ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1381 อย่าคิดปิดบังผม (1)
สำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบถ ความทุกข์ และความสุขของเธอ ล้วนเป็นทั้งสุราเลิศรสและเป็นยาพิษภายในตัวด้วย!!
หลินเป้ยถลึงตาใส่เขา คนนี้เป็นบ้าอะไรเนี่ย ตัวเขาหน้าไม่อายก็แล้ว ยังกล้ามาใส่ร้ายเธออีก
เธอไปยั่วเขาตอนไหน?เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยั่วยวนเขา?!
เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แทบอยากพลิกแผ่นดินหนีด้วยซ้ำ
“อย่ามองผมแบบนี้ จริงนะ ไม่งั้นผมจะ……”เสียงถังหลินมีความแหบแห้งหลายส่วน เธอไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางของเธอขณะนี้เย้ายวนใจแค่ไหน!!
“คุณหลีกไป หน้าไม่อาย”หลินเป้ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ใบหน้าจึงแดงก่ำถึงขีดสุด เธออดใจยกเท้าถีบเขาไม่ได้
ถังหลินกลับไม่ถือสา ทางกลับกัน เขาทำหน้าระรื่นพร้อมกับหัวเราะเสียงเบาออกมา ไม่สนใจเธอที่กำลังถีบเขาไปเรื่อย เขาคร่อมใส่เธอกว่าครึ่งตัว
เขามองใบหน้าและริมฝีปากของเธอในระยะใกล้ๆ มันทำให้เขาลอบถอนใจหนึ่งเฮือก
เขารู้สึกว่าต้องควบคุมความปรารถนาที่ลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ ไว้ จะให้ตบะแตกไม่ได้
นิ้วมือของเขาสัมผัสใบหน้าของเธอ เริ่มจากคิ้ว ดวงตา แล้วค่อยๆย้ายลงมาหยุดตรงริมฝีปากของเธอ “ไม่ต้องเครียด ผมไม่ฝืนใจคุณหรอก”ถึงแม้เขาอยากสักเต็มประดา ทว่าก็ขืนใจเธอไม่ได้ ดังนั้นเขาไม่ได้จุมพิตเธออีก เพราะกลัวตัวเองจะระงับความใคร่ไว้ไม่อยู่หมัด
หลินเป้ยชะงัก เธอเชื่อคำพูดนี้ของถังหลิน ถึงแม้เธอด่าถังหลินในใจว่าต่ำทราม ไร้ยางอายไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง ทว่าเธอรู้ดี ถังหลินไม่ข่มขืนผู้หญิงแน่
ตอนอยู่ในประเทศZ เดิมทีเขาก็ยืนกรานหัวชนฝาว่าจะสู่ขอเธอ ถึงแม้ท่าทีจะหนักแน่นมาก ทว่าเขาก็ไม่เคยบีบบังคับเธอสักเรื่อง และสุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยเธอไป
ดังนั้นขอเพียงเธอไม่ตอบตกลง ถังหลินก็จะไม่ทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด
เธอนึกถึงตอนที่เขาจูบเธอเมื่อกี้ เธอถึงกับลืมต่อต้าน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยัง……
หลินเป้ยนึกถึงจุดนี้ หน้าก็ยิ่งแดงระเรื่อมากขึ้น ไม่รู้ว่ากำลังบันดาลโทสะหรือเอียงอายกันแน่ ตอนนี้ถังหลินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกไม่กล้ามองเขากะทันหัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะละอายแก่ใจหรือว่าเพราะอะไรกันแน่ เธอตัดสินใจหลับตาหนีดีกว่า
เธอแต่งตัวเป็นผู้ชายกลับไปยังพระราชวังตั้งแต่เด็ก เธอในร่างหญิงสาวแต่งตัวเป็นผู้ชาย จึงไม่กล้านึกถึงเรื่องความรักเลย ดังนั้น ความรักของเธอจึงว่างเปล่าเสมอมา เธอถึงขั้นไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้เลย
ดังนั้น ตอนนี้เธอเผชิญหน้ากับถังหลินพลันรู้สึกต้านทานไม่อยู่
อีกอย่างเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรทำเช่นไรดี หรือไม่ควรทำเช่นไร
อันที่จริงที่เธอหลับตาเพราะหนีเหตุการณ์ตรงหน้า เธอไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเลย และไม่ได้คิดมากด้วย!!
