ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1370 คุณชายถังทำเกินไป (2)
คุณพ่อโจว๋ปรายตาไปมองเธอ “คุณจะเอาเรื่องนี้ไปรบกวนถึงพ่อแม่เลยหรือ หากพวกท่านรู้ว่าหนานหนานทำเรื่องพวกนั้นกับโจ๋วชิง ถึงตอนนั้นไม่ต้องรอให้ตระกูลถังจัดการ พ่อกับแม่เองนั่นแหละที่จะไม่ปล่อยหนานหนาน”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ปกติแล้วคุณพ่อคุณแม่เอ็นดูหนานหนานจะตายไป” คุณแม่โจว๋อ้ำอึ้งก่อนจะโต้แย้งออกมาด้วยความเคยชิน แต่คราวนี้เธอไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่นัก
“ปกติแล้วพ่อกับแม่เอ็นดูหนานหนาน แต่พวกเขารักโจ๋วชิงมากกว่า โจ๋วชิงคือหลานชายที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลโจ๋ว โจ๋วชิงต่างหากที่เป็นผู้สืบทอดของตระกูล” คุณพ่อโจว๋สายตาที่คุณพ่อโจว๋ใช้มองคุณแม่โจว๋เต็มไปด้วยความรำคาญใจ พวกผู้หญิงผมยาวสมองเล็ก
คนแก่มักจะให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างมาก ในความคิดของผู้ใหญ่หลานสาวเทียบอะไรไม่ได้เลยกับหลานชาย
โจ๋วอันหนานเก่งแค่ไหนก็ไม่มีผลอะไร อย่าว่าแต่โจ๋วอันหนานทำร้ายโจ๋วชิงเลย ต่อให้โจ๋วอันหนานทำร้ายหลานชายที่ไม่ได้เรื่องที่สุดในตระกูล ท่านปู่โจ๋วกับท่านย่าโจ๋วก็ไม่มีทางปล่อยโจ๋วอันหนานไปเช่นกัน
“หรือว่าพวกเราจะทนเห็นหนานหนานติดคุกไปง่ายๆ แบบนี้ พวกเราจะไม่ทำอะไรสักอย่างเลยหรือ” คุณแม่โจว๋ไม่มีทางรับเรื่องราวเช่นนี้ได้ ลูกสาวคือความภาคภูมิใจของเธอ และเป็นชีวิตของเธอ
“ฉันจะให้ทนายหวางตามติดเรื่องนี้ไว้” คุณพ่อโจว๋เองก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่ตอนนี้เขาเองก็ไร้หนทาง เขารู้แล้วว่าตระกูลถังไม่ยอมถอนคดี และจะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกฎหมาย แม้จะรู้ว่าต่อให้พวกตนฟ้องก็ไม่มีโอกาสชนะ แต่เขาจะให้เขาไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้
“แต่ทนายหวางบอกว่าต่อให้ฟ้องพวกเราก็ไม่มีโอกาสชนะ” คุณแม่โจว๋ช็อก หัวใจของเธอดิ่งวูบราวกับว่าตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกถึงความร้ายแรงของปัญหา
“แล้วคุณคิดว่าตอนนี้จะทำอะไรได้อีก” คุณพ่อโจว๋หงุดหงิดใจ ตอนนี้เขาเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว “เธอเป็นคนทำเรื่องพวกนั้นเอง เธอคิดจะฆ่าแม้แต่น้องชายของตัวเอง เรื่องที่เธอก่อขึ้นมาจะโทษใครได้บ้าง”
“หนานหนานไม่มีทางแบบนั้น หนานหนานไม่มีทางทำร้ายโจ๋วชิง เรื่องนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิด โจ๋วชิงต้องโดนพวกเขาหลอกแน่ๆ” คุณแม่โจว๋รีบส่ายหัวพยายามอย่างยิ่งที่จะปฏิเสธ
“โจ๋วชิงโดนยิงหลายแผล แถมตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาล เรื่องนี้ต่างหากคือความจริง อีกอย่างโจ๋วชิงไม่ใช่คนโง่ เขาคงไม่โดนหลอกง่ายๆ แบบนั้น” เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คุณพ่อโจว๋กลับมาเข้าข้างลูกชายบ้างแล้ว ลูกสาวต่อให้ดีอย่างไร ในอนาคตก็แต่งงานออกไปก็เป็นคนของตระกูลอื่น
คุณแม่โจว๋กำลังจะเอ่ยปากพูดต่อ แต่คุณพ่อโจว๋ได้เดินหนีออกไปไกลแล้ว
ประเทศญี่ปุ่น
ด้านนอกโรงแรม เมิ่งหลินยังคงไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
แม้ว่าบนรถเขาจะเห็นแล้วว่าคุณชายถังอ่อนโยนกับผู้ชายคนนั้นอย่างไร แต่เมิ่งหลินคิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายถังจะอุ้มผู้ชายคนนั้นเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
คุณชายถังอุ้มผู้ชายเข้าไปในห้อง!
