ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1399 การค้นพบ (1)
“ฉันรู้ ฉันรู้ หากหัวหน้ารับฉันไปยังข้างกายของเขา ฉันต้องรับเธอไปด้วยแน่นอน” เฉิงโหรวโหรวให้คำสัญญาออกมา ขณะนี้เฉิงโหรวโหรวไม่เพียงแต่พึ่งพาในตัวของไป๋หยิง ยิ่งไปกว่านั้นคือมีความกลัวไป๋หยิง!!
“ก่อนหน้านี้ฉันตกลงกับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่แล้วว่าจะขอร้องให้เย่ซือเฉิน ตอนนี้ฉันไม่สามารถพบหัวหน้าได้แล้วจะทำยังไงดี” ยากมากที่เฉิงโหรวโหรวจะใช้สมอง เริ่มวิเคราะห์ปัญหาแล้ว
ไป๋หยิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สำหรับเรื่องที่เฉิงโหรวโหรวต้องแบกรับเขาเองก็มีความเครียด แต่เมื่อกี้เขาพึ่งใช้การตบหน้าและลูบหลังกับเฉิงโหรวโหรว เมื่อกี้พึ่งบอกเฉิงโหรวโหรวว่าทุกปัญหาเธอจะแก้ให้
ตอนนี้ไป๋หยิงไม่สามารถไม่สนใจได้แล้ว
“เธอไปหาเจ้าเก้า เจ้าเก้าได้รับความเชื่อถือจากลุงเหลียง ลุงเหลียงสามารถพบหัวหน้าได้ หากตอนนี้หัวหน้าอยู่ที่เมืองA ไม่แน่ อาจจะสามารถพบได้” ไป๋หยิงรู้ คนขององค์กรโกสต์ซิตี้นอกจากเธอกับเจิ้งฉงแล้ว คนที่เฉิงโหรวโหรวจะหาเจอก็มีแต่เจ้าเก้าแล้ว
ยังดีที่เจ้าเก้าสามารถพูดกับลุงเหลียงได้
“จริงด้วย ฉันสามารถไปหาเจ้าเก้า ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย งั้นฉันไปหาเจ้าเก้าตอนนี้เลย นานมากแล้วที่ฉันไม่เจอเจ้าเกล้า” เฉิงโหรวโหรวหัวเราะออกมาเลย “เจ้าเก้าต้องช่วยฉันแน่นอน”
ประโยคนี้ เฉิงโหรวโหรวพูดอย่างมั่นใจมาก เธอรู้สึกแบบนี้จริงๆ
ไป๋หยิงแค่มองไปทางเธอ ไม่ได้พูดอะไร หากไป๋หยิงในเมื่อก่อนต้องมั่นใจว่าเจ้าเก้าจะไม่ช่วยเฉิงโหรวโหรวแน่นอน แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
“เธอมีเบอร์ของเจ้าเก้าไหม? เธอโทรหาเจ้าเก้าตอนนี้เลย ดูว่าสามารถนัดนางออกมาได้หรือเปล่า” ไป๋หยิงไม่ได้มีความมั่นใจเหมือนเฉิงโหรวโหรว เพราะว่าท่าทีของหัวหน้าในตอนนี้จริงๆ แล้วเรื่องราวมากมายพวกเขาก็ยากที่จะคาดเดาออกมา ไม่ว่ายังไงแล้วหัวหน้าก็ยังไม่ได้ขอพบเฉิงโหรวโหรว และไม่ได้จัดการอะไรให้เฉิงโหรวโหรว
“โอเค ฉันจะรีบโทรหาเจ้าเก้า” เฉิงโหรวโหรวสีหน้าดีใจ รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เจอเบอร์ของเจ้าเก้าแล้วก็โทรออกไป
โทรศัพท์ดังไปหลายเสียงมาก ทางเจ้าเก้าจึงจะรับสาย
ไป๋หยิงให้เฉิงโหรวโหรวเปิดลำโพง
“แม่นางเฉิง มีอะไรเหรอ” น้ำเสียงของเจ้าเก้าเย็นชา ฟังไม่ออกถึงอารมณ์มากมาย แต่ว่าปกติแล้วเจ้าเก้าก็ค่อนข้างเย็นชา ถือว่าปกติ
“ฉันอยากพบหัวหน้า เธอสามารถช่วยฉัน……” เฉิงโหรวโหรวไม่รู้จักการพูดอ้อมค้อมเลย พูดเป้าหมายจริงๆ ของตัวเองออกมา
ไป๋หยิงรู้ว่าเจ้าเก้าเย็นชามาโดยตลอด ไม่ชอบฟังคำไร้สาระ จึงเห็นด้วยกับวิธีการของเฉิงโหรวโหรว
“เธออยากพบหัวหน้า?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เจ้าเก้าพูดแทรกคำพูดของเฉิงโหรวโหรวเลย น้ำเสียงดูสูงขึ้นอย่างชัดเจน สามารถฟังออกถึงความแปลกใจของเจ้าเก้า และความตกใจอีกมากมาย!!
