ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1389 รอเขากลับมา (1)
ถังหลินแอบถอนหายใจ พยายามให้ตัวเองใจเย็น เขาไม่เอ่ยปาก เขาอยากรู้ว่าเธอดึงเขาไว้เช่นนี้ เธออยากพูดอะไรกันแน่?หรือว่าอยากทำอะไร……
“คุณต้องรอดชีวิตกลับมา” หลินเป้ยรู้ว่าเธอรั้งตัวเขาไม่ได้ ผู้ชายคนนี้หัวดื้อนัก หลินเป้ยก็รู้ว่าเขามีแผนของเขาที่ต้องไปเตรียมการ ดังนั้น สิ่งที่เธอพูดได้ตอนนี้ก็คงจะมีประโยคนี้แล้ว
อันที่จริงเธอไม่อยากพูดอย่างนี้ เพราะทั้งฐานะและสถานการณ์ความเป็นอยู่ของเธอ ล้วนไม่อนุญาตให้เธอพูดเช่นนี้
เธอเป็นเจ้าชายน้องประเทศR เธอกับเขาไม่ควรมีเยื่อใยต่อกัน เธอควรทำตัวเหมือนตอนอยู่ในประเทศ Z หันหน้าจากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ขีดเส้นกั้นทั้งสองอย่างชัดเจน
ทว่าเธอข่มกลั้นความรู้สึกแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ ยังอยากพูดออกมา
“วางใจเถอะ ผมไม่ให้ตัวเองเป็นอะไรหรอก รอผมกลับมานะ” เขายิ้มเบาๆ ยกมุมปากขึ้นมาจูบริมฝีปากเธอ หากไม่ใช่เขาต้องออกไป เขาก็จะจูบลึกขึ้น จากนั้นก็ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้
“อืม” หลินเป้ยมองดวงตาอันน่าหลงใหลของเขา เธอรู้สึกหัวใจเต้นรัวแรงขึ้น เธอรู้ว่าไม่ควรรับปากอะไรทั้งสิ้น ทว่าตอนนี้เธอพยักหน้าตอบกลับเรียบร้อย
เธอคิดว่าไม่ว่าวันหน้าจะเป็นเช่นไร แต่ตอนนี้เธอจะทิ้งความทรงจำให้เขาระลึกถึง
หลังจากคืนนั้น ถังหลินก็พูดจะแต่งงานกับเธออย่างจริงจังท่าเดียว ตอนนั้นเธอคิดว่าเขาแค่อยากรับผิดชอบเธอเท่านั้น
ทว่าตอนนี้เธอพบว่า เขาจริงจังมากขึ้น และคำพูดพวกนี้ มันชัดเจนมากว่าเขาชอบเธอ
ดังนั้นการที่เธอตกปากรับคำตอนนี้จะทำให้เขาระลึกถึง
ถังหลินมองหน้าเธอ นัยน์ตาเกิดรอยยิ้มลึกขึ้นหลายส่วน“คืนนี้ผมจะไปงานเลี้ยง เจอกันในงานเลี้ยงนะ”
ถังหลินรู้ว่าเมื่อเขาออกไป เธอก็ต้องออกไปแน่ เพราะคืนนี้ยังมีงานเลี้ยงรออยู่ เธอจึงจำเป็นต้องเตรียมงาน อีกอย่างกลางคืนเธอก็ออกจากพร้อมกับเขาได้
“ได้” หลินเป้ยเชื่อฟังมาก ถังหลินพูดอะไรเธอก็ตอบตกลงหมด คล้ายกับเป็นผู้หญิงเชื่อฟังคนหนึ่ง
“เด็กดีจัง” รอยยิ้มถังหลินคล้ายกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ นับจากที่รู้จักเธอ เป็นครั้งแรกที่เธอเชื่อฟังขนาดนี้ เชื่อฟังจนหัวใจเขาละลายแล้ว เชื่อฟังจนเขาไม่อยากออกไปไหนแล้ว
หากรู้อย่างนี้แต่แรก เขาควรนัดเจอคารูช้ากว่านี้อีกหน่อย
ทว่าตอนนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว ถึงแม้ถึงหลินไม่อยากออกไป แต่ก็ต้องไป
เมื่อออกจากห้อง ถังหลินก็คิดจะไปหาเมิ่งหลินกับเหยียนหยู เพียงแต่เมื่อถึงห้องโถงหลักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาเขา
“คุณชายถังครับ คุณชายเย่ให้ผมมาหาคุณครับ” ผู้ชายคนนั้นบอกเจตนาและสถานะของตน
“อืม” ถังหลินเคยโทรหาเย่ซือเฉินแล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงว่าคนนี้จะมาหาเขาและมาเร็วขนาดนี้
คนนั้นไม่ได้พูดอะไรอีก คุณชายเย่โทรหาเขา สั่งให้เขาฟังคำสั่งจากคุณชายถัง ดังนั้นเขาไม่ต้องถาม ไม่ต้องพูดอะไรมาก รอฟังคำสั่งจากคุณชายถังก็พอแล้ว
“ตอนนี้ผมนัดกับคารูไว้ รอให้ผมกลับมาแล้วค่อยว่ากันเรื่องอื่น” ถังหลินให้เย่ซือเฉินส่งคนมาก็เพราะอยากให้สืบเรื่องของหลินเป้ย ทว่าเมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องพัก หลินเป้ยเชื่อฟังมาก ไม่ได้ต่อต้านเขาเฉกเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ทว่าถังหลินก็ยังรู้สึกว่าหลินเป้ยมีเรื่องปิดบังเขา เธอบอกว่าช่วงนี้เธอเป็นหวัดเล็กน้อย ซึ่งไม่เขาเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น
