องที่หยวนหยูเลิกกับโจ๋วชิงหน่อย สืบดูว่าหยวนหยูมีเรื่องอะไรที่ถูกโจ๋วอันหนานควบคุมหรือเปล่า” ถังหลินรู้ว่าเรื่องช่วงนี้ที่โจ๋วอันหนานทำต้องจัดการอย่างระมัดระวังแน่นอน ทำอย่างละเอียดรอบคอบ เกรงว่าคงจะกลัวว่าถูกจับข้อบกพร่องได้
ทว่าเรื่องที่หยวนหยูเลิกกับโจ๋วชิงเป็นเรื่องเมื่อแปดปีก่อนแล้ว ไม่ว่ายังไงแล้วตอนนั้นโจ๋วอันหนานก็แค่อายุยี่สิบสามปี ยังไม่ได้ฉลาดขนาดนี้ อีกอย่างตอนนั้นโจ๋วอันหนานแค่ป้องกันโจ๋วชิง ขอแค่ไม่ถูกโจ๋วชิงจับได้ก็พอแล้ว
ไม่เหมือนกับเธอในตอนนี้ที่ต้องป้องกันเย่ซือเฉิน ต้องป้องกันเวินลั่วฉิง ยังต้องป้องกันบ้านถังอีก
ดังนั้นเมื่อแปดปีก่อนโจ๋วอันหนานคงจะไม่ระมัดระวังขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเวลาผ่านไปนานแล้วจะสืบยาก ทว่าถังหลินรู้สึกว่าน่าจะสืบง่ายกว่าตอนนี้
ถังหลินสามารถแน่ใจได้เลยว่า เรื่องที่โจ๋วชิงกับหยวนหยูเลิกกันเมื่อแปดปีก่อนต้องเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนานแน่นอน ตอนนั้นโจ๋วอันหนานต้องใช้อะไรบางอย่างมาจู่ๆ หยวนหยูแน่นอน
วันนี้โจ๋วอันหนานบังคับให้หยวนหยูฆ่าตัวตายก็ต้องเป็นเพราะเรื่องนั้นแน่นอน แต่แค่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยสืบมาก่อนเลย ทว่าไม่พบเจออะไรเลย หวังว่าเย่ซือเฉินจะสามารถเจออะไรบางอย่าง
“โอเค ฉันรู้แล้ว” เย่ซือเฉินตอบกลับ แน่นอนว่าเขาเชื่อในสิ่งที่ถังหลินพูดอยู่แล้ว
“คือโจ๋วอันหนานจริงๆ ด้วย” เวินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างกายของเย่ซือเฉิน สีหน้าดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดเจน ยัยโจ๋วอันหนานนี่ถึงแม้ว่าจะชอบเย่ซือเฉินก็ไม่จำเป็นต้องโหดร้ายขนาดนี้หรอกมั้ง?
เธอโจ๋วอันหนานก็เป็นคนที่หยิ่งยโสคนหนึ่ง คนที่มีความมั่นใจคนหนึ่ง ชอบก็จีบ ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ลับหลัง ทำไมต้องทำร้ายคนบริสุทธิ์มากมายขนาดนั้น
“มั่นใจว่าเป็นเธอแล้ว อย่างน้อยก็สืบง่ายแล้ว” เย่ซือเฉินมองไปทางเวินลั่วฉิง รู้สึกปวดใจเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นเพราะเขา หากไม่ใช่เพราะเขา เธอไม่มีทางถูกทำร้ายแบบนี้แน่นอน
“แต่ว่าเธอเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว คนที่เกี่ยวข้องต่างก็จัดการได้อย่างใสสะอาด ขอแค่คนที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ใช่หายตัวไป ก็คือไม่สามารถเปิดปากพูดได้” นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงมีแสงเปล่งประกายเล็กน้อย โจ๋วอันหนานโหดร้ายเกินไปแล้วจริงๆ เกินไปแล้วจริงๆ
“เมื่อกี้พี่ใหญ่บอกว่าให้เราเริ่มสืบจากเรื่องที่โจ๋วชิงเลิกกับหยวนหยูเมื่อแปดปีก่อน” เย่ซือเฉินมีความคิดเดียวกับถังหลิน ถึงแม้ว่าเรื่องเมื่อแปดปีก่อนจะผ่านมานานแล้ว เรื่องบางเรื่องก็สืบยาก ทว่าไม่ว่ายังไงแล้วในตอนนั้นโจ๋วอันหนานก็ไม่ได้เก่งเท่าตอนนี้
ไม่แน่อาจจะเหลือข้อบกพร่องบางอย่างไว้
“โจ๋วชิงเลิกกับหยวนหยูเป็นเพราะโจ๋วอันหนานเป็นคนก่อเรื่องขึ้น?” เวินลั่วฉิงตะลึงงัน “ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? แล้วเธอทำให้หยวนหยูตอบตกลงได้ยังไง?”
“พี่ใหญ่บอกว่าน่าจะใช้อะไรบางอย่างมาขู่ พี่ใหญ่ก็สืบไม่เจอ หากสืบเจอปัญหานี้อาจจะเป็นเบาะแสที่ตีเรื่องนี้แตกก็ได้” สืบเจอว่าในตอนนั้นโจ๋วอันหนานใช้อะไรมาขู่หยวนหยู เรื่องเมื่อวานก็สามารถคลี่คลายได้แล้ว
“พี่ใหญ่ก็สืบไม่เจอ?” เวินลั่วฉิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย เธอรู้จักความสามารถของพี่ชายดี ในเมื่อพี่ชายยังสืบไม่เจอ แสดงว่าเรื่องนี้ต้องไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน
“สามารถทำให้หยวนหยูยอมรับการบังคับได้ หยวนหยูคือผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ดังนั้นไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องเงินแน่นอน และไม่น่าเป็นไปได้ที่โจ๋วอันหนานจะมีจุดอ่อนที่ไม่ดีของหยวนหยูอยู่ในมือ ไม่ว่ายังไงแล้วทั้งสองเหตุผลนี้ก็ไม่มีทางที่จะทำให้หยวนหยูไม่เอาแม้แต่ชีวิตของตัวเอง” เวินลั่วแงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตัดเหตุผลสองข้อนี้ออกไป ยังสามารถเป็นเพราะอะไรได้อีก?”
นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้น รีบหันไปมองเย่ซือเฉิน ขณะนี้เย่ซือเฉินก็นึกอะไรออกอย่างเห็นได้ชัดเจน พยักหน้าเบาๆ “โจ๋วอันหนานเป็นหมอ มีความเป็นไปได้ที่หยวนหยูมีคนสำคัญอะไรที่ต้องช่วยเหลือ”
“ถูก นี่คือความเป็นไปได้ที่มากที่สุด” เวินลั่วฉิงหันไปทางเย่ซือเฉินแล้วยิ้ม ดูเหมือนว่าทั้งสองคิดไปถึงจุดเดียวกันแล้ว
“หากเป็นแบบนี้ก็สืบง่ายแล้ว ลองสืบดูว่าเมื่อแปดปีก่อนหยวนหยูมีญาติที่สำคัญป่วยหรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร” มีเบาะแสตรงนี้แล้ว ขอบเขตที่จะสืบก็น้อยลงเยอะมาก
“ฉันให้พี่ใหญ่ส่งเรื่องเกี่ยวกับหยวนหยูที่สืบได้ก่อนหน้านี้มา” เย่ซือเฉินนึกขึ้นว่าก่อนหน้านี้เคบสืบแล้ว หากพี่ใหญ่สืบเจอเรื่องที่มีประโยชน์ เขาก็ไม่ต้องไปสืบอีกรอบแล้ว
ในไม่ช้าถังหลินก็ส่งเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับหยวนหยูที่สืบเจอก่อนหน้านี้ให้กับเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงต่างก็เจอเรื่องคุณพ่อของหยวนหยูที่เกิดอุบัติเหตุทางรถขึ้นเมื่อแปดปีก่อน จุดสนใจของทั้งสองอยู่ในที่เดียวกัน
คุณพ่อของหยวนหยูเกิดอุบัติเหตุทางรถในปีนั้น การช่วยเหลือไม่สำเร็จจึงเสียชีวิต นี่คือสิ่งที่ถังหลินสืบเจอ ยังมีหลักฐานยืนยันการช่วยเหลือของคุณพ่อหยวนหยูในตอนนั้นด้วย
พอดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ทว่าเวลาช่างบังเอิญเกินไปแล้ว อีกอย่างอุบัติเหตุทางรถที่รุนแรงขนาดนี้กลับไม่ได้แจ้งความ ถังหลินได้เน้นในจุดของหลักฐานยืนยันการช่วยเหลือของโรงพยาบาล แสดงว่าตอนนั้นถังหลินเองก็สงสัยในจุดนี้
ทว่าตอนนั้นถังหลินยังไม่สงสัยถึงตัวโจ๋วอันหนานแน่นอน ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“จุดนี้มีข้อสงสัยมากมายจริงๆ ทว่าแต่กลับดูไม่สมเหตุ คุณพ่อของหยวนหยูเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นอยู่หลังจากที่โจ๋วชิงเลิกกับหยวนหยู ตอนนั้นพวกเขาเลิกกันแล้ว โจ๋วอันหนานไม่มีความจำเป็นที่จะใช้สิ่งนี้มาขู่หยวนหยู อีกอย่างคุณพ่อของหยวนหยูก็เสียชีวิตแล้ว ตอนนี้โจ๋วอันหนานยิ่งไม่สามารถบังคับหยวนหยูได้อีกแล้ว” เย่ซือเฉินก็รู้ว่าจุดนี้น่าสงสัย ทว่าเขารู้สึกว่ามีเรื่องราวมากมายที่ไม่สมเหตุ
“หากอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นเรื่องปลอมล่ะ? หากคุณพ่อของหยวนหยูไม่ได้เสียชีวิตล่ะ?” นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายขึ้น จู่ๆก็พูดประโยคหนึ่งออกมา ในเมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์นี้มีจุดที่น่าสงสัย งั้นมีความเป็นไปได้ไหมที่อุบัติเหตุทางรถยนต์นี้เป็นเรื่องปลอมตั้งแต่แรก?
“ความหมายของเธอคือ……” เย่ซือเฉินมองไปทางเขา นัยน์ตาเปล่งปรพกาย “ฉันให้คนไปสืบเดี๋ยวนี้ว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อแปดปีก่อนของคุณพ่อหยวนหยูมีการบันทึกการเข้าโรงพยาบาลหรือเปล่า”
เย่ซือเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา เริ่มกดโทร
เวินลั่วฉิงหันไปมองเขาแล้วยิ้มอีกครั้ง ดูเหมือนว่าพวกเขาคิดถึงในจุดเดียวกันอีกแล้ว
มีเป้าหมายแล้ว แน่นอนว่าเปอร์เซ็นต์ในการดำเนินงานของคุณชายสามเย่สูงมากๆอยู่แล้ว ในไม่ช้าก็มีผลลัพธ์แล้ว
ทางเมืองAไม่มีการบันทึกการเข้าที่โรงพยาบาลของคุณพ่อหยวนหยู เย่ซือเฉินจึงให้คนไปสืบที่มณฑลบ้านเกิดของหยวนหยู จากนั้นก็สืบเจอการบันทึกการพักที่โรงพยาบาลว่าคุณพ่อหยวนหยูเป็นโรคหัวใจก่อนเกิดอุบัติทางรถยนต์ของ อีกอย่างตอนนั้นอาการหนักมาก
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าตอนนั้นคุณพ่อของหยวนหยูมาเมืองAเพราะมารักษาแน่นอน ในเมื่อมารักษา ก็ต้องค้างโรงพยาบาล ทว่าเย่ซือเฉินกลับไม่เจอการบันทึกการค้างที่โรงพยาบาลของคุณพ่อหยวนหยูทางเมืองAเลย งั้นมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว เอกสารการค้างโรงพยาบาลของคุณพ่อหยวนหยูต่างก็ถูกลบทิ้งหมดแล้ว ตอนนั้นโจ๋วอันหนานกลับประเทศแล้ว มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เรื่องพวกนี้สำหรับโจ๋วอันหนานแล้วไม่ยากเลย
แต่แค่ว่า โจ๋วอันหนานไม่ได้ลบข้อมูลในโรงพยาบาลในมณฑลของคุณพ่อหยวนหยู ไม่ว่ายังไงแล้วตอนนั้นโจ๋วอันหนานก็แค่อายุยี่สิบสามปี อีกอย่างตอนนั้นโจ๋วอันหนาก็แค่ทำเพื่อปิดบังโจ๋วชิง โจ๋วชิงน่าจะไม่รู้เรื่องในตอนนั้นที่คุณพ่อของหยวนหยูป่วย แน่นอนว่าไม่มีทางไปสืบเกี่ยวกับโรงพยาบาลในมณฑลแน่นอน ดังนั้นในตอนนั้นโจ๋วอันหนานแค่ลบข้อมูลการrydที่โรงพยาบาลในเมืองAก็ถือว่าครอบคลุมมากแล้ว!!