“ใช่ ฉันอยากพบหัวหน้า แต่ฉันไม่รู้ว่าจะต้องหัวหน้ายังไง ดังนั้นเธอสามารถช่วยฉันหน่อยได้ไหม” เฉิงโหรวโหรวไม่ได้ฟังออกถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเจ้าเก้า
นัยน์ตาของไป๋หยิงเปล่งประกายขึ้นทันที เม้มริมฝีปากขึ้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เธอจะพบหัวหน้ามีเรื่องอะไรเหรอ?” เจ้าเกาไม่ได้ตอบคำถามของเฉิงโหรวโหรวตรงๆ แต่ถามกลับอีกประโยคหนึ่ง
“ฉันอยากขอให้หัวหน้าปล่อยเย่ซือเฉินไป” เฉิงโหรวโหรวพูดความตั้งใจของตัวเองอีกครั้ง ในตอนที่พูดประโยคนี้ น้ำเสียงของเฉิงโหรวโหรวมีความรู้สึกเป็นเหตุเป็นผลอยู่
“อะไรนะ?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เจ้าเก้ากลับอึ้งไปเลย?
เกิดอะไรขึ้น?
เฉิงโหรวโหรวขอให้หัวหน้าปล่อยเย่ซือเฉิน?
หัวหน้าจะไปทำร้ายเย่ซือเฉินตอนไหนกัน?
หัวหน้ายังช่วยเย่ซือเฉินด้วยซ้ำแท้ๆ!!
หัวหน้าให้ผู้ดูแลจ้งไปต่อต้านถังไป๋เชียน ถือว่าช่วยเหลือเย่ซือเฉินอยู่แล้ว!!
ดังนั้นคำพูดนี้ของเฉิงโหรวโหรวหมายความว่าอะไร?
“ฉันอยากให้หัวหน้าปล่อยเย่ซือเฉิน” เฉิงโหรวโหรวคิดว่าเจ้าเก้าได้ยินเสียงเธอไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงพูดขึ้นอีกครั้ง
เจ้าเก้า “……”
ไม่ใช่ว่าเธอได้ยินเสียงเฉิงโหรวโหรวไม่ชัดเจน เธอแค่ไม่เข้าใจความหมายของเฉิงโหรวโหรว!!
ไป๋หยิงขมวดคิ้วเบาๆ เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยปกติแล้ว
เจ้าหายสูดหายใจลึก “ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายขอบแม่นางเฉิง”
ประโยคนี้ของเจ้าเก้าเป็นความจริง เธอไม่เข้าใจจริงๆ
“ฉันรู้ว่าหัวหน้าให้คนไปต่อต้านเย่ซือเฉินที่ประเทศRเพื่อฉัน ฉันรู้ว่าหัวหน้าระบายความแค้นแทนฉัน แต่ว่าในเมื่อฉันกับเย่ซือเฉินมีงานแต่งกันแล้ว หลังจากนี้พวกเราต้องแต่งงานกันแน่นอน ดังนั้นฉันอยากขอให้หัวหน้าปล่อยเย่ซือเฉินไป” เฉิงโหรวโหรวไม่ได้คิดมาก แค่รีบพูดอธิบายไป
ทางเจ้าเก้านั้นขมวดคิ้วแน่น นี่เป็นเรื่องบ้าบอกอะไรเนี่ย? ทำไมเธอไม่เข้าใจเลยสักนิด?