ถังหลินกลัวเธอตกใจเลยอธิบายให้เธอฟัง อยากให้เธอเบาใจ เดิมทีถังหลินคิดว่าเมื่อเธอได้ยินแล้วจะสบายใจขึ้นจนรู้สึกร่าเริง
ทว่าถังหลินนึกไม่ถึงว่าเธอจะตอบสนองเช่นนี้
เวลานี้ท่าทางของเธอคล้ายความเขินอายที่เจือความอ่อนช้อยน่ารักไว้ในทีด้วย หลับตาแล้วหากแต่ขนตายังคงกะพริบน้อยๆ มันช่างเหมือนดอกตูมที่ตั้งหน้าตั้งตาให้คนมาเด็ดด้วยความตื่นเต้น
ถังหลินลอบถอนหายใจ ลูกคอลื่นไหล ดวงตาดำเงางามที่เดิมทีน่ากลัวเหลือแสน ถังหลินเป็นคนฉลาด ถึงจะไม่เคยมีแฟนมาก่อนก็ตาม ทว่าตอนนี้ถังหลินรู้ว่าผู้หญิงไม่ได้ต่อต้านหรือปฏิเสธ ท่าทางนี้ราวกับเหมือนรอคอยอีกด้วย
ถังหลินอดยิ้มไม่ได้ เขาเก็บนิ้วมือบนริมฝีปากเธอกลับมา จากนั้นก็โน้มตัวเข้าไป ก่อนจะนำริมฝีปากของเขาที่ยกโค้งขึ้นเล็กน้อยประทับกับริมฝีปากเธออย่างสวยงาม
ร่างกายหลินเป้ยแข็งทื่อ พลางเบิกตากว้าง ตอนแรกเห็นใบหน้าถังหลินระยะใกล้ หัวใจเธอจึงรู้สึกว้าวุ่น เธอเลยหลับตาด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นก็รู้สึกทะแม่งๆ จึงรีบลืมตาขึ้น ทว่าก็ยังคงรู้สึกไม่ถูกอยู่ดี ……
หลินเป้ยรู้สึกว่าตัวเองจะบ้าอยู่แล้ว หลินเป้ยถูกนัวเนียเช่นนี้จึงลืมทำเรื่องอย่าง อาทิเรื่องปฏิเสธ หรือการผลักถังหลินออก
ริมฝีปากของถังหลินยกโค้งขึ้นเป็นรูปเรเดียนเรื่อยๆ ทุกการตอบสนองของเธออยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด เขาคิดว่าเธอตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเธอสับสนอลหม่าน ทว่าเธอกลับไม่ปฏิเสธ ไม่ได้ผลักเขาออกเหมือนก่อนหน้านี้
สิ่งที่ได้มา ทำให้หัวใจถังหลินดุจดั่งดอกไม้บานสะพรั่งอย่างงดงามและรู้สึกชื่นอกชื่นใจ
เขารู้สึกว่าร่างกายเธอค่อยๆผ่อนคลายและอ่อนนุ่มขึ้น สุดท้ายเธอยังเอามือจับชายเสื้อของเขาไว้แน่นขนัดอีกด้วย
ถังหลินอยากเอาเธอเหลือเกิน ทว่าเขาพยายามควบคุมตัวเองสุดชีวิต เมื่อครู่เขาเกริ่นไว้ก่อนแล้วว่าจะไม่ขืนใจเธอ ถึงแม้ตอนนี้เธอไม่ได้ปฏิเสธอก็ตาม เขารู้ว่าหากเขาก้าวล้ำต่ออีกหนึ่งขั้น เธอต้องตกใจกลัวแน่ ดังนั้นค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า!!
“ชอบไหม?”ถังหลินเงยหน้าขึ้นพลันมองเธอที่ยังคงหลับตาอยู่ น้ำเสียงหวานหยดย้อยมาก
หลินเป้ยลืมตาทันที ใบหน้าเธอแดงก่ำราวกับหยดเลือด ดวงตาทั้งคู่ของเธอจ้องเขม็งเขา เพียงแต่แววตาของเธอมีความสลัวมึนงงหลายส่วน เมื่อเขม็งตาแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์ดุดันเลยสักนิด ทางกลับกันยิ่งเหมือนออดอ้อนออเซาะมากกว่า
ดวงตาถังหลินมืดมนเล็กน้อย หายใจถี่กระชั้นด้วย ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้ หัวใจเจียมจะละลายแล้วเชียว
ถังหลินรู้สึกว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องมอบชีวิตให้เธอแน่นอน
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าวเช้าที่ผมสั่งไว้น่าจะถึงแล้ว”ถังหลินใช้พลังมากมายในการควบคุมตัวเอง เขาเป็นฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงก่อน
เขากลัวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว เขารู้ว่าครั้งนี้เขาร้อนใจไม่ได้ ตอนนี้ก็สายแล้ว เธอน่าจะหิวแล้ว
หลินเป้ยได้ยินเขาบอกว่าสั่งข้าวเช้าไว้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาเล็กน้อย ความมึนงงเมื่อครู่ก็เลือนหาย แต่มีความกระวนกระวายเพิ่มขึ้นหลายส่วน ช่วงนี้เธอกินอะไรไม่ลงเลย เพราะแค่ได้กลิ่นก็อยากอ้วก ไม่ว่าคิดอยากกินอะไร แต่เมื่อได้ยินก็กินไม่ลงสักอย่าง ถึงแม้เธอจะบังคับให้ตัวเองกินลงไป แต่ว่าก็จะอาเจียนออกมาในที่สุด
อาการแพ้ท้องของเธอรุนแรงขนาดนี้ ถังหลินก็เป็นคนฉลาดด้วย เดี๋ยวถังหลินต้องรู้เรื่องนี้แน่
ค่ำคืนนั้น ณ ประเทศZ คนอื่นไม่รู้เรื่อง ทว่าถังหลินรู้ดี เขายังเคยบอกว่าอาจจะตั้งท้องด้วย ดังนั้นหากอาการแพ้ท้องของเธอยังรุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ ถังหลินก็คิดโยงใยได้แน่
ไม่ได้ ให้ถังหลินรู้ไม่ได้เด็ดขาด !!
