ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1459 กระบวนการยอมรับ(1)
ผู้ดูแลจ้งอยากจะตอบกลับ หัวหน้าน้อยก็ชิงพูดตัดหน้าว่า “พอแล้ว ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ง่าย วางใจเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม ผมจะจัดการเอง!!”
“หัวหน้าน้อย อย่าทำไปเรื่อยนะ”สีหน้าของผู้ดูแลจ้งเปลี่ยนไปเล็กน้อย การเก็บงำความลับของคนตระกูลถังนั้นเขาเคยสัมผัสมันมาก่อน และคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็เป็นคนเก่งและฉลาด ระมัดระวังตัวมาก หากหัวหน้าน้อยลงมือทำอะไรจริงๆก็อาจจะสังเกตเห็นได้
แม้ว่าตอนนี้หลักฐานหลายอย่างจะชี้ชัดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่หัวหน้าน้อยก็ยังรู้สึกพิเศษกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่
หากหัวหน้าน้อยกระทำการสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ยั้งคิดกับตระกูลถัง หรือถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจับได้ เกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้
หัวหน้าคงไม่อยากเห็นความเข้าใจผิดเช่นนี้อย่างแน่นอน
หัวหน้าน้อยเหลือบมองมาที่ผู้ดูแลจ้งแวบหนึ่ง“ตาแก่ คุณคิดว่าผมจะเลอะเลือนเหมือนคุณรึไง เรื่องแค่นี้ผมจะจัดการไม่ได้เลยเชียวเหรอ?”
“หัวหน้าน้อย คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง……”ผู้ดูแลจ้งเห็นท่าทีของหัวหน้าน้อยก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น
“ผมรู้ ว่าเธอเก่งมาก หากเธอไม่เก่งแบบนี้ ผมคงไม่ต้องเข้ามายุ่งแบบนี้หรอก”มู่เฉิงเป็นคนทะนงตน เรื่องที่ทำให้เขาสนใจ และทำให้เขาลงมือลงแรงทำเองได้มีไม่มากเท่าไร
“วางใจเถอะ ผมมีวิธีของผม รับรองว่าตระกูลถังไม่รู้เรื่องแน่นอน และเธอก็จับพิรุธอะไรไม่ได้แน่ เรื่องนี้ผมจะจัดการอย่างลับสุดยอดไม่ให้ใครรู้ หากผลสุดท้ายแล้วเธอไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็จะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เห็นชัดว่าหัวหน้าน้อยได้เตรียมการวางแผนไว้แล้ว และมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ในเมื่อหัวหน้าน้อยพูดมาขนาดนี้แล้ว ผู้ดูแลจ้งก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรอีก
“หัวหน้าน้อย คุณไปบอกหัวหน้าเองนะ”ผู้ดูแลจ้งไม่อยากจะยุ่ง จึงต้องโยนไปให้หัวหน้าแทน หากหัวหน้าเห็นด้วยกับแนวทางของหัวหน้าน้อย เรื่องนี้ก็จะมีหัวหน้าน้อยเป็นคนจัดการเอง
“จู่ๆผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีอีกเรื่องที่สำคัญ และเร่งด่วนมาก คุณไปรายงานกับหัวหน้าเองแล้วกัน” หัวหน้าน้อยไม่รอให้ผู้ดูแลจ้งได้ตอบรับ ก็ปลีกตัวหนีหายไปทันที
มู่เฉิงไม่แน่ใจว่าหัวหน้าจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาจะทำหรือไม่ เรื่องนี้เขาได้ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องไปทำมันอย่างแน่นอน หากหัวหน้าไม่เห็นด้วย กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาแน่ ดังนั้น ไม่สู้เขาลงมือจัดการให้เรียบร้อยแล้วค่อยไปรายงานกับหัวหน้าเอาทีหลัง
ยังมีเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขาประกาศในงานแถลงข่าวว่าเจอตัวเจ้าหญิงตัวจริงแล้ว เขาไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องนี้มันได้พลิกผันไปบ้างแล้ว ดังนั้น หัวหน้าน้อยก็จึงกังวลกลัวว่าหัวหน้าจะโกรธ
