ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1494 เขาบอกว่า ไม่ต้องการแล้ว (2)
หลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของอะเหลียงแล้ว รู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจของตนเองบีบแน่นขึ้น แน่นจนรู้สึกแย่ ทันใดนั้นเหมือนทำให้เขาหายใจไม่ค่อยทัน
เขาเป็นคนที่ฉลาดขนาดนั้น และในตอนนี้จริงๆ แล้วคำพูดของอะเหลียงชัดเจนมากๆ แล้ว ทว่าวินาทีนี้ เขากลับรู้สึกว่าตนเองไม่เข้าใจ หรืออาจจะไม่ใช่เพราะเขาไม่เข้าใจ แต่เพราะเขาไม่อยากเข้าใจ
อะเหลียงอึ้งไปเลย ตะลึงงันไปเลย เมื่อกี้เขายังพูดไม่ชัดเจนเหรอ หัวหน้าที่ชาญฉลาดกลับถามเขาว่าหมายความว่าอะไร?
นี่เกิดอะไรขึ้น? ใครสามารถบอกเขาได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น?
ขณะนี้ผู้ดูแลจ้งที่อยู่ข้างๆ ฟังจนรู้สึกสึกงงเล็กน้อย หัวหน้าถามว่าหมายความว่าอะไร?
อะเหลียงบอกกับหัวหน้ายังไงกันแน่? อะเหลียงพูดว่ายังไงกันแน่ ทำไมหัวหน้าถึงถามแบบนี้?
ผู้ดูแลจ้งในขณะนี้มองดูมือของหัวหน้าบ้านตนเองจับโทรศัพท์แน่น อีกอย่างเหมือนร่างกายสั่นเล็กน้อยด้วย และสีหน้าของหัวหน้าในตอนนี้ก็ไม่มีการปกปิดอะไร ทว่าเขากลับแยกไม่ออกมาสีหน้าของหัวหน้าคืออารมณ์แบบไหน
ดังนั้นนี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผู้ดูแลจ้งในขณะนี้มีความสงสัยมากมาย ทว่าผู้ดูแลจ้งไม่ได้ถามออกมา
“หัวหน้า ผลการตรวจดีเอ็นเอคือศูนย์ครับ ก็คือ ท่านกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่พ่อลูกกันครับ” อะเหลียงในตอนนี้ก็ตกใจมาก ทว่าก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามของหัวหน้า
เมื่อกี้หัวหน้าถามเขาว่าหมายความว่าอะไร งั้นเขาทำได้แค่อธิบายให้ชัดเจน
“นายบอกว่า……ไม่ใช่” มือที่จับโทรศัพท์ของซ่างกวนหงแน่นยิ่งขึ้น ขณะนี้จู่ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก เจ็บจนหายใจไม่ออก
ไม่ใช่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ใช่?!
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยนึกถึงผลแบบนี้ ในตอนแรกเขาเองก็คิดไว้แล้วว่าจะเตรียมใจรับมือกับผลแบบนี้ ทว่าตอนนี้พอตนเองได้ยินผลแบบนี้กับหู เขาจึงจะเข้าใจว่า เขาแท้จริงๆ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย
ไม่ เขาไม่สามารถรับได้กับผลแบบนี้
ทำไมถึงไม่ใช่ล่ะ?
ทำไมถึงไม่ใช่?
เขาฟังผิดไปเหรอ?
หรือว่าอะเหลียงพูดผิดไป?!
ใช่ อะเหลียงอาจจะพูดผิดก็เป็นได้ ดังนั้น ขณะนี้ในน้ำเสียงของซ่างกวนหงมีความร้องขอให้ยืนยันอย่างระมัดระวังอยู่ เขาอยากจะให้ยืนยันอีกครั้ง เขาไม่เชื่อในผลแบบนี้
อะเหลียงได้ยินน้ำเสียงที่มีความระมัดระวังของหัวหน้าแฝงอยู่อย่างชัดเจนแล้วก็ตกใจอีก เมื่อกี้เขาพูดได้ชัดเจนมากๆ แล้ว หัวหน้ายังต้องการให้ยืนยันอีกครั้ง!
หัวหน้าไม่อยากยอมรับผลแบบนี้ขนาดไหนกันเนี่ย?!
ตอนแรกอะเหลียงรู้สึกว่าการตอบสนองของหัวหน้าในเมื่อกี้รุนแรงพอแล้ว ทว่าหากเทียบกับตอนนี้แล้วหัวหน้าเกินเลยยิ่งกว่าเดิม
พอนึกถึงการตอบสนองของหัวหน้าในเมื่อกี้ ได้ยินน้ำเสียงของหัวหน้าในตอนนี้แล้ว อะเหลียงจึงจะเข้าใจว่าการโทรสายนี้มันยากเพียงไหน
ถึงว่าล่ะเมื่อกี้หัวหน้าน้อยไม่โทร แต่ให้เขาโทร
หัวหน้าน้อยคงจะคิดว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ทว่าถึงจะเอ่ยปากพูดยากแค่ไหน เรื่องบางอย่างเขาก็ยังจะพูดอยู่ และจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
“ถูก” อะเหลียงพูดสองสามคำนี้ออกมาแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองได้ใช้พลังในร่างกายไปหมดแล้ว ทว่าหัวหน้าไม่เข้าใจ อะเหลียงก็ยังพูดเสริมอีกประโยคว่า “จากผลตรวจดีเอ็นเอในครั้งนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้าครับ”
แบบนี้ พอชัดเจน พอเข้าใจแล้วสินะ!!
