ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1453 เจ้าหญิงตัวจริง(1)
“ครั้งนี้ของแค่เย่ซือเฉินกลับมา พวกเราต้องทำดีกับเขาให้มาก ห้ามบังคับอะไรเขาอีก”เห็นชัดว่าคุณย่าเย่นั้นมีความมั่นอกมั่นใจมาก เชื่อว่าเย่ซือเฉินจะต้องกลับมาแน่ๆ และเธอเองก็ได้เตรียมการวางแผนทุกอย่างหลังจากนี้เอาไว้หมดแล้ว !!
หลายปีมานี้ของคุณย่าเย่ ทำงานเพื่อหวังผล บรรลุเป้าหมาย ไม่เลือกวิธีการ ดังนั้นสิ่งที่คุณย่าเย่ทำจึงมีข้อผิดพลาดน้อยมาก นานวันเข้า เธอก็ยิ่งเชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรที่เธอทำมันไม่ได้
“อืม จะไม่บังคับอะไรเขาอีก ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของเฉิงโหรวโหรว จัดการเรื่องงานศพของเย่โป๋เหวินเสร็จไม่แน่เย่ซือเฉินก็อาจจะกลับมาอยู่ที่ตระกูลเย่อีกครั้ง” คุณปู่เย่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอแนะนี้ของคุณย่าเย่
ในงานแถลงข่าว ณ ปัจจุบัน หัวหน้าน้อยชี้แจงสองประเด็นนี้จบ ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่คิดที่จะเดินจากไป แต่หัวหน้าน้อยก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ราวกับกำลังรอให้นักข่าวถามคำถามที่อยากจะถาม
“หัวหน้าน้อย ยังไม่กลับอีกเหรอครับ?”ผู้ดูแลจ้งรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว เจตนารมณ์ก็แสดงออกชัดเจนแล้ว ยังจะยืนอยู่ตรงนี้อีกทำไม?
ผู้ดูแลจ้งรู้นิสัยใจคอของหัวหน้าน้อยดี รู้ว่าหัวหน้าน้อยน่าจะยังมีแผนการอื่นอีก เพียงแต่ผู้ดูแลจ้งยังเดาไม่ออกว่าหัวหน้าน้อยคิดอยากจะทำอะไรอีก
นักข่าวเองก็เห็นว่าหัวหน้าน้อยยังไม่รีบร้อนที่จะจากไป ในเมื่อหัวหน้าน้อยไม่รีบ งั้นพวกเขาจะใช้โอกาสนี้ถามคำถามอื่นๆเพิ่มเติม ดูๆไปแล้วหัวหน้าน้อยที่หน้าตาหล่อเหลาคนนี้ก็มีอัธยาศัยดีไม่น้อย
และแน่นอนว่า มันเป็นเพียงแค่การมองด้วยตาเท่านั้น !!
“เมื่อครู่หัวหน้าน้อยบอกว่าจะใช้กฎระเบียบภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้ลงโทษเฉิงโหรวโหรว อยากทราบว่ากฎระเบียบภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นมีอะไรบ้าง และมันน่ากลัวมากแค่ไหนครับ?”
“หัวหน้าน้อย ก่อนหน้านั้นเฉิงโหรวโหรวใช้วิธีการยังไงเพื่อหลอกหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ครับ?”
“หัวหน้าถูกหลอกตั้งแต่แรกเริ่มเลย ? หรือว่าเป็นแผนซ้อนแผน ตอนนี้สำเร็จแล้วถึงได้เปิดเผยออกมาเหรอครับ?”