แม้มู่เฉิงจะโตมาจนป่านนี้และไม่เคยเห็นหัวหน้าโมโหมาก่อน แต่ในใจลึกๆของมู่เฉิงก็รู้สึกเกรงกลัวหัวหน้าอยู่มากเช่นกัน
“หัวหน้าน้อย”ผู้ดูแลจ้งถึงกับอึ้ง นี่หัวหน้าน้อยก่อเรื่องแล้วคิดจะหนี เอาปัญหาทุกอย่างมาโยนให้เขา
แต่ว่า แค่พริบตาเดียวหัวหน้าน้อยก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาไม่สามารถไปตามตัวหัวหน้าน้อยกลับมาได้
ผู้ดูแลจ้งทำได้เพียงบากหน้าไปหาหัวหน้าเพียงลำพัง
เวลาปรกติหัวหน้าไม่มีนิสัยที่ชอบดูโทรศัพท์มือถือ เวลาส่วนใหญ่ของหัวหน้าก็มักจะหมดไปกับการวาดภาพ
ผู้ดูแลจ้งเจอตัวซ่างกวนหงในห้องวาดรูป
“หัวหน้า หัวหน้าน้อยไปงานแถลงข่าว หัวหน้าน้อยประกาศว่าจะลงโทษเฉิงโหรวโหรวตามกฎขององค์กรโกสต์ซิตี้”ผู้ดูแลจ้งยืนอยู่ข้างๆของซ่างกวนหง รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าว
ซ่างกวนหงที่ได้ฟังคำพูดของผู้ดูแลจ้ง ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มือที่วาดภาพอยู่ก็ไม่ได้หยุดลง
ผู้ดูแลจ้งรู้ ว่าหัวหน้าไม่มีความคิดเห็นอะไรกับการกระทำของหัวหน้าน้อย
แน่นอนว่า การกระทำก่อนหน้านั้นของเขามันมีเมตตาเกินไป หากทำตามอย่างที่เขาว่า หัวหน้าก็คงไม่มีความคิดเห็นอะไร แต่นั้นก็ไม่ใช่ผลที่จะทำให้หัวหน้าพึงพอใจได้
“หัวหน้าน้อยยังได้ประกาศว่าเจอเจ้าหญิงตัวจริงแล้ว”ซ่างกวนหงไม่ได้ตอบสนองใดๆ ผู้ดูแลจ้งยังคงรายงานต่อไปเรื่อยๆ
ครั้งนี้ซ่างกวนหงมีปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว มือที่วาดภาพอยู่ก็ชะงัก ดวงตาคู่คมมองไปที่ผู้ดูแลจ้ง“เขาหมายถึงใคร?”
“เรื่องที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกับเวินลั่วฉิงคือคนเดียวกันนั้นหัวหน้าน้อยยังไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นหัวหน้าน้อยจึงคิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของเรา ”
ซ่างกวนหงตะลึง แต่ใบหน้าก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร ไม่ได้แปลกใจ และไม่ได้ผิดหวัง
แม้ผู้ดูแลจ้งจะอยู่รับใช้ซ่างกวนหงมานานสี่สิบกว่าปี แต่บางครั้งผู้ดูแลจ้งก็ดูไม่ออกว่าหัวหน้านั้นกำลังคิดอะไรอยู่
“หัวหน้า หัวหน้าน้อยบอกว่าจะให้หัวหน้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังตรวจดีเอ็นเอกัน ผลลัพธ์แบบนี้ให้ผลเร็วกว่า และตรงจุดที่สุด”ผู้ดูแลจ้งแอบถอนหายใจ แต่ก็ยังก้มหน้าบอกเล่าแผนการของหัวหน้าน้อยให้หัวหน้าได้รู้
“เขามีวิธีเหรอ?”คิ้วของซ่างกวนหงเลิกขึ้นเล็กน้อย พู่กันในมือก็ถูกวางลงข้างๆ น้ำเสียงสงบนิ่งเหมือนเวลาปกติ เพียงแต่ว่า หากมองดูดีๆ จะเห็นว่า ตอนที่เขาวางพู่กันลงนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมือไม้สั่นหรือยังไง มีสะเก็ดของสีกระเด็นไปยังหน้ากระดาษ
แม้จะรู้ว่าถังฉิ้นเอ๋อก็คือเวินลั่วฉิง จนถึงตอนนี้ หลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาค้นพบทุกอย่างพิสูจน์ว่าเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวของเวินจือฝาง
แต่ในใจของซ่างกวนหงก็ยังมีความหวังเล็กๆ เด็กสาวคนนั้น เขาเองก็เคยเห็นแค่รูปถ่าย แต่ครั้งแรกที่เห็นรูปของเธอ เขาก็รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น ราวกับว่า เธอน่าจะมีสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับเขา!!