ผู้ชายคนนั้นได้ยินว่าถังหลินนัดเจอกับคารู ดวงตาเขาพลันกะพริบ ทว่าเขาไม่ได้แสดงอารมณ์มากนักและไม่ได้กล่าวห้าม
“คุณกลับไปก่อน เอาเบอร์ให้ผม ผมกลับมาแล้วจะติดต่อหาคุณ” ถังหลินมองผู้ชายคนนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาจะบันทึกหมายเลขโทรศัพท์
“คุณชายเย่บอกผมว่าให้ฟังคำสั่งจากคุณชายถังทั้งหมด ผมไปกับคุณชายถังด้วยกันนะครับ” ผู้ชายคนนี้พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย คล้ายกับเขาพูดเหมือนจะไปกินข้าวหนึ่งมื้อกับถังหลินอย่างนั้น
ถังหลินเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้น เขามองออกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่แอบสืบข้อมูลของคนอื่นอย่างที่ซือเฉินบอกเท่านั้น
เมื่อกี้เขาบอกว่าจะไปเจอหน้าคารู ผู้ชายคนนี้กระทั่งยกคิ้วก็ไม่มี ถังหลินสังเกตสีหน้าเขาอยู่ เขาไม่ใช่แกล้งใจเย็น และไม่ใช่คนที่ไม่แสดงอารมณ์แต่อย่างใด เขาเพียงแค่ดูแคลน คนอย่างคารูไม่มีคุณสมบัติแม้แต่ให้เขายกคิ้วเลย
ถังหลินรู้ว่าข้างกายซือเฉินมียอดฝีมือมากมาย ทว่าการตอบสนองของผู้ชายคนนี้ทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อย
“ดี” ถังหลินไม่ปฏิเสธ ถึงแม้จะมีแผนในใจแล้ว ทว่าตอนนี้เขาเสี่ยงจริงๆ เขาต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ซึ่งคนตรงหน้าเหมาะสมที่สุด
คนนี้เป็นคนของเย่ซือเฉิน เขาจึงไม่ต้องสงสัยอะไรสักนิด
ผู้ชายแค่พยักหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ ถังหลินคิดว่าหากไม่ใช่เย่ซือเฉิน ผู้ชายคนนี้แม้แต่พยักหน้ากับเขาก็ไม่อยากทำ
“คุณชายถังครับ” เวลานี้เมิ่งหลินมองเห็นถังหลินแล้ว เมิ่งหลินรีบเดินเข้ามาหา พลางพูดเสียงต่ำ “คุณชายถังไปเจอหน้าคารูอย่างนี้มันอันตรายเกินไปครับ คารูคนนั้น……”
ถึงแม้เกลี้ยกล่อมหลายรอบ ถังหลินก็ยังไม่ฟัง ทว่าเมิ่งหลินก็ยังไม่ตายใจ อยากห้ามดูอีกสักครั้ง เขาหวังว่าคุณชายถังจะเปลี่ยนใจ
ถังหลินเงยหน้ามองเขาปราดหนึ่ง แววตาเฉยเมยมาก ทว่าเมิ่งหลินกลับหุบปากทันที
“ผมจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วครับ” เมิ่งหลินแอบถอนหายใจ ดูเหมือนจะไม่มีทางอื่นแล้ว ต้องไปเจอหน้ากันแล้ว ยังดีที่เขาจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว และได้เรียกกำลังคนมาแล้วด้วย
“คุณชายถังครั้ง คารูเป็นคนเลือกสถานที่ในถิ่นพวกเขา คนพวกเรา……”เมิ่งหลินอยากพูดว่าลูกน้องพวกเขาอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ฝ่ายคารู ทว่าเมิ่งหลินนึกได้ว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงการนัดเจอกันได้ จึงพูดเสียขวัญและกำลังเวลานี้ไม่ได้
“ผมจัดคนไปเยอะหน่อย จะได้ปลอดภัยหายห่วงครับ” เมิ่งหลินรู้ว่าตอนนี้ทำได้เพียงเท่านี้แล้ว
ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังถังหลินยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ
ถังหลินหันไปมองเขาปราดหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตอบสนองอะไร
เมิ่งหลินสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านข้างถังหลิน เมื่อเมิ่งหลินมองอีกฝ่ายก็ต้องขมวดคิ้ว เขารู้สึกคนนี้คุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทว่าก็นึกไม่ออก “ท่านนี้คือ?”
