ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1345 กล้าฆ่าลูกของเขารึ (1)
หลายปีมานี้ เธอแอบรู้สึกยินดีกับความพิเศษที่เธอได้รับ เธอคิดว่าในใจของเย่ซือเฉิน เธอแตกต่างจากคนอื่น ! !
อีกทั้งหลายปีมานี้ เย่ซือเฉินก็ครองตัวเป็นโสด ข้างกายของเย่ซือเฉินไม่มีผู้หญิงเลยสักคน ดังนั้นโจ๋วอันหนานจึงคิดมาโดยตลอดว่า ที่ตรงนั้นต้องเป็นของเธอ เธอคิดมาโดยตลอดว่า ท้ายที่สุดแล้วคนที่จะได้ยืนอยู่ข้างกายเย่ซือเฉินก็คือเธอ
ตั้งแต่เล็กจนโต โจ๋วอันหนานเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเสียงชื่นชม เธอสวย เธอฉลาด อีกทั้งเธอไม่ได้ฉลาดแบบธรรมดา แต่เธอฉลาดกว่าทุก ๆ คน เธอคืออัจฉริยะ
ดังนั้น ตั้งแต่เล็กจนโต โจ๋วอันหนานจึงเคยชินกับคำกล่าวชื่นชม เธอเคยชินกับความสำเร็จ ในความคิดของเธอ ขอเพียงแต่เธอต้องการสิ่งใด เธอก็จะต้องได้สิ่งนั้น และเป็นเพราะความคิดเช่นนี้ ทำให้ความรักที่เธอมีต่อเย่ซือเฉิน กลายเป็นความหลงใหล
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่นปรากฏตัวขึ้นข้างกายเย่ซือเฉินมาก่อน ตอนนั้นเธอยังไม่มีความคิดอันแรงกล้าที่จะครอบครองเย่ซือเฉิน จนกระทั่งเวินลั่วฉิงปรากฏตัวขึ้น……
เริ่มแรก เธอยังพยายามควบคุมตัวเอง เธอยังเอ่ยคำพูดแสดงความยินดีต่อเย่ซือเฉิน จากนั้นเธอก็พบว่าเวินลั่วฉิงไม่สามารถมีบุตรได้ และภายหลังก็รู้อีกว่าเมื่อห้าปีก่อน เวินลั่วฉิงเคยให้กำเนิดบุตรสองคน เธอจึงยืนยันหนักแน่นวาผู้หญิงเช่นนี้ไม่คู่ควรกับเย่ซือเฉิน
ในตอนนั้น สภาพจิตใจของเธอเริ่มไม่ปกติ เป็นเพราะสภาพจิตใจที่แปรปรวน ทำให้ความรู้สึกหลงใหลในตัวเย่ซือเฉินแรงกล้ายิ่งขึ้น
ความหลงใหลนั้นทำให้เธอเสียสติ ความหลงใหลทำให้เธอเสียสติจนคิดอยากทำอะไรบางอย่าง
ดังนั้นเธอจึงนำผลตรวจที่แสดงว่าเวินลั่วฉิงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ไปให้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ดู มิหนำซ้ำเธอยังตัดต่อคลิปวิดีโอการสนทนาระหว่างเวินลั่วฉิงและคุณปู่เย่ตรงระเบียงของโรงพยาบาล เผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ทุกคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เวินลั่วฉิง
เธอคิดว่าหากทำเช่นนี้ เวินลั่วฉิงต้องแยกจากเย่ซือเฉินอย่างแน่นอน
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย่ซือเฉินจะจัดงานแถลงข่าวขึ้น มิหนำซ้ำยังพูดอีกว่าชาตินี้จะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเวินลั่วฉิง หลังจากเกินเรื่องนั้นขึ้นทำให้โจ๋วอันหนานรู้สึกว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก
อีกทั้งในภายหลังเธอพบว่าเวินลั่วฉิงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ตอนนั้นเธอก็รู้โดยทันทีว่า หากอาศัยแค่ความสามารถของเธอ ไม่มีทางจัดการกับเวินลั่วฉิงได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงติดต่อกับถังไป๋เชียนและร่วมมือกัน
เธอรู้ดีว่า เมื่อเธอเลือกที่จะร่วมมือกับถังไป๋เชียน เธอก็ไม่อาจหันหลังกลับได้อีก หากทำสำเร็จ ก็จะสามารถกำจัดเวินลั่วฉิงออกจากชีวิตของเย่ซือเฉินได้ แต่ถ้าล้มเหลว……
ไม่สิ เธอจะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด เธอไม่มีทางล้มเหลวแน่นอน ! !
