ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1470 ถูกจับได้แล้ว (2)
“ไม่เป็นไรแล้ว นายยุ่งของนายเถอะ” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของคุณชายห้าฉิงแล้ว สีหน้าก็ค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย
คำพูดที่คุณชายห้าฉิงพูดเธอเชื่ออยู่แล้ว คุณชายห้าฉิงที่เป็นหัวหน้าสถานีตำรวจไปยังที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เธอเชื่อในความสามารถของคุณชายห้าฉิง เหตุการณ์ที่คุณชายห้าฉิงสืบมาไม่มีปัญหาแน่นอน
อีกอย่างเป็นเรื่องที่ใหญ่โตขนาดนี้ คุณชายห้าฉิงก็ไม่กล้าทำอะไรลวกๆ ดังนั้นสามารถตัดสถานการณ์ที่ว่ามีคนบงการทิ้งได้เลย
คุณชายหานและเจ้าเก้าก็เป็นคนที่ช่างสังเกต เห็นสีหน้าของเวินลั่วฉิงค่อยๆ ปล่อยวาง บอกกับได้ยินเวินลั่วฉิงบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว จึงเข้าใจ เรื่องนี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าน้อยพวกเขา
โชคดี โชคดี!!
โชคดีที่ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าน้อยพวกเขา โชคดีที่ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ไม่เช่นนั้นดูจากสีหน้าของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเมื่อกี้แล้ว ชีวิตของพวกเขาอาจจะเอาไม่อยู่แล้ว
“ฉันบอกแล้วว่าพวกเราไม่ใช่คนโหดร้ายแบบนั้น เธอน่าจะเชื่อใจฉัน ไม่ควรสงสัยฉัน” คุณชายหานรู้ว่าเรื่องอุบัติเหตุทางรถไม่เกี่ยวข้องกับหัวหน้าน้อย ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ทันใดนั้นก็ปล่อยวางไปเลย
“เมื่อกี้นายไม่ได้มีความมั่นใจขนาดนี้” เวินลั่วฉิงกวาดสายตาไปทางคุณชายหาน ตอนที่เขาพูดเมื่อกี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความกลัว แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ
“เฮอะๆ …..” คำพูดนี้ทำเอาคุณชายหานไม่รู้จะตอบยังไงเลย คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นคนที่พูดตรงประเด็น ไม่สามารถทำให้คนหลีกเลี่ยงได้
“ตอนนี้สามารถพูดเรื่องของพวกนายได้แล้วสินะ?” เวินลั่วฉิงเห็นพวกเขารออยู่ข้างนอก ไม่ได้จากไป ดูจากท่าแล้วพวกเขาก็เป็นห่วงเธอมาก และตอนนี้ก็มั่นใจแล้วว่าเรื่องอุบัติเหตุทางรถไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากพูด แต่ว่าฉันพูดไม่ได้ หรือว่าเธอรออีกนิดไหม…..” คุณชายหานไอออกมา คำถามนี้สร้างความลำบากใจให้กับเล็กน้อยจริงๆ ทางหนึ่งคือหัวหน้าน้อย อีกทางหนึ่งคือคนที่อาจจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา เขาห้ามสร้างเรื่องบาดหมางด้วยทั้งสองฝ่ายเลย
หากเขาเปิดเผยตัวตนในตอนนี้ แผนการหลังจากนี้ของหัวหน้าน้อยก็ดำเนินยากแล้ว หากเป็นเพราะเขาจึงทำให้เสียแผนหัวหน้าน้อย คุณชายหานจะไม่สงสัยเลยว่าหัวหน้าน้อยสามารถลอกหนังของเขาออกมาได้เลย
“รออะไร?” เวินลั่วฉิงยักคิ้วเล็กน้อย รอก่อน? รออะไร? คำพูดนี้ของเขามีความหมายอื่นอย่างชัดเจน
“ดังนั้น พวกนายยังมีแผนการอื่นอยู่” เวินลั่วฉิงหรี่ตาลง ถึงแม้ว่าจะมีน้ำเสียงที่เป็นประโยคคำถาม ทว่าเธอก็มั่นใจแล้ว
รอก่อน รอให้แผนการอื่นของพวกเขามาก่อน พอถึงเวลาก็น่าจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณชายหานตะลึงงัน ในใจตกใจมาก ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เขาพูดอะไรไปเหรอ?
เขาพูดอะไรไป?
เขาไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ!
เขากำลังช่วยหัวหน้าน้อยปกปิดอยู่แท้ๆ!
ทำไมถึงทำให้หัวหน้าน้อยถูกเปิดโปงล่ะ!
แบบนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังยังสามารถเดาออกได้ว่าพวกเขามีแผนการอื่น เขาหมดคำจะพูดแล้วจริงๆ
คุณชายหานรู้สึกว่าเรื่องนี้โทษเขาไม่ได้จริงๆ จะโทษก็ต้องโทษว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังฉลาดเกินไป การตอบสนองนี้เร็วเกินไปแล้ว ไม่ใช่การตอบสนองที่คนปกติควรจะมี
คุณชายหานอดถอนหายใจไม่ไหว จบ เขาจบ เขาเปิดโปงแผนการของหัวหน้าน้อยแล้ว หลังจากนี้ หัวหน้าน้อยอยากจะสำเร็จก็ยากกว่าเดิมแล้ว พอถึงเวลาหัวหน้าน้อยไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ
ทำไมเขาถึงซวยขนาดนี้เนี่ย?!
หากรู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาก็ไม่รับหน้าที่นี้แล้ว
“ได้สิ ฉันจะรอดู รอดูว่าพวกนายยังมีท่าไม้ตายอะไร” เวินลั่วฉิงอดหัวเราะไม่ไหว ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอในตอนนี้ทำให้คุณชายหานรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“ไม่ ไม่เรื่องอะไร” คุณชายหานคิดอยู่ว่าเขาน่าจะยังสามารถดิ้นรนได้อยู่ ไม่มากก็น้อยที่สามารถชดเชยได้ พอถึงเวลาหัวหน้าน้อยจะถลอกหนังของเขาออกก็จะได้เร็วหน่อย อย่างน้อยก็ทำให้เขาเจ็บปวดน้อยลง
เห็นได้อย่างชัดเจนเลย คำปฏิเสธของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีความมั่นใจมาก ทันใดนั้นก็ถูกเวินลั่วฉิงมองออก เวินลั่วฉิงมองไปทางคุณชายหาน เหมือนยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “ก่อนหน้านี้แค่การคาดเดาแปดในสิบของฉัน หลังจากได้ยินประโยคนี้ของนายแล้ว ฉันก็มีความมั่นใจสิบในสิบแล้ว ดังนั้น ขอบใจนายมาก”
คุณชายหานอึ้งไปเลย ดวงตาคู่หนึ่งเบิกตาโตมองไปทางเวินลั่วฉิง กล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด สุดท้ายก็บีบคำพูดออกมาสามคำว่า “ไม่เป็นไร”
ตอนนี้นอกจากสามคำนี้แล้วเขายังสามารถพูดอะไรได้อีก?
เขายังสามารถพูดอะไรได้อีก
ตอนแรกเขาก็แค่อยากจะช่วยยื้อสถานการณ์หน่อย ใครจะรู้ว่ากลับทำให้เรื่องแย่กว่าเดิม ตอนนี้เขาสามารถเก็บคำพูดเมื่อกี้กลับคืนมาได้หรือเปล่า?
“พี่จบแน่ พี่จบแน่ พี่ช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว พี่……พี่ทำให้แผนการใหม่ถูกเปิดโปงแล้ว พี่รอตายละกัน ผมจะรอดูพี่ถูกแล่เนื้อเถือหนัง หรือว่าก็ถูกถลอกหนังออกมา หรือทรมานยิ่งกว่านั้น ให้พี่ตายทั้งเป็น” เสี่ยวซินในตอนนี้เหมือนจะเข้าใจบ้างแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยจะทำอะไรกันแน่ แต่ชัดเจนเลยว่าหัวหน้าน้อยยังมีแแผนการอื่น ทว่าตอนนี้กลับถูกคุณชายหานเปิดโปงออกมาแล้ว
หากแผนการของหัวหน้าน้อยล้มเหลวเพราะสิ่งนี้ หากหัวหน้าน้อยไม่รู้ว่าคุณชายหานเป็นคนเปิดโปง งั้นก็ไม่ใช่หัวหน้าน้อยแล้ว
เสี่ยวซินไม่ได้ปกปิดในความรู้สึกยินดีปรีดากับความโชคร้ายของผู้อื่นแล้ว เมื่อก่อนเขาจะถูกคุณชายหานรังแกทุกครั้ง ในที่สุดครั้งนี้ก็สามารถแก้แค้นได้แล้ว!!
ในตอนที่เจ้าเก้ามองไปทางคุณชายหาน นัยน์ตามีความสงสารอยู่ เป็นเหมือนกับที่เสี่ยวซินพูดเลย คุณชายหานจบแล้วจริงๆ
“ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้เนี่ย พวกนายเป็นองค์กรอะไรกันเนี่ย? หรือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายเหรอ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินเรื่องพวกนี้แล้วรู้สึกตกใจมาก ก็แค่พูดผิดไป จริงๆ แล้วคำพูดเมื่อกี้ เธอฟังอะไรไม่ออกเลย
เพราะว่าฉิงฉิงบ้านเธอฉลาดเกินไป ฟังปัญหาออก ดังนั้น คุณชายนั้นไม่ถือว่ามีผิดอะไร
ถูกแล่เนื้อเถือหนัง? ถูกถลอกหนังออกมา? ยังตายทั้งเป็นอีก?
นี่เป็นคนอะไรกัน? เป็นองค์กรก่อการร้ายอะไรกัน?
แน่นอน สิ่งที่เฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นห่วงไม่ใช่องค์กรก่อการร้ายของพวกเขา เฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นห่วงว่าพวกขาจะเป็นอันตรายต่อฉิงฉิงหรือเปล่า
เสี่ยวซินได้ยินคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียวแล้วก็เบิกตาโต อยากจะตะโกนออกมาดังว่า พวกเขาไม่ใช่องค์กรก่อการร้ายไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน
พวกเขาองค์กรโกสต์ซิตี้กลายเป็นองค์กรก่อการร้ายได้ยังไง?!
ทว่าเสี่ยวซินนึกถึงสิ่งที่เขาพูดอีกครั้ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหากปฏิเสธในตอนนี้เกรงว่าจะไม่มีคนเชื่อแล้ว
“ไม่ ไม่น่ากลัวเลยสักนิด พวกเราไม่ใช่คนที่โหดร้าย ไม่เคยทำเรื่องโหดร้ายพวกนั้นเลย” คุณชายหานรู้สึกว่าไม่สามารถให้เรื่องราวดำเนินการต่อในแบบนี้ได้แล้ว เขาเป็นห่วงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะมองว่าพวกเขาชั่วเกินไป พอถึงเวลาหากมั่นใจแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงของพวกเขา และคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่กลับองค์กรโกสต์ซิตี้พร้อมพวกเขาก็แย่แล้ว
“กฎของพวกเราเข้มงวดมาก ห้ามทำเรื่องร้ายๆ แบบนั้นเด็ดขาด” คุณชายหานมองตรงไปทางคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ขณะนี้เขาหวังแค่ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะสามารถเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“จริงๆ กฎของพวกเราเข้มงวดมาก เข้มงวดมากจริงๆ!!” คุณชายหานกลัวว่าเวินลั่วฉิงจะไม่เชื่อ จึงรีบเน้นย้ำ
“ไม่เชื่อนายลองถามเธอดู เธอไม่โกหกแน่นอน” คุณชายหานเองก็รู้สึกได้แล้วว่าตัวเองไม่ได้มีความน่าเชื่อถือต่อหน้าคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ดังนั้นจึงชี้ไปทางเจ้าเก้า
“ใช่ กฎของเราเข้มงวดมาก” เจ้าเก้ารู้สึกว่าจุดนี้ไม่มีอะไรน่าปกปิด ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง
เจ้าเก้าอาจจะกังวลว่าจะทำคุณหนูใหญ่ตระกูลถังตกใจ จึงพูดเสริมอีกประโยคว่า “เสี่ยวซินพูดมั่ว พูดเล่นๆ ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน”
ในตอนที่เจ้าเก้าพูดประโยคนี้ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางแล่เนื้อเถือหนัง ไม่มีทางถลอกหนัง ทว่าหัวหน้าน้อยก็มีหลานพันล้านวิธีมาทรมานคุณชายหาน
“ใช่ ใช่ เธออย่าตกใจในคำพูดของเสี่ยวซินนะ กฎของเราเข้มงวดมาโดยตลอด ห้ามทำอะไรมั่วๆ เด็ดขาด หากทำผิดกฎแล้ว ต้องได้รับการลงโทษแน่นอน” คุณชายหานได้ยินเจ้าเก้าให้ความร่วมมือกับเขา ก็โล่งอกไปที รู้สึกว่าแบบนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็น่าจะเชื่อแล้ว
“กฎเข้มงวดมาก?” เวินลั่วฉิงมองไปทางคุณชายหาน จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา รอยยิ้มนั้นอ่อนโยนมาก ทว่ากลัวมีอย่างอื่นแฝงอยู่
“ถูก……ถูกแล้ว” คุณชายหานมองไปทางใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอ รู้สึกว่าเหมือนสติหลุดไปอีกแล้ว ดังนั้นจึงตอบกลับไปประโยคหนึ่ง
จริงๆ แล้วคำพูดนี้ไม่ได้ผิด และไม่ได้ได้มีปัญหา จริงๆ แล้วปกติมาก
ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงค่อยๆ โค้งงอขึ้น รอยโค้งนั้นสวยงามมาก ทว่าคุณชายหานมองแล้วไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกหนาวสั่น จู่ๆ คุณชายหานก็รู้สึกเหมือนมีรางไม่ค่อยดี!!