ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1346 กล้าฆ่าลูกของเขารึ (2)
เย่ซือเฉินเป็นคนสงวนคำพูด เขาไม่เคยพูดพร่ำกับใคร แต่เขามักจะใช้การกระทำแสดงให้เห็นโดยตรง
“โจ๋วอันหนาน เมื่อกี้พี่คงได้ยินคำพูดของซือเฉินแล้วนะ ฉันสามารถพูดกับพี่อย่างชัดเจนว่า นั่นคือความหมายแท้จริงที่ซือเฉินต้องการจะพูด พี่ไม่ต้องรู้สึกสงสัยอะไรอีก เรื่องที่พี่ก่อเอาไว้ หลังจากนี้ซือเฉินจะค่อย ๆ คิดบัญชีกับพี่ทีละเรื่อง ๆ พี่เตรียมตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน”
คุณชายสองโจ๋วพูดเสริมขึ้นมาประโยคสุดท้าย ประการแรกเพื่อให้โจ๋วอันหนานเข้าใจความจริงอย่างชัดเจน ประการที่สองเพื่อโจ๋วอันหนานรู้สึกเสียใจและสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น
ใช่ว่าคุณชายสองโจ๋วเป็นคนใจร้าย แต่เป็นเพราะคุณชายสองโจ๋วไม่ต้องการให้โจ๋วอันหนานก่อเรื่องอีก เขายินดีที่จะเห็นโจ๋วอันหนานโศกเศร้าเสียใจในตอนนี้ ดีกว่าต้องทนเห็นโจ๋วอันหนานคิดหาวิธีทำร้ายคนอื่น
เมื่อคุณชายสองโจ๋วพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ ถึงแม้หลายคนจะได้รับบาดเจ็บในจุดที่ไม่สำคัญนัก และถึงแม้เขาจะห้ามเลือดให้กับทุกคนแล้ว แต่บาดแผลก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี จึงต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
“พี่ใหญ่ ระบุตำแหน่งของเธอได้แล้วครับ” ทันทีที่คุณสายสองโจ๋ววางสายโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงของไอ้หัวโต ที่กำลังรายงานความเคลื่อนไหวต่อเย่ซือเฉินดังขึ้น
ไม่ต้องถามคุณชายสองโจ๋วก็รู้ดีว่ากำลังหมายถึงตำแหน่งของใคร
เดิมทีเขาคิดว่าเย่ซือเฉินให้เขารับโทรศัพท์ ก็เพื่อต้องการยั่งยุโจ๋วอันหนาน คิดไม่ถึงเลยว่า ที่เย่ซือเฉินทำเช่นนี้ก็เพื่อค้นหาพิกัดของเธอ
แสดงให้เห็นว่าเย่ซือเฉินมีความคิดเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตอนนั้นเย่ซือเฉินไม่ได้พูดออกมา ถึงขั้นที่เย่ซือเฉินไม่ได้ส่งสัญญาณให้กับกู้หวูและไอ้หัวโต แต่ไอ้หัวโตกลับเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการในทันที ไอ้หัวโตไม่ได้มีทักษะด้านการปลดล็อกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีทักษะด้านนี้ด้วยเช่นกัน
คนขององค์กรยมบาลล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ! !
