ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1396 แตกสลายยับเยิน (2)
น้อยมากที่น้ำเสียงของถังหลินมีความเร่งรีบอยู่!!
สามารถเห็นถึงความสำคัญที่เขามีต่อเรื่องนี้ได้เลย!
ชายที่เงียบสงบก็ยังคงสีหน้าไร้ความรู้สึก แค่เงยหน้าขึ้น มองไปทางถังหลิน
ถังหลินคิดว่าคำขอของเขาเกินไป กำลังคิดอยากจะแก้คำพูด เรื่องราวแบบนี้ใครก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าจะใช้เวลานานเพียงไหนจึงจะได้ผลออกมา เขาเองก็รีบไปหน่อยจริงๆ
“สามวัน” แต่ว่าชายที่เงียบสงบตอบเวลาที่แน่ชัดออกมาเลย อีกอย่างเวลานี้ไม่ได้นานมากนัก เพียงแค่สามวัน
เมิ่งหลินสืบมาจะสองเดือนแล้ว อะไรก็สืบไม่เจอ ตอนนี้ผู้ชายคนนี้กลับใช้แค่เวลาสามวันก็สามารถสืบเจอ?
นัยน์ตาของถังหลินเปล่งประกายขึ้นทันที “ได้ รอข่าวจากนาย”
ถังหลินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้คำตอบที่เซอร์ไพรส์ขนาดนี้!!
“พรุ่งนี้ คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องมาแน่นอน ให้ฉันอยู่ด้วยไหม?” น้อยมากที่ชายเงียบสงบจะหางานให้ตัวเอง แน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของถังหลิน และก็เป็นเรื่องของเย่ซือเฉินด้วย
ชายที่เงียบสงบเป็นคนของเย่ซือเฉิน อยากจะออกแรงก็เป็นเรื่องธรรมดา
“ไม่ต้องแล้ว นายไปสืบเรื่องที่ฉันบอก เรื่องอื่นฉันมาขัดการเอง” ก่อนหน้านี้เขาไปฆ่าคารูขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว และทำให้ยู่ต๋าตกตะลึงไปแล้ว ถังหลินไม่ได้กังวลว่าพวกเขาจะเล่นกลอะไรอีกแล้ว
“เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความหมายขององค์กรโกสต์ซิตี้ และไม่ใช่ความคิดของหัวหน้าน้อยคนนั้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกลัว” ตอนนี้ถังหลินเข้าใจสถานการณ์แล้ว จึงไม่ต้องกังวลองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้เขาก็คงจะไม่ฆ่าคารูตาย
“อืม น่าจะเป็นคนเบื้องบนอื่นๆ ขององค์กรโกสต์ซิตี้อยากยึดอำนาจ พวกเราทำเช่นนี้ ไม่ได้หวังว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ขอบคุณพวกเรา ตอนนั้นอย่างน้อยสามารถรับรองได้ว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่รบกวนพวกเรา” ยากมากที่ชายเงียบสงบจะพูดเยอะขนาดนี้ในครั้งเดียว
ถังหลินเงยหน้าขึ้น มองไปทางเขาด้วยความแปลก คนคนนี้พูดแต่คำออกมาดั่งทองคำ ไม่เคยพูดมาก ด้วยบุคลิกของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พูดแบบนี้โดยไม่มีเหตุผล
คำพูดของชายที่เงียบสงบหยุดไปสักพัก จากนั้นก็พูดเสริมขึ้นอีกว่า “ดังนั้น หากพวกเขากล้าเล่นกลอะไรอีก ตัดพวกเขาทิ้งไปก็ไม่เป็นไร”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าประโยคสุดท้ายต่างหากที่สำคัญ แต่ว่าสิ่งที่เขาวิเคราะห์กับถังหลินในก่อนหน้านี้ก็ถือว่ายากที่จะเห็นอยู่
ถังหลินมีความตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็อดหัวเราะออกมาไม่ไหว เย่ซือเฉินหาคนแบบนี้ออกมาจากไหนกันแน่เนี่ย
“โอเค ฉันรู้แล้ว” ถังหลินไม่ได้พูดอะไรมาก สำหรับคำแนะนำ ถังหลินรับเอาไว้ก่อน หากพรุ่งนี้คนพวกนั้นยังเล่นกลอะไรอีก เขาก็ไม่มีความเห็นที่จะช่วยประเทศRตัดมะเร็งร้ายตัวนี้ออกไป
หลายปีมานี้ คนพวกนี้ขององค์กรโกสต์ซิตี้ในประเทศR ที่อยู่ภายใต้การนำของคารู สามารถพูดได้เลยว่าก่อกรรมทำชั่ว ฆ่าคนนับไม่ถ้วน ทำแต่ความช่วย ราชวงศ์ของประเทศRก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้
หากตัดทิ้งไปจริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี!!
