ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1343 ความอัปยศขั้นสูงสุด (1)
“โจ๋วชิง ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ? เกิดอะไรขึ้น ? นายไปเตรียมยาให้หยวนหยูไม่ใช่หรือ ? แล้วทำไมไปแล้วถึงไม่กลับมาอีก หยวนหยูฟื้นแล้วนายรู้หรือยัง ?” ทันทีที่รับสาย เสียงของโจ๋วอันหนานที่ดังขึ้น กลับเป็นธรรมชาติอย่างมาก ! !
น้ำเสียงที่ฟังดูสงบ ราวกับไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าเธอยังคงเป็นพี่สาวที่แสนดีผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ตอนนี้โจ๋วชิงเปิดลำโพงโทรศัพท์ ทำให้ทุกคนได้ยินเสียงของโจ๋วอันหนานที่ดังออกมาอย่างชัดเจน
“ให้ตายเถอะ วันนี้ถือว่าฉันได้เปิดโลกทัศน์จริง ๆ” กู้หวูตกใจจนอ้าปากค้าง เขาเคยพบกับคนไร้ยางอายมาก่อน แต่ไม่เคยมีใครที่ไร้ยางอายถึงขั้นนี้ หากไม่ใช่เพราะตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ พวกเราได้ยินโจ๋วอันหนานพูดว่าจะระเบิดพวกเขาให้เป็นจุณด้วยหูของตัวเองแล้วล่ะก็ กู้หวูคงยังนึกสงสัยว่าพวกเขาเข้าใจจ็วอันหนานผิดไป
กู้หวูรู้ดีว่ามีคนบางประเภทที่ชอบเสแสร้ง แต่การเสแสร้งระดับโจ๋วอันหนาน ยากที่จะลอกเลียนแบบได้จริง ๆ
ตอนนี้กู้หวูเข้าไปนั่งในรถพอดี และใบหน้าของเขาก็สอดเข้าไปในตัวรถพอดี ดังนั้นเสียงของกู้หวูจึงไม่ดังออกมา ทำให้โจ๋วอันหนานที่อยู่ปลายสายนั้นไม่ได้ยิน
มุมปากของเวินลั่วฉินกระตุกอย่างอดไม่ได้ คนอย่างโจ๋วอันหนานช่างไร้ยางอายเสียจริง ๆ
“พี่มีเรื่องอะไร ? ว่ามาสิ” ตอนนี้ใบหน้าของโจ๋วชิงบูดเบี้ยว เดิมทีเขาคิดว่าโจ๋วอันหนานจะโทรศัพท์มาหาเขาเพื่อเอ่ยคำขอโทษ หากโจ๋วอันหนานกล่าวขอโทษกับเขาตามตรง เขายังคิดว่าโจ๋วอันหนานคงรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่โจ๋วชิงกลับคิดไม่ถึงว่าโจ๋วอันหนานจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้เป็นคนทำ
หรือโจ๋วอันหนานคิดว่าเรื่องเหล่านั้นที่เธอทำ เขาอาจจะยังไม่รู้ ? โจ๋วอันหนานคงไม่คิดว่าเขาโง่หรอกนะ ?