ผู้ดูแลจ้งก็พอจะรู้จักนิสัยของหัวหน้าน้อยอยู่บ้าง อีกทั้งผู้ดูแลจ้งก็สังเกตเห็น สะเก็ดสีที่กระเด็นไปบนหน้ากระดาษ และดวงตาที่ไหววูบ“หัวหน้าน้อยบอกว่าเขามีวิธีครับ”
ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าในใจของหัวหน้าก็หวังให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ
เขาเองก็หวังแบบนั้น แต่ว่า…… ซ่างกวนหงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่ได้หยิบพู่กันขึ้นแล้ววาดภาพต่อ ซ่างกวนหงทำเพียงมองดูภาพวาดนั้น ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“หัวหน้า คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ผมเกรงว่าเธอจะรู้ตัวเสียก่อน”ผู้ดูแลจ้งพูดความกังวลที่มีในใจออกมา
“แม้ปรกติอะเฉิงจะเป็นคนที่มั่นใจตัวเองไปหน่อย แต่งานที่เขาทำก็ถือว่าได้เรื่องอยู่ โดยเฉพาะกับเรื่องที่เขาสนใจอยากจะทำ เขาจะตั้งใจทำมันออกมาให้ดี ความสามารถของเขานายเองก็รู้ อะไรที่เขาตั้งใจทำ น้อยครั้งนักที่จะมีข้อบกพร่อง”เป็นเรื่องยากที่ซ่างกวนหงจะพูดอะไรที่มันยืดยาวแบบนี้ และคำพูดที่พูดออกมานี้ ก็ชี้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับการกระทำของมู่เฉิง
ผู้ดูแลจ้งได้ยินคำพูดของหัวหน้า ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก
“หากมีเรื่องเข้าใจผิดอะไร ฉันจะไปอธิบายให้เธอเอง ” จากนั้น ซ่างกวนหงก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง
ผู้ดูแลจ้งตะลึง หัวหน้าหมายความว่าหากเกิดเรื่องเข้าใจผิดอะไร หัวหน้าจะออกหน้ารับเอง และไปอธิบายด้วยตัวเอง?
เขาไม่ได้ฟังผิดอยู่ใช่ไหม?
ไม่ต้องพูดว่าหลายปีมานี้เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้หัวหน้าแทบไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรด้วยเลย หรือต่อให้จะเป็นเมื่อยี่สิบปีก่อนตอนที่หัวหน้าดูแลบริหารองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็น้อยครั้งมากที่หัวหน้าจะออกหน้าจัดการเรื่องอะไรต่อมิอะไรเอง
เพราะเรื่องที่จะให้หัวหน้าออกหน้าจัดการเองนั้นมีอยู่น้อยมาก และคนที่สามารถให้หัวหน้าต้องไปเจอด้วยตนเองนั้นก็น้อยมากด้วยเช่นกัน
ผู้ดูแลจ้งติดตามซ่างกวนหงมานานกว่าสี่สิบปี นี่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ยินซ่างกวนหงเอ่ยปากพูดเองว่าจะไปเจอใครด้วยตัวเอง เพียงเพื่อจะไปอธิบายความเข้าใจผิดอันน้อยนิดที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ผู้ดูแลจ้งจะไม่ประหลาดใจได้ยังไง?
ผู้ดูแลจ้งรู้ซึ้งในเรื่องหนึ่ง หากผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นลูกสาวของหัวหน้า อย่างนั้นก็จะไม่มีเรื่องเข้าใจผิดอะไร
ดังนั้น หากมีเรื่องเข้าใจผิด นั้นก็หมายความว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า แต่หัวหน้าก็บอกว่าจะไปอธิบายด้วยตัวเอง?
ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าในใจของหัวหน้านั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นคนพิเศษ แต่ผู้ดูแลจ้งก็แค่ไม่คิดว่ามันจะพิเศษถึงขั้นนี้
ผู้ดูแลจ้งแอบถอนหายใจ ไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีก ผู้ดูแลจ้งหวังเพียงให้พระเจ้าเห็นใจ หวังให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นลูกสาวของหัวหน้าจริงๆ
หรือไม่ก็ หวังให้หัวหน้าน้อยลงมือทำงานอย่างระมัดระวัง อย่าทำเรื่องอะไรให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้
เพราะถ้าหากว่า ผลตรวจดีเอ็นเอที่ออกมาคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า แน่นอนว่าหัวหน้าต้องเสียใจมาก และยังต้องให้หัวหน้าไปอธิบายเรื่องที่เข้าใจผิด และขอโทษอีก ในใจของหัวหน้าต้องรู้สึกแย่เอามากแน่ๆ
นิสัยของหัวหน้าน้อยเป็นคนทำตามอย่างที่พูด เรื่องอะไรที่เขาอยากทำก็จะไม่คอยท่า ดังนั้นพอหัวหน้าน้อยแยกกับผู้ดูแลจ้งก็จึงรีบไปจัดการทันที!!
ในตอนเที่ยง ถังหยุนเฉิงเลิกงานและเดินผ่านทางเข้าของโรงพยาบาล ก็เห็นผู้คนจำนวนมากออกันอยู่ที่หน้าประตู ขวางทางเข้าออกของโรงพยาบาลเอาไว้จนมิด และกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งของถนน
บนถนนมีคนจำนวนมาก คนขับก็จึงต้องชะลอความเร็วลง
“เกิดอะไรขึ้น?!”เมื่อถังหยุนเฉิงเห็นสถานการณ์ที่ทางเข้าของโรงพยาบาล คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย นี่เป็นโรงพยาบาลของตระกูลถัง เกิดเรื่องอะไรขึ้นถังหยุนเฉิงต้องดูแลรับผิดชอบ
ถังหยุนเฉิงลดกระจกลง จากที่ไกลๆก็ได้ยินเสียงของคนร้องไห้ เสียงร้องไห้นั้นเศร้าเสียใจมาก ทำคนได้ยินอดเศร้าไปด้วยไม่ได้!!