ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1437 ไม่อาจหลบหนีกรรมที่ตัวเองก่อ (1)
บนรูปถ่ายกำกับเวลาไว้เช่นกัน เวลาของรูปนี้อยู่ที่ ตีสี่สิบห้านาที!!ดูแวบแรกก็รู้ว่ารูปนี้คนถือกล้องถ่ายเอง หลังโพสต์รูปแล้วก็รีบเสริมอีกหนึ่งประโยคโดยไว “โชคดีที่คุณชายอย่างผมชาญฉลาด ไม่งั้นต้องถูกเย่ซือเฉินใส่ร้ายแน่!!”
“ฮ่าๆๆๆ คุณชายน้อยเย่‘ชาญฉลาด’จริงๆ!!”
“ใช่ ใช่ ใช่ ชาญฉลาดจริงๆ!!”
“เมื่อวานคุณชายน้อยเย่ก็ด้วยความ‘ชาญฉลาด’เลยช่วยคุณชายสามเย่ล้างมลทินข่าวในโซเชียล”
“ทำไมผมรู้สึกว่าคุณชายน้อยเย่น่ารักจังเลย ผมจะกดไลค์ให้รัวๆเลย ห้ามใครขวางเชียวนะ ฮ่าๆๆๆ!!”
“ใช่ เป็นศึกภายในบ้านที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย มันเป็นหนึ่งในบ้านที่เหมือนไม่มีศึกจริงๆนะ!!”
“อย่างนี้ก็คือ เมื่อคืนมีคนเฝ้าไว้อาลัยสามคน สามคน!!แล้วที่ด้านบนบอกว่าชายหนึ่งหญิงหนึ่งคืออะไร ช่วยดูให้ชัดๆด้วย”
“ในเมื่อมีคนเฝ้าไว้อาลัยสามคน แต่ทำไมในรูปจึงมีแค่คุณชายสามเย่กับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้สองคนล่ะ?จงใจสร้างกระแสหรือไง?”
“เห็นทีครั้งนี้คุณชายน้อยเย่ช่วยคุณชายสามเย่ล้างมลทินสำเร็จอีกครั้ง ‘ชาญฉลาด’ของแท้เลย ขอกดไลค์ให้กับคุณชายน้อยเย่”
“คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่ คุณชายสามเย่ไม่เอาบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป แล้วอีกหน่อยบริษัทนี้จะตกเป็นของคุณชายน้อยเย่หรือไม่?ตอนแรกรู้สึกเคืองๆใจอยู่นะ แต่คุณชายน้อยเย่น่ารักอย่างนี้ ‘ชาญฉลาด’อย่างนี้ ไม่รู้บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจะยืนหยัดต่อไปได้นานแค่ไหน?”
ดังนั้น เนื้อหาจึงเอนเอียงจากผู้จงใจชักนำอีกครั้ง ครั้งนี้หนักกว่าเดิมเรียบร้อย!
ทว่าเพราะมีคนแอบชักนำอยู่ลับๆ ดังนั้นยังมีคนส่วนใหญ่เขียนแสดงความคิดเห็นเรื่ององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ไว้อาลัยในบ้านตระกูลเย่!!
ดังนั้นหัวข้อหารือมากที่สุด จึงเป็นหัวข้อ องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ใช้สถานะอะไรเฝ้าศพไว้อาลัยเย่โป๋เหวิน!!
คืนที่สอง เย่ซือเฉินยังคงอยู่ในบ้านตระกูลเย่ต่อ และเฉิงโหรวโหรวก็ยังไม่ได้ไป เมื่อคุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ไม่ได้พูดอะไร เย่ซือเฉินก็ไม่พูด คนอื่นเลยไม่กล้าพูดมาก
ดังนั้นเฉิงโหรวโหรวเฝ้าไว้อาลัยเย่โป๋เหวินเป็นคืนที่สอง เช้าวันที่สามก็มีข่าวเฉิงโหรวโหรวเฝ้าไว้อาลัยในโลกโซเชียลอีกครั้ง ครั้งนี้ก็ยังคงเป็นรูปถ่ายของเย่ซือเฉินกับเฉิงโหรวโหรวสองคน!!
ครั้งนี้มีความคิดเห็นต่างๆนาๆประเดประดังมากขึ้นกว่าเดิม เฝ้าหนึ่งคืนก็ช่างเถอะ คืนที่สองยังเฝ้าอยู่อีกหรือ
ทั้งยังอยู่ด้านข้างคุณชายสามเย่เหมือนเดิม!!