ตอนนี้น้ำเสียงของโจ๋วชิงเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด และเริ่มหมดความอดทน หากจะว่ากันตามตรง เมื่อต้องเผชิญหน้ากันคนเสแสร้งอย่างโจ๋วอันหนาน โจ๋วชิงเองก็พูดไม่ออกเช่นเดียวกัน
“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ? ! จะกลับมาเมื่อไหร่ ? นายเป็นห่วงหยวนหยูมากไม่ใช่หรือ ? ตอนนี้หยวนหยูฟื้นแล้ว นาย……” ไม่รู้ว่าโจ๋วอันหนานกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยังคงพูดพร่ำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าคนอื่นล้วนเป็นคนโง่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“โจ๋วอันหนาน มีอะไรก็รีบพูดมาตรง ๆ พี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ?” โจ๋วชิงไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป เขาตัดบทสนทนาของจ๋วอันหนาน เขารู้สึกว่าหากทนฟังต่อไป เขาอาจรู้สึกกระอักกระอ่วนจนต้องอาเจียน เขาไม่คิดเลยว่าโจ๋วอันหนานจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้
“ฉันจะคิดทำอะไรได้ ? ! ฉันก็แค่ถามสถานการณ์ของนายด้วยความเป็นห่วง……” โจ๋วอันหนานพอจะฟังน้ำเสียงของโจ๋วชิงออก ว่าเขานั้นเริ่มจะหมดความอดทน จนอาจถึงขั้นรังเกียจ อันที่จริงแล้วเมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ของโจ๋วชิง โจ๋วอันหนานย่อมจะต้องรู้สึกโกรธอย่างแน่นอน แต่เธอยังไม่ลืมจุดประสงค์ในการต่อสายโทรศัพท์ครั้งนี้ เธออยากจะรู้ความเคลื่อนไหวของเวินลั่วฉิง เธออยากรู้ว่าเวินลั่วฉินตายแล้วหรือยัง ? !
แน่นอนว่า ตอนที่เธอต่อสายโทรศัพท์ติดและรู้ว่าโจ๋วชิงนั้นยังไม่ตาย เธอก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้นในใจ ถึงแม้เธอจะโทรศัพท์หาโจ๋วชิง แต่อันที่จริงแล้วเธอคาดหวังว่าโทรศัพทะต่อสายไม่ติด หรือไม่ก็ไม่มีคนรับ เพราะหากเป็นเช่นนั้น อาจมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าเกิดเรื่องขึ้นกับโจ๋วชิง
เวินลั่วฉิงอยู่กับโจ๋วชิง หากโจ๋วชิงเกิดเรื่องขึ้น ความน่าจะเป็นที่เวินลั่วฉิงจะเกิดเรื่องขึ้น ก็มีมากตามไปด้วยเช่นกัน แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าสายโทรศัพท์จะต่อติดเร็วเช่นนี้ ทันทีที่ต่อสายติด อารมณ์ของเธอก็หม่นหมองลงทันที
ถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจและโมโหเป็นอย่างมาก แต่โจ๋วอันหนานก็ยังคงใช้คำพูดหลอกล่อโจ๋วชิงด้วยความอดทน
“ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ ! !” ยังไม่ทันจะเข้าไปนั่งในรถอย่างมั่นคง กู้หวูก็รู้สึกเหมือนตัวของเขาแทบจะหลุดออกจากที่นั่ง ตอนนี้เขารู้สึกตกใจจนอ้าปากค้างจริง ๆ เขาไม่รู้เลยว่าโจ๋วอันหนานสามารถเอ่ยคำพูดพวกนี้ออกมาได้อย่างไร
“พี่เป็นห่วงฉัน ? โจ๋วอันหนาน พี่พูดเช่นนี้ไม่รู้สึกน่าขำไปหน่อยหรือ ? ก่อนหน้านี้ตอนที่พี่อยู่ในคฤหาสน์ พี่สั่งให้คนวางระเบิดเพื่อฆ่าฉัน หลังจากที่ฉันหนีออกมาจากคฤหาสน์ พี่ยังสั่งให้คนตามฆ่าฉันอีก ทุบตีฉันจนน่วมไปทั้งตัว ตอนนี้บนร่างกายของฉันถูกกระสุนยิงเข้าหลายนัด ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของพี่ทั้งนั้น แล้วตอนนี้พี่กลับพูดว่าเป็นห่วงอย่างนั้นหรือ ? พี่เป็นห่วงฉันแบบนี้นะหรือ ? โจ๋วอันหนาน พี่กล้าพูดคำคำนี้ออกมาได้อย่างไร ?” เมื่อโจ๋วชิงได้ยินโจ๋วอันหนานเป็นห่วงเขาก็หลุดขำออกมา เขาคิดไม่ถึงเลยว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว โจ๋วอันหนานยังจะกล้าพูดคำพูดที่ไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาอีก
ตอนนี้เขารู้สึกสมเพชเธอเป็นอย่างยิ่ง
“โจ๋วอันหนาน ฉันเป็นน้องชายแท้ ๆ ของพี่นะ ตอนที่พี่ให้คนมาวางระเบิดฉัน ให้คนมาตามฆ่าฉัน พี่เคยคิดถึงฉันบ้างไหม” ตอนนี้น้ำเสียงของโจ๋วชิงสูงขึ้นอย่างชัดเจน เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ เพียงแต่รู้สึกคาดไม่ถึงเท่านั้น โจ๋วอันหนานไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกผิด แต่กลับกล้าพูดคำว่าเป็นห่วงออกมาอีก ทำให้เขารู้สึกตาสว่างแล้วจริง ๆ
“นายก็ยังสบายดีอยู่ไม่ใช่หรือ ? จะมัวพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน ?” โจ๋วอันหนานหรี่ตาลง น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเริ่มหมดความอดทน เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้อยู่เหนือการควบคุมของเธอ ดังนั้นเธอจึงกังวลใจ ร้อนใจ จนถึงขั้นรู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้เธอจึงไม่อาจควบคุมอารมณ์ให้สงบได้อีกต่อไป
โจ๋วชิง : “……”
โจ๋วชิงหัวเราะออกมาด้วยความโมโห ดังนั้น ในความรู้สึกของโจ๋วอันหนาน เขายังคงอยู่ดีมีสุข ดังนั้นทุกเรื่องที่โจ๋วอันหนานเคยก่อเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น ?
ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ จึงถือว่าโจ๋วอันหนานไม่มีความผิด ?
ตรรกะของโจ๋วอันหนาน เป็นตรรกะที่ไร้สาระอะไรกัน ?
“ดังนั้น การที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ จึงทำให้พี่รู้สึกผิดหวัง ?” โจ๋วชิงไม่อยากพูดเช่นนี้ แต่การกระทำของโจ๋วอันหนานในตอนนี้ แสดงออกอย่างชัดเจน ถึงแม้จ๋วอันหนานจะพยายามปิดบังความรู้สึก แต่โจ๋วชิงก็รู้สึกได้ว่า ตอนที่เขารับสาย โจ๋วอันหนานรู้สึกลังเลและผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น การที่เขาไม่ตาย จึงทำให้โจ๋วอันหนานรู้สึกผิดหวังจริง ๆ
โจ๋วชิงไม่อยากจะเชื่อเลยว่า บนโลกนี้จะมีพี่สาวเช่นนี้อยู่ ?
“นายหมายความว่าอย่างไร ? ฉันเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของนายนะ แล้วฉันจะ……” โจ๋วอันหนานยังคงพูดจาเล่นลิ้น เพียงแต่ตอนนี้เธอต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงหลายอย่าง จึงไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์ ความอดทนก็หลงเหลือไม่มากเท่าก่อนหน้านี้ ดังนั้นคำพูดเล่นลิ้นของเธอในตอนนี้ จึงฟังดูไร้พลังและน่าขันเสียมากกว่า
“พี่เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉัน ตอนนี้พี่พูดว่าพี่เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉัน แล้วตอนที่พี่วางระเบิดฉัน ได้คิดบ้างหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉัน ตอนที่พี่ให้คนมาฆ่าฉัน ได้คิดบ้างหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นพี่สาวแท้ ๆ ขอฉัน ?” น้ำเสียงของโจ๋วชิงเต็มไปด้วยการประชดประชัน ช่างเป็นการเย้ยหยันที่รุนแรงจริง ๆ
“โจ๋วชิง พี่ว่านายคงจะเข้าใจพี่ผิดแล้ว” แม้กระทั่งตอนนี้ โจ๋วอันหนานก็ยังคงไม่รู้สึกผิดแม้สักนิด ถึงขั้นไม่คิดที่จะสารภาพความจริง เธอยังคงพูดจาเล่นลิ้นต่อไป
โจ๋วอันหนานเป็นคนประเภทที่ต่อให้มีหลักฐานมากองอยู่ตรงหน้า ก็ยังหาข้ออ้างมาหลบหลีกความผิดได้
แน่นอนกว่า หากจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ อันดับแรกต้องเป็นคนที่ไร้ยางอายพอดู
“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันรู้แจ้งชัดเจน อีกอย่างเมื่อครู่ฉันเพิ่งเฉียดตายมา จึงไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดอะไรทั้งสิ้น” โจ๋วชิงไม่อยากพูดกับโจ๋วอันหนานให้มากความอีกต่อไป เมื่อได้ยินคำพูดของโจ๋วอันหนาน เขารู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยรู้สึกรังเกียจใครเช่นนี้มาก่อน
“โจ๋วอันหนาน ที่พี่โทรมาก็เพราะอยากรู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ไหม ใช่หรือไม่ ?” โจ๋วชิงไม่ใช่คนโง่ แต่เขากลับเป็นคนที่ฉลาดมาก ดังนั้นเขาจึงเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่โจ๋วอันหนานโทรศัพท์มาหาเขาตั้งแต่แรก
ก่อนหน้านี้ที่เขาเอ่ยถามโจ๋วอันหนานไปหลายอย่าง ก็เพื่อดูว่าเธอจะรู้สึกผิดในสิ่งเหล่านั้นที่กระทำต่อเขาบ้างหรือไม่
ซึ่งความจริงก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่
โจ๋วอันหนาน : “……”
ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะไร้ยางอาย ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะมีคำพูดเล่นลิ้นอีกมากมาย แต่ตอนนี้เธอกลับพูดไม่ออก ตอนนี้โจ๋วอันหนานไม่คิดจะพูดจาเล่นลิ้นอีก
แต่โจ๋วอันหนานก็คือโจ๋วอันหนาน ไม่ช้าเธอก็ตั้งสติได้ จึงพูดเสแสร้งออกมาอีกครั้ง : “โจ๋วชิง พี่เป็นห่วงนายจริง ๆ……”
“โจ๋วอันหนาน เลิกเสแสร้งได้แล้ว มันดูปลอมเกินไป อันที่จริงแล้วควรจะพูดว่า ที่พี่โทรมาก็เพื่อที่จะดูว่าฉิงฉิงยังมีชีวิตอยู่ไหม ถึงจะถูก”
โจ๋วชิงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ตอนนี้เขาไม่อยากได้ยินคำพูดของโจ๋วอันหนานอีก และไม่อยากได้ยินเสียงของโจ๋วอันหนานอีก หากไม่ใช่เพราะเย่ซือเฉินสั่งให้เขารับโทรศัพท์ เขาก็คงจะกดวางสายไปนานแล้ว
แต่ทว่า ในเมื่อซือเฉินสั่งให้เขารับโทรศัพท์ เขาจึงช่วยซือเฉินถามอะไรบางอย่าง
ครั้งนี้ โจ๋วอันหนานนิ่งเงียบไปอีกครั้ง อีกทั้งในครั้งนี้ โจ๋วอันหนานนิ่งเงียบไปนานกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เสียงของโจวอันหนานจึงดังขึ้นอีกครั้ง : “จริงสิ นายออกไปกับคุณถังนี่ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง ? นานขนาดนี้แล้ว ทำไมพวกนายถึงยังไม่กลับกันมาอีก ?”
ถึงแม้ตอนนี้โจ๋วอันหนานจะเพิ่มคำว่าพวกเราเข้าไป แต่ความตั้งใจของเธอกลับแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน จุดประสงค์แท้จริงที่เธอพยายามปกปิดเอาไว้ ก็แสดงออกมาอย่างเด่นชัด