ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1336 นาทีอันตราย(2)
คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยก็น่าจะเป็นพ่อของหยวนหยูเนี่ยแหละ
ดูแบบนี้แล้ว สภาพร่างกายของหยวนหยูถือว่าไม่เลว สีหน้าก็โอเคอยู่ เวินลั่วฉิงสื่ออารมณ์ผ่านแววตาเล็กน้อย อาการของพ่อหยวนหยูดีกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้ ต่อจากนี้แผนการของเธอก็น่าจะราบรื่นขึ้นมาได้บ้าง
“พวกเราเข้าไปแบบนี้ พ่อของหยวนหยูต้องไม่เชื่อพวกเราแน่นอน คงไม่ยอมไปกับพวกเราหรอก พอแบบนี้ก็จะเสียเวลาแน่นอน”คำพูดของเวินลั่วฉิงเป็นเรื่องจริง เพราะยังไงซะโจ๋วอันหนานได้ช่วยชีวิตของพ่อหยวนหยูไว้ พ่อของหยวนหยูเชื่อใจโจ๋วอันหนานแน่นอน อีกอย่างพ่อของหยวนหยูน่าจะพักอยู่ที่นี่นานมากแล้ว ถ้าไม่มีโจ๋วอันหนาน พ่อของหยวนหยูน่าจะไม่ยอมไปด้วยหรอก ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเป็นคนบุกเข้าไปโดยตรงแบบนี้ ไม่ว่าใครก็คงต้องระแวดระวังอยู่
“ถ้าเขาไม่ยอมก็ลักพาเขาไปโดยตรงเลยครับ”แต่ไหนแต่ไรวิธีของกู้หวูล้วนตรงไปตรงมาแบบนี้ตลอด แน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้วิธีนี้ก็ได้ผลดีที่สุดเช่นกัน
“หัวใจของเขาไม่แข็งแรง ทนรับการกระทบกระเทือนจิตใจไม่ได้”เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าพ่อของหยวนหยูเป็นคนปกติแข็งแรง วิธีของกู้หวูใช้ได้จริงๆ
แต่หัวใจของพ่อหยวนหยูมีปัญหา ในเมื่อพ่อของหยวนหยูพักอยู่ที่นี่ตลอด งั้นก็แสดงว่าหัวใจของพ่อหยวนหยูไม่ได้รักษาจนหายขาดหมด ถ้ากู้หวูแย่งคนโดยตรง ไม่แน่อาจจะทำให้เสียชีวิตได้
“งั้นก็ไม่ต้องสนใจเขาแล้วครับ ไปกันเถอะ”สำหรับกู้หวูแล้ว คุ้มกันคุณหญิงสำคัญที่สุด สำหรับเขาแล้วคนอื่นล้วนไม่เป็นไร
ตอนนี้กู้หวูไม่อยากสนใจคนที่อยู่ข้างในจริงๆ เขาแค่อยากพาคุณหญิงออกไปโดยเร็ว
แต่คุณหญิงไม่ออกคำสั่ง กู้หวูก็ไม่กล้ามาไม้แข็ง เขายังต้องฟังคำสั่งของคุณหญิง
“ผมโทรถามก่อนว่าหยวนหยูฟื้นหรือยัง ถ้าหยวนหยูฟื้นแล้ว สามารถให้หยวนหยูพูดกับท่านได้”โจ๋วชิงก็ตระหนักได้ถึงปัญหานี้ เขารู้ว่าความกังวลของเวินลั่วฉิงมีเหตุผลมากๆ
โจ๋วชิงรีบหยิบมือถือออกมาแล้วเริ่มโทรศัพท์ ตอนที่โจ๋วชิงโทรศัพท์มือค่อนข้างสั่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าเพราะกลัวหรือเพราะอย่างอื่น
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของโจ๋วชิงแล้วแววตาระยิบระยับไปครู่นึง วิธีของโจ๋วชิงก็ถือเป็นวิธีนึง แต่ก่อนอื่นคือหยวนหยูต้องฟื้นขึ้นมาก่อน อีกอย่างถึงให้หยวนหยูคุยโทรศัพท์กับพ่อของเธอ อธิบายก็ต้องใช้เวลา อีกอย่างถึงหยวนหยูพูดกับพ่อของเธอเอง จะให้พ่อของหยวนหยูเชื่อเธอก็ต้องใช้เวลาอีกเหมือนกัน
ระเบิดอาจจะถูกจุดชนวนได้ทุกเมื่อ พวกเขาไม่มีเวลาที่มากพอ นาทีนี้สิ่งที่เวินลั่วฉิงกังวลที่สุดคือโจ๋วอันหนานอาจจะกลับมาได้ทุกเมื่อ แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงยิ่งกังวลว่าโจ๋วอันหนานจะให้คนที่อยู่ใกล้ๆมา
เพราะฉะนั้นเธอไม่มีเวลามากขนาดนั้นจริงๆ