แถมผู้ชายคนนั้นยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ โดยปล่อยให้คุณชายถังอุ้มไปแบบนั้น
ตอนที่คุณชายถังอุ้มผู้ชายคนนั้นลงจากรถ ยังถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองออกแล้วห่มให้ผู้ชายในอกอย่างทะนุถนอม การกระทำเช่นนี้ดูอ่อนโยนเกินไปแล้ว
เดี๋ยวนะ คุณชายถังคิดจะทำอะไรถึงได้อุ้มผู้ชายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองกลางดึก
เมิ่งหลินยืนอยู่ด้านนอกโรงแรมเป็นเวลานานก่อนจะได้สติกลับมา
จนกระทั่งเหยียนหยูขับรถมาถึง จึงเห็นเมิ่งหลินยืนเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น เขาจึงเข้าไปตบไหล่ของเมิ่งหลิน ทำให้เมิ่งหลินหลุดจากภวังค์
“นาย……” เมิ่งหลินมองไปที่เหยียนหยูด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
“ทำไมหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น” เหยียนหยูเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาก็เกิดความสงสัยและประหลาดใจ
“คนที่มากับพวกนายคือใคร” เมิ่งหลินไม่สามารถเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจได้อีกจึงถามออกมาตามตรง
“เอ๊ะ?” เหยียนหยูชะงักไป คนที่มากับพวกเขา คนที่มากับพวกเขามีแค่คุณชายถังกับเขาสองคน ไม่มีคนอื่น
“คนคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณชายถัง” เมื่อเมิ่งหลินเห็นท่าทีของเหยียนหยู ก็คิดว่าเหยียนหยูมีเจตนาปิดบังเลยถามออกไปอย่างตรงจุด
“ห๊ะ?” เหยียนหยูยิ่งงงเข้าไปอีก แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกออกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเจอเจ้าชายน้อยที่สนามบิน และนึกถึงท่าทีของคุณชายที่มีต่อเจ้าชายน้อยและนึกถึงตอนที่คุณชายเอาเจ้าชายน้อยขึ้นรถ
เหยียนหยูเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง “เกิดอะไรขึ้นรึ”
เขาขับรถตามมาทีหลัง ระหว่างทางเกิดเหตุขึ้นเล็กน้อยทำให้เสียเวลาไปบ้าง
“คุณชายถังอุ้มเขาขึ้นไปบนห้องแล้ว” เมิ่งหลินเม้มปากแล้วทำท่าเป็นนัยว่าแกอย่ามาปิดบังฉัน ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว
“ห๊ะ?” คราวนี้เหยียนหยูช็อกอีกครั้ง คุณชายถังอุ้มเจ้าชายน้อยขึ้นไปในห้องของตัวเองงั้นหรือ
คุณชายถังคิดจะทำอะไร
นั่นคือเจ้าชายน้อยของญี่ปุ่น ตอนนี้พวกเขาอยู่ในดินแดนของญี่ปุ่น คุณชายถังทำแบบนี้ หากเจ้าชายน้อยไม่พอใจขึ้นมา เขาจะจับตัวพวกตนไปสั่งสอนหรือไม่
“พูดอย่างอื่นบ้างไม่ได้หรือไง” เมิ่งหลินถลึงตาจ้องเหยียนหยู “คุณไม่บอก ผมก็รู้อยู่ดี ไม่ต้องปิดบังหรอก”
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ปิดบัง ฉันเองก็ตกใจมากเหมือนกัน” เหยียนหยูรู้สึกเหมือนตัวเองถูกใส่ร้าย
“เขามากับพวกนายแท้ๆ นายจะไม่รู้ได้ยังไง ทำมาเป็นตกใจ” แน่นอนว่าเมิ่งหลินไม่มีทางเชื่อพวกเขา “ฉันดูออกน่าว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา”
“นายมองออก……” เหยียนหยูคิดว่าเมิ่งหลินรู้ว่าเป็นเจ้าชายน้อย เพราะเขาเป็นเจ้าชายน้อยของญี่ปุ่น แน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“ลูกไม้ที่ผู้ชายคนนั้นใช้ ใครๆ ก็มองออกทั้งนั้น” เมิ่งหลินเหล่ไปมองเหยียนหยูด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด “มารยาโคตรดีเลย”
“ห๊ะ?” เหยียนหยูเบิกตากว้าง ล้อเล่นอะไรกัน เจ้าชายน้อยมีมารยา?
