ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1432 ความจริง (2)
ดังนั้น ข่าวลือด้านนอกไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ
เย่ซือฉุนหลุบตาลง มุมปากเหยียดยิ้มเย้ยหยัน หากพวกท่านทำเพื่อบีบบังคับเย่ซือเฉินจริงๆ งั้นพวกท่านก็เสียสติแล้วแน่นอน!!
ข่าวที่พึ่งเผยแพร่ในโซเชียลขยายเป็นวงกว้างไม่หยุด ไม่รู้ว่ามีคนจงใจชักจูงหรือเปล่า ตอนนี้มีคนก่นด่าเย่ซือเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ
นักข่าวที่แพร่ข่าวออกไปก็คิดไม่ถึงว่าจะครึกโครมขนาดนี้ เขาคิดไม่ถึงว่าทุกคนจะ ‘กระตือรือร้น’ขนาดนี้
ทว่านักข่าวพบว่าคุณย่าเย่ไม่มีท่าทีเปลี่ยนไป จึงรู้สึกโล่งอก เพราะคุณย่าเย่ไม่ได้โมโหด้วยเรื่องนี้ ซึ่งท่าทีของคุณย่าเย่ก็เปรียบเสมือนท่าทีของคุณปู่เย่นั่นเอง
ดูเหมือนว่าการสันนิษฐานก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้อง คุณปู่เย่ใช้เล่ห์เหลี่ยมบีบบังคับคุณชายสามเย่แบบไม่บันยะบันยัง
เช่นนี้ เขาก็วางใจได้สักที
ดูเหมือนข่าวที่เขาทำจะติดท็อปแน่ๆ เมื่อนักข่าวนึกถึงคำพูดของสาวใช้และมองท่าทีของคุณย่าเย่แล้ว หลังทำการใคร่ครวญดูชั่วครู่ก็นำมือถือออกมา จากนั้นก็เขียนข่าวเปิดโปง
——คนที่อยู่ในงานศพรู้ว่าคุณปู่เย่โทรหาคุณชายสามเย่หลายครั้ง แต่ก็ถูกคุณชายสามเย่ปฏิเสธทุกครั้ง คุณปู่เย่จะเป็นลมเป็นแล้งอยู่แล้ว!!——
เมื่อเผยประโยคนี้ออกไป กล่องแสดงความคิดเห็นก็เปลี่ยนไป เดิมทีแค่ไม่เห็นด้วยและตำหนิเย่ซือเฉิน และยังมีคนคิดว่าคุณชายสามเย่ติดธุระ ยังมาไม่ได้
ทว่าเมื่อมีประโยคนี้โผล่ขึ้นมา จากที่ไม่เห็นด้วยและตำหนิอยู่แล้วก็กลายเป็นด่าแบบไม่มีชิ้นดี
ด่ารุนแรงมาก ฟังไม่ได้เลย
พ่อตายแล้วลูกชายไม่ไป มันเกินไปจริงๆ!!
เย่ซือฉุนก็เห็นเช่นกัน การเหยียดยิ้มเย้ยหยันตรงมุมปากของเขาลึกขึ้นอีกหลายส่วน ความคิดเห็นนี้เหมือนมีคนจงใจชักจูง แล้วเป็นฝีมือใคร มันทายไม่ยากเลย
คิกคิก!!
เย่ซือเฉินอเนจอนาถมาก!!
มากกว่าเขาอีก!!
ไม่ใช่สิ อนาถกว่าเขาหลายเท่าเลย!!
ชีวิตของเขาอิสระเสรี เขาพอใจมาก
นักข่าวแพร่ประโยคนี้ไม่ถึงสองนาที ด้านนอกบ้านตระกูลเย่ก็เกิดเสียงโครมๆ
จากนั้นเย่ซือเฉินก็เดินเข้ามา
นักข่าวเห็นการมาเยือนของเย่ซือเฉินก็อึ้ง เมื่อครู่สาวใช้บอกว่าคุณปู่เย่โทรหาคุณชายสามเย่หลายต่อหลายสาย แต่คุณชายสามเย่ก็ไม่ยอมมาหรอกหรือ?
นิสัยคุณชายสามเย่ หากบอกคุณปู่เย่ไม่มาคือไม่มาจริงๆ นักข่าวมั่นใจจุดนี้มาก เมื่อครู่จึงเปิดโปงเรื่องนั้น เขากำลังคิดว่าข่าวที่ตัวเองทำจะติดท็อปในไม่ช้าแล้ว
สิ่งที่เหนือการคาดหมายก็คือ เย่ซือเฉินมาเร็วปานนี้!!