เมื่อครู่ที่กู้หวู่เข้าไปนั่งในรถ เห็นได้ชัดว่าเป็นการช่วยให้กู้หวูทำเรื่องนี้ได้สำเร็จง่ายขึ้น อันที่จริงแล้วคนขององค์กรยมบาลและเย่ซือเฉินมีความเข้าอกเข้าใจกันอย่างสูง หลายเรื่องที่ไม่ต้องรอให้เย่ซือเฉินออกคำสั่ง พวกเขาก็สามารถทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
โจ๋วชิงรับรู้มาโดยตลอดว่าความสามารถของเย่ซือเฉินนั้นแข็งแกร่ง และโจ๋วชิงก็รู้ดีว่านอกจากบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว เขายังมีธุรกิจของตัวเองอีกมากมาย แต่เป็นเพราะเมื่อก่อนโจ๋วชิงไม่เคยเห็นการทำงานของเย่ซือเฉิน มาวันนี้เขาได้เห็นเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
ในเมื่อเย่ซือเฉินรู้ตำแหน่งของโจ๋วอันหนานแล้ว เช่นนั้นเขาก็คงไม่ต้องเป็นห่วงว่าโจ๋วอันหนานจะก่อเรื่องอะไรอีก
“ให้ผมจัดการเอง สั่งให้คนพาตัวเธอไปที่องค์กรยมบาลเสียก่อน แล้วพวกเราค่อยตามไปจัดการทีหลัง” กู้หวูพูดเสริมขึ้นมา เรื่องทำนองนี้แน่นอนว่าต้องให้เขาเป็นคนจัดการ ตอนนี้สิ่งที่พี่ใหญ่ควรทำก็คือปลอบใจคุณผู้หญิง ถึงแม้คุณผู้หญิงจะไม่ใช่คนธรรมดา และไม่ต้องการการปลอบใจมากนักก็ตาม
กู้หวูรีบส่งคนไปจับตัวโจ๋วอันหนานทันที กู้หวูได้รับรู้ถึงความบ้าคลั่งของโจ๋วอันหนานด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้นกู้หวูจึงต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เขาจัดเตรียมคนจำนวนมาก แต่ละคนล้วนแล้วแต่มีฝีมือยอดเยี่ยม อีกทั้งกู้หวูยังเอ่ยกำชับไปหลายอย่าง แน่นอนว่ากู้หวูสั่งให้จับตัวโจ๋วอันหนานมาไว้ที่องค์กรยมบาล แล้วควบคุมตัวโจ๋วอันหนานเอาไว้เสียก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โจ๋วอันหนานก่อเรื่องที่เสียสติขึ้นมาอีก
ส่วนจะจัดการกับโจ๋วอันหนานอย่างไรนั้น ต้องรอฟังคำสั่งจากพี่ใหญ่ ถึงแม้กู้หวูจะรู้ดีว่าพี่ใหญ่เป็นคนก่อตั้งองค์กรยมบาล ทว่าแต่ไหนแต่ไรมา พี่ใหญ่เองก็ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทุกครั้ง กู้หวูจึงคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว พี่ใหญ่น่าจะส่งตัวโจ๋วอันหนานให้ตำรวจเป็นคนจัดการ แน่นอนว่าด้วยนิสัยของพี่ใหญ่แล้ว จะต้องมอบหลักฐานที่น่าเชื่อถือให้กับตำรวจ เพื่อเอาผิดกับโจ๋วอันหนานอย่างแน่นอน
หลังจากเกิดความล่าช้าเช่นนี้ ในที่สุดถังหลินก็ตามมาจนถึง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความเร็วของถังหลินไม่น้อยไปกว่าเย่ซือเฉินเลยสักนิด ดูเหมือนถังหลินเองก็รีบตามมาอย่างสุดชีวิตเช่นกัน
เมื่อถังหลินเห็นสถานการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็หรี่ลงด้วยความหวาดกลัว ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเห็นรอยบาดแผลบนร่างกายของพวกกู้หวูและโจ๋วชิง และเห็นคฤหาสน์ที่กลายสภาพเป็นเถ้าถ่าน รวมไปถึงหินภูเขาที่ถูกระเบิดเป็นจุณอยู่ไกล ๆ ประกอบกับรถที่บุบเบี้ยวหลังจากการพุ่งชนของเย่ซือเฉิน รวมถึงรถที่ถูกชนจนตกลงไปพังยับเยินอยู่ใต้เนินเขา ถังหลินก็พอจะจินตนาการถึงอันตรายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนั้นได้
การที่เวินลั่วฉิงปลอดภัย กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสบายใจ แต่เขากลับรู้สึกหวาดกลัว เพราะเขารู้ดีว่าหากเย่ซือเฉินตามมาไม่ทันการณ์ เกรงว่า……
เมื่อตามมาถึง ทุกอย่างอาจสายไปเสียแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนี้ ถังหลินก็รู้สึกใจสั่น
