ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1321 พลังสังหารจากการพลอดรัก (1)
“ความหมายของนายก็คือฉันกำลังหลอกนายอยู่ หมายถึงฉันกับคุณพ่อคุณแม่หลอกนายอยู่งั้นหรือ?”โจ๋วอันหนานตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราดหนึ่งประโยคใส่โจ๋วชิง เธอไม่เชื่อว่าโจ๋วชิงจะบีบให้เธอตกที่นั่งลำบากในสถานการณ์เช่นนี้
“หรือว่าไม่ใช่?”โจ๋วชิงกระตุกมุมปาก คล้ายมีประกายยิ้มเหยียดแวบผ่าน เพียงแต่รอยยิ้มนี้แลดูวังเวงชอบกล น้ำเสียงฟังเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง ทั้งยังเจือความทุกข์โศกที่ไม่อาจควบคุมได้
เห็นได้ชัดว่าโจ๋วชิงมีคำตอบในใจแล้ว
ตอนนี้ครุ่นคิดดูแล้ว ตอนนั้นคุณแม่ไม่มีความคิดจะรับหยวนหยูเป็นสะใภ้ตระกูลโจ๋วเลย
ดังนั้นโจ๋วชิงเชื่อในสิ่งที่เวินลั่วฉิงกล่าว!
เป็นเพราะเขาโง่เง่าเต่าตุ่น ประมาทเลินเล่อ เป็นความผิดของเขาทั้งหมด เขาควรฉุกคิดได้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าสถานการณ์ไม่ปกติ
ไม่ อันที่จริงเขาพอจะนึกออกอยู่แล้ว ตอนนั้นเขาก็เคยสงสัยเช่นกัน ทว่าเขาคิดว่าคุณแม่ใส่ใจเขา เขาคิดว่า เพราะเขารักหยวนหยูมาก คุณพ่อคุณแม่จึงยอมรับหยวนหยู
เขาคิดว่าคุณพ่อคุณแม่จะเป็นความสุขของเขาเป็นหลัก ทว่าเขาลืมเสียสนิทว่าครอบครัวอย่างเขา คุณพ่อในครอบครัวเช่นนี้ไม่เห็นความสุขของลูกเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว สิ่งที่พวกท่านคิดเป็นอันดับแรกคือผลประโยชน์ของชาติตระกูล
ส่วนทางบ้านหยวนหยูคือชาวเกษตรกรที่ไร้อำนาจ ตระกูลโจ๋วจะยอมให้เขาแต่งผู้หญิงอย่างนี้เข้าบ้านได้อย่างไร
เป็นเพราะเขาโง่เขลาเบาปัญญาเอง!!
“พี่ ทำไมถึงทำได้ลงคอ?พี่ทำลงไปได้ยังไง?”โจ๋วชิงมองไปยังโจ๋วอันหนาน คงเป็นเพราะเขาเสียใจเกินไป สุ้มเสียงจึงแหบแห้งเล็กน้อย“พี่รู้ทั้งรู้ว่าผมรักเธอ แต่พี่กลับแยกพวกเราจากกัน แปดปีมานี้ พี่เห็นผมเจ็บปวดเสียใจ แต่ก็ไม่เคยบอกอะไรผมเลยสักนิด”
โจ๋วชิงไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวแท้ๆของตนจะปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้
“ไม่เข้าใจ นายพูดเหลวไหลอะไรกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พี่ไปก่อนล่ะ”โจ๋วอันหนานยังคงไม่ยอมรับ เพราะเธอรู้ว่าหากเธอยอมรับเมื่อไหร่ เรื่องต่อจากนี้ก็จะโยงใยเข้าตัวเธอง่าย อาทิ เรื่องที่หยวนหยูเป็นสลบไสลในตอนนี้เป็นต้น
แน่นอน โจ๋วอันหนานก็รู้ว่าถึงเธอไม่ยอมรับ เวินลั่วฉิงก็ต้องสงสัยเธอแล้วเป็นแน่ เพียงแต่หากเธอไม่ยอมรับสักอย่าง เวินลั่วฉิงก็ทำอะไรเธอไม่ได้
โจ๋วชิงมองใบหน้าโจ๋วอันหนานที่ทั้งเย็นชาและเหมือนไม่เกี่ยวกับตน โจ๋วชิงก็รู้สึกทึ่ง พี่สาวของเขา พี่สาวแท้ๆของเขา ทำกับเขาไว้เช่นนั้น ตอนนี้ยังมีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก
โจ๋วชิงไม่รู้ควรพูดอย่างไรไปชั่วขณะ
ถูก ในครอบครัวของพวกเขา สายสัมพันธ์รักของครอบครัวนั้นจืดชืดสักเต็มประดา เมื่อผลประโยชน์กองอยู่ตรงหน้าก็สามารถสลัดความรักความผูกพันทิ้งได้ เขาโง่ดักดาน คาดหวังลมๆแห้งๆมากเกินไป
โจ๋วชิงเม้มปาก ไม่ได้ขวางโจ๋วอันหนาน
“คุณโจ๋ว คุณยังไปไม่ได้ค่ะ”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงขวางโจ๋วอันหนานไว้ โจ๋วอันหนานไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น แน่นอน ถึงแม้จะถามกระจ่างแจ้งดีแล้ว โจ๋วอันหนานก็ยังไปไม่ได้
สิ่งที่โจ๋วอันหนานทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
“คุณหมายความว่ายังไง?คุณมีสิทธิ์อะไรมาขวางฉัน?”เดิมทีโจ๋วอันหนานเห็นเวินลั่วฉิงเป็นหนามทิ่มตาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เธอกำลังกล้ำกลืนความโกรธอยู่ เมื่อเวินลั่วฉิงเรียกเธอให้หยุด น้ำเสียงจึงไม่สู้ดีนัก
“ยังไม่พิสูจน์ว่าคุณพูดจริงหรือไม่?แต่ถึงจะจริงก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวของพวกเรา ไม่เกี่ยวกับคุณ”ความคิดของโจ๋วอันหนานตอนนี้คือ หากเวินลั่วฉิงสืบได้เพียงเท่านี้ งั้นเธอก็ไม่อินังขังขอบได้ เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงสักนิด แม้แต่โจ๋วชิงยังไม่ขวางเธอเลย นับภาษาอะไรกับเวินลั่วฉิง?