อะไรคือหัวหน้าให้คนไปต่อต้านเย่ซือเฉินที่ประเทศR? อะไรคือหัวหน้าระบายความแค้นแทนเฉิงโหรวโหรว?
เรื่องในประเทศRหัวหน้าไม่รู้อยู่แล้วแท้ๆ หัวหน้ายังให้หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องนี้เป็นพิเศษอีกด้วย เธอเคยได้ยินลุงเหลียงพูดถึงเรื่องนี้ ชัดเจนมาๆ เลยว่าคนภายในเบื้องบนขององค์กรโกสต์ซิตี้อยากจะยึดอำนาจ อยากจะคัดค้านกับหัวหน้าน้อย
ทำไมมาถึงปากของเฉิงโหรวโหรวแล้วกลับกลายเป็นความคิดของหัวหน้าไปแล้ว มั่วไปหมดแล้วชัดๆ
เรื่องนั้นไม่ใช่ความคิดของหัวหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่ระบายความแค้นแทนเฉิงโหรวโหรวก็ไม่เคยเกิดขึ้นอยู่แล้ว
“แม่นางเฉิง นี่เป็นเรื่องภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้ แม่นางเฉิงอย่าถามเกินไปจะดีกว่านะ” เจ้าเก้าไม่ใช่คนที่ปากจัดปากร้าย และเฉิงโหรวโหรวก็เป็นคนที่เจ้าเก้าพากลับมาตั้งแต่แรก ดังนั้นในตอนที่เจ้าเก้าพูดก็ค่อนข้างที่จะอ้อมค้อมอยู่
ไป๋หยิงได้ยินประโยคนี้ของเจ้าเก้าแล้ว ก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น
“คำพูดนี้ของเธอหมายความว่าอะไร? ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เลยนะ ทำไมจะถามเรื่องในองค์กรโกสต์ซิตี้มากเกินไปไม่ได้? อีกอย่างหัวหน้าทำแบบนี้ต่างก็เพื่อระบายความแค้นให้ฉัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฉัน หัวหน้าเอ็นดูฉัน ปกป้องฉัน ฉันก็ต้องถามอยู่แล้ว” เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของเจ้าเก้าแล้ว โมโหออกมาเลย ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดแบบนี้มากๆ พอได้ยินคำพูดของเจ้าเก้าแล้วก็ระเบิดออกมาเลย
ไป๋หยิงได้สติกลับมา อยากจะห้ามก็ไม่ทันแล้ว
เจ้าเก้าที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ฟังคำพูดนี้ของเฉิงโหรวโหรวแล้วก็ตกใจไปเลย ใครให้ความมั่นใจนี้กับเฉิงโหรวโหรว ให้ความรู้สึกผิดแบบนี้กับเฉิงโหรวโหรว?!!
หัวหน้าเอ็นดูเฉิงโหรวโหรว? ปกป้องเฉิงโหรวโหรว?
ตั้งแต่ที่ทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว หัวหน้าก็ทำเหมือนว่าไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นเลย ไม่ได้มีการถามไถ่เฉิงโหรวโหรวเลย และไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเฉิงโหรวโหรว อีกอย่างหัวหน้ายังให้เฉิงโหรวโหรวพักอยู่ที่เจิ้งฉงอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ลุงเหลียงยังให้เธอไปจัดการเรื่องของเฉิงโหรวโหรวด้วย ทว่าต่อมาลุงเหลียงก็บอกให้เธอไม่ต้องสนใจเรื่องของเฉิงโหรวโหรวแล้ว ดังนั้นหัวหน้าไม่ได้สนใจเรื่องของเฉิงโหรวโหรวเลย
งั้นสิ่งที่เฉิงโหรวโหรวบอกว่าหัวหน้าเอ็นดูเธอ? หัวหน้าปกป้องเธอ? มาจากไหนกันน?