นักข่าวยิงคำถามออกมากันรัวๆ แต่ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่หัวหน้าน้อยให้ความสนใจ คิ้วของหัวหน้าน้อยก็ค่อยๆขมวดขึ้น ราวกับเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์
ผู้ดูแลจ้งที่ยืนอยู่ข้างๆมุมปากค่อยๆยกหยักขึ้น เขาย่อมมองมันได้ทะลุ ที่หัวหน้าน้อยยังไม่จากไปก็เพื่อรอให้นักข่าวให้ถามคำถาม และเห็นชัดว่าคำถามของนักข่าวไม่มีคำถามไหนที่ตรงใจหัวหน้าน้อยเลย
และผู้ดูแลจ้งก็พอจะเดาได้ว่าหัวหน้าน้อยนั้นต้องการให้นักข่าวถามคำถามที่เจาะลึกแบบไหน
“เมื่อครู่ที่หัวหน้าน้อยบอกว่ามีคนสมรู้ร่วมคิดกับเฉิงโหรวโหรวเพื่อเล่นงานองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นใช่หมายถึงตระกลูเย่หรือเปล่าครับ? เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องแค่กับคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เท่านั้น เห็นชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย และคุณชายสามเย่ก็ปฏิเสธมาโดยตลอด หัวหน้าน้อยจะโกรธเคืองคุณชายสามเย่ด้วยหรือเปล่าครับ ? ”มีนักข่าวคนหนึ่งถามคำถามที่อ่อนไหวออกมา เพราะเมื่อครู่หัวหน้าน้อยไม่ได้เจาะจงว่าจะให้ใครเป็นคนตั้งคำถาม
นัยน์ตาของหัวหน้าน้อยค่อยๆเหลือบไป มองไปยังนักข่าวคนนั้น เขาโกรธเคืองเย่ซือเฉิน ?
เขาเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนั้นเหรอ ?!
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบหน้าเย่ซือเฉินก็จริง แต่เขาไม่ใช่คนที่ชอบอาศัยอำนาจส่วนรวมแก้แค้นเรื่องส่วนตัวแบบนี้!!
อืม เขาเป็นคนมีหลักการมาโดยตลอด!!
คำพูดนี้ของเขาเป็นเพียงความคิดเขาในขณะนี้ หากตอนนี้หัวหน้าน้อยพูดมันออกไป ดูท่าแล้วผู้ดูแลจ้งคงจะเป็นคนแรกที่ไม่พอใจและสวนเขาเป็นแน่
เรื่องของหลักการอะไรแบบนี้ หัวหน้าน้อยไม่เคยมีมันเลยด้วยซ้ำ
นักข่าวคนเมื่อครู่ที่ถามเรื่องของตระกูลเย่พอได้สบสายตากับหัวหน้าน้อยร่างทั้งร่างก็ถึงกับหดเกร็ง จู่ๆก็รู้สึกหนาวสั่น ราวกับอุณหภูมิรอบตัวลดฮวบลงไปหลายองศา
สักพัก นักข่าวคนอื่นๆก็ราวกับสัมผัสได้ถึงความโกรธด้วยหรือยังไง เสียงที่อื้ออึงกับการถามคำถามก็เงียบและหยุดลงโดยพลัน
เพราะคำถามที่พวกเขาถามไปมากมาย หัวหน้าน้อยไม่ได้ตอบคำถามไหนเลย และก็มองออกว่า หัวหน้าน้อยไม่คิดที่จะตอบคำถามเหล่านั้นด้วย
ที่พวกเขาถามไปก็เปล่าประโยชน์ และพวกเขาก็กังวลหากถามคำถามที่ไม่ควรถามไป จะทำให้องค์กรโกสต์ซิตี้ขุ่นเคืองเอาได้
“หัวหน้าน้อย ในเมื่อเฉิงโหรวโหรวแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหญิง ขอถามครับว่าแล้วหาเจ้าหญิงตัวจริงเจอหรือยังครับ ?”สักพัก จู่ๆก็มีนักข่าวคนหนึ่งถามขึ้นมา
เมื่อหัวหน้าน้อยได้ยินคำถามนี้ หว่างคิ้วดูเหมือนจะคลายลงได้บ้าง ใบหน้าที่หล่อเหลาดูดีอย่างเหลือเชื่อของเขาก็ขึ้นสีแปลกๆขึ้นมาทันที
ผู้ดูแลจ้งในตอนนี้ก็ยืนอยู่ข้างๆหัวหน้าน้อย และย่อมต้องเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหัวหน้าน้อยด้วย อันที่จริงแล้วสีหน้าที่เปลี่ยนไปเพียงน้อยนิดของหัวหน้าน้อยคนอื่นคงจะไม่สังเกตเห็น คงมีเพียงผู้ดูแลจ้งเท่านั้นที่เห็นเขาโตมาตั้งแต่เด็กสังเกตเห็นได้
ริมฝีปากของผู้ดูแลจ้งกระตุกขึ้นอีกครั้ง เป็นไปตามคาด !!