ถังหลินเดินเข้าไปหาเย่ซือเฉิน แล้วยื่นมือออกไปตบไหล่ของเย่ซือเฉินสองครั้ง ถังหลินไม่พูดอะไร เรื่องบางอย่างไม่ต้องพูดทุกคนก็รู้ดี
“ซือเฉิน นายพาฉิงฉิงไปที่รถของฉัน นายใช้รถของฉันเถอะ” ถังหลินตรวจสอบรถของเย่ซือเฉิน ยังสามารถใช้งานได้ แต่ภายนอกพังยับเยิน ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นระหว่างทางหรือไม่ เขาจึงไม่อาจปล่อยให้เขากับฉิงฉิงนั่งรถที่มีสภาพเช่นนี้ได้
ถังหลินไม่ทันรอให้เย่ซือเฉินพูดอะไร ก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า : “พวกของโจ๋วชิงและกู้หวูต่างได้รับบาดเจ็บ นายใช้รถของฉันส่งพวกเขาไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวฉันจะเรียกรถมาอีกคัน”
รถเพียงคันเดียวไม่สามารถบรรจุคนมากมายขนาดนั้นได้ การจัดการของถังหลินจึงถือว่าสมเหตุสมผล ฆาตกรคนนั้นตายไปแล้ว โจ๋วอันหนานเองก็คงถูกคนขององค์กรยมบาลควบคุมตัวได้โดยเร็ว ดังนั้นที่นี่จึงไม่มีอันตรายอะไรอีก หากรออีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร
“ได้” เย่ซือเฉินไม่พูดอะไรต่อ เขารับปากทันที
“พี่ใหญ่ ระวังตัวด้วยนะคะ” เมื่อเวินลั่วฉิงคิดถึงอันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก็รู้สึกตกใจขึ้นมา ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดกำชับออกมา
“วางใจเถอะ” ถังหลินยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวด ก่อนที่เขาจะมาถึง ฉิงฉิงคงต้องเผชิญหน้ากับอันตรายไม่น้อย แต่เขากลับมาช่วยฉิงฉิงไม่ทัน
หลังจากพวกของเย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงจากไปแล้ว ถังหลินก็โทรศัพท์เรียกรถอีกคันหนึ่งมา เขารออยู่พร้อมกับพ่อของหยวนหยู
จู่ ๆ โทรศัพท์ของถังหยินก็ดังขึ้น ถังหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อมองดูก็ขมวดคิ้วขึ้น
“คุณชายถัง คุณจะมาเมื่อไหร่ครับ คนขององค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีพวกเราอีกแล้วครับ” ทันทีที่กดรับสาย ก็มีเสียงพูดที่ฟังดูร้อนใจดังขึ้นมาจากปลายสาย
การประชุมครอบครัวของตระกูลถังเมื่อคืนนี้ ตัดสินใจให้ถังหลินเดินทางไปประเทศR เดิมทีถังหลินจัดเตรียมทุกอย่างไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้ถังหลินต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง
เมื่อคนที่อยู่ทางนั้นไม่ได้พบกับถังหลิน ประกอบกับพื้นที่ของพวกเขาได้รับการโจมตีอีกครั้ง จึงรีบโทรศัพท์มาหาถังหลินทันที
ถังหลินแอบสูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาของเขาสั่นคลอดเล็กน้อย : “ฉันจะเดินทางไปพรุ่งนี้”
เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ หาตัวผู้บงการเจอแล้ว และสามารถจับตัวโจ๋วอันหนานออกมาได้แล้ว หลังจากนี้ เย่ซือเฉินจะเป็นคนจัดการที่เหลือทั้งหมด องค์กรโกสต์ซิตี้ต่างหาก จึงจะเป็นศัตรูที่รับมือได้ยาก
อีกทั้งในประเทศR คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก เรื่องนี้จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
“ได้ครับ” ปลายสายรีบตอบรับโดยเร็ว หลังจากลังเลอยู่สักครู่ ก็พูดขึ้นมาอีกว่า : “เจ้าชายน้อยของประเทศRไม่มีอะไรผิดปกติมากนัก เพียงแต่เมื่อสองวันก่อน ตอนที่เจ้าชายน้อยเสด็จไปร่วมงานเลี้ยงพร้อมกับ องค์ชายใหญ่ คนของพวกเราที่อยู่ที่นี่ก็ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยพอดี และเห็นสีหน้าของเจ้าชายน้อยดูไม่ค่อยสู้ดีนัก ไม่รู้ว่าทรงประชวรหรือไม่ ?”