ไม่มีการสนับสนุนขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถังหลินไม่กังวลเลยจริงๆ
“นายสามารถไปสืบเรื่องเมื่อกี้ที่ฉันพูดได้แล้ว” ตอนนี้ถังหลินสนใจเรื่องนี้มากกว่า เขาอยากรู้มากกว่าว่าช่วงเวลานี้เกิดอะไรขึ้นกับหลินเป้ยบ้าง
ชายเงียบสงบไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วจากไปเลย
ขณะเดียวกัน ในเมืองA
ไป๋หยิงพาเฉิงโหรวโหรว ไปที่บ้านของตระกูลเย่อีกครั้ง
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ได้ยินว่าเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้มาอีกแล้ว ก็ตะลึงมาก คิดว่าพวกเขาจะมาคิดบัญชีด้วย แต่ว่าหลังจากต้อนรับพวกเขาเข้ามาแล้ว ปรากฏว่าเจ้าหญิงท่าทีดีมาก บนใบหน้าจะแฝงรอยยิ้ม ดูแล้วดีใจมากๆ
“ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงมาครั้งนี้เพราะเรื่องอะไรครับ? ดูเจ้าหญิงใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีข่าวดีอะไรหรือเปล่าครับ?” คุณปู่เย่แอบโล่งใจ เฉิงโหรวโหรวทนไม่ไหว ซ่อนความในใจไว้ไม่ได้ ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็แสดงอยู่บนหน้าทั้งหมด เพียงแค่แวบเดียวคุณปู่เย่ก็มองออกแล้ว
“ใช่ ถือว่าเป็นข่าวดี เพื่อเรื่องของฉัน ตอนนี้หัวหน้าเริ่มต่อต้านอำนาจของถังหลินและเย่ซือเฉินในประเทศRแล้ว” เฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ดีใจเกินไปแล้วจริงๆ อีกอย่างคืนได้ใจมากๆ พอคุณปู่เย่ถาม เธอก็พูดตรงๆ เลย ไม่ได้ให้โอกาสไป๋หยิงมาห้ามเลย
แต่ว่าไป๋หยิงได้ยินประโยคนี้ของเธอแล้ว ก็โล่งอกไปที
สีหน้าของคุณปู่เย่กลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย สำหรับเจ้าหญิงถือว่าเป็นเรื่องดี แต่สำหรับพวกนั้นไม่ใช่เรื่องดีอะไร แต่ว่าวินาทีถัดไป นัยน์ตาของคุณปู่เย่กลับเปล่งประกายขึ้น “ประเทศR? อำนาจของเย่ซือเฉิน? เย่ซือเฉินก็มีอำนาจในประเทศR?”
สิ่งเหล่านี้คุณปู่เย่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
“ใช่ อำนาจของเย่ซือเฉินในประเทศRไม่น้อยเลย แต่ว่า ไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้แน่นอน พวกเราองค์กรโกสต์ซิตี้ตอนนี้กำลังกดทับพวกเขาอยู่ ตอนนี้พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งโอกาสพลิกตัว” เฉิงโหรวโหรวได้ใจมาก ความหมายที่จะโอ้อวดชัดเจนมากแล้ว
จริงๆ แล้วหากคำเฉิงโหรวโหรวพูดประโยคนี้โดยไม่ได้หัวเราะ สามารถคิดเป็นคำขู่อย่างหนึ่งได้เลย
ทว่าเฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ดีใจเกินไปแล้ว เธอหัวเราะตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่ได้จะมาขู่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่แต่แรกอยู่แล้ว
คุณปู่เย่อดกลั้นความโมโหไว้ในใจ ขึ้นก็ไม่ได้ ลงก็ไม่ได้ เกือบจะสลบไปแล้ว ดังนั้นเจ้าหญิงมาก็แค่เพื่ออวดกับเขา?
หรือว่ามาคิดบัญชีกับเขา?
“งั้นเจ้าหญิงหมายความว่าอะไรคะ?” คุณย่าเย่เห็นเฉิงโหรวโหรวยิ้มทั้งหน้า จึงลองถามไปประโยคหนึ่ง ขณะนี้ท่าทีนี้ของเฉิงโหรวโหรว เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเฉิงโหรวโหรวหมายความว่าอะไรกันแน่
ไป๋หยิงเบ้ปากเล็กน้อย ยัยเฉิงโหรวโหรวนี่โง่จนดูไม่ได้จริงๆ
“หัวหน้าของเราสงสัยเจ้าหญิงของเรามาก ไม่อยากให้เจ้าหญิงเราลำบากใจเลยแม้แต่น้อย คุณชายสามเย่ดูถูกเจ้าหญิงเรา พวกเราหัวหน้าต้องระบายความแค้นให้เจ้าหญิงเราอยู่แล้ว” ไป๋หยิงพูดประโยคนี้ออกมา ก็ดูมีความตะลึงกว่าคำพูดของเฉิงโหรวโหรวแล้ว
“ใช่ เรื่องนี้ซือเฉินไม่ถูกต้อง พวกเราขอโทษเจ้าหญิงแทนซือเฉินด้วยค่ะ” ในของขอบคุณย่าเย่ในขณะนี้ก็ไม่พอใจมากๆ ทว่าเธอไม่กล้าเป็นโทษกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้
“ขอให้เจ้าหญิงอย่าโมโหเลยค่ะ” คุณย่าเย่รู้ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ได้มีความเล่ห์เหลี่ยมอะไร กล่อมง่าย ดังนั้น คุณย่าเย่ไม่ได้สนใจไป๋หยิง หันไปทางเฉิงโหรวโหรวเลย
“ฉันมาครั้งนี้ก็เพราะ……” เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้วในใจก็ดีใจมาก ได้ใจมาก เกือบจะพูดความในใจออกมาแล้ว
“เจ้าหญิงของเราไม่ใช่คนตระหนี่อยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่พวกคุณบ้านเย่ทำมันเกินไปแล้วจริงๆ คุณชายสามเย่ทำดูถูกเจ้าหญิงของเรา งานแต่งพวกคุณก็ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ยังจะให้เจ้าหญิงของเราไม่โมโหได้ยังไง” ในตอนที่ไป๋หยิงพูดประโยคนี้ได้เบิกตากว้างจ้องไปทางเฉิงโหรวโหรว โง่จะตายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดได้ไหม
“เรื่องงานแต่พวกเราสามารถคุยกันได้ค่ะ” คุณย่าเย่ได้ยินไป๋หยิงพูดถึงเรื่องงานแต่งก่อน อีกอย่างก็ไม่ได้พูดตรงๆ ว่าจะยกเลิกงานแต่ง ดวงตาของคุณย่าเย่เปล่งประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ดูเหมือนว่างานแต่งครั้งนี้ยังสามารถคุยได้อีก!!