ทุกคนเห็นเย่ซือเฉินมาก็พากันตะลึงเป็นแถวๆ ทว่าทุกคนล้วนเป็นคนฉลาดหลักแหลม จึงไม่ได้พูดมากอะไร
เย่ซือเฉินเดินเข้าห้องเซ่นไหว้ศพโดยตรง
คุณย่าเย่กะพริบตารัวๆ ท่านคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะมาเร็วขนาดนี้ หากรู้แต่แรก ท่านก็จะไม่ร้อนใจให้นักข่าวเผยแพร่ข่าวเช่นนั้นหรอก
ทว่าขอเพียงคนมาแล้วทุกอย่างก็จะดีหมด สามารถลบทิ้งข่าวนี้ได้
คุณย่าเย่บรรลุเป้าหมายแล้ว ต่อจากนี้ก็จะไกล่เกลี่ยข้อครหาที่มีต่อเย่ซือเฉิน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นหลานชายแท้ๆของท่าน ท่านก็ไม่อยากให้มีคนด่าหลานของตน
โชคดีที่พึ่งเผยแพร่ข่าว ลบทิ้งตอนนี้ยังไม่สาย เรื่องจะได้ไม่บานปลายใหญ่โต แน่นอน ประเด็นหลักๆคือคุณย่าเย่กลัวเรื่องจะสาวมาถึงตน
เย่ซือฉุนที่คุกเข่าอยู่กับพื้นก็ตกตะลึง ตอนที่เห็นเย่ซือเฉินเดินเข้ามาใกล้ เย่ซือฉุนก็ยิ้ม จากนั้นก็ลุกขึ้นชี้นิ้วด่าเย่ซือเฉิน “นายบ้าหรือเปล่า พ่อแท้ๆเสียชีวิต แต่มาเอาป่านนี้”
ทุกคนพากันตะลึงตะไล ไม่มีใครคิดว่าลูกนอกสมรสจะด่าทอเย่ซือเฉินต่อหน้าสาธารณะ
นักข่าวที่อยู่ด้วยก็เกิดความตื่นเต้นดีใจ ข่าวใหญ่ขนาดนี้ก็เป็นลาภปากพวกเขาล่ะสิ เพราะพวกเขาไม่อาจล่วงเกินทั้งคุณปู่เย่และคุณชายสามเย่ ทว่าลูกนอกสมรสของตระกูลเย่คนนี้พวกเขาไม่เห็นอยู่ในสายตา
สถานที่เช่นนี้ ลูกนอกสมรสทำตัวอย่างนี้ ต้องเป็นข่าวใหญ่ข่าวดังแน่ เพราะเป็นแค่ลูกนอกสมรสของตระกูลเย่ แต่ดันล่วงล้ำด่าคุณชายสามเย่!!
เย่ซือเฉินเงยหน้ามองเย่ซือฉุน
“มองอะไร?ผมพูดผิดอะไร?ถึงนายจะอยู่ต่างประเทศ แต่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมีเครื่องบินส่วนตัวไม่ใช่หรือ?นายมีวิธีรีบกลับมาแน่?”เย่ซือฉุนสบตากับสายตากับเย่ซือเฉินแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เขากลัวเย่ซือเฉินมาตั้งแต่เด็ก ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ถดถอย ถลึงตาอีกฝ่าย ระดับเสียงก็ดังขึ้นหลายส่วน
ซึ่งทำให้คนอื่นได้ยินชัดเจน
เดิมทีคนส่วนมากพึ่งเห็นข่าวใหม่ ยังแอบวิพากษ์วิจารณ์เย่ซือเฉินอยู่ ตอนนี้ได้ยินถ้อยคำของเย่ซือฉุนแล้ว ใบหน้าก็เผยความเข้าใจหลายส่วน
ที่แท้คุณชายสามเย่กลับมาจากต่างประเทศนี่เอง หากกลับจากต่างประเทศ ก็ถือว่าคุณชายสามเย่ไม่ได้มาร่วมงานช้า
เพียงแต่ท่าทีของลูกชายนอกสมรสของตระกูลเย่หมายความว่าอย่างไร?
อยากหาเรื่องคุณชายสามเย่ ทว่ากลับช่วยคลายปมปัญหาคุณชายสามเย่อย่างไม่รู้ตัว?
ดูเหมือนสมองของคุณชายน้อยตระกูลเย่จะใช้ไม่ค่อยได้!!
นักข่าวที่แพร่ข่าวก่อนหน้านี้กำลังถ่ายทอดสดอยู่ นักข่าวคนอื่นก็พากันถ่ายทอดสดด้วย
เมื่อนักข่าวได้ยินเย่ซือฉุนพูดประโยคนี้ก็งงเป็นไก่ตาแตก!!
เย่ซือเฉินก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเย่ซือฉุนเท่าใดนัก ทว่าเย่ซือเฉินไม่ได้แยแสเขา
“เย่ซือเฉิน ไม่ใช่บอกว่าไม่กลับหรอกหรือ?คุณปู่โทรหาหลายสายแล้วนายยืนกรานจะไม่กลับมานี่?นายบอกมาสิคุณปู่โทรหานายกี่สายแล้ว?”เย่ซือฉุน‘พูดพร่ำเพรื่อ’ต่อ พลางจ้องมองเย่ซือเฉินด้วยแววตาขุ่นเคือง
แววตาเย่ซือเฉินมืดครึ้ม คุณปู่เย่ไม่ได้โทรบอกเรื่องเย่โป๋เหวินเสียชีวิตแม้แต่สายเดียว เขารู้ได้เพราะสืบเองล้วนๆ
เย่ซือเฉินไม่อยากพูดกับเย่ซือฉุนมาก เขาก้าวเท้าไปด้านหน้า
“เย่ซือเฉิน นายหมายความว่ายังไง?กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ?นายบอกมาเองเลยคุณปู่โทรหานายหลายครั้งแล้ว นายก็เอาแต่ปฏิเสธคุณปู่ ไม่ยอมกลับมา?”เย่ซือฉุนไม่ยอมเลิกรา เห็นได้ชัดว่าอยากหาเรื่องมากโข
“ทำไม?เย่ซือเฉินนายอยากเป็นเต่าหัวหดหรือไง?งั้นตอนนี้ผมจะไปเชิญคุณปู่มาพูดต่อหน้า ให้รู้กันไปเลย”เย่ซือฉุนดูเหมือนจะโกรธมากจริงๆ ไม่เต็มใจมากจริงๆ คล้ายกับว่าไม่อยากให้เย่ซือเฉินกลับมา
“ซือเฉินกลับมาแล้วเหรอ” คุณย่าเย่รีบเดินเข้ามาอย่างรู้สึกตื่นเต้น “ดีจังเลย ดีจริงๆ หลานกลับมาได้ก็ดี ย่ากับปู่รอหลานนานแล้ว”
คุณย่าเย่ไม่อยากให้เรื่องเอิกเกริก ซึ่งในใจท่านรู้ดีกว่าใคร ท่านกับท่านปู่เย่ล้วนไม่เคยโทรหาเย่ซือเฉินเลย พวกเขาแค่แพร่ข่าวการตายของเย่โป๋เหวินออกไป จากนั้นให้เย่ซือเฉินสืบรู้ความเอง จากนั้นก็ให้เย่ซือเฉินมาเอง
เพราะมีเพียงเช่นนี้ แผนการต่อจากนี้ของพวกท่านถึงจะราบรื่น!!
ดังนั้นคุณย่าเย่จึงไม่อยากให้เย่ซือฉุนทำเรื่องบานปลายใหญ่โต
คุณย่าเย่รู้จักนิสัยใจคอของเย่ซือเฉินดี ท่านรู้ว่าเย่ซือเฉินไม่อาละวาดในสถานที่เช่นนี้แน่ ดังนั้นคุณย่าเย่ไม่กังวลหลังจากเย่ซือเฉินกลับมา ทว่าท่านคาดไม่ถึงว่าเย่ซือฉุนจะโวยวายอย่างนี้
คุณย่าเย่จ้องเขม็งเย่ซือฉุนปราดหนึ่ง
“ปล่อยไปอย่างนี้ไม่ได้นะครับคุณย่า ก่อนหน้านี้ย่ากับปู่โทรหาเขาหลายครั้ง แล้วเขาก็บอกว่าไม่ยอมกลับมาไม่ใช่เหรอครับ?ตอนนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” เย่ซือฉุนทำเป็นไม่เข้าใจเจตนาของคุณย่าเย่ ยังคงโวยวายหาเรื่องต่อไป
“พอแล้ว นายโวยวายอะไรกัน?วันนี้วันอะไรนายไม่รู้หรือไง?ทำตัวเหลวไหลมาก?”คุณย่าเย่เดือดดาล จ้องเขม็งเย่ซือฉุนอีกครั้ง ตอนนี้มีความกราดเกรี้ยวอย่างฉายชัด
“คุณย่า ผมไม่ได้โวยวายนะ เย่ซือเฉินทำเกินไปจริงๆ เมื่อกี้ผมเห็นข่าวในโซเชียลแล้ว บอกว่าพวกย่าโทรหาเขาหลายครั้ง เขาก็บอกว่าไม่กลับมา เขาจงใจทำให้พวกท่านโมโหชัดๆ”เย่ซือฉุนไม่เพียงแต่ไม่ยอมเลิกรา ทางกลับกัน ยิ่งพูดเสียงดังกว่าเดิมอีกหลายส่วน
“คุณย่า ย่ากับปู่โทรหาเขามากขนาดนั้น เขาไม่ใช่บอกว่าไม่กลับมาเหรอครับ?”เย่ซือฉุนยังคงจงใจถามคุณย่าเย่
คุณย่าเย่หน้าถอดสี รู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก ทว่าก็แสดงออกมาในสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ ยิ่งพูดมากไม่ได้ “พอแล้ว เลิกทำตัวเหลวไหลสักที มันไม่เกี่ยวกับหลาน”
“ไม่ได้ ผมไม่ยุ่งเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องนี้ผมต้องยุ่ง ผมให้เขายั่วโมโหย่ากับปู่อย่างนี้ไม่ได้” เย่ซือฉุนเดินไปด้านหน้า พลางยื่นฝ่ามือออกไปยังเย่ซือเฉิน“เอามือถือมาให้ทุกคนดูบันทึกการโทรเข้าออกของนาย”