เมิ่งหลินประโยคนี้เป็นการถามผู้ชายคนนี้ ไม่มีทางที่เมิ่งหลินจะถามคุณชายถังมากขนาดนี้
ทว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนไม่ได้ยินเมิ่งหลินพูด กระทั่งหนังตาก็ไม่ยกขึ้นเลยสักนิด ยิ่งไม่มีทางตอบเมิ่งหลินแน่
“ไปกันเถอะ” ถังหลินไม่ได้อธิบายมากนัก เขาก็ไม่รู้สถานะของผู้ชายคนนี้ ทว่าเขาเป็นลูกน้องเย่ซือเฉิน ดังนั้นถังหลินเชื่อใจเขา จึงไม่ได้ถามอะไรมาก
“คุณชายถังครับ ผมเลือกคนมีฝีมือไว้หลายคนครับ จะให้ไปด้วยกัน จากนั้นให้คนอื่นเฝ้าข้างนอก คารูคงไม่ยอมให้พวกเราพาคนไปกันเยอะแน่ครับ……”เมิ่งหลินพึ่งจัดเตรียมเสร็จ ทว่าในใจก็ยังกังวลมาก กลัวจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น คารูคนนี้รับมือยากจริงๆ
“ไม่ต้องแล้ว ให้เขาไปกับผมก็พอ” ถังหลินตัดบทพูดของเมิ่งหลิน พลางหันไปมองผู้ชายที่ไม่พูดไม่จา ทว่ายังคงเดินข้างไหล่เขาเสมอ
เดิมทีถังหลินก็อยากพาคนไปกันหลายคน เพราะการไปเจอหน้าคนอย่างคารู เขาไปคนเดียวมันเสี่ยงเกินไป ทว่าถังหลินไม่อยากพากันไปเยอะมาก ไปกันเยอะแล้วผลลัพธ์จะไม่เป็นอย่างที่เขาวางแผน
ตอนนี้ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะไปด้วย ถังหลินจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพาคนไปกันเยอะแล้ว
“เหยียนหยูก็ไปด้วย” ทว่าเขาพาเหยียนหยูมาด้วย ดังนั้นเขาไปไหน เหยียนหยูก็ต้องตามไปที่นั่น ซึ่งเหยียนหยูติดตามข้างกายเขาหลายปีแล้ว ระหว่างพวกเขาจึงสื่อสารและรู้ใจกันมาก
ส่วนลูกน้องคนอื่นทางนี้ ถังหลินไม่ได้รู้จักมากนัก เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล ไม่ใช่คนข้างกายเขา
“คุณชายถังครับ ไม่ได้นะครับ ไม่ได้เด็ดขาดเลยครับ คารูเจ้าเล่ห์มาก โหดร้ายมาก คุณพาไปแค่สองคน ไม่ได้เลยครับ ……”เมิ่งหลินพูดแล้วอดมองผู้ชายด้านข้างไม่ได้ ผู้ชายคนนี้แลดูเป็นคนที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ทว่าคารูที่นรกส่งมาเกิด มีเพียงคนนี้ไปกับคุณชายถัง เมิ่งหลินย่อมไม่เห็นด้วยแน่นอน
สำหรับเหยียนหยู ถึงแม้ถือว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดคุณชายถัง ทว่าเหยียนหยูมีความสุขภาพเกินไป อย่างมากเขาทำได้แค่เป็นผู้ชายบริษัทของคุณชายถังเท่านั้น หากเกิดเรื่องร้ายขึ้นจริงๆ คงพึ่งเหยียนหยูไม่ได้