เพียงแต่ว่า ผู้ดูแลจ้งไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยจะตอบคำถามนี้อย่างไร ก่อนหน้านั้นอะเหลียงบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอาจจะเป็นเจ้าหญิงตัวจริงของพวกเขา แต่ตอนนี้หลายๆอย่างก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เจ้าหญิง
และทางฝั่งอะเหลียงก็ไม่มีเบาะแสอื่นใดอีก ในช่วงนี้หัวหน้าน้อยก็คอยแต่จัดการเรื่องภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้ ไม่มีเวลาไปตรวจสอบเรื่องของเจ้าหญิง และย่อมไม่มีทางเจออะไรแน่นอน
ดังนั้น หัวหน้าน้อยคิดจะทำอะไรกันแน่ ? !
สายตาของผู้ดูแลจ้งก็คอยแต่จะจ้องมองไปยังหัวหน้าน้อย แม้สายตาของผู้ดูแลจ้งจะยังนิ่งเฉย แต่ก็เป็นสายตาของการเตือนกลายๆ ผู้ดูแลจ้งหวังว่าหัวหน้าน้อยจะไม่ทำตัวเหลวไหล
ผู้ดูแลจ้งกลัวว่าเรื่องจะบานปลาย หัวหน้าจะทุกข์ใจเอาได้ เพราะเรื่องของเจ้าหญิงยังเลื่อนลอย ความจริงความเท็จปะปนกันไปหมด ให้ความหวังที่ล้มๆแล้งๆกับหัวหน้ามาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ทำหัวหน้าผิดหวัง ผู้ดูแลจ้งกังวลว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป หัวหน้าจะทนรับต่อไปไม่ไหวอีก
เรื่องอื่นผู้ดูแลจ้งจะไม่สนใจยังไงก็ได้ แต่เรื่องที่เกี่ยวกับหัวหน้า ผู้ดูแลจ้งจะไม่สนใจไม่ได้
แต่หัวหน้าน้อยไม่ได้สนใจผู้ดูแลจ้งเลย หัวหน้าน้อยมองไปยังคนที่ถามคำถามเมื่อครู่ มุมปากยกหยัก ตอบกลับอย่างเรียบเฉยว่า “แน่นอน”
น้ำเสียงของหัวหน้าน้อยไม่ได้ดังมาก แต่ก็ทำให้ทั่วทั้งบริเวณนั้นเงียบสงบลงทันที
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินที่หัวหน้าน้อยพูด ต่างก็พากันมึนเบลอไม่ได้สติ เพราะเมื่อครู่พวกเขาต่างถามคำถามไปมากมาย นี่หัวหน้าน้อยกำลังตอบคำถามไหนอยู่?
และคำตอบที่ว่าแน่นอนนี้มันก็ดูจะกว้างเกินไป คาดเดาเองไม่ได้จริงๆ
“หัวหน้าน้อย คุณหมายความว่าเจอเจ้าหญิงตัวจริงแล้วหรือครับ ?”นักข่าวที่ถามคำถามสุดท้ายดวงตาเบิกกว้าง คำตอบที่ว่าแน่นอนของหัวหน้าหากจะบอกว่าตอบคำถามข้อนี้ก็ดูจะฟังขึ้นอยู่
แต่ว่า มันก็เห็นชัดว่าเขาไม่คิดว่าหัวหน้าน้อยจะตอบคำถามของเขา ดังนั้นน้ำเสียงของเขาจึงไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไร
“ใช่”หัวหน้าน้อยแทบไม่ลังเลเลย ตอบกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ทุกคนต่างก็ได้ยินชัดเจน และเข้าใจกันเป็นอย่างดี และต่างก็รู้แล้วว่าหัวหน้าน้อยตอบคำถามไหน
“หัวหน้าน้อย ขอถามครับว่าเจ้าหญิงตัวจริงคือใคร ? อยู่ที่ไหนครับ ?”