ชีวิตที่ผ่านมาของโจ๋วอันหนานถูกโรยด้วยกลับกุหลาบ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ทำให้โจ๋วอันหนานไม่อาจยอมรับกับความล้มเหลวใด ๆ ได้
สิ่งดียวที่โจ๋วอันหนานไม่อาจครอบครองได้ในชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบของเธอก็คือเย่ซือเฉิน ดังนั้นความหลงใหลนี้จึงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในใจเธอ เพราะรักแต่ไม่อาจครอบครอง ทำให้โจ๋วอันหนานต้องเสียสติ ดังนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่เธอทำหลังจากนั้น จึงเป็นสิ่งที่ไร้ซึ่งคุณธรรมอย่างสมบูรณ์
“ฉันจะโกหกพี่ทำไม ? พี่คิดว่าใคร ๆ ก็สร้างเรื่องโกหกเก่งเหมือนพี่อย่างนั้นหรือ ? ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันเคยพูดโกหกสักครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?” โจ๋วชิงรู้ดีว่าโจ๋วอันหนานไม่ใช่ไม่เชื่อคำพูดของเขา เพียงแต่โจ๋วอันหนานไม่อาจยอมรับความจริงได้เท่านั้น
โจ๋วอันหนานไม่อาจยอมรับว่าเย่ซือเฉินรังเกียจเธอได้ ! !
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ซือเฉินไม่มีวันรังเกียจฉัน ซือเฉินเชื่อใจฉันมากที่สุดมาโดยตลอด ซือเฉินปฏิบัติต่อฉันไม่เหมือนกับคนอื่น ในใจของซือเฉินมีฉันอยู่” อีกด้านหนึ่งของสายโทรศัพท์ โจ๋วอันหนานกำลังส่ายหัวอย่างคนเสียสติ เธอไม่เชื่อ ไม่เชื่อคำพูดของโจ๋วชิง
“โจ๋วอันหนาน ถึงตอนนี้แล้วพี่ยังคิดที่จะฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยู่อีกหรือ ? สำหรับซือเฉินแล้ว ฉิงฉิงสำคัญสำหรับเขายิ่งกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก ตอนนี้พี่กลับทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า พี่ถึงขั้นคิดฆ่าฉิงฉิง แล้วพี่คิดว่าซือเฉินยังจะให้อภัยพี่ได้อีกหรือ ?” โจ๋วชิงเองก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว โจ๋วอันหนานทำร้ายฉิงฉิงมากมายขนาดนี้ เธอไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับซือเฉินได้แน่นอน
โจ๋วชิงรู้สึกว่าโจ๋วอันหนานช่างโง่เขลา ถึงแม้โจ๋วอันหนานจะถือเป็นผู้มีพรสวรรค์ใรโรงพยาบาล แต่ในเรื่องของความรัก เธอกลับโง่เขลาโดยสมบูรณ์
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ซือเฉินไม่มีวันโทษฉัน ซือเฉินไม่มีวันโทษฉันอย่างแน่นอน เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าฉันกับซือเฉินสนิทสนมกัน สนิทสนมกันมากกว่าพวกนายเสียอีก” โจ๋วอันหนานรู้สึกภาคภูมิใจกับสิ่งนี้มาโดยตลอด เธอจึงไม่อาจยอมรับความเปลี่ยนแปลง
เธอยอมให้ตัวเองทำรื่องไร้สาระ ถึงขั้นกลายเป็นคนเสียสติ แต่จะไม่ยอมให้คนอื่นปฏิบัติต่อเธอเปลี่ยนไปโดยเด็ดขาด ! ! !