เวินลั่วฉิงมองเสื้อกาวน์ที่อยู่ข้างๆ เธอดึงเสื้อกาวน์มาใส่โดยตรง จากนั้นได้สวมหน้ากากอนามัยไว้
“โทรศัพท์โทรไม่ออก โทรศัพท์โทรไม่ออกเลย โจ๋วอันหนานจะต้องติดตั้งอะไรที่ทำให้มือถือของพวกเราโทรไม่ออกแน่ๆ……”โจ๋วชิงลองไปหลายครั้งก็โทรไม่ออก สีหน้ายิ่งได้เปลี่ยนไปโดยตรงเลย เขาตระหนักได้ว่าเรื่องร้ายแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้
นาทีนี้เวินลั่วฉิงได้ใส่เสื้อกาวน์เรียบร้อยแล้ว เวินลั่วฉิงหันไปทำท่าทางที่ห้ามส่งเสียงให้กับโจ๋วชิง
เกี่ยวกับเรื่องที่โทรไม่ออกนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายเกินไป ตามการระมัดระวังของโจ๋วอันหนานแล้ว เวินลั่วฉิงรู้สึกนี่ปกติมาก สมเหตุสมผลมาก
โจ๋วชิงอึ้งเล็กน้อย จากนั้นได้ปิดปากเงียบทันที โจ๋วชิงเป็นคนฉลาด เขาเองก็เข้าใจเจตนาของเวินลั่วฉิงทันที ส่วนสูงของเวินลั่วฉิงกับโจ๋วอันหนานพอๆกัน นาทีนี้ใส่เสื้อกาวน์กับหน้ากากอนามัยแล้ว ดูแล้วแยกไม่ออกเลย
“ไอ้หัวโตตอนนี้นายออกไปคอนเฟิร์มก่อนว่าประตูทุกบานจะต้องปลดล็อคไว้”เวินลั่วฉิงหันไปมองไอ้หัวโตที่ถนัดไขกุญแจอย่างไว เวินลั่วฉิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานสามาาถควบคุมการล็อคประตูในระยะไกล
ถ้าถึงเวลาประตูล็อค พวกเขาต้องเสียเวลาไขกุญแจอีก เกรงว่าอาจจะไม่ทัน
“ครับ คุณหญิง”ไอ้หัวโตได้รับคำสั่งแล้วไม่มีการลังเลเลยสักนิด ได้รีบตอบแล้วจากไปอย่างเร็ว
“กู้หวู ส่วนนายคอยให้ความร่วมมือกับฉัน”เวินลั่วฉิงได้หันมาสั่งการกู้หวูคำนึง
“ครับ คุณหญิง”กู้หวูยิ่งได้ตอบอย่างไว คุณหญิงพูดอะไรก็ตามนั้น ถึงแม้กู้หวูไม่รู้ว่าคุณหญิงจะให้เขาคอยให้ความร่วมมืออะไร แต่ว่ารับปากอย่างเดียวก็ถูกแล้ว
“คุณชายสองโจ๋ว ถ้าเกิดพ่อของหยวนหยูมีเรื่องเหนือความคาดหมายอะไร คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือฉุกเฉินนะคะ”เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าร่างกายของพ่อหยวนหยูเป็นยังไง เธอก็กลัวจะเกิดสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมาย
ถึงแม้เวินลั่วฉิงรู้ว่าถ้าเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย พวกเขาเสียเวลามันจะอันตรายมากๆ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพ่อหยวนหยู แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิงล้วนเข้าใจ การช่วยเหลือฉุกเฉินภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ขอแค่รักษาชีวิตเอาไว้ได้ก็โอเคแล้ว
หลังจากเวินลั่วฉิงพูดจบ ทีนี้ถึงได้เปิดประตูของห้องผ่าตัด ห้องผ่าตัดกันเสียงได้ดีมาก พ่อของหยวนหยูไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวของด้านนอกเลย จนกระทั่งเวินลั่วฉิงผลักประตูของห้องผู้ป่วยออก พ่อของหยวนหยูรู้สึกเหมือนมีคนมา เขาได้เงยหน้ามองมาทางประตู
พ่อของหยวนหยูเห็นเวินลั่วฉิงแล้วอึ้งอยู่ครู่นึง จากนั้นก็ได้ยิ้มเบาๆ:“คุณหมอโจ๋ว คุณมาแล้วเหรอ?ทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะครับ?”