“คุยยังไง!! ตอนนี้คุณชายสามเย่ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ไม่ฟังพวกคุณอยู่แล้ว นี่คุณคิดว่าเจ้าหญิงของเราหลอกได้ง่ายๆ เหรอ?” ไป๋หยิงกวาดสายตาไปทางคุณย่าเย่ ท่าทีเย่อหยิ่งสุดๆ!!
ตั้งแต่รู้ว่าหัวหน้าให้คนต่อต้านถังหลินที่ประเทศR ไป๋หยิงก็มีความมั่นใจเต็มเอี่ยม ดังนั้นท่าทีที่มีต่อคุณย่าเย่และคุณปู่เย่จึงเปลี่ยนไปหมดเลย
“ซือเฉินคือลูกของตระกูลเย่ จะตัดความสัมพันธ์ของตระกูลเย่ได้อย่างไรกัน พวกเราจะให้เขากลับมาอยู่แล้วค่ะ” แน่นอนว่าคุณย่าเย่เข้าใจในคำพูดของไป๋หยิงแล้ว คำพูดนี้ของคุณย่าเย่ก็ถือว่าแอบเผยความข้อมูลออกมาให้ไป๋หยิงบ้างแล้ว
“ความหมายของคุณย่าเย่คือ มีวิธีสามารถทำให้คุณชายสามเย่กลับบ้านเย่อีกครั้ง” ไป๋หยิงตะลึงไปเล็กน้อย ท่าทีเย่อหยิ่งเมื่อกี้ลดน้อยลงบ้าง
“แน่นอน ซือเฉินคือลูกของบ้านเย่ พวกเราต่างก็เป็นครอบครัวของเขา นี่ต่างหากที่เป็นบ้านของเขา เขาต้องกลับมาอยู่แล้ว” คุณย่าเย่มองดูไป๋หยิง ยิ้มโค้งขึ้นที่มุมปาก
และเฉิงโหรวโหรวในขณะนี้ก็กำลังมองคุณย่าเย่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง และความตื้นตัน
ขอแค่เย่ซือเฉินกลับบ้านเย่ งานแต่งของเธอกับเย่ซือเฉินก็สำเร็จแล้ว
“งั้นคุณย่าเย่จะทำยังไงให้คุณชายสามเย่กลับบ้านเย่อีกครั้ง?” ไม่ใช่ไป๋หยิงไม่เชื่อคำพูดของคุณย่าเย่ แต่ว่าดูจากท่าทีก่อนหน้านี้ของเย่ซือเฉินแล้ว เกรงว่าคงไม่กลับมาง่ายขนาดนั้น
“เรื่องนี้แม่นางก็ไม่ต้องเครียดแล้ว พวกเรามีวิธีอยู่แล้ว” คุณย่าเย่พูดคำพูดนี้อย่างมั่นใจ หากไม่ใช่เพราะเรื่องบางอย่างมาขัดไว้ เธอลงมือตั้งนานแล้ว
คุณย่าเย่เชื่อมาก เรื่องนี้สามารถทำให้เย่ซือเฉินกลับบ้านเย่อีกครั้งแน่นอน พอถึงเวลาเรื่องงานแต่งกับเจ้าหญิงก็สามารถดำเนินการอย่างราบรื่น
ตอนแรกคุณย่าเย่และคุณปู่เย่ยังคิดอยากจะให้เย่ซือเฉินสู่ขอคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วย แต่ว่าเมื่อวานกลับเผยข่าวงานแต่งของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังออกมา อีกอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็มีลูกแล้วสองคน ดังนั้นไม่สามารถเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเย่พวกเขาได้แล้ว!!