ไม่ทำให้คิดมากไม่ได้แล้ว
ใครๆก็ทราบกันดีว่า คุณชายสามเย่จองหอง ไม่มีใครห้ามเขาได้ และไม่มีใครบังคับเขาได้เช่นกัน ทว่าองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ด้านข้างคุณชายสามเย่ติดต่อกันสองคืน และตลอดทั้งคืนด้วย?!
หากคุณชายสามเย่ไม่ยินยอม?คุณชายสามเย่ไม่ยินยอม องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้จะอยู่ข้างๆเขาได้หรือ?
ดังนั้น ข่าวที่ทำเช้านี้จึงทำให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน เพราะมีคนชักนำด้วย จึงมีคอมเมนต์คุณชายสามเย่จะแต่งงานกับองค์หญิงมากมาย
แต่ก็มีคำถามตามมา มีคนไม่เชื่อว่าคุณชายสามเย่จะแต่งงานกับองค์หญิงคนนี้จริงๆ เพราะก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่เพียงเพื่อปฏิเสธการแต่งงานกับองค์หญิง ทว่าคอมเมนต์เหล่านี้ก็ถูกพวกถูกจ้างวางให้มาช่วยสร้างกระแสกลบเกลื่อน
จากนั้นก็มีหลายบริษัทเขียนข่าวตระกูลเย่เกี่ยวดองกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้
แน่นอน ในเนื้อข่าวไม่ได้เขียนยืนยันว่าคุณชายสามเย่จะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้แน่ๆ เป็นเพียงการวิเคราะห์จัดแจงเท่านั้น
ซึ่งสถานการณ์อย่างนี้ ประกอบกับการวิเคราะห์ลักษณะนี้ มันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดง่าย
“ตาเฒ่าบ้านตระกูลเย่ทำเกินไปจริงๆ ซือเฉินเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด กลับไปเพื่อด้วยความกตัญญู แต่พวกเขากับวางกลอุบายกับซือเฉิน” ท่านย่าถังเห็นข่าวแล้วก็โมโห อยากด่าคนที่สุด
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา เสร็จงานศพของเย่โป๋เหวิน ซือเฉินก็จะออกมาแล้ว ไม่มีอะไรให้พวกเขาก่อความวุ่นวายอีก”ท่านปู่ถังไม่เก็บมาใส่ใจมากนัก และไม่ได้รู้สึกประหลาดใจด้วย เห็นได้ชัดว่าท่านปู่ถังพอจะคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้ว
“แต่ข่าวทำให้คนเข้าใจซือเฉินผิดได้ เข้าใจผิดคิดว่าซือเฉินยอมสยบแทบเท้าองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว และเข้าใจผิดคิดว่าซือเฉินตลบตะแลง พอซือเฉินกับฉิงฉิงแต่งงานกัน พวกเขาก็จะใช้เรื่องนี้เป็นข้อครหา”ท่านย่าถังยังคงวิตกกังวล สิ่งที่ท่านพูดล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้เลย
“ไม่รุนแรงขนาดนั้นหรอก ไม่ต้องกังวล” ท่านปู่ถังเห็นท่านร้อนรุ่มกลุ้มใจจึงกล่าวปลอบประโลม
“เฮ้ย จะไม่ให้ฉันกังวลได้ยังไง?ตาแก่สองคนนั้นไม่เคยหยุดนิ่งเลย พวกเขาถ่ายรูปแล้วส่งให้นักข่าวแน่ๆ รูปถ่ายพวกนี้ทำให้เข้าใจผิดง่าย ทำไมซือเฉินไม่ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปนะ?”ท่านย่าถังถอนหายใจเสียงเบา ตอนนี้เย่โป๋เหวินสิ้นชีพ อยู่ในสถานการณ์พิเศษ ซือเฉินจำเป็นต้องกลับไป จึงกลายเป็นโอกาสของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่
“ซือเฉินจะไล่ได้ยังไง?” ท่านปู่ถังยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“จะไล่ไม่ได้ยังไง?เฉินโหรวโหรวใช้สถานะอะไร?หล่อนมีสิทธิ์อะไรมาไว้อาลัยเย่โป๋เหวินที่บ้านตระกูลเย่?ไม่เข้าท่าเลย ทำไมซือเฉินไม่ไล่หล่อนนะ?”ท่านย่าถังไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านปู่ถังกล่าว ใบหน้าเผยความสงสัยหลายส่วน
“หลายวันก่อนซือเฉินประกาศตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่คนตระกูลเย่ เขากลับไปเพราะความกตัญญู เขาก็เป็นแขก ดังนั้น เขาจะไล่คนอื่นได้ยังไง?” ท่านปู่ถังอธิบายหลายประโยคอย่างมีความอดทน
ท่านย่าถังชะงัก จากนั้นก็เข้าใจความหมายของท่านปู่ถังทันที“ใช่ คุณพูดถูก ซือเฉินไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเย่แล้ว ดังนั้นซือเฉินไล่คนไม่ได้ ถ้าซือเฉินไล่ผู้หญิงคนนั้นไปจริงๆ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงคิดจะกู้สถานการณ์ซือเฉินตัดขาดกับพวกเขาแน่ ……”
ท่านย่าถังหยุดพูดชั่วอึดใจ จากนั้นก็ถอนหายใจแรงๆหนึ่งเฮือก“ตาแก่สองคนนั้นหน้าเนื้อใจเสือ พวกเขาดักไว้ทั้งสองทางเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ?ซือเฉินเป็นหลานแท้ๆของพวกเขา ทำไมพวกเขายังวางกลอุบายกับซือเฉินอีก?”