“ผู้ชายคนนั้นตั้งแต่ขึ้นรถมาก็พยายามหลอกล่อคุณชายถัง แกล้งหลับบนรถแล้วค่อยๆ เข้าไปซุกไซร้ในอกคุณชายถัง พอถึงโรงแรมก็ทำเป็นแกล้งหลับ ตอนที่คุณชายถังพาเขาลงจากรถ เขาก็ไม่ยอมตื่น ไม่รู้มันหลับหรือตายไปแล้วกันแน่ ตอนที่คุณชายถังอุ้มมันลงจากรถก็ยังไม่ตื่นอีก อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย” ยิ่งเมิ่งหลินพูดอารมณ์ก็ยิ่งขึ้น “ชื่อเสียงของคุณชายถังต้องมาเสียเพราะมันแท้ๆ”
“ไม่ ไม่ใช่มั้ง” เหยียนหยูไม่เชื่อคำพูดของเมิ่งหลิน เขาเป็นถึงเจ้าชายน้อยแถมตอนอยู่ที่สนามบิน เขาเองก็เห็นว่าเจ้าชายน้อยพยายามเลี่ยงคุณชายถังขนาดไหน เป็นคุณชายถังเองต่างหากที่ตามเซ้าซี้เจ้าชายน้อยไม่เลิก
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ฉันเห็นเองกับตาจะไม่ใช่ได้ยังไง อีกอย่างลูกไม้ที่ผู้ชายคนนั้นใช้ ฉันมองแวบเดียวก็รู้แล้ว มีแต่คุณชายถังที่ไม่รู้เรื่องเลยโดนเขาหลอก” เมิ่งหลินถอนหายใจแรง “ฉันถามจริงๆ ว่าพวกนายทำอะไรกันอยู่ถึงปล่อยให้ผู้ชายหน้าไม่อายแบบนั้นมาใกล้ชิดคุณชายถัง คุณชายถังเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูล ถ้าท่านปู่ถังรู้เข้าคงจะโกรธมากแน่นอน”
หลังจากที่เมิ่งหลินเห็นคุณชายถังอุ้มผู้ชายเข้าไปในห้อง ก็คิดจะโทรไปรายงานท่านปู่ถังให้รู้เดี๋ยวนั้น แต่เมิ่งหลินเห็นว่าท่านปู่ถังอายุมากแล้ว ถ้าหากโกรธขึ้นมา ไม่รู้จะเป็นอย่างไร
เขาเลยไม่กล้าโทรไปหา
เมิ่งหลินยิ่งคิดยิ่งโมโห ตอนนี้เลยได้แต่ระบายอารมณ์ใส่เหยียนหยู
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” เหยียนหยูรู้สึกจริงๆ ว่าตัวเองโดนใส่ร้าย คนคนนั้นคือเจ้าชายน้อยแห่งญี่ปุ่น แถมพวกเขาเพิ่งเจอกันที่สนามบิน เรื่องนี้ทำไมถึงเป็นความผิดของเขาไปได้
“นายเป็นผู้ช่วยของคุณชายถัง และต้องดูแลความปลอดภัยของคุณชายถังอยู่แล้ว ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจะไม่เกี่ยวกับนายได้ยังไง เรื่องแบบนี้หากรู้ถึงหูคนนอก คุณชายจะเสียหายรู้หรือไม่” พอเมิ่งหลินได้ยินเหยียนหยูแก้ตัวก็ยิ่งโมโห “นายไม่รู้หรือยังไงว่าจะเกิดเรื่องอะไรตามมา”
เรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องราวที่ยอมรับกันได้ทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้นคุณชายถังมีฐานะพิเศษ ฐานะของตระกูลถังก็ยิ่งพิเศษกว่า หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ไม่เพียงชื่อเสียงของคุณชายถังเท่านั้นที่เสียหาย แต่ชื่อเสียงของตระกูลถังจะเสียหายตามไปด้วย
“ไม่ใช่ เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยวจริงๆ ฉันไม่รู้……” เหยียนหยูคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยยังโดนต่อว่า นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
“ตอนนี้ให้โอกาสนายทำดีชดเชยความผิด สรุปแล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร” เมิ่งหลินบ่นมาตั้งมากมาย เขาไม่สามารถจัดการถังหลินได้ เพราะเขากลัวว่าเรื่องนี้ของคุณชายถังจะทำให้ท่านปู่ถังโกรธเลยไม่กล้าพูด ดังนั้นจึงเหลือเพียงหนทางเดียวคือลงมือกับคนคนนั้น
จะปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นทำให้คุณชายถังเสื่อมเสียไม่ได้
“นายคิดจะทำอะไร……กันแน่” เหยียนหยูเห็นท่าทีของเมิ่งหลินจึงรู้สึกหนาวสันหลัง เหยียนหยูอยู่กับถังหลินมานานแล้ว แน่นอนว่าเขารู้จักวิธีการที่แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลใช้ “อย่าทำอะไรมั่วๆ นะ”
นั่นมันเจ้าชายน้อยของญี่ปุ่นเชียวนะ
“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง แค่บอกมาว่าคนคนนั้นเป็นใคร ถึงตอนนั้นฉันจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง ท่านปู่ถังมีบุญคุณกับฉัน ฉันไม่มีทางยอมให้ผู้ชายคนนั้นดึงคุณชายถังให้เสื่อมเสีย” ระหว่างที่เมิ่งหลินพูดประโยคนี้ เขาก็หรี่ตาลงราวกับตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว