ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1412 รังแกจนร้องไห้(2)
แต่ตัวตนของเธอกลับไม่อนุญาตให้ระหว่างเธอกับถังหลินมีความเป็นไปได้อย่างอื่นใดๆทั้งนั้น
ดังนั้น ที่เธอทำได้ก็คือตัดขาดทุกอย่างอย่างเด็ดขาด ไม่เหลือความเป็นไปได้ใดๆทั้งนั้น!!
ถังหลินเห็นเธอตกลง จึงพูดเสียงสูงขึ้น:“เข้ามา”
เจ้าชายใหญ่จึงผลักประตูเดินเข้ามา มีผู้ชายสองสามคนอยู่ด้านหลังเจ้าชายใหญ่
“คุณถังมาถึงแล้ว ขอโทษนะ ผมมาสาย”ท่าทีของเจ้าชายใหญ่นั้นเป็นมิตรมาก ตอนเขาหันไปที่หลินเป้ย เห็นหลินเป้ยก้มหน้าลง ไม่พูดจาเจ้าชายใหญ่จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย:“หลินเป้ย คุณถังมาถึงแล้วทำไมคุณไม่โทรหาผม ผมเพิ่งได้ยินพนักงานบริการพูด ถึงรู้ว่าคุณถังมาถึงแล้ว”
ถึงแม้คำนี้เจ้าชายใหญ่ไม่ได้จะตำหนิมากนัก แต่ความหมายนั้นก็มีความสงสัยเล็กน้อย!!
“ผมไม่ได้ให้เจ้าชายน้อยแจ้งเจ้าชายใหญ่เอง เพราะรู้ว่าเจ้าชายใหญ่มีงานต้องทำ จึงไม่ค่อยอยากรบกวน ผมเพิ่งคุยกับเจ้าชายน้อยก็สนุกดี”หลินเป้ยไม่ตอบ ถังหลินจึงพูดออกมาเอง
“งานของผมวันนี้ก็คือมาต้อนรับคุณถัง ผมจะมีงานอื่นต้องทำได้ไงกันล่ะครับ”เดิมทีเจ้าชายใหญ่ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร พอได้ยินคำพูดของถังหลินก็ยิ่งไม่ติดใจเอาความ
และเจ้าชายใหญ่ยังคิดด้วยว่าหลินเป้ยอาจจะคุยกับถังหลินเรื่องของคารูแล้ว แบบนี้ เรื่องต่อไปจากนี้ก็น่าจะราบรื่นขึ้นบ้าง
เจ้าชายใหญ่เลยไม่คิดถึงอย่างอื่น!!
หลินเป้ยได้ยินคำพูดของถังหลิน เงยหน้าขึ้นมองถังหลินแวบหนึ่ง มุมปากของเธอเม้มลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูด
หลังจากคนพวกนี้ทักทายกันเสร็จจึงนั่งลงไป เจ้าชายใหญ่ก็แนะนำคนอีกสองสามคนอื่นที่เข้ามาด้วยให้ถังหลินทีละคน
มีคนสองสามคนที่เป็นคนของทางเจ้าชายใหญ่ สำหรับเจ้าชายใหญ่แล้วต่างเป็นคนที่เคยเชื่อใจ
และยังมีอีกคนที่กษัตริย์ส่งมา ชัดเจนว่ากษัตริย์ไม่ได้วางใจนักกับเรื่องนี้
“คุณถัง คุณกับหลินเป้ยก็ถือว่ารู้จักกันมานานแล้ว งั้นวันนี้ก็ให้หลินเป้ยอยู่กับคุณละกัน ปริมาณแอลกอฮอล์ของหลินเป้ยคุณรู้นี่ คืนนี้พวกเราไม่เมาไม่เลิก”เจ้าชายใหญ่ไม่ได้พูดเรื่องธุระเลย ยังไงคืนนี้ก็บอกว่าแล้วว่าเพื่อเลี้ยงต้อนรับถังหลิน เรื่องสำคัญอื่นๆยังคงต้องหาโอกาสพูดคุยอย่างเป็นทางการ
วันนี้เขาอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับถังหลิน ถึงแม้ครั้งที่แล้วตอนที่เขาอยู่ที่ประเทศzถือว่าเคยช่วยถังหลินไว้ แต่ว่านั่นก็เพื่อเห็นแก่หน้าของเย่ซือเฉิน
ส่วนเรื่องครั้งนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เจ้าชายใหญ่ให้ความสำคัญอย่างมาก!!
หลินเป้ยได้ยินว่าจะดื่ม สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนนี้เธอตั้งท้อง จึงดื่มเหล้าไม่ได้ ถึงแม้เธอไม่คิดจะมีลูกคนนี้ ดื่มเหล้าตอนนี้ก็ไม่ดีต่อสถานะตัวตน
แต่ในเมื่อเจ้าชายใหญ่พูดแล้ว และยังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อีก เธอรู้ว่าเธอจะต้องปลีกตัวไม่ได้
หลินเป้ยแอบหายใจเข้า ในใจนั้นแอบคิดว่าดื่มได้เท่าไหร่?
“ช่วงนี้ผมเลิกเหล้าอยู่ ไม่ดื่มครับ”ถังหลินเห็นสีหน้าของหลินเป้ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย แน่นอนว่าถึงไม่ได้เห็นความผิดปกติของหลินเป้ย เขาก็ไม่อยากให้หลินเป้ยดื่ม ดื่มเหล้านั้นทำลายร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงด้วย
“เลิกเหล้า?”เจ้าชายใหญ่ตกใจ มองไปที่ถังหลินอย่างตะลึง เขาจำได้ว่าครั้งที่แล้วตอนเขาไปประเทศzถังหลินยังอยู่ดื่มกับเขาเลย และตอนนั้นถังหลินก็ดื่มไปมากด้วย คอแข็งสุดๆ
“คุณก็รู้เรื่องที่เกิดครั้งที่แล้ว ดังนั้นหลังจากครั้งที่แล้วมา ผมก็เลิกดื่ม”ชัดเจนว่าคำพูดถังหลินมีความหมาย คำพูดของเขานั้นธรรมชาติ ทำให้คนฟังไม่รู้สึกผิดปกติ
เจ้าชายใหญ่งง นึกถึงเรื่องที่โรงแรมครั้งที่แล้ว คืนนั้นถังหลินดื่มไปมากจริงๆ ถ้าไม่ดื่มเหล้าไปมากขนาดนั้น น่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
เรื่องเมื่อตอนนั้นเกือบจะทำลายถังหลิน ถ้าไม่ใช่ว่าต่อมาหลินเป้ยช่วยถังหลินอธิบาย เป็นไปได้ว่าตอนนี้ถังหลินคงจะอยู่ในคุกแล้ว
ถ้าถังหลินจะเลิกดื่มเหล้าเพราะเรื่องนั้นก็เป็นไปได้!!
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้อยู่ในประเทศ R เจ้าชายใหญ่คิดว่าถังหลินอาจจะกลัวได้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก
ก็แค่งานเลี้ยงไม่มีเหล้า บรรยากาศก็คงไม่ได้!!
จะให้พวกเขาเอาแต่กินข้าวเฉยๆแบบนี้ไม่ได้ และพอไม่ดื่มเหล้า บรรยากาศก็จะไม่ค่อยได้ คำพูดบางคำก็ไม่อาจพูดได้นัก!!
“งั้นพวกเราจะมานั่งเฉยๆแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่งั้น เปลี่ยนสถานที่ ไปร้องเพลงหาคนมาอยู่ด้วย”ผู้ชายคนหนึ่งที่ตามเจ้าชายใหญ่มาด้วยกันมองความลำบากใจของเจ้าชายใหญ่ออก จึงช่วยออกความคิดเห็นไปมา
หลินเป้ยเงยมองชายคนนั้นแวบหนึ่ง ถึงแม้ใบหน้าจะไม่มีอารมณ์เท่าไหร่ แต่ลึกลงไปในสายตาของเธอกลับซ่อนความรังเกียจอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้คนนั้นจะไม่พูดอย่างชัดเจน แต่หลินเป้ยกลับเข้าใจชัดเจนมากว่าหาคนมาอยู่ด้วยนั้นหมายถึงอะไร
ขุนนางคนนี้ชอบมากที่สุดก็คือไปในสถานการณ์แบบนั้น!!
เธอก็เคยไปกับเจ้าชายใหญ่ด้วยครั้งหนึ่ง จากสถานการณ์ที่เธอเห็นแล้วครั้งหนึ่ง ก็ไม่อยากเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นต่อมารู้ว่าไปสถานการณ์แบบนั้น เธอก็จะหาโอกาสปลีกตัว
ถังหลินสังเกตหลินเป้ยตลอด คนอื่นอาจจะไม่สังเกตเห็นความรังเกียจในสายตาของหลินเป้ย แต่ถังหลินกลับเห็น
“สถานการณ์อย่างนั้นที่ขุนนางคนนี้พูดถึง ผมไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ กินอย่างเงียบๆดีกว่า”ไม่รอให้เจ้าชายใหญ่พูด ถังหลินก็ปฏิเสธไปโดยตรง
พูดตรงๆแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยู่ในถิ่นประเทศR เขาก็ไม่อยากร่วมงานเลี้ยงนี้จริงๆ
ขุนนางคนนั้นที่เสนอได้ยินคำพูดของถังหลินสีหน้าก็อึดอัดอย่างมาก ในใจนั้นโกรธเล็กน้อย
“คุณถัง ได้ยินว่าครั้งนี้คุณมาประเทศRเพื่อจัดการความคับข้องใจกับองค์กรโกสต์ซิตี้”ขุนนางคนนั้นมองไปที่ถังหลิน พูดจาดูสบายๆ แต่กลับมีความหมายอื่นอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้เจ้าชายใหญ่จะกำชับอย่างดีว่ากินข้าวก่อน ยังไม่ต้องพูดธุระ ถ้าดื่มแล้วบรรยากาศดีค่อยพูดถึง เรื่องอื่นๆค่อยเลือดโอกาสที่เป็นทางการมาพูดคุย
แต่ตอนนี้ถังหลินก็ไม่ดื่มเหล้า และยังไม่ไว้หน้าขนาดนี้ ขุนนางคนนี้จึงทนไม่ไหวอย่างชัดเจน
เจ้าชายใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่ขุนนางคนนั้นอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย
“อือ”สายตาถังหลินไม่เปลี่ยน ได้แต่ตอบรับไปเบาๆ
“งั้นคุณถังรู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้เป็นอย่างไรในประเทศRไหม?คุณถังรู้ไหมว่าคารูนั่นเป็นคนอย่างไร?”ขุนนางคนนั้นมองเห็นความไม่เห็นด้วยของเจ้าชายใหญ่ แต่เขาพูดออกมาแล้ว จะเอาคืนกลับไปไม่ได้แล้ว
“ไม่รู้ว่าท่านมีอะไรจะแนะนำหรือไม่?”ถังหลินเงยหน้าขึ้น มองไปที่เขา ในคำพูดนั้นฟังอารมณ์ไม่ออกเท่าไหร่
“ไม่กล้าแนะนำหรอก แต่ว่าผมก็อยากเตือนคุณถังด้วยความหวังดี คารูนั่นเป็นคนโหดเหี้ยม ในประเทศRไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ในประเทศRก็แข็งแกร่งอย่างมาก ในประเทศRไม่มีใครกล้าแหย็มคารู และก็ไม่มีใครที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา”
ขุนนางคนนี้พูดอย่างจริงแท้ แม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่กล้าไปแหย็มคารู แม้แต่กษัตริย์ก็ยังต้องยอมจำนนคารูทุกครั้ง
“แล้วยังไง?”มุมปากของถังหลินยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะยิ้มเบาๆ มองดูไร้อารมณ์ แต่หลินเป้ยที่นั่งอยู่ข้างเขากลับมองเห็นความเยาะเย้ย
เยาะเย้ย?
ไม่รู้ว่าเยาะเย้ยขุนนางคนนี้?หรือว่าเยาะเย้ยคารู?
ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเยาะเย้ยใคร ความเยาะเย้ยที่ใบหน้าของถังหลินก็บอกชัดเจนว่าถังหลินไม่แคร์คารูในสายตาเลย
หลินเป้ยรู้ว่าถังหลินไปเจอคารูแล้ว และตอนนี้ถังหลินก็นั่งอยู่ตรงนี้อย่างปลอดภัย ถังหลินมีสิทธิ์จะเยาะเย้ยจริงๆ
หลินเป้ยไม่รู้ว่าถังหลินไปเจอคารูแล้วเกิดอะไรขึ้น เธอไม่กล้าถามมาก เธออยากจะตัดความสัมพันธ์กับถังหลินมาโดยตลอด ดังนั้นจึงถามมากไม่ได้!!
แต่ในใจของเธอนั้นก็ยังอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก!!
“ดังนั้นกลัวว่าเรื่องครั้งนี้คุณถังจะจัดการไม่ได้หรอก ผมได้ยินว่าองค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีหลายครั้ง พวกคุณก็ไม่ทำอะไร แต่จากความโหดเหี้ยมของคารูแล้ว จากความแข็งแกร่งขององค์กรโกสต์ซิตี้ พวกคุณทำแบบนี้ก็เป็นความฉลาดที่ถูกต้อง จากกำลังของพวกคุณแล้วเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรงก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร”ขุนนางคนนั้นฟังความเยาะเย้ยของถังหลินไม่ออก ยังคงคุยโวโอ้อวด
ขุนนางคนนี้คิดว่าตัวเองพูดนั่นเป็นจริง แต่ชัดเจนว่าขุนนางคนนี้พูดไม่เป็น คำพูดก่อนหน้านี้เขาก็พูดไม่เหมาะสม เขาบอกว่าในประเทศRไม่มีใครกล้ามาแหย็มองค์กรโกสต์ซิตี้ คำว่าไม่มีใครนี้ก็รวมทั้งราชวงศ์ ซึ่งเป็นความอัปยศอย่างหนึ่งแก่ราชวงศ์
แต่ว่าขุนนางคนนี้เหมือนจะตระหนักถึงจุดนี้ไม่ได้เลย
และตอนนี้คำพูดของขุนนางคนนี้ก็เป็นความอัปยศอย่างหนึ่งต่อถังหลินเช่นกัน
แต่พอมองขุนนางคนนี้พูดอย่างไม่สะทกสะท้านขนาดนี้แล้ว ก็ชัดเจนว่าตระหนักไม่ได้
ถังหลินนั้นดูไม่เปลี่ยน ได้แต่เหลือบมองคนนั้นนิ่งๆ
คนๆนี้คงไม่ใช่ว่าสมองมีปัญหาหรอกนะ?!
“โตๆกันแล้ว บางเรื่องก็อย่าพูดจาเหลวไหลเลย”ขุนนางคนนั้นไม่รู้เรื่อง สีหน้าของเจ้าชายใหญ่กลับเปลี่ยนไป พูดดุออกไป