“ดังนั้น ตอนนี้ซือเฉินทำถูกแล้ว รอให้งานศพผ่านไปก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องอื่น” ท่านปู่ถังส่ายหัว รู้สึกว่าคนอื่นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่เป็นผู้อาวุโสจะดีกว่าเลย
“อืม คุณพูดถูก ซือเฉินน่าสงสารมาก ซือเฉินเป็นคนรู้ความ เขาคงไม่อยากสร้างความวุ่นวายในงานศพเย่โป๋เหวิน” ท่านย่าถังรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย“ไม่รู้ว่าฉิงฉิงเห็นข่าวแล้วจะเสียใจหรือเปล่า?”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉิงฉิงหรอก ฉิงฉิงเป็นเด็กฉลาด มองออกอยู่แล้ว” ระหว่างที่ท่านปู่เย่พูดประโยคนี้ใบหน้าเผยรอยยิ้มหลายส่วน
“อืม ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของคุณ” ท่านย่าถังก็ยิ้ม ความกังวลบนใบหน้าก็ลดน้อยลง
ผู้ดูแลจ้งก็เห็นข่าวด้วย วันแรกเขาไม่ได้สนใจอะไร แต่พอมีข่าวต่อวันที่สอง ผู้ดูแลจ้งจึงนำข่าวไปให้หัวหน้าดู “หัวหน้าครับ เฉิงโหรวโหรวไปเฝ้าไว้อาลัยศพเย่โป๋เหวินที่บ้านตระกูลเย่สองคืนแล้วครับ”
ซ่างกวนหงเงยหน้ามองผู้ดูแลจ้งแวบหนึ่งด้วยแววตาเรียบเฉย ไม่เจือความรู้สึกใดๆ เรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบกับหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เลยสักนิด
เหมือนซ่างกวนหงจะไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ดูแลจ้งต้องบอกเรื่องนี้ให้เขารู้ด้วย
ผู้ดูแลจ้งถูกหัวหน้าเหนือหัวของตนกวาดสายตามอง จึงรับรู้ว่าตัวเองยุ่งไม่เข้าเรื่อง ไม่ควรเอาเรื่องเล็กๆพวกนี้มารบกวนหัวหน้า ทว่าสมองผู้ดูแลจ้องหมุน รีบอธิบายทันควันว่า “เย่ซือเฉินไม่ใช่แฟนหนุ่มของคุณหนูใหญ่ถังเหรอครับ?ผมกังวลว่าจะกระทบกับคุณหนูใหญ่ถังครับ”
ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าหัวหน้าไม่สนใจคนอื่น ทว่าหัวหน้าสนใจคุณหนูใหญ่ถัง
ถึงแม้ตอนนี้จะรู้ว่าคุณหนูใหญ่ถังคือเวินลั่วฉิง ซึ่งเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเวิน เป็นลูกสาวของเวินจือฝาง ไม่ใช่องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา แต่หัวหน้าก็ยังคงใส่ใจคุณหนูถังอยู่ดี
ดังคาด ผู้ดูแลจ้งเห็นแววตาเรียบเฉยของหัวหน้า เมื่อได้ยินเขาเอ่ยถึงคุณหนูใหญ่ถังก็เปลี่ยนไป “เย่ซือเฉินไม่ได้จัดการเหรอ?”
“หลายวันก่อนเย่ซือเฉินพึ่งประกาศตัดขาดกับตระกูลเย่ครับ เฉิงโหรวโหรวอยู่บ้านตระกูลเย่หน้าด้านๆ ซึ่งเป็นการยินยอมของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่แน่นอนครับ เย่ซือเฉินจึงไม่สะดวกไล่คนครับ”ผู้ดูแลจ้งเป็นคนฉลาด ดังนั้นจึงเข้าใจเรื่องราวอย่างถ่องแท้