ทว่าอะเหลียงก็ยังรู้สึกว่าโหดร้ายมากเกินไป!!
หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาคงไม่รีบโทรสายนี้หรอก ถึงแม้ว่าจะยืดไปถึงพรุ่งนี้เช้าก็ตาม ทว่าอะเหลียงเองก็รู้ว่าให้หัวหน้ารออยู่แบบนี้ การรอที่แสนเจ็บปวดก็เป็นเรื่องที่โหดร้ายเช่นกัน
เรื่องนี้มีเพียงความเป็นไปได้หนึ่งที่ไม่โหดร้ายก็คือคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นลูกสาวของหัวหน้า ทว่าตอนนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอกลับพลิกแพลงความเป็นไปได้นั้นไป
ผู้ดูแลจ้งได้ยินหัวหน้าของบ้านตนเองพูดว่าไม่ใช่ก็ตะลึงงันไปแล้ว ไม่ใช่?
คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า?
ถึงแม้ว่าตั้งแต่ที่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเวินลั่วฉิง ผู้ดูแลจ้งก็รู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขานั้นไม่สูง ทว่าหัวหน้าน้อยมีพลังบวกขนาดนั้น หัวหน้าน้อยอารมณ์คึกคักขนาดนั้น ในใจของเขาก็ยังมีความหวังอยู่
และผู้ดูแลจ้งรู้ว่าความหวังที่หัวหน้ามีนั้นมากมายกว่าเขาแน่นอน
แค่ตอนที่หัวหน้ารอผลออกมาก็สามารถมองออกแล้ว ทว่าผลแบบนี้ในตอนนี้……
หัวหน้าจะสามารถรับไหวไหม?
หัวหน้าจะสามารถรับการโจมตีแบบนี้ไหมไหว?
ซ่างกวนหงไม่ได้พูดอะไรอีก และไม่ได้ร้องขอให้ยืนยัน เขารู้ อะเหลียงพูดชัดเจนมากแล้ว เขาฟังออกอย่างชัดเจนแล้ว อะเหลียงไม่ได้พูดผิด เขาเองก็ไม่ได้ฟังผิด ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะร้องขอความยืนยันเพื่อหลอกตนเองอีกต่อไปแล้ว
ผลออกมาแล้ว ผลตรวจดีเอ็นเอขึ้นว่าถังฉิ้นเอ๋อไม่ใช่ลูกสาวของเขา ผลการตรวจคือศูนย์ เขาและถังฉิ้นเอ๋อไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน
หลังจากที่ซ่างกวนหงวางสายแล้ว สีหน้าดูเงียบสงบ สีหน้าและอารมณ์ในเมื่อกี้หายไปหมดเลย ราวกับว่ากลับมาเงียบสงบเหมือนปกติแล้ว
เขาเม้มริมฝีปากเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ทำอะไร เขานั่งอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับและไม่พูด
ผู้ดูแลจ้งเห็นสภาพเขาในแบบนี้แล้วก็ตกใจมากๆ สภาพของหัวหน้าในตอนนี้……
ผู้ดูแลจ้งจำได้ว่าหัวหน้าตามหามานานขนาดนี้ ก็หาคุณนายไม่เจอมาโดยตลอด ในตอนที่หัวหน้ายอยากจะยอมแพ้ ก็เป็นสภาพแบบนี้ ดูผิดหวังเหมือนตายใจไปแล้ว ท้อแท้หมดใจไปหมด
ราวกับว่าจะจากโลกนี้ไปอยู่ตลอดเวลา
หัวหน้าในแบบนี้ทำให้ผู้ดูแลจ้งเห็นแล้วรู้สึกกลัว
“หัวหน้า……” ผู้ดูแลจ้งเอ่ยปากพูดพร้อมเสียงสั่น ผู้ดูแลจ้งเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองจะพูดอะไร ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถพูดอะไรได้อีก
ทว่าผู้ดูแลจ้งกลัวว่าหากตนเองไม่พูดอะไร หัวหน้าบ้านเขาอาจจะ……
ซ่างกวนหงไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ขยับ แม้กระทั่งลูกตาก็ไม่ได้ขยับเลย เขายังคงนั่นอยู่ที่นั่น นั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ
ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดบนโลกนี้ถูกเขากั้นไว้อยู่ข้างนอก ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดต่างก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแล้ว
“หัวหน้า หัวหน้าพูดหน่อยสิ อย่าทำผมตกใจสิครับ” ผู้ดูแลจ้งตกใจมากจริงๆ สภาพแบบนี้ของหัวหน้าน่าตกใจยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ที่ตามหาคุณนายไม่เจอ