เห็นได้ชัดว่าปกติโจ๋วอันหนานจะมาที่นี่อย่างมีวินัยมาก
“ฉันมาพอดี เลยแวะมาเช็คร่างกายคุณหน่อยค่ะ”เวินลั่วฉิงตอบเลียนแบบเสียงของโจ๋วอันหนาน เวินลั่วฉิงเคยเรียนเลียนแบบเสียงมาโดยเฉพาะ ดังนั้นคนทั่วไปจึงฟังไม่ออกหรอกว่าผิดปกติ
“อ๋อ โอเคครับๆ งั้นรบกวนคุณหมอโจ๋วแล้วครับ”พ่อของหยวนหยูฟังไม่ออกว่าผิดปกติ และไม่ได้สงสัย แค่พยักหน้าขอบคุณรัวๆ
เวินลั่วฉิงเดินมาที่หน้าห้องผู้ป่วยโดยตรง โน้มตัวเล็กน้อย แกล้งทำเป็นจะเช็คร่างกายให้พ่อของหยวนหยู เพียงแต่ ตอนที่มือของเธอยื่นออกไป กลับทุบไปที่บ่าของพ่อหยวนหยูอย่างไว
พ่อของหยวนหยูยังไม่ทันตั้งตัว ก็สลบไปโดยตรงเลย
กู้หวูอึ้งค้าง มุมปากอดกระตุกไม่ได้ คุณหญิงก็เท่เกินไป เจ๋งเกินไปแล้วมั้ง
กู้หวูอดคิดไม่ได้ว่าถ้าลูกพี่ทะเลาะกับคุณหญิง ถ้าคุณหญิงก็มาไม้นี้กับลูกพี่ ลูกพี่จะสามารถหลบทันมั้ย?
เขารู้สึกกระบวนท่าของคุณหญิงในเมื่อครู่ เขาเองก็คงหลบไม่ทันหรอก
เพราะท่าทางของเวินลั่วฉิงว่องไวเกิน พ่อของหยวนหยูไม่รู้ตัวเลย เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
หลังจากเวินลั่วฉิงลุกขึ้นมา ได้ส่งสายตาให้กู้หวู ทันใดนั้นกู้หวูได้ดึงสติกลับมาทันที พร้อมเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้แบกพ่อของหยวนหยูขึ้นมาโดยตรง
นาทีนี้ งานใช้แรงแบบนี้ให้กู้หวูมาทำเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตามคุณชายสองโจ๋วก็คลุกคลีมากับมีดผ่าตัด แน่นอนว่าคุณชายสองโจ๋วก็แบกพ่อของหยวนหยูไหวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีทางเร็วเหมือนกู้หวู นี่จึงเป็นสาเหตุที่เวินลั่วฉิงให้กู้หวูให้ความร่วมมือกับเธอ
กู้หวูแบกพ่อของหยวนหยูขึ้นมา ความเร็วของฝีเท้าไม่ได้ช้าลงเลยสักนิด:“คุณหญิง รีบไปเถอะครับ ไปจากที่นี่ก่อน”
กู้หวูนึกถึงระเบิดของข้างนอกทีไร ก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนทุกที
เวินลั่วฉิงกับโจ๋วชิงย่อมไม่เสียเวลาแม้แต่น้อยอยู่แล้ว พวกเขาก็ได้รีบตามกู้หวูให้ทัน
ตอนที่ออกมาจากห้องผู้ป่วย โจ๋วชิงอดมองระเบิดลูกนั้นแว๊บนึงไม่ได้:“อันนั้นยังไม่ได้ระเบิด……”
ตอนที่โจ๋วชิงพูดคำพูดนี้ น้ำเสียงแฝงด้วยการกล่าวโทษตัวเอง ยังแฝงด้วยความโชคดีที่ได้วางภาระอันหนักหน่วงลงเสี้ยวนึง สุดท้ายโจ๋วอันหนานก็ยังคำนึงถึงเขาอยู่?
เวินลั่วฉิงย่อมเข้าใจความหมายของโจ๋วชิงอยู่แล้ว:“ถึงแม้ระเบิดอันนี้สามารถดำเนินงานในระยะไกล แต่ก็ต้องอยู่ภายในระยะหนึ่งกิโลเมตร”
ความหมายของเวินลั่วฉิงได้ชัดเจนมากแล้ว โจ๋วอันหนานอยากจุดชนวนระเบิดอันนี้ ก็ต้องรีบมาถึงนี่ก่อน ไกลเกินไปจุดชนวนไม่ได้แน่นอน เวินลั่วฉิงรู้สึกโจ๋วอันหนานน่าจะยังมาไม่ถึง แต่ไม่ใช่ออมมือให้โจ๋วชิงอย่างที่เขาคิดแน่นอน
โจ๋วชิงอึ้งไปครู่นึง อยากจะโต้แย้งสักคำ
“รีบไปกันเถอะครับ อย่ามัวแต่หารือเรื่องระเบิดอีกเลยครับ”ตอนนี้กู้หวูอกสั่นขวัญแขวนไปหมดแล้ว เขาแค่อยากรีบออกไปโดยเร็ว มีแค่ออกไปเท่านั้นถึงจะปลอดภัย
โจ๋วอันหนานในนาทีนี้ได้ไปจากโรงพยาบาลแล้ว เธอไม่ได้รีบไปที่วิลล่าทันที เพราะเธอรู้ว่าเวลานี้เธอไปไม่ได้ จะทำให้คนเกิดความสงสัยไม่ได้ แต่เธอสามารถเห็นวิดีโอของวิลล่าผ่านมือถือของเธอ
เธอสามาารถเห็นทุกความเคลื่อนไหวของเวินลั่วฉินและพวกได้อย่างชัดเจน ตอนที่เธอเห็นเวินลั่วฉิงทุบพ่อของหยวนหยูสลบ และจะพาพ่อของหยวนหยูไป เธอชักจะร้อนรนใจแล้ว
โจ๋วอันหนานได้โทรหาเบอร์ๆนึงโดยตรง พอรับสาย โจ๋วอันหนานไม่รอให้ฝั่งโน้นเปิดปากพูด ก็ได้ถามด้วยเสียงรีบร้อน:“คุณมัวแต่ทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่ระเบิดอีก พวกมันใกล้จะออกมาอยู่แล้ว”
นาทีนี้เสียงของโจ๋วอันหนานค่อนข้างรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงก็ค่อนข้างวู่วาม เห็นได้ชัดว่าได้ตะคอกออกมา เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใตของโจ๋วอันหนานในนาทีนี้ได้พังทลายลงแล้ว
คนที่อยู่ในสายเงียบไปหนึ่งวิ จากนั้นเสียงที่ทุ้มต่ำได้ก้องมา:“มาถึงแล้ว กำลังจะระเบิดแล้ว ผมทำงานคุณไว้ใจได้ ผมไม่ให้พวกมันได้ออกมาหรอก”