คุณชายถังให้เขาจับตาดูสถานการณ์ของเจ้าชายน้อย ดังนั้นเมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาจึงต้องรายงานให้คุณชายถังรับทราบ
“อืม ฉันรู้แล้ว” ดวงตาของถังหลินเป็นประกายขึ้นมา มีร่องรอยของความรู้สึกบางอย่างปรากฏขึ้นในดวงตาอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนมองไม่ชัดเจน แต่เมื่อฟังจากน้ำเสียงของคุณชายถังในตอนนี้แล้ว กลับไม่พบความผิดปกติอะไร
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ถังหลินก็มองตรงไปด้านหน้า เขาเม้มปากเล็กน้อย ตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นพูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ระหว่างคนทั้งสอง ให้ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และพูดเอาไว้อีกว่า ระหว่างคนทั้งสองไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันอีก
แต่ผู้หญิงคนนั้นเคยช่วยเขาเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะเธอ เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้นคงต้องทำลายเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงไม่อาจตัดขาดความสัมพันธ์อย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้ได้
ถูกต้องแล้ว เป็นเพราะเหตุผลนี้ ! !
ยิ่งไปกว่านั้น คืนนั้นเป็นครั้งแรกของเธอ และเขาก็เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ อีกทั้งตอนนั้นเขาถูกวางยา จึงได้ขืนใจเธอ การที่เขารู้สึกผิดในใจจึงถือเป็นเรื่องปกติ
ถูกต้องแล้ว เป็นเพราะเหตุผลนี้ ! !
ดังนั้น เขาจึงให้คนจับตาดูสถานการณ์ของหลินเป้ย ! !
ประเทศ ประเทศR ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ตอนนี้หลินเป้ยกำลังร้อนใจเหมือนถูกไฟลน
ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ก็ผ่านมาเดือนกว่า ๆ แล้ว เป็นเพราะตอนนี้เธออยู่ในฐานะ “ผู้ชาย” ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าไปตรวจ ไม่กล้าไปโรงพยาบาล แต่เธอก็หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ว่าหากทำการผ่าตัดในช่วงสี่สิบวันแรกของการตั้งครรภ์จึงจะเป็นการดีที่สุด หากปล่อยเอาไว้นานจะยิ่งเป็นอันตราย
อีกทั้งหากปล่อยเอาไว้นาน เธอก็จะถูกคนอื่นสังเกตเห็นได้
หน้าอกของเธอที่นูนขึ้นมา ยังพอใช้ผ้าพันปกปิดเอาไว้ได้ แต่ท้องที่ใหญ่ คงไม่อาจใช้ผ้าพันปกปิดเอาไว้ได้ อีกทั้งถ้าหากหน้าท้องใหญ่ขึ้นเพราะตั้งครรภ์ จะใช้ผ้าพันไว้ก็คงไร้ประโยชน์
อีกทั้งเธอมีอาการแพ้ท้องที่รุนแรงมาก รู้สึกกินอะไรไม่ลง อีกทั้งยังมีอาการอาเจียนที่รุนแรง ตอนนี้เธอจึงไม่ค่อยกล้าที่จะปรากฏตัว เพราะกลัวว่าจะถูกคนสังเกตเห็นเข้า
ดังนั้น เธอตึงจำเป็นต้องกำจัดเด็กในท้องโดยเร็วที่สุด ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะกำจัดเด็กคนนี้อย่างไรดี จะไปทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลก็คงเป็นไปไม่ได้
กินยา ? ได้ยินมาว่าอันตรายมาก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เธอต้องพบเจออยู่ในขณะนี้ นี่อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาเพียงวิธีเดียวที่มี ! !