ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1434 สะใจชะมัด (2)
คุณย่าเย่ได้ยินเย่ซือฉุนพูด แววตาก็เคร่งขรึม พลางกวาดสายตามองเย่ซือฉุนอย่างเย็นเยียบแวบหนึ่ง “ก่อกวนพอหรือยัง?เมื่อก่อนทำตัวเหลวไหลก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้อยู่ในสถานที่อะไร ยังกล้าทำตัวเหลวไหลอีก?บ้าไปแล้ว”
“คุณย่า ครั้งนี้ผมไม่ได้ก่อกวนจริงๆ แค่ยังไม่เข้าใจเฉยๆ พวกท่านไม่ใช่โทรหาเขาหลายครั้งหรอกเหรอ?ทำไมไม่มีบันทึกล่ะ?”เย่ซือฉุนทำหน้าไร้เดียงสาที่ระคนความงวยงงหลายส่วน เขาหันไปมองเย่ซือเฉินอีกครั้ง “หรือนายลบบันทึกสนทนาแล้ว?”
เย่ซือฉุนรุ้ว่าเย่ซือเฉินไม่ทำแบบนี้แน่ ทว่าตอนนี้เขาแค่แสร้งพูดไปอย่างนั้น
“เป็นไปได้ยังไง?คุณชายสามเย่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง คุณชายน้อยเย่กำลังปรักปรำคุณชายสามเย่อยู่นะ”สิ้นเสียงเย่ซือฉุนก็มีคนคัดค้านทันที
เมื่อคำคัดค้านลั่นออกมา คนส่วนมากก็ส่งเสียงเห็นดีเห็นงามด้วย ซึ่งในใจก็คิดเช่นนี้จริงๆ
“แล้ว?แล้วมันเป็นยังไงกันแน่?”เย่ซือฉุนทำหน้างวยงงอย่างไร้เดียงสา
เขาหยุดพูดชั่วครู่ แค่ชั่วครู่เท่านั้น เขาไม่รอให้คุณย่าเย่เอ่ยปาก เขารีบหันไปมองคุณย่าเย่พร้อมกับพูดอย่างตกใจว่า“คุณย่า หรือว่าตระกูลเย่ไม่เคยโทรหาเขา?”
เย่ซือฉุนลั่นวาจาออกมา คุณย่าเย่ก็รู้สึกโกรธแค้นอยากกัดฟันปลอมให้ละเอียด
และคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย อันที่จริงก่อนหน้านี้มีคนเคยนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ทว่าก็เป็นเพียงความคิดจะเก็บไว้ในใจเท่านั้น ตอนนี้เย่ซือฉุนพูดแบบนี้ สถานการณ์จึงตาลปัตรไป
นับจากตอนนี้เย่ซือฉุนหาเรื่องแล้วนำมาปะติดปะต่อกัน คล้ายกับว่ามีความเป็นไปได้แค่ทางนี้ทางเดียว!!
หากเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่มีเจตนาอะไรกันแน่?
คนร่วมงานล้วนเป็นคนฉลาด เมื่อคิดดีๆแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย……
บัดนี้คุณย่าเย่อยากบีบคอเย่ซือฉุนให้ตายไปซะเลย ทว่าท่านรู้ว่าท่านโมโหเวลานี้ไม่ได้ หากแสดงอารมณ์โมโหเมื่อไหร่ คนอื่นจะยิ่งสงสัยมากขึ้น
“คุณย่า เรื่องเป็นยังไงกันแน่?”เย่ซือฉุนยังคงไม่เลิกรา ซักไซ้ไล่ถามอีกหนึ่งประโยคอย่างดื้อดึง“คุณปู่บอกเขาวิธีไหน?”
คุณย่าเย่แอบสูดลมหายใจเข้าออก พยายามให้ตัวเองใจเย็นสุดความสามารถ ท่านจึงจะไม่ระเบิดน้ำโหออกมา ทว่าท่านไม่รู้จะตอบอย่างไรกับคำถามของเย่ซือฉุน
ท่านคงตอบไม่ได้ว่า ไม่ได้โทรหาเย่ซือเฉินเลย
ยามนี้คุณย่าเย่ก็ไม่ได้พูดปด เพราะเรื่องถึงขั้นนี้แล้ว และเย่ซือเฉินก็ยืนอยู่ตรงหน้าท่าน หากท่านพูดปดมดเท็จอีก เย่ซือเฉินก็อาจจะเปิดโปง เพราะตอนนี้เย่ซือเฉินไม่ใช่เย่ซือเฉินในอดีตแล้ว
เย่ซือเฉินทำได้แม้กระทั่งตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ ตอนนี้จึงเกรงว่าคงไม่คำนึงถึงชื่อเสียงหน้าตาท่านแล้ว
คุณย่าเย่ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นเย่ซือเฉิน ท่านไม่กล้าโกหกต่อหน้าเย่ซือเฉิน
เวลานี้คุณย่าเย่ปิดปากเงียบ สีหน้าแย่เล็กน้อย ทุกคนเห็นแล้วก็มีคำตอบในใจ
ทว่าคนอยู่ในเหตุการณ์ล้วนฉลาดหลักแหลม ไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อย
คนในร่วมไม่กล้าพูดส่งเดช ทว่าในโลกโซเชียลนั้นถล่มทลายเป็นที่เรียบร้อย เพราะนักข่าวเริ่มถ่ายทอดสดตอนที่เย่ซือฉุนหาเรื่องเย่ซือเฉิน ดังนั้นชาวเน็ตจึงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
“เกิดอะไรขึ้น?นี่มันเกิดอะไรขึ้น?คุณพ่อคุณชายสามเย่เสียชีวิต ตระกูลเย่กลับไม่บอกคุณชายสามเย่?”
“ไม่บอกแล้วยังใส่ร้ายคุณชายสามเย่อีก ยังมีหน้าบอกว่าเคยโทรหาคุณชายสามเย่หลายครั้งแล้ว ซึ่งล้วนถูกปฏิเสธทุกครั้ง?อย่างนี้เรียกว่าอะไร?คุณย่าเย่กับคุณปู่เย่คิดยังไงกันแน่?”
“ไม่รู้ว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คิดยังไง แต่เมื่อตรึกตรองเรื่องนี้ดูแล้ว มันน่ากลัวมาก มันเท่ากับมีคนจะทำร้ายคุณชายสามเย่”
“ใคร?ใครอยากทำร้ายคุณชายสามเย่?”
“ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะเย่โป๋เหวินเสียชีวิตแล้ว คุณปู่เย่ไม่บอกเย่ซือเฉิน ทำอย่างนี้มันเกินไปจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยฐานะของคุณปู่เย่ คงไม่มีใครกล้าแพร่ข่าวปลอมหรอก ดังนั้นจึงรู้สึกสงสัยว่าข่าวที่คุณปู่เย่โทรหาคุณชายสามเย่หลายครั้ง ทว่าคุณชายสามเย่ปฏิเสธ มันต้องเป็นเจตนาของคุณปู่เย่แน่”
“คอมเมนต์ด้านบนวิเคราะห์ถูกมาก เป็นความคิดที่น่าสะเทือนขวัญมาก สงสารคุณชายสามเย่เหลือเกิน”
“ใช่ สงสารคุณชายสามเย่ มิน่าล่ะคุณชายสามเย่จึงตัดขาดกับตระกูลเย่ ผู้ใหญ่อย่างนี้ใครอยากจะเอา?”
“ฉันเคยด่าคุณชายสามเย่ในข่าวใหม่ก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าจะตบหน้าตัวเองเร็วขนาดนี้”
“ยังดีที่คุณชายน้อยตระกูลเย่ก่อกวน ไม่งั้นพวกเราก็จะไม่รู้ความจริง คุณชายน้อยเย่ก่อกวนได้ดีมาก”
“คุณชายน้อยเย่หาเรื่องคุณชายสามเย่ไม่สำเร็จแล้ว ยังดึงตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”
“ถึงแม้คุณชายน้อยเย่จะโง่เง่าจริงๆ ทว่าฉันก็ต้องกดไลค์ให้รัวๆเลย ขอบคุณคุณชายน้อยเย่ที่ช่วยคุณชายสามเย่ล้างมลทิน”
“ถ้าคุณชายน้อยเย่ไม่โวยวาย คุณชายสามเย่ก็จะโดนปรักปรำ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่มีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่?เป็นความคิดที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ!”
“ความคิดน่าสะพรึงกลัว น่ากลัวมาก!!”
“คนประเภทคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่น่ากลัวกว่าศัตรูเสียอีก!!”
ชั่วอึดใจเดียว คนที่เคยด่าทอคุณชายสามเย่ก็หันมารุมด่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ อารมณ์ยังพลุ่งพล่านกว่าก่อนหน้านี้อีก
เพราะปกติทั้งคุณธรรมและชื่อเสียงของคุณชายสามเย่นั้นดีเยี่ยม คุณชายสามเย่ทั้งอายุน้อย ทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถที่โดดเด่น ดังนั้นผู้หญิงทั่วไปจึงไม่ด่าเขาไม่ลง ทว่ากับคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่แล้ว พวกเธอด่ากันไม่ยั้ง
ไม่นานก็มีคนแฉเรื่องเลวๆของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ขึ้นมา ยังไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัว แต่แค่พูดถึงเรื่องที่บาดหมางกับเวินลั่วฉิงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีของทุกคน ไม่นานก็มีคนขู่เรื่องเก่ามาโพสต์อีกครั้ง
โดยเฉพาะวิดีโอที่คุณปู่เย่แกล้งป่วยนอนโรงพยาบาลถูกเปิดเผย เพียงไม่กี่นาทีก็เกิดเป็นข่าวครึกโครม คนกดไลค์เยอะขึ้นเรื่อยๆ คนรุมด่าก็มากขึ้นเรื่อยๆ
แค่สองเรื่องนี้ ชื่อเสียงของคุณปู่เย่ก็ป่นปี้หมดสิ้นแล้ว จากที่ไม่ค่อยมั่นใจก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีคนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า คุณปูเย่กับคุณย่าเย่คิดจะทำร้ายคุณชายสามเย่
เวลานี้คุณปู่เย่อยู่ชั้นบน ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินไม่มา เขาเลยร้อนใจ แกล้งไม่สบายแล้วขึ้นไปชั้นบน
เขารู้เรื่องที่เย่ซือเฉินกลับมาแล้ว ทว่าเขาไม่รีบร้อนจะลงมา ตอนที่เขาเตรียมจะลงมา เย่ซือฉุนก็เกิดโวยวายขึ้นมา ตอนนี้เขานั่งอ่านข่าวในโซเชียล เห็นคนด่าทอเขาจึงโกรธจนเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วจริงๆ
ก่อนหน้านี้นักข่าวเริ่มถ่ายทอดสดแล้ว เขาอยากกลบเกลื่อนก็คงจะไม่ได้ ถึงเขาจะลบวิดีโอในเน็ต แต่เขารู้ว่ามันไม่ส่งผลดีมากนัก เพราะชาวเน็ตสามารถโหลดวิดีโอเก็บไว้ได้ เขาให้คนที่หนึ่งลบ แต่ก็จะมีคนที่สองโพสต์ออกมาอยู่ดี
การลบวิดีโอจึงไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ต้นเหตุ มันจะยิ่งทำให้คนอื่นสงสัยมากขึ้น
คุณปู่เย่คาดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ เดิมทีเขาอยากใช้คำวิพากษ์วิจารณ์บีบเย่ซือเฉินกลับมา สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือกลับเป็นการทำร้ายตัวเอง
เวลานี้คุณปู่เย่ใบหน้ามืดครึ้มจนน่ากลัว
คุณย่าเย่ที่อยู่ชั้นล่างถึงจะไม่เห็นคอมเมนต์ที่ก่นด่าตัวเอง ทว่าท่านเห็นนักข่าวกำลังถ่ายทอดสดอยู่ ดังนั้นท่านรู้ว่าเรื่องนี้ต้องเผยแพร่ออกไปแล้ว ทว่าคุณย่าเย่มัวแต่สนใจโลกโซเชียลไม่ได้ สิ่งสำคัญตอนนี้คือ คลี่คลายปัญหาตรงหน้าก่อน
คุณย่าเย่พบว่าคนที่มองมายังท่าน สีหน้าแปรเปลี่ยนไป เปลี่ยนอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้จะไม่เด่นชัดมากนัก ทว่าคุณย่าเย่ก็รู้สึกได้
เวลานี้คุณย่าเย่รู้สึกคับอกคับใจ โมโหจนอยากกระอักเลือดออกมา
“โธ่ ทำไมแพร่ข่าวในเน็ตล่ะ พูดมั่วซั่วในเน็ตอย่างนี้ได้ไง……”เย่ซือฉุนร้องอุทานออกมา สีหน้าของเขายังคงไร้เดียงสาดุจเดิม แถมยังเอามือถือให้คุณย่าเย่อีก “คุณย่าดูสิ พวกเขาพูดมั่วซั่ว พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วบอกว่าย่ากับปู่ใส่ร้ายเย่ซือเฉิน ทำไมพูดมั่วซั่วอย่างนี้นะ?”
ตอนแรกคุณย่าเย่แค่โมโหเกือบตาย ตอนนี้ได้ยินเย่ซือฉุนพูดแบบนี้แล้ว และเห็นชาวเน็ตวิจารณ์ยับอย่างนี้ ร่างกายท่านก็ต้องโซเซจนเกือบล้มหัวฟาดพื้นแล้วเชียว
สถานะคุณย่าเย่สูงส่งมาโดยตลอด ทุกอย่างราบรื่นดั่งใจหมาย ไม่เคยโกรธอะไรเท่านี้มาก่อน ไม่เคยสูญเสียการควบคุมตัวเองอย่างนี้มาก่อน!!