เธอรู้สถานะของเธอดี หากคนอื่นรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง คนที่ตายไม่ใช่เธอคนเดียวเท่านั้น คุณแม่ของเธอก็ต้องตายตามไปด้วย กษัตริย์ไม่ปล่อยพวกเธอสองแม่ลูกแน่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสงสัยจุดนี้เลย!!
“ฉันไม่หิว ฉันไม่กิน ฉันจะกลับก่อน”หลินเป้ยรีบลุกขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นก็เอียงกายหาสเตย์รัดอกของตัวเอง ก่อนจะรีบหันหน้าไปยังห้องอาบน้ำ
“กินข้าวก่อน”ถังหลินเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอกะทันหันเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ เขารีบเอื้อมมือจับข้อมือเธอไว้ “ช่วงนี้คุณผอมลงมาก กินข้าวเช้าก่อนแล้วค่อยไป”
ตอนอุ้มเธอเข้าโรมแรงเมื่อคืนเขาก็รู้สึกเธอผอมกว่าเมื่อก่อน ซึ่งเช้านี้ยิ่งรู้สึกมั่นใจจุดนี้มากขึ้น พึ่งผ่านมาสองเดือน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทรมานตัวเองให้ผอมลงเช่นนี้ เขาสงสัยว่าเธอไม่ได้ทานข้าวดีๆ
“ฉันไม่หิว ฉันไม่กิน” หลินเป้ยกลัวได้กลิ่นกับข้าวแล้วรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนขึ้นมา ดังนั้น เธอไม่กล้าอยู่ที่นี่จริงๆ
หลินเป้ยใช้แรงสะบัดมือเขาออก ถังหลินที่ไม่ได้จับแน่นอยู่แล้ว เมื่อหลินเป้ยใช้แรง มือถังหลินจึงถูกสะบัดทิ้ง เวลานี้เธอไม่ได้มีความขวยเขินหรือมึนงงเฉกเช่นเมื่อครู่อีกต่อไป กลับมาทำหน้าเย็นชนอย่างห่างเหินดุจเดิม ทั้งยังระคนการต่อต้านและปฏิเสธไว้อีกด้วย
ถังหลินเห็นการตอบสนองของเธอ ดวงตาพลันหรี่ขึ้น“แค่กินข้าวเอง คุณเครียดอะไร?”
ถังหลินดูออกว่าตอนนี้เธอเคร่งเครียด ทั้งยังลุกลนด้วย ถังหลินไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเป็นเช่นนี้ ก็แค่กินข้าวเช้า เมื่อคืนพวกเขาร่วมหลับนอนแล้ว เช้านี้ก็จูบกันด้วย ซึ่งไม่ได้จูบเพียงหนึ่งครั้ง และตัวเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
ทำไมตอนนี้กับแค่กินข้าวเช้าเธอถึงตอบสนองเช่นนี้
ถังหลินรู้สึกไม่ใช่เป็นเพราะกลัวเป็นขี้ปากชาวบ้านแน่นอน เพราะเมื่อเทียบกับเรื่องก่อนหน้านี้ การกินข้าวเช้าจึงไม่เป็นเรื่องเล็กกะจิ๋วที่ไม่คุ้มค่าแก่การเอ่ยถึงเลย
ถังหลินคิดไม่ตกว่าทำไมเธอถึงตอบสนองแรงเช่นนี้?
ถังหลินรู้สึกว่าเธอกำลังปิดบังอะไรอยู่ เขาจับข้อมือเธออีกครั้ง