“โจ๋วอันหนาน พี่รู้ดีอยู่แก่ใจ ซือเฉินรู้สึกซาบซึ้งใจกับความช่วยเหลือของพี่เมื่อยี่สิบปีก่อนเท่านั้น ดังนั้นหลายปีมานี้เขาจึงให้เกียรติพี่มาโดยตลอด แต่ตอนน้พี่ได้ทำลายความซาบซึ้งใจของซือเฉินไปจนหมดสิ้นแล้ว อีกทั้งพี่ยังทำร้ายคนที่ซือเฉินให้ความสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองอีก พี่ก่อเรื่องเสียสติมากมายขนาดนี้ แล้วพี่คิดว่าซือเฉินจะยังรู้สึกขอบคุณพี่อยู่อีกอย่างนั้นหรือ ? โจ๋วอันหนาน พี่ช่างคิดเองเออเองเสียจริง ๆ” โจ๋วชิงทำลายความฝันของโจ๋วอันหนานอย่างไร้ความปรานี
“ไม่ใช่นะ เรื่องระหว่างฉันกับซือเฉินนายไม่เข้าใจ ระหว่างพวกเรา……” โจ๋วอันหนานตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องระหว่างเธอและเย่ซือเฉิน ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์
พวกเขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริง ๆ เรื่องระหว่างเธอและเย่ซือเฉิน มีเพียงเธอและเย่ซือเฉินเท่านั้นที่เข้าใจ
เธอรู้ดีว่าเย่ซือเฉินปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนคนอื่น ! !
“ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น” ครั้งนี้ คุณชายสองโจ๋วยังไม่ทันได้เอ่ยปาก จู่ ๆ เย่ซือเฉินก็พูดขึ้นมา ตอนนี้นำเสียงของเย่ซือเฉินไม่หลงเหลือเยื่อใยแม่แต่น้อย เป็นน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างที่สุด
คำพูดว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันดังขึ้นอย่างชัดเจน และลบล้างทุกอย่างก่อนหน้านี้ทั้งหมด ลบล้างบุญคุณที่โจ๋วอันหนานเคยช่วยแม่ของเขาเอาไว้เมื่อตอนนั้น
เย่ซือเฉินไม่ใช่คนเนรคุณ แต่การตอบแทนบุณคุณต่อคนอย่างโจ๋วอันหนาน ทำให้เขารู้สึกว่าตลอดเวลายี่สิบปีมานี้ เขาช่างตาบอดจริง ๆ
“ซือเฉิน นั่นคุณหรือ ? เป็นคุณจริง ๆ ใช่ไหม ?” เมื่อครู่โจ๋วอันหนานถูกโจ๋วชิงพูดทำลายความรู้สึก ตอนนี้เธอจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อจู่ ๆ เธอยินเสียงของเย่ซือเฉินดังขึ้นมา ในน้ำเสียงก็มีความตื่นเต้นเจือปนอยู่อย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ยังคงระมัดระวังอยู่
“ซือเฉิน คุณฟังฉันพูดก่อน ฉัน……” โจ๋วอันหนานรู้สึกเสียสติจนอยากจะคว้าอะไรบางอย่างเอาไว้ เมื่อครู่เธอสงสัยว่าโจ๋วชิงโกหกเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าเย่ซือเฉินจะตามไปได้ทันเวลาจริง ๆ ในเมื่อเย่ซือเฉินตามไปได้ทัน เช่นนั้นเย่ซือเฉินก็คงต้องรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
โจ๋วอันหนานคิดจะอธิบาย คนอื่นเธอไม่คิดจะสนใจ แต่เธอไม่ต้องการให้เย่ซือเฉินโทษเธอ
“คุณทำร้ายสุดที่รักของผม ทำร้ายภรรยาผม ผมต้องคิดบัญชีกับคุณแน่นอน” เย่ซือเฉินไม่ใช่โจ๋วชิง เขาไม่พูดกับโจ๋วอันหนานให้มากความ เขาต้องการแสดงออกให้รับรู้ถึงความคิดของเขาในตอนนี้ สิ่งที่เขาพูดทั้งหมด คือสิ่งที่เขาจะลงมือทำ