“หัวหน้าน้อย องค์กรโกสต์ซิตี้จะเปิดตัวเจ้าหญิงตัวจริงไหมครับ?”
“หัวหน้าน้อย เจ้าหญิงที่เจอในครั้งนี้แน่ใจว่าเป็นตัวจริงแล้วใช่ไหมครับ ? ไม่ใช่ตัวปลอมอีกนะครับ ?”
“หัวหน้าน้อยพอจะเปิดเผยรายละเอียดที่เกี่ยวกับเจ้าหญิงตัวจริงสักหน่อยได้ไหมครับ”
หลังจากที่นักข่าวต่างพากันได้สติ แต่ละคนก็ลิงโลด เบียดเสียดแย่งชิงไปยังด้านหน้าเพื่อให้ได้เป็นคนแรก
วันนี้ องค์กรโกสต์ซิตี้ประกาศเรื่องของเจ้าหญิงตัวปลอมก็ว่าน่าทึ่งพอแล้ว ไม่คิดว่าจะมีเรื่องนี้ตามมาอีก ทุกคนต่างรู้ดี เมื่อรู้ว่าเจ้าหญิงคนก่อนเป็นตัวปลอม ทุกคนก็ยิ่งจะให้ความสนใจกับเจ้าหญิงตัวจริงมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นหัวข้อนี้ก็จึงยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก !!
“องค์กรโกสต์ซิตี้พบเจ้าหญิงตัวจริงแล้วเหรอ?” บนรถในขณะนี้ คุณย่าเย่ได้ยินคำตอบของหัวหน้าน้อย ดวงตาก็วูบไหว ส่วนลึกมีประกายเล็กน้อย มองก็รู้ว่ากำลังมีแผนการอะไรอยู่ “ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงตัวจริงเป็นใคร ?”
“คุณมีแผนอะไรอีก ?” คุณปู่เย่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง น้ำเสียงมีความไม่พอใจปะปนอยู่ “ตอนนี้อย่าเพิ่งให้มีปัญหาอื่นแทรกเข้ามาเลย องค์กรโกสต์ซิตี้ใช่ว่าจะให้เราหลอกใช้เอาได้ง่ายๆนะ”
หลงกลเฉิงโหรวโหรวไปครั้งนี้ คุณปู่เย่ก็เหมือนจะได้บทเรียนมาบ้าง
“มันก็ไม่แน่ เย่ซือเฉินของเราเพียบพร้อมขนาดนั้น มีผู้หญิงที่ไหนไม่สนใจกัน ? หากรู้ว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงเป็นใคร พวกเราก็สามารถสร้างสถานการณ์ให้เธอกับเย่ซือเฉินได้เจอกัน ไม่แน่ว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงอาจจะสนใจเย่ซือเฉินก็เป็นได้ เหมือนเฉิงโหรวโหรวยังไงละที่ไม่ใช่เย่ซือเฉินก็จะไม่ยอมแต่งงานด้วย”หลายปีมานี้คุณย่าเย่ก็คุ้นชินกับการทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแบบนี้แล้ว ดังนั้น สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือการเตรียมการรับมือในรูปแบบต่างๆ
“หลงกลเฉิงโหรวโหรวคนเดียวยังไม่พออีกหรือไง ผมขอเตือนคุณอย่าคิดอะไรแผลงๆอีก”สีหน้าของคุณปู่เย่เคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น้อยครั้งมากที่จะคัดค้านความเห็นของคุณย่าเย่อะไรแบบนี้
“ครั้งนี้เหตุการณ์มันแตกต่างกับของเฉิงโหรวโหรว เฉิงโหรวโหรวเป็นเจ้าหญิงตัวปลอม แต่นี่มันเจ้าหญิงตัวจริง และครั้งนี้หัวหน้าน้อยก็เป็นคนพูดขึ้นเอง ย่อมไม่ใช่เรื่องเหลวไหลแน่ และไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”ใบหน้าของคุณย่าเย่ในตอนนี้มีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด และมั่นใจกับการตัดสินใจนี้แล้ว