ซ่างกวนหงเหมือนค่อยๆ ได้สติกลับมา ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปทางผู้ดูแลจ้ง ทว่า เขาก็ยังคงไม่พูดอะไร แค่มองดูผู้ดูแลจ้งอยู่อย่างนั้น
ราวกับว่ามีความสับสนบางอย่างอยู่ ราวกับไม่รู้ว่าผู้ดูแลจ้งกำลังพูดอะไร
“หัวหน้า ท่านพูดหน่อยสิครับ” ผู้ดูแลจ้งรู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจดวงหนึ่งดิ่งลงเหวอย่างต่อเนื่อง หัวหน้าในแบบนี้ทำให้เขากลัว ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
ในที่สุดก็เหมือนซ่างกวนหงเข้าใจความหมายของผู้ดูแลจ้งแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งของเขายังคงมองดูผู้ดูแลจ้ง นึกคิดไปนานมาก จึงจะค่อยๆ เอ่ยปากขึ้น “พระเจ้าก็ยังคงโหดร้ายกับฉันเช่นเดิม อาจจะเป็นเพราะเมื่อยี่สิบห้าปีก่อนฉันครอบครองเยอะเกินไป ดังนั้นยี่สิบห้าปีหลังจากนั้นฉันจึงจำเป็นต้องเสียทุกอย่างไป”
ขณะนี้ซ่างกวนหงใช้คำว่าจำเป็น ทำให้คนที่ฟังแล้วรู้สึกสงสารและเจ็บปวดเป็นพิเศษ
ตั้งแต่ที่เขาเกิดมาก็เป็นผู้สืบทอดขององค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นสิ่งเขาที่เขาได้ครอบครองตั้งแต่เด็กมีมากมาย มากมายเกินไป
เขาไม่ขาดอะไรทั้งนั้น เขาอยากได้อะไรก็จะมีคนส่งให้ถึงมือ เขาอยากทำอะไรก็สามารถทำได้
ตั้งแต่ที่เกิดมา ทุกอย่างของเขาราบรื่นเกินไปแล้ว
ดังนั้น หลังจากยี่สิบห้าปีนี้ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้เหรอ?
สิ่งที่เขาต้องการถูกลิขิตให้สูญเสียไป ไม่ได้รับสักสิ่ง ถูกลิขิตให้ไม่ได้มีทุกสิ่งเลยเหรอ? !
หากเป็นเช่นนี้ เขายอมที่จะไม่เอาอะไรเลยในตอนนั้น เขาแค่อยากมีผู้หญิงที่คนเองชอบ เขาแค่อยากมีลูกสาวคนหนึ่งของเขา
ทว่าเขารู้ พระเจ้าไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอก พระเจ้าโหดร้ายกับเขาเช่นนี้แหละ!!
“หัวหน้า พวกเราไว้ไปหากันเถอะครับ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งั้นต้องเป็นคนอื่นแน่นอนครับ พวกเราไปถามหาต่อ ต้องหาเจ้าหญิงเจอแน่นอนครับ” ผู้ดูแลจ้งได้ยินน้ำเสียงของหัวหน้าบ้านตนเองแล้วรู้สึกเพียงแต่เจ็บปวดอยากจะร้องไห้ หัวหน้าบ้านเขาเป็นคนที่น่าภูมิใจขนาดนั้น เป็นคนที่บ้าระห่ำขนาดนั้น
หัวหน้าในตอนนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ!!
ถึงแม้พวกเขาเองต่างก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ทว่าผลการตรวจดีเอ็นในตอนนี้ขึ้นว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่
งั้นพวกเขาสามารถตามหาต่อได้ ไปหาเจ้าหญิงตัวจริง ขอแค่เจ้าหญิงยังอยู่ พวกเขาต้องหาเจอแน่นอน
“ไม่ต้องการแล้ว” นัยน์ตาของซ่างกวนหงมองไปทางระยะไกล ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เสียงพึมพำของเขาฟังไม่ออกถึงอารมณ์มากมาย ทว่ากลับทำให้รู้สึกหดหู่เป็นพิเศษ
“ไม่? ไม่ต้องการแล้ว?” ผู้ดูแลจ้งตะลึงไปเลย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของหัวหน้าบ้านคนเอง ในเมื่อตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ใช่เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งั้นก็ต้องตามหาเจ้าหญิงตัวจริงต่อ ทำไมหัวหน้าถึงไม่ต้องการแล้วล่ะ
ไม่ ถึงแม้ว่าหัวหน้าไม่อยากหา งั้นก็ไม่ต้องตามหาแล้ว ทำไมหัวหน้าถึงบอกว่าไม่ต้องการแล้วล่ะ?
หัวหน้าหมายความว่าอะไร? หัวหน้าคิดอะไรอยู่กันแน่? หรือควรจะพูดว่าหัวหน้าอยากทำอะไร?