แต่ว่าถึงแม้หัวหน้าไม่ได้ยอมรับตัวตนของเฉิงโหรวโหรว ถึงแม้หัวหน้าจะไม่สนใจเฉิงโหรวโหรวเลย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธฐานะตัวตนของเฉิงโหรวโหรว
อีกย่างเฉิงโหรวโหรวใช้ฐานะตัวตนของเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ทำเป็นเย่อหยิ่งสูงส่งข้างนอก หัวหน้าก็ไม่ได้สนใจ และไม่ได้พูดอะไร
เจ้าเห้าก็ไม่อยากถกเถียงอะไรกับเฉิงโหรวโหรว อีกอย่างเรื่องภายในที่ประเทศRก็ห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาด เจ้าเก้าคิดไปคิดมา จึงเปลี่ยนคำพูดว่า “ความหมายของเธอฉันจะส่งต่อให้นะ”
เจ้าเก้าบอกว่าจะช่วยเฉิงโหรวโหรวส่งต่อ แต่ไม่ได้บอกว่าจะส่งต่อตอนไหน และไม่ได้บอกว่าส่งต่อให้ใคร
แน่นอนว่าอย่างมากเจ้าเก้าก็พูดกับแค่ลุงเหลียง ในส่วนที่ลุงเหลียงจะบอกกับหัวหน้าหรือเปล่าก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสามารถตัดสินใจได้แล้ว
“ฉันอยากพบหัวหน้า เธอสามารถให้ฉันพบหัวหน้าหน่อยได้ไหม” เมื่อก่อนเฉิงโหรวโหรวกลัวหัวหน้ามาก ทว่าเธอนึกขึ้นว่าตัวเองได้ตอบตกลงคุณปู่เย่และคุณย่าเย่แล้ว นึกขึ้นว่าอยากจะให้เย่ซือเฉินรู้สึกตื้นตันในสิ่งที่เธอทำ เฉิงโหรวโหรวอยากจะขอร้องหัวหน้ากับตัว
แน่นอนว่าเฉิงโหรวโหรวในตอนนี้กล้ามีความคิดแบบนี้ ก็เพราะว่าเรื่องที่ประเทศR เธอเชื่อสุดใจแล้วว่าเรื่องที่ประเทศRนั้น หัวหน้าทำเพื่อระบายความแค้นให้เธอ
ในเมื่อหัวหน้ายอมระบายความแค้นเพื่อเธอแล้ว งั้นต้องเอ็นดูเธอแน่นอน เธอก็ไม่ต้องกลัวหัวหน้าแล้ว!!
อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ เจ้าเก้าแอบสูดหายใจลึก เธอรู้สึกว่าเฉิงโหรวโหรวไม่รู้ตัวเองเลย
หัวหน้าเป็นคนที่เฉิงโหรวโหรวอยากพบก็สามารถพบได้เหรอ?
จากตอนนั้น ลุงเหลียงกำหนดให้เธอไปจัดการเรื่องของเฉิงโหรวโหรว เพราะว่าตอนนั้นเฉิงโหรวโหรวทำการตรวจดีเอ็นเอกับเฉิงโหรวโหรว ตอนนั้นเจ้าเก้ามั่นใจแล้วว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถือว่าให้ความเคารพกับเฉิงโหรวโหรวอยู่
แต่ว่าต่อมาเรื่องพวกนั้นที่เฉิงโหรวโหรวทำทำให้เธอรู้สึกสึกให้ความเคารพขึ้นมาไม่ไหวจริงๆ โชคดีที่ลุงเหลียงให้เธอกลับมา เธอไม่ต้องสนใจเรื่องของเฉิงโหรวโหรวแล้ว!!
เจ้าเก้ากำลังอยากจะปฏิเสธไปตรงๆ ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องนี้เธอก็ทำไม่ได้แน่นอน อีกอย่างเรื่องนี้เธอก็ไม่ดีที่จะพูดให้ผ่านๆ ไป!!
แต่ว่า ในขณะนี้ คุณชายหานก็ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเธอกะทันหัน ทำท่าสองสามท่าไปทางเธอq