เย็นชาและไร้เยื่อใย เสียงนั้นเหมือนเสียงเตือนสติที่ดังขึ้นมาจากขุมนรก ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่หลงเหลือความปรานีให้กับโจ๋วอันหนานเลยแม้แต่น้อย
เย่ซือเฉินเองก็คิดที่จะปิดบังความรู้สึกนี้กับโจ๋วอันหนาน
“ซือเฉิน……” โจ๋วอันหนานยืนตัวแข็งทื่อ น้ำเสียงของเธอสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด : “ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ ? ซือเฉิน คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเรา……”
คำพูดของโจ๋วชิง โจ๋วอันหนานสามารถโต้แย้งได้โดยทันที และเลือกที่จะไม่เชื่อได้ แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินกลับพูดออกมาจากปากด้วยตัวเอง อีกทั้งคำพูดที่เย่ซือเฉินพูดออกมาตอนนี้ เย็นชากว่าคำพูดของโจ๋วชิงหลายร้อยเท่า โหดร้ายยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า
โจ๋วอันหนานจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้
เพียงแต่เธอไม่อาจยอมรับได้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ ทำไมเรื่องทั้งหมดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ? !
เพราะอะไร ? ! ! !
“พี่ใหญ่ของเราทำแบบนี้กับเธอไม่ได้หรือ ? พี่ใหญ่ของเราฆ่าเธอก็ถือว่าเป็นบุญของเธอแล้ว เธอเกือบจะฆ่าคุณผู้หญิงของพวกเรา แล้วยังมีหน้ามาแสดงความทุกข์อยู่ตรงนี้อีก เห็นแก่หน้าตัวเองหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร ?” กู้หวูเป็นคนตรงไปตรงมา เขาไม่อาจทนฟังได้อีก : “อีกอย่าง เมื่อครู่พี่ใหญ่ของเราก็พูดอย่างชัดเจนแล้ว ว่าเธอกับพี่ใหญ่ของเราไม่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นอย่าพยายามเอาตัวเองมาผูกติดกับพี่ใหญ่ของเรา อย่าทำให้พี่ใหญ่ของเราต้องรู้สึกรังเกียจมากกว่านี้เลย”
“ซือเฉิน เมื่อก่อนคุณเชื่อใจฉันที่สุด เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเราสนิทสนมกัน” โจ๋วอันหนานไม่สนใจกู้หวู ตอนนี้สิ่งที่เธอไม่อาจลืมได้คือสองสิ่งนี้
เมื่อก่อนเย่ซือเฉินเคยไว้ใจเธอ แต่เพราะเธอก่อรื่องมากมายขนาดนี้ ต่อให้จะมีบุญคุณและความเชื่อใจต่อกันมากเท่าไหร่ ก็ถูกเธอทำลายลงจนหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เย่ซือเฉินไม่ได้เชื่อใจเธอมากอย่างที่เธอคิด ตอนนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่รู้เรื่องที่เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีบุตรได้ คนแรกที่เขาสงสัยก็คือเธอ
ส่วนความสนิทสนมที่โจ๋วอันหนานพูดถึง ล้วนไม่เคยมีอยู่จริง เย่ซือเฉินไม่เคยสนิทสนมกับเธอ เป็นสิ่งที่โจ๋วอันหนานคิดเองเออเองทั้งหมด
“ไปกันเถอะ” เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจโวอันหนาน เขาอุ้มเวินลั่วฉิงเข้าไปนั่งในรถ