ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1319 ความจริงเมื่อแปดปีก่อน (1)
ความสัมพันธ์ของซือเฉินกับฉิงฉิงไม่ใช่สิ่งที่โจ๋วอันหนานจะสามารถสร้างความแตกแยกได้อยู่แล้วทว่าถังหลินกังวลว่าฉิงฉิงได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วจะไม่สบายใจ ดังนั้นถังหลินไม่อยากให้โจ๋วอันหนานเสแสร้งแบบนี้ต่อไปแล้ว
เย่ซือเฉินเงยหน้าขึ้น มองไปทางโจ๋วอันหนานหนึ่งทีจากนั้นก็หยิบเอกสารกองหนึ่งออกมา
โจ๋วอันหนานเห็นเขาหยิบกองเอกสารที่หนาออกมาแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้น เยอะขนาดนี้ เขาสืบเจออะไรกันแน่?
“สืบคนที่ทำร้ายหยวนหยูเจอแล้วเหรอ?” โจ๋วชิงเห็นกองเอกสารที่หนาแล้ว ก็มีความหวังเพิ่มขึ้น
ซือเฉินไม่ได้ตอบ แต่ว่ายื่นกองเอกสารในมือไปให้โจ๋วชิง
โจ๋วชิงตะลึงงันไปเลย มีความแปลกใจเล็กน้อย ทว่าก็รีบยื่นมือไปรับมา
หลังจากที่โจ๋วชิงรับเอกสารมาแล้วก็เริ่มเปิดอ่าน สิ่งที่เห็นคือเรื่องเมื่อแปดปีก่อน อีกอย่างต่างก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหยวนหยูด้วย
โจ๋วชิงไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ว่ายังไงแล้วเอกสารที่ซือเฉินให้เขาก็ไม่ได้เขียนถึงโจ๋วอันหนาน โจ๋วชิงไม่มีทางนึกไปถึงบนโจ๋วอันหนานแน่นอน ทว่าเขานึกถึงเรื่องเมื่อแปดปีก่อนที่เขาเริ่มสงสัย เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองไปทางเย่ซือเฉิน “เกิดอะไรขึ้น? นายสืบเจออะไร?”
โจ๋วชิงเชื่อใจในความสามารถของเย่ซือเฉิน ทว่าเอกสารพวกนี้เขาเองก็ไม่รู้เรื่อง อีกอย่างเอกสารมากเกินไป ระหว่างนี้เขาก็อ่านไม่หมด เขาอยากได้สรุปที่ชัดเจน
“คุณโจ๋วรู้จักกับคุณพ่อของหยวนหยูไหม?” เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบคำพูดของโจ๋วชิง แต่กลับมองไปทางโจ๋วอันหนาน
โจ๋วอันหนานได้ยินคำเรียกที่เย่ซือเฉินเรียกเธอแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็รีบมองไปทางเขา ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย มีความตะลึงงันเล็กน้อย มีความไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งมีความเจ็บปวด
เขาเรียกเธอว่าอะไร?
คุณโจ๋ว? เขากลับเรียกเธอว่าคุณโจ๋ว?
เมื่อก่อนเขาเรียกแต่ว่าว่าอันหนานแท้ๆ
โจ๋วอันหนานรู้สึกว่าคำเรียกนี้น่าตกใจเกินไปเลย ทันใดนั้นไม่ได้ตั้งใจฟังคำพูดข้างหลังของเย่ซือเฉิน
โจ๋วชิงกลับรู้สึกไม่เข้าใจทั้งหน้า นัยน์ตาคู่หนึ่งมองไปทางโจ๋วอันหนาน โจ๋วชิงในตอนนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
โจ๋วอันหนานจะรู้จักกับคุณพ่อของหยวนหยูได้ยังไง?
