ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1498 ความจริงของเรื่อง (2)
ตอนนี้พวกเขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องไปทำ
“หัวหน้าน้อย ครั้งที่แล้วแผนการของพวกเราสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ทว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองออกในแวบเดียวเลย ไม่ติดกับดักเลย ดังนั้นแผนการของเราในครั้งนี้ต้องสมบูรณ์กว่าเดิม ต้องเพอร์เฟกต์กว่าเดิมจึงจะได้ ไม่เช่นนั้นไม่มีประโยชน์เลย อยากจะให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังติดกับดังไม่ง่ายจริงๆ” คุณชายหานใช้ประสบการณ์ของตนเองบอกกับหัวหน้าน้อยว่าเรื่องนี้ยากเพียงไหน
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีแผนการเป็นชิ้นเป็นอัน” จริงๆ แล้วหัวหน้าน้อยเองก็รู้ว่าเรื่องนี้ยากเพียงไหน ทว่าเขาก็ยังวางแผนมาหลายแผน แต่ว่าตอนนี้พอลองคิดอย่างละเอียดดูแล้ว รู้สึกว่าต่างก็ใช้ไม่ค่อยได้
“ครั้งนี้ พวกเราจำเป็นต้องประสบความสำเร็จ ห้ามล้มเหลวอีกเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว” คุณชายหานในตอนนี้สีหน้าจริงจังมาก และเข้มงวดมาก ไม่ใช่เพราะเขาพูดโอเวอร์เกินเลยแน่นอน นี่เป็นเรื่องจริงๆ
หัวหน้าน้อยมองเขาไปหนึ่งที แต่ว่าไม่ได้คัดค้านคำพูดของเขา “คือจำเป็นต้องวางแผนให้ดี ห้ามล้มเหลว”
ชัดเจนเลยว่าหัวหน้าน้อยเองก็เห็นด้วยกับความคิดของคุณชายหาน
ขณะนี้ เวินลั่วฉิงในบ้านของตระกูลถังไม่รู้ว่ามีคนกำลัง ‘วางแผน’ รอเธออยู่
เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อให้ถังจื่อซีอยู่ ปกติแล้วเจ้าเด็กถังจื่อซีไม่ต้องการให้เธอช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า ทว่าเสื้อผ้าในวันนี้ค่อนข้างซับซ้อน
สองสามวันนี้เด็กน้อยทั้งสองอยู่ในแต่บ้านตระกูลถังไม่ได้ออกจากบ้านเลย
ตอนแรกเวินลั่วฉิงและเย่ซือเฉินเตรียมตัวจะไปจดทะเบียนสมรส หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วก็สามารถประกาศฐานะตัวตนของเด็กทั้งสองได้แล้ว
ทว่าพวกเขาทั้งสองยังไม่ทันไปจดทะเบียนสมรส บนอินเทอร์เน็ตก็เผยเรื่องพวกนั้นของเธอออกมา ยังเผยเรื่องของลูกๆ อีกด้วย ดังนั้นเรื่องของเด็กทั้งสองจึงยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตอนนี้
ตอนนี้ถึงแม้ว่าโจ๋วอันหนานจะถูกจับแล้ว เรื่องนั้นโจ๋วอันหนานก็เป็นคนขับเคลื่อนจริงๆ ทว่ายังมีถังไป๋เชียนอีกคนหนึ่ง ถังไป๋เชียนต่างหากที่เป็นหลักสำคัญ
เธอทำงานอยู่ข้างกายของถังไป๋เชียนมาหลายปี ถังไป๋เชียนรู้เรื่องของเธอดีที่สุดแล้ว หากถังไป๋เชียนอยากจะสร้างความวุ่นวายขึ้นมาจริงๆ มันช่างง่ายเกินไปแล้ว
เรื่องอื่นเวินลั่วฉิงไม่ได้กลัว เธอกลัวแค่ถังไป๋เชียนจะทำเรื่องที่ไม่ดีต่อลูกน้อยทั้งสอง
ถังจื่อซีสวมชุดเสร็จแล้วก็เดินออกจากห้อง เวินลั่วฉิงนั่งอยู่บนเตียง นัยน์ตาหมองคล้ำ เรื่องนี้จำเป็นต้องหาวิธีแก้ไข
นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ติดต่อกับถังไป๋เชียน และไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างกายของถังไป๋เชียน เวินลั่วฉิงไม่อยากทำให้เรื่องนี้ใหญ่ ทว่าตอนนี้ถังไป๋เชียนทำเรื่องแบบนี้ออกมา เธอไม่สามารถยอมได้อีกแล้ว
เวินลั่วฉิงตัดสินใจโทรหาถังไป๋เชียน ถามให้เข้าใจเลย ถามให้เข้าใจว่าถังไป๋เชียนจะทำอะไรกันแน่
เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรออกหาถังไป๋เชียน ทว่าทางนั้นไม่มีคนรับสาย เวินลั่วฉิงโทรไปหลายสายมาก ถังไป๋เชียนล้วนไม่ได้รับสาย
เวินลั่วฉิงเผยรอยยิ้มที่ดูถูกออกมาจากมุมปาก
ในเมื่อถังไป๋เชียนไม่รับโทรศัพท์ งั้นเธอก็ต้องคิดหาวิธีอื่นแล้ว
เวินลั่วฉิงลุกขึ้น ในตอนที่หยิบกระเป๋าของตนเองออกมาเปิด เห็นกิ๊บติดผมที่อยู่ในกระเป๋า กิ๊บนี้เป็นกิ๊บได้จากหญิงสาวหน้าโรงพยาบาลที่เธอเจอเมื่อวาน
เห็นกิ๊บติดผมแล้ว นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงค่อยๆ หรี่ตาขึ้น ชัดเจนเลยว่าเมื่อวานเธอไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าตั้งแต่ที่เริ่มแผนการของพวกเขาเวินลั่วฉิงก็สามารถเดาออก ตอนนั้นคุณชายคนนั้นนำปืนมาขู่เธอ และผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็ยืนอยู่ในที่ไม่ไกลจากเธอ ชัดเจนเลยว่าจะเข้าใกล้เธอในตอนที่วุ่นวาย
เข้าใกล้เธออยากจะทำอะไร?
จากเรื่องบางอย่างในภายหลังก็ไม่ยากที่เวินลั่วฉิงจะเดาออกว่าพวกเขาอยากจะสิ่งของบางอย่างบนตัวเธอ
ตอนนี้มีหญิงสาวตั้งครรภ์เกิดอุบัติเหตุแล้วขาดเลือด เธอเห็นการตอบสนองของสองคนนั้นอย่างชัดเจน ตอนนั้นเวินลั่วฉิงก็เดาออกแล้วว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคือเลือด
ทำไมถึงอยากได้เลือดของเธอ?
เวินลั่วฉิงมองออกว่าพวกเขาไม่ได้มีความหวังร้าย ในตอนที่คุณชายคนนั้นจ่อปืนต่อหน้าเธอก็ไม่มีความหวังร้ายใดๆ และเหมือนว่ามีความกลัวเธอด้วยเล็กน้อย
ต่อมาเวินลั่วฉิงก็เดาฐานะตัวตนของพวกเขา ตอนนั้นเธอนึกถึงองค์กรโกสต์ซิตี้ หลังจากที่นึกถึงองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว เวินลั่วฉิงก็นึกถึงเรื่องของเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้
ในตอนที่ฉู่หลิงเอ๋อโทรคุยกับเธอบอกว่าเธออาจจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้
ตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจ ทว่าบนอินเทอร์เน็ตมีคนพูดแบบนั้น ไม่แน่มีความเป็นไปได้ที่คนขององค์กรโกสต์ซิตี้จะมาขอตรวจสอบยืนยัน
อยากจะยืนยันเรื่องนี้ เลือดก็ได้ เส้นผมก็ได้
ดังนั้นเดาไม่ยากว่าผู้หญิงที่อยู่ในห้องโถงคนนั้นอยากจะฉวยโอกาสหยิบเส้นผมของเธอ
จริงๆ แล้วเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูไร้สาระ องค์กรโกสต์ซิตี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเธอ?
เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเธอได้ยังไง
ทว่าเรื่องที่คนพวกนั้นทำมีเป้าหมายแบบนั้นชัดๆ
เวินลั่วฉิงรู้ว่าตอนที่เธอบริจาคเลือดให้กับหญิงตั้งครรภ์ไม่มีคนมาวุ่นวาย ดังนั้น พวกเขาไม่ได้เลือดของเธอไป
เวินลั่วฉิงมองออกถึงความไม่ยอมแพ้ของพวกเขา ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึง ‘ช่วย’ พวกเขาไปที
แน่นอน แน่นอนว่าตอนนั้นเวินลั่วฉิงก็อยากลองใจ
เด็กผู้หญิงที่อยู่นอกโรงพยาบาลคนนั้นน่าจะมีคนวางแผนมา เส้นผมเส้นนั้นเธอก็ตั้งใจทำตกเอง
ในตอนนั้นเส้นผมที่อยู่บนกิ๊บนั้นออกมาจากศีรษะของเธอจริงๆ เวินลั่วฉิงก็รู้ว่าตอนนั้นทั้งสองคนจ้องเธออยู่ สองคนนั้นตาก็เป็นคน ‘ตาดี’ หากจะเปลี่ยนเส้นภายใต้สายตาของทั้งสองนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ดังนั้น ตั้งแต่ที่ผมถูกดึงลงมา จนกระทั่งเส้นผมไปถึงมือของเจ้าเก้า เส้นผมไม่เคยถูกเปลี่ยนเลย
ทว่า สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ตอนนั้นถึงแม้ว่าเส้นผมจะถูกดึงลงมาจากศีรษะของเธอ ทว่ากลับไม่ใช่เส้นผมของเธอ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในห้องผ่าตัดเวินลั่วฉิงได้คิดเรื่องนี้ตั้งแต่บริจาคเลือดให้หญิงตั้งครรภ์คนนั้นแล้ว พอนึกถึงเป้าหมายของพวกเขา
หลังจากที่เธอบริจาคเลือดให้หญิงตั้งครรภ์แล้ว ตอนแรกพยาบาลคนหนึ่งจะส่งเธอออกมา ตอนนั้นเธอจึงขอยืมเส้นผมกับพยาบาลมาสองสามเส้น ไม่ ไม่ใช่สองสามเส้น คือหลายสิบเส้นเลย
เส้นผมของเวินลั่วฉิงไม่ได้ย้อมสี และไม่ได้ดัดลอน เป็นผมตรง เหมือนกับพยาบาลคนนั้นพอดี
ตอนนั้นพยาบาลมีความงงเล็กน้อย แต่ว่าพยาบาลรู้จักคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ดังนั้นจึงให้ความร่วมมือมาก แน่นอนว่าพยาบาลต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามบอกคนอื่น
เวินลั่วฉิงนำเส้นผมของพยาบาลคนนั้นใส่เข้าไปในเส้นผมของตนเองทีละเส้น แน่นอนว่าความยาวไม่เท่ากัน ทว่าซ่อนอยู่ในเส้นผมของเธอมองไม่ออกเลย
เพื่อที่จะป้องกันเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ถูกจับช่องโหว่ใดๆ ได้ ตอนสุดท้ายเวินลั่วฉิงไม่ได้ให้พยาบาลคนนั้นส่งเธอออกมา แต่ว่าเรียกหมอฝึกงานอีกคนหนึ่งมาแทน
หลังจากที่หมอฝึกงานส่งเธอออกจากห้องผ่าตัดแล้ว ทั้งสามคนต่างก็ไม่เห็นความผิดปกติอะไร เรื่องราวราบรื่นมาก
ตอนนั้นเวินลั่วฉิงเห็นสีหน้าที่เป็นห่วงและรนของเขาก็มีความแปลกใจเล็กน้อย
เธอรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีความหวังร้ายกับเธอ ทว่าพวกเขาเป็นห่วงเธอ เกิดคาดที่เธอคิดไว้
แต่ว่า สิ่งที่เวินลั่วฉิงรู้ดีก็คือ พวกเขาใกล้ชิดเธอนั้นมีเป้าหมาย
ดังนั้น แผนการหลังจากนี้ก็ยังต้องดำเนินต่อ
ไม่ว่ายังไงแล้วเธอได้วางแผนทุกเรื่องไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องผ่าตัดแล้ว ถึงแม้เด็กผู้หญิงคนนั้นยังเด็ก ทว่าเติบโตมาในองค์กรยมบาล และเป็นคนที่กู้หวูเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นให้ความร่วมมือดีมาก
ในตอนที่ ‘ดึง’ กื๊บติดผมลงมาจากเส้นผมเธอ ถึงแม้ว่าจะดึงออกมาจากศีรษะของเธอ แต่ว่าไม่ใช่ของเธอเป็นของพยาบาล
สำหรับจุดนี้เวินลั่วฉิงสามารถมั่นใจได้ ไม่ว่ายังไงแล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ดึงผมของเธอ เธอต้องรู้สึกเจ็บ แต่ว่าตอนที่เด็กผู้หญิง ‘ดึง’ ผมเอลงมาเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย
หากดึงผิดเป็นเส้นผมของเธอจริงๆ เวินลั่วฉิงไม่ให้พวกเขาเอาไปแน่นอน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความหวังร้าย ทว่าของๆ เธอห้ามให้คนอื่นเอาไปแบบง่ายๆ เด็ดขาด
ถึงแม้ว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้จะทำเพื่อตามหาเจ้าหญิงของพวกเขาก็ไม่ได้
ไม่ว่ายังไงแล้วคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็เกิดเรื่องกับตระกูลถังของพวกเขาไม่น้อยเลย ใครก็ไม่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะนำไปทำอะไรกันแน่
ใจที่จะทำร้ายผู้อื่นนั้นห้ามมี ใจที่ป้องกันผู้อื่นนั้นห้ามขาด ตามความสัมพันธ์ขององค์กรโกสต์ซิตี้และตระกูลถังนั้นไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ระวังหน่อยก็ไม่ผิด
เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกว่าตนเองจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วผลตรวจดีเอ็นเอจะยืนยันแล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเวินจือฝาง ทว่าเธอไม่มีทางรู้สึกว่าตนเองเป็นลูกสาวของหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้
คุณแม่ของเธอไม่มีทางมีความเกี่ยวข้องกับหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ อีกอย่างเธอก็ไม่เคยได้ยินคุณแม่พูดถึงมาก่อน คุณแม่ไม่เคยพูดถึงเลย!!
หากสมมุตติว่า เธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ เวินลั่วฉิงยิ่งไม่มีทางให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้นำเส้นผมของเธอกลับไปตรวจดีเอ็นเอแน่นอน