“พวกเราไม่ยุ่งเรื่องภายในบ้านของพวกคุณอยู่แล้ว แต่พวกเราไม่ยุ่งเรื่องวันนี้ไม่ได้”เวินลั่วฉิงรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของโจ๋วอันหนาน สภาพจิตใจโจ๋วอันหนานแข็งแกร่งจริงแท้
โจ๋วอันหนานกะพริบตาเบาๆ ทว่าไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้าแต่อย่างใด เธอรู้ว่าวันนี้เวินลั่วฉิงหาหลักฐานไม่เจอแน่ เพราะเธอจัดการอย่างเหมาะสมกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดักฟังแล้ว ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่มีพยานปากสักคน
“มันเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน”โจ๋วอันหนานไม่อยากสนใจเวินลั่วฉิงอีก จึงหมายจะก้าวเท้าออกไปด้านนอก
“คุณโจ๋ว งั้นคุณอธิบายก่อนว่าทำไมหยวนหยูถึงฉีดยาเข้าร่างกายตัวเอง”มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย ตอนที่โจ๋วอันหนานเดินผ่านเธอ เธอก็เอ่ยประโยคเช่นนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงไม่หนักไม่เบา
ปกติโจ๋วอันหนานเป็นคนปกปิดสีหน้าเก่ง ดังนั้นถึงจะรู้สึกตกใจ ทว่าใบหน้าก็ไม่เผยสิ่งผิดปกติอะไร
แต่สีหน้าโจ๋วชิงกลับแปรเปลี่ยน“หมายความว่าอะไร?ฉิงฉิง ที่พูดนี้หมายความว่ายังไง?”
เวลานี้ใบหน้าคุณชายสองโจ๋วเต็มไปด้วยความตกตะลึง น้ำเสียงสั่นเทาหลายส่วน
ถึงแม้โจ๋วชิงจะรู้ว่าเรื่องแปดปีก่อนเป็นฝีมือโจ๋วอันหนาน ทว่าไม่รู้ว่าการที่หยวนหยูกลายเป็นสภาพตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับโจ๋วอันหนาน
“คุณชายสองโจ๋ว คุณถามคุณโจ๋วอันหนานจะดีกว่า”เวินลั่วฉิงเบนสายตามองไปยังโจ๋วอันหนาน พลางเห็นสีหน้าที่ยังคงราบเรียบของโจ๋วอันหนาน จึงรู้สึกนับถือโจ๋วอันหนานยิ่งนัก
“พี่ ฉิงฉิงหมายความว่ายังไง?เกิดอะไรขึ้น?”โจ๋วชิงหันไปมองโจ๋วอันหนาน เสียงสั่นเทาระคนความกระวนกระวายไว้หลายส่วน ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“เวินลั่วฉิง คุณหมายความว่ายังไง?ยุแยงให้พวกเราสองพี่น้องแตกคอกันแล้วคุณได้ผลประโยชน์อะไร?”โจ๋วอันหนานไม่ยอมรับ เธอมั่นใจว่าเวินลั่วฉิงหาหลักฐานไม่เจอแน่
“คุณโจ๋ว ต้องการให้พูดตั้งแต่ต้นจนจบสักรอบไหม?”เวินลั่วฉิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานไม่ยอมรับ มองใบหน้าเรียบเฉยของโจ๋วอันหนานแล้ว เวินลั่วฉิงจึงรู้ว่าอยากให้โจ๋วอันหนานยอมรับนั้นยากเย็นแสนเข็ญแน่นอน
“ได้ คุณลองว่ามา ฉันจะตั้งใจฟังว่าคุณจะแต่งนิทานอะไรออกมา”โจ๋วอันหนานรู้ว่าเธอจะยืนกรานจากไปไม่ได้ และเธอก็พูดอะไรไปกว่านี้ไม่ได้ด้วย เช่นนั้นก็ฟังเวินลั่วฉิงพูดก็แล้วกัน เธอจะได้รู้ว่าเวินลั่วฉิงสืบอะไรได้บ้าง
“ฉิงฉิง คุณพูดเลย คุณพูดเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”อันที่จริงโจ๋วชิงก็พอจะเดาออกแล้ว แต่เขาไม่อยากเชื่อ ไม่อยากยอมรับ เขาอยากรู้รายละเอียดให้ถี่ถ้วน
“แปดปีก่อน คุณโจ๋วใช้พ่อของหยวนหยูบีบให้หยวนหยูเลิกกับโจ๋วชิง ตอนนี้ก็เช่นกัน ใช้คุณพ่อของหยวนหยูบีบบังคับให้หยวนหยูส่งซองเอกสารให้คุณชายสองโจ๋วเมื่อวาน และวันนี้คุณโจ๋วก็บังคับให้หยวนหยูฉีดยาใส่ตัวเอง”เวินลั่วฉิงไม่ใช่คนพูดยืดเยื้อ สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง ตัวโจ๋วอันหนานต้องเผชิญหน้าความจริง และรวมไปถึงคุณชายสองโจ๋วด้วย
คุณชายสองโจ๋วน่าจะรู้
“พี่ เป็นอย่างนี้จริงๆหรือ?จริงหรือ?”ความหวังอันริบหรี่ในใจโจ๋วชิง ตอนนี้ถูกเวินลั่วฉิงพูดเปิดโปงหมดสิ้น เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่พูดส่งเดชแบบไร้หลักฐานแน่นอน ในเมื่อเวินลั่วฉิงกล้าพูด ถ้างั้นคงมีเค้าเป็นความจริงสูง
เพียงแต่เขาไม่กล้าเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวจะทำเช่นนี้ออกมา
โจ๋วอันหนานบังคับให้หยวนหยูเอาซองเอกสารให้เขาก็ยังพอว่า แต่โจ๋วอันหนานกลับบีบบังคับให้หยวนหยูฆ่าตัวตาย?
“เวินลั่วฉิง คุณไม่คิดว่าคำพูดของคุณจะตลกเกินไปหน่อยเหรอ?”โจ๋วอันหนานไม่ได้ร้อนรน ยังคงใจเย็นคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น
ระหว่างที่โจ๋วอันหนานมองเวินลั่วฉิง มีความเย้ยหยันไว้หลายส่วน
“เวินลั่วฉิง คุณไม่มีหลักฐานอะไรก็มาใส่ร้ายฉัน ฉันฟ้องคุณได้นะ”เวลานี้โจ๋วอันหนานใจเย็นมาก ใจเย็นจนชวนให้รู้สึกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเธอจริงๆ
“ที่ฉันกล้าพูดก็ต้องมีหลักฐานแน่นอน”เวินลั่วฉิงยิ้มเบาๆ ในเมื่อโจ๋วอันหนานยังไม่ร้อนใจเลย เวินลั่วฉิงยิ่งร้อนใจไม่ได้ โจ๋วอันหนานคิดจะเล่นไม้นี้ เธอก็จะให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะเธอถนัดด้านจิตวิทยาอยู่แล้ว
โจ๋วอันหนานกะพริบตา รู้สึกตื่นตกใจ ถึงแม้เธอรู้ว่าตัวเองปกปิดได้แยบยล และมั่นใจว่าไม่มีจุดรั่วไหล แต่เวินลั่วฉิงพูดเช่นนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“ได้ เอาหลักฐานออกมาดูสิ”ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะวิตกกังวลในใจ ทว่าก็ไม่ได้แสดงทางสีหน้า ณ ตอนนี้ยิ่งทำให้สุขุมกว่าเดิม
ใบหน้าโจ๋วอันหนานตอนนี้ แม้แต่เวินลั่วฉิงก็ยังสงสัยว่าตัวเองเข้าใจโจ๋วอันหนานผิดหรือเปล่า
ทว่า เวินลั่วฉิงรู้ว่าเรื่องพวกนั้นเป็นฝีมือโจ๋วอันหนานจริงๆ
“สามีที่รัก เอาหลักฐานออกมาสิ”เวินลั่วฉิงมองไปยังเย่ซือเฉิน ใบหน้าเบ่งบานด้วยรอยยิ้มละมุน น้ำเสียงอ่อนนุ่มกะทันหัน ฟังดูแล้วออดอ้อนออเซาะยิ่ง อืม กำลังออดอ้อนอยู่จริงๆ แถมเวินลั่วฉิงยังทำตามแบบฉบับของจื่อซีสุดที่รักอีกต่างหาก