“หรือว่า ผมควรจะถามคุณโจ๋วหน่อยว่า คุณพ่อของหยวนหยูอยู่ไหนครับ?” สบตากับนัยน์ตาที่มองตรงมาของโจ๋วอันหนาน สีหน้าของเย่ซือเฉินสุขุมลงเล็กน้อย เขาไม่เคยมีความคิดในด้านนั้นกับโจ๋วอันหนานเลย ตอนนั้นก็เป็นเพราะว่าโจ๋วอันหนานเคยช่วยแม่ของเขาไว้ และตอนนั้นก็เคยช่วยเขาไว้ ดังนั้นเมื่อก่อนเขาจึงรู้สึกขอบคุณเธอ
ทว่าเรื่องพวกนั้นที่โจ๋วอันหนานทำ ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอย่างเด็ดขาดแล้ว
ขณะนี้โจ๋วอันหนานมองเขาแบบนี้ต่อหน้าฉิงฉิง เขากลัวว่าฉิงฉิงจะเข้าใจผิด หากไม่ใช่เพราะหลังจากนี้ยังมีเรื่องต้องพูดให้ชัดเจน เขาไม่อยากพูดไร้สาระกับโจ๋วอันหนานจริงๆ
ในที่สุดโจ๋วอันหนานก็ได้สติกลับมา ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของเย่ซือเฉิน นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายเล็กน้อย เพราะว่าปัญหาคำเรียกในก่อนหน้านี้สำหรับเธอแล้วน่าตกใจมากๆ ดังนั้นระหว่างนั้นเธอจึงไม่ได้ปกปิดอารมณ์ของตัวเองทั้งหมด เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าใบหน้า ของเธอมีความตกใจเพิ่มขึ้นและมีความตื่นเต้นด้วย
ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะสืบไปถึงเรื่องพ่อของหยวนหยู เรื่องในตอนนั้นจัดการได้รอบคอบมากๆ แท้ๆ เรื่องนี้นอกจากหยวนหยูแล้วไม่มีใครรู้แท้ๆ ทำไมเย่ซือเฉินถึงรู้?
“นายพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ” โจ๋วอันหนานพยายามให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง บอกกับตัวเองในใจว่าห้ามรน ห้ามรนเด็ดขาด สำหรับเรื่องคุณพ่อของหยวนหยูคนนอกไม่มีใครรู้ เย่ซือเฉินกำลังหลอกถามเธออยู่แน่นอน
ดังนั้น เธอห้ามยอมรับเด็ดขาด
“แปดปีก่อน คุณพ่อของหยวนหยูตรวจพบว่าเป็นโรคภาวะหัวใจล้มเหลวที่อำเภอชิงสุ่ย จากนั้นก็มาที่เมืองA” เย่ซือเฉินได้ยินเธอปฏิเสธแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็เย็นชาลงเยอะมาก ถึงเวลานี้แล้วเธอยังดื้อรั้นอีก
คำพูดนี้ของเย่ซือเฉินถึงแม้ฟังแล้วจะรู้สึกคลุมเครือ ทว่าเขารู้ว่าโจ๋วอันหนานต้องเข้าใจความหมายของเขาแน่นอน
โจ๋วอันหนานลบบันทึกการพักที่โรงพยาบาลของคุณพ่อหยวนหยูในเมืองAทิ้ง ทว่าในอำเภอชิงสุ่ยยังไม่ได้ลบ
เป็นเหมือนกับที่คิดไว้เลย หลังจากที่โจ๋วอันหนานได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเจน ทว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดา ต่างก็เห็นหมดแล้ว
“พี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? คุณพ่อของหยวนหยู……เกี่ยวอะไรกับพี่?” โจ๋วชิงก็เป็นคนฉลาด เขารู้สึกได้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา แต่ว่าขณะนี้ไม่ได้คิดไปทางที่ไม่ดี
คุณพ่อของหยวนหยูมีปัญหาด้านหัวใจ โจ๋วชิงยังคิดว่าโจ๋วอันหนานเคยรักษาให้คุณพ่อของหยวนหยู
“ฉันไม่รู้ว่าพวกนายกกำลังพูดอะไร” โจ๋วอันหนานไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว เรื่องผ่านไปแปดปีแล้ว ตอนนี้หยวนหยูสลบไม่ได้สติ เย่ซือเฉินก็อาจจะสืบเจอกันเพียงเล็กน้อย ขอแค่เธอไม่ยอมรับ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ตอนนั้น น่าจะเป็นคุณโจ๋วที่ช่วยคุณพ่อของหยวนหยูไว้สินะ ตอนนั้นอาการของคุณพ่อหยวนหยูหนักมาก นอกจากเปลี่ยนหัวใจ ไม่เช่นนั้นคงมีชีวิตอยู่รอดได้ไม่นาน คุณโจ๋วเชี่ยวชาญในด้านนี้ ตอนนั้นก็มีเพียงแต่คุณโจ๋วที่สามารถช่วยเขาได้” เวินลั่วฉิงคิดได้ตั้งนานแล้วว่าโจ๋วอันหนานไม่ยอมรับแน่นอน ตอนนี้พวกเขายิ่งบีบบังคับ ก็ยิ่งไม่พูดแน่นอน
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเธอกำลังพูดอะไร ฉันไม่รู้จักคุณพ่อของหยวนหยูเลย” โจ๋วอันหนานมองไปทางเวินลั่วฉิง นัยน์ตาคู่หนึ่งหรี่ตาลง ปฏิเสธอีกครั้ง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอตัดสินใจที่จะไม่ยอมรับแล้ว
“คุณโจ๋วคุณบอกว่าไม่รู้จักกับคุณพ่อของหยวนหยู?” มุมปากของเวินลั่วฉิงยิ้มโค้ง “แต่ว่าสิ่งที่พวกเราสืบเจอไม่ใช่แบบนี้”
ในตอนที่เวินลั่วฉิงพูดประโยคนี้ ยังหยิบเอกสารกองใหญ่ในมือของโจ๋วชิงมาด้วย รีบเปิดหาอย่างเร็ว
โจ๋วอันหนานมองดูเธอ สีหน้าสุขุม เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ได้พูดอะไร ทว่าสามารถมองออกเลยว่าโจ๋วอันหนานในขณะนี้มีความตื่นเต้นเล็กน้อย
โจ๋วอันหนานเองก็กังวลว่าพวกเขาจะสืบเจออะไรบางอย่าง
ไม่ว่ายังไงแล้วพวกเขาก็สืบเจอพ่อของหยวนหยูแล้ว
“เราสืบเจอว่า……” เวินลั่วฉิงหยุดค้นเอกสาร หยุดอยู่ตรงหน้าหนึ่ง นัยน์ตาคู่หนึ่งของเวินลั่วฉิงมองไปทางเอกสารในมือ จากนั้นก็ค่อยๆ พูดขึ้นว่า “หลังจากที่คุณพ่อของหยวนหยูเข้าพักที่โรงพยาบาลแล้ว ตอนแรกหยวนหยูอยากจะไปหาคุณชายสองโจ๋ว ทว่าคุณกลับตามหาเธอเจอก่อนที่หยวนหยูจะไปหาคุณชายสองโจ๋ว จากนั้นคุณก็บอกหยวนหยูว่า คุณสามารถช่วยพ่อของหยวนหยูได้…”
เสียงของเวินลั่วฉิงเบามาก สปีดช้ามาก นัยน์ตาคู่หนึ่งของเธอมองดูเอกสารในมือ เหมือนว่าคำพูดเมื่อกี้ออกมาจากเอกสารในมือของเธอ
ในตอนที่เวินลั่วฉิงพูดน้ำเสียงของเธอเป็นธรรมชาติมาก แน่นอนว่าฟังไม่ออกถึงความผิดปกติใดๆ เหมือนว่าพูดออกมาจากเอกสารในมือเลย
ทว่ามีเพียงแต่เวินลั่วฉิงที่รู้ว่า คำพูดพวกนี้เธอแต่งขึ้นมาเอง แต่ว่ามีข้อมูลของคุณพ่อหยวนหยูแล้ว เชื่อมโยงกับการเลิกลาของหยวนหยูและคุณชายสองโจ๋วในตอนนั้น บวกกับการสำรวจที่เธอมีต่อโจ๋วอันหนาน เวินลั่วฉิงรู้ว่าการพูดในเมื่อกี้หลักๆแล้วไม่ผิดแน่นอน
ตอนนั้นหยวนหยูกำลังคบกับโจ๋วชิง บ้านโจ๋วคือตระกูลแพทย์ มีโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หยวนหยูต้องอยากขอความช่วยเหลือจากโจ๋วชิงแน่นอน หยวนหยูไม่มีทางมองข้ามโจ๋วชิงแล้วไปหาโจ๋วอันหนานโดยตรง
ดังนั้น เป็นไปได้แค่โจ๋วอันหนานไปหาหยวนหยูเอง
โจ๋วอันหนานฟังคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป ทว่าในใจกลับดิ่งลงเหว หรือว่าพวกเขาสืบเจอแล้วจริงๆ ทว่าเรื่องนี้มีเพียงแค่เธอและหยวนหยูที่รู้ หยวนหยูยังสลบไม่ได้สติ เวินลั่วฉิงไม่มีทางรู้แน่นอน
“คุณถัง เรื่องราวของคุณแต่งได้ไม่เลวเลยจริงๆ ” โจ๋วอันหนานมองไปทางเวินลั่วฉิง เผยรอยยิ้มประชดออกมา
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจเธอ แต่ว่าดูเอกสารในมือต่อ พูดต่อว่า “คุณสัญญาว่าจะช่วยคุณพ่อของหยวนหยู แต่ว่าคุณให้หยวนหยูตกลงข้อแลกเปลี่ยนกับคุณหนึ่งข้อ……” คำพูดของเวินลั่วฉิงหยุดลง นัยน์ตาคู่หนึ่งค่อยๆมองขึ้น มองไปทางโจ๋วอันหนาน สบตากับแววตาที่เย็นชาของโจ๋วอันหนาน ค่อยๆ พูดขึ้นอีกว่า “คุณให้หยวนหยูออกจากโจ๋วชิงไป ห้ามให้โจ๋วชิงสงสัยเด็ดขาด แล้วต้องให้โจ๋วชิงตายใจด้วย”
“พี่?!” โจ๋วชิงอึ้งไปเลย สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย นัยน์ตาที่มองไปทางโจ๋วอันหนานมีความตกใจอย่างเห็นได้ชัดเลย “เป็นเรื่องจริงไหม?”
โจ๋วชิงไม่ค่อยเชื่อ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยว่าการเลิกกับหยวนหยูในตอนนั้นมีความประหลาด ทว่าไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนาน
โจ๋วอันหนานหยิ่งยโส เย็นชามาโดยตลอด สำหรับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเธอ โจ๋วอันหนานไม่มีทางสนใจแน่นอน โจ๋วอันหนานเคยเจอกับหยวนหยูที่บ้านโจ๋วครั้งหนึ่ง เคยทักทายกันเพียงแค่ครั้งเดียว
โจ๋วชิงคิดไม่ออกจริงๆ ว่าโจ๋วอันหนานมีสาเหตุอะไรถังได้ทำแบบนั้น
“คำพูดมั่วๆ ทั้งนั้น” โจ๋วอันหนานไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว อีกอย่างโจ๋วอันหนานในตอนนี้ก็ไม่ได้มีความกลัวใดๆ แน่นอนว่าไม่ได้รู้สึกผิดอยู่แล้ว
การตอบสนองในตอนนี้ของ โจ๋วอันหนาน ทำให้โจ๋วชิงตะลึงงันไปเลย ตอนแรกเขาไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนาน ตอนนี้นิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว