ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1526 เลือดย่อมข้นกว่าน้ำที่แท้จริง(2)
“เมื่อกี้หนูเห็นว่าดอกไม้ในสวนเบ่งบานดี ก็เลยอยากจะมาดูหน่อยค่ะ คุณย่าทวดไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”ถังจื่อซีรู้สึกผิดเล็กน้อย เธอรู้ว่าเธอไม่ควรจะวิ่งหนีไปไหนมั่วซั่ว ไม่ควรทำให้คนอื่นเป็นกังวล และเธอก็รู้ว่าเธอไม่ควรพูดโกหก
แต่ว่าเธอไม่สามารถเปิดเผยเรื่องของคุณลุงได้ ไม่อยากให้คุณลุงถูกคนอื่นจับได้
ไม่ง่ายเลยกว่าที่คุณลุงจะอารมณ์ดีขึ้นได้บ้าง ไม่ได้ทุกข์ใจเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เธออยากให้คุณลุงอารมณ์ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เธอรู้ว่าคุณลุงคนนั้นไม่ใช่คนไม่ดี แล้วไม่มีทางทำร้ายเธอ ดังนั้นการที่เธอช่วยคุณลุงปกปิดคงไม่ได้เป็นอะไรหรอก
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ดีแล้วล่ะ”ท่านย่าถังถอนหายใจอย่างชัดเจน “ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรต้องบอกผู้ใหญ่ก่อนนะ ตอนนี้ฟ้ามืดขนาดนี้ หนูออกไปไหนคนเดียวเดี๋ยวมันจะเป็นอันตราย เข้าใจไหม?”
ถึงท่านย่าถังจะรู้ว่าถังจื่อซีไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะต้องกำชับอีกที
“เอาเถอะน่า หลานไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว ปกติจื่อซีทำตัวดีและมีเหตุผลมาตลอด คุณก็ไม่ต้องไปบ่นเธอแล้ว”ท่านปู่ถังรักและโอ๋เด็กน้อยสองคนนี้มาตลอด แถมจื่อซียังปากหวาน ยิ่งน่าเอ็นดูเข้าไปอีก
“โอเค ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว พวกเราเตรียมตัวลงไปกินข้าวกันเถอะ”ความจริงแล้วท่านย่าถังก็ไม่อยากจะตำหนิถังจื่อซีเท่าไหร่หรอก แต่เธอแค่เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับถังจื่อซีเท่านั้นเอง
ท่านย่าถังจูงมือถังจื่อซีเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ถังจื่อซีหันหน้าไปมองทางที่ซ่างกวนหงอยู่ เมื่อมองจากมุมนี้ก็ไม่เห็นซ่างกวนหงแล้ว ถังจื่อซีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าเธอก็คิดได้ว่าเธอได้ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ให้คุณลุงสุดหล่อคนนั้นแล้ว
ต่อไปเธอยังสามารถติดต่อคุณลุงสุดหล่อคนนั้นได้อยู่ แล้วก็ยังเจอเขาได้อยู่ด้วย
ถังจื่อซีเป็นเด็กที่มีชีวิตชีวาและมองโลกในแง่ดี เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น และเธอก็เป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลม มีมารยาทกับทุกคน แต่ว่าคนที่สามารถทำให้ถังจื่อซีวางโล่ป้องกันลงได้จริงๆ และทำให้เธออยากเข้าใกล้ได้จริงๆ นั้นมีไม่เยอะเท่าไหร่หรอก
นอกจากคนในครอบครัวกับฉู่หลิงเอ๋อในเมื่อก่อนและอีกไม่กี่คนนั้น เพื่อนตัวน้อยถังจื่อซีก็ไม่ได้ยอมรับคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ว่าซ่างกวนหงกลับเป็นคนที่เธอรู้สึกอยากเข้าใกล้จริงๆ จากใจ
ต่อให้มันจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับซ่างกวนหง และต่อให้เธอจะไม่รู้ว่าซ่างกวนหงเป็นใครกัน
“หัวหน้า เด็กคนนั้นมาจากตระกูลถังเหรอครับ?” ผู้ดูแลจ้งที่ยืนอยู่ใต้หน้าต่างตอนนี้ช็อกไปเลย คำนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนจากตระกูลถัง
ซ่างกวนหงก็แปลกใจเหมือนกัน
“หัวหน้า ถังหลินยังไม่แต่งงาน ไม่มีทางที่จะมีลูกได้ แน่นอนว่า ต่อให้ถังหลินไม่ได้แต่งงานแต่มีลูก ต่อให้เด็กคนนี้เป็นลูกนอกสมรส ตระกูลถังก็ไม่มีทางปกปิดหรอก ต้องเปิดเผยตัวตนของเด็กอย่างแน่นอน ดังนั้นเด็กคนนี้ต้องไม่ใช่ลูกของถังหลินแน่”ผู้ดูแลจ้งเริ่มวิเคราะห์ ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลจ้งได้สืบเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลถังมาบ้าง ดังนั้นเขาก็เลยค่อนข้างแน่ใจกับจุดนี้
“ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ถังหลิน ก็เหลือเพียงความเป็นไปได้เดียวแล้ว ก็คือเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง คุณหนูใหญ่เพิ่งจะกลับมาบ้านถังได้ไม่นาน ถ้าเกิดว่าเธอพาลูกกลับมาที่บ้านถังด้วย แล้วอีกอย่างเธอก็ยังไม่ได้แต่งงาน และถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง เรื่องแบบนี้มันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ตระกูลถังก็ต้องปิดบังเอาไว้อย่างแน่นอน”ผู้ดูแลจ้งรู้ดีว่า ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้มันกลับกลายมาเป็นเรื่องของคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง การจัดการของตระกูลถังต้องไม่เหมือนกับถังหลินอย่างแน่นอน
เพราะถึงยังไงคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังก็เป็นผู้หญิง แล้วอีกอย่างเธอก็เพิ่งกลับมาอยู่ตระกูลถังไม่นานเท่าไหร่นะ
“แล้วอีกอย่าง ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดออกมาว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังมีลูกทั้งหมดสองคน ดังนั้นเด็กคนนี้อาจจะมีสิทธิ์เป็นลูกของเธอก็ได้ใช่ไหมครับ? ” ผู้ดูแลจ้งเสียงเบาลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจลดเสียงลง หรือเพราะว่าอารมณ์ของเขามันค่อนข้างจะซับซ้อน
ถ้าเกิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริง เรื่องราวมันก็จะแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เดิมทีหัวหน้าของเขาสนใจเรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาก ตอนแรกเขาแค่อยากจะเห็นรูปภาพของเธอแค่นั้นด้วยซ้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกชอบเธอขึ้นมา
และตอนนี้หัวหน้าก็เพิ่งได้เจอกับเด็กน้อยคนนั้นครั้งแรก แถมยังได้เจอในสถานการณ์แบบนี้อีก แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าชอบเด็กคนนั้น
นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?
มันก็บังเอิญเกินไปหรือเปล่า?
ผู้ดูแลจ้งรู้อย่างชัดเจนว่า ปกติแล้วหัวหน้าของเขาไม่ใช่คนที่มีความรู้สึกอะไรมากมาย ปกติเขาจะรู้สึกเฉยเมยกับคนอื่นเสมอ น้อยครั้งมากที่จะรู้สึกชอบใคร
ไม่สิ ปกติเขาแทบจะไม่เห็นหัวหน้ามองใครเลยด้วยซ้ำ
แต่ว่า พอหัวหน้าของเขาแค่เห็นรูปของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแค่ครั้งเดียวก็เริ่มสนใจเธอแล้ว และครั้งแรกที่ได้เจอกับเด็กน้อยคนนี้ หัวหน้าก็ชอบเธอเป็นอย่างมากแล้ว
ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าเขาไม่ได้เกินจริงเลย เพราะว่าเมื่อกี้ตอนที่เด็กน้อยคนนี้อยู่ด้วย หัวหน้าเอาแต่ยิ้มตลอด แล้วพอเด็กน้อยคนนั้นถามอะไร หัวหน้าก็ตอบอย่างอดทนและอ่อนโยน
ทั้งๆ ที่คำถามของเด็กน้อยไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ปกติหัวหน้าแทบจะไม่ฟังคำถามด้วยซ้ำ แต่ว่าเมื่อกี้เขากลับตอบคำถามทั้งหมด สรุปก็คือ ขอแค่เด็กคนนั้นพูดอะไร หัวหน้าของเขาก็จะตอบทั้งหมด แล้วก็ตอบไวมากด้วย
ปกติแล้วหัวหน้าของเขาเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์ แต่ว่าเมื่อกี้เขาแสดงออกมาเยอะมาก
เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าหัวหน้าชอบเด็กคนนั้นจริงๆ
“หัวหน้าครับ คุณว่าเด็กน้อยคนเมื่อกี้คือลูกสาวของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังหรือเปล่า?”ผู้ดูแลจ้งมองไปที่หัวหน้าของเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามบ้าง
ซ่างกวนหงกะพริบตาเบาๆ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “น่าจะใช่”
ซ่างกวนหงเชื่อมโยงประเด็นก่อนและหลังเข้าด้วยกัน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
เมื่อกี้เด็กคนนั้นเรียกท่านย่าถังว่าคุณย่าทวด แล้วอีกอย่างคนของตระกูลถังก็ต่างเป็นกังวลเรื่องเด็กคนนั้นมาก แสดงว่าเธอต้องเป็นลูกหลานของตระกูลถัง ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ลูกของถังหลิน ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นลูกของถังฉิ้นเอ๋อ
ลูกของถังฉิ้นเอ๋อ!!
สาเหตุที่เขามาที่นี่ในเย็นวันนี้ก็เพื่อที่จะเจอถังฉิ้นเอ๋อ แต่ว่ากลับไม่ได้เจอเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอลูกสาวของเธอแทน
มุมปากของซ่างกวนหงยกขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เด็กคนนี้เป็นที่น่าชื่นชมจริงๆ
“ดังนั้น เธอก็เป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆ มิน่าล่ะ”ผู้ดูแลจ้งถอนหายใจออกมาอย่างแรง
มิน่าล่ะตอนที่เขาบอกว่าไม่รู้ว่าแม่ของสาวน้อยคนนั้นคือใคร เธอก็เริ่มสงสัยเขาแล้ว
เพราะว่าแขกที่มาที่คฤหาสน์หยวนในวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง และเห็นได้ชัดว่า แขกที่มาในคืนวันนี้ก็ต่างรู้เรื่องของเพื่อนตัวน้อยคนเมื่อกี้นี้
ดังนั้น แขกที่มาที่คฤหาสน์หยวนในวันนี้ต้องรู้จักตัวตนของเพื่อนตัวน้อยคนนั้น
“ไม่คิดเลยว่าคืนนี้จะไม่ได้เจอคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง แต่ว่ากลับได้เจอลูกสาวของเธอแทน แล้วอีกอย่างผมก็ดูออกว่าเด็กคนนั้นชอบคุณมาก และคุณเองก็ชอบเด็กคนนั้นเหมือนกัน เหมือนเป็นพรหมลิขิตเลยนะครับ”ผู้ดูแลจ้งไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาอธิบายสถานการณ์แบบนี้ ก็เลยพูดได้แค่ว่ามันคือพรหมลิขิต
“ฉันชอบเด็กคนนั้นมากจริงๆ เธอเป็นที่น่าชื่นชอบมากเลย”ซ่างกวนหงไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ แถมยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“หัวหน้าครับ ทำไมคุณถึงชอบเด็กคนนั้น ทั้งๆ ที่คุณเพิ่งเจอเธอเป็นครั้งแรกเอง”ผู้ดูแลจ้งกะพริบตาอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าแค่คำว่าพรหมลิขิตมันไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าแค่ฉันเห็นเด็กคนนั้นครั้งแรกก็รู้สึกชอบแล้ว และฉันก็รู้สึกอัศจรรย์ใจมากเมื่อเห็นเด็กคนนั้น มันมีความรู้สึกสนิทสนม และอยากใกล้ชิดเธอให้มากขึ้น”ซ่างกวนหงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านี่มันเรื่องอะไรกัน แต่ว่าเรื่องที่เขาชอบเด็กคนนั้น ต้องการใกล้ชิดเด็กคนนั้นมันไม่จำเป็นต้องถามเลย
ซ่างกวนหงเองก็รู้ว่าปกติเขาเป็นคนเย็นชา ปกติแล้วคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่แม้แต่ใช้ตามองด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงมีความรู้สึกพิเศษตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเด็กคนนั้นล่ะ?
“หัวหน้าครับ เขาว่ากันว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ คนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นญาติของตัวเองก็ยังมีความรู้สึกสนิทสนมกันได้” ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าผลของการตรวจDNAก่อนหน้านี้บอกอย่างชัดเจนว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังไม่ใช่ลูกสาวของหัวหน้า แต่ผู้ดูแลจ้งก็รู้ว่าหัวหน้าน้อยไม่ได้ตายใจ และไม่ได้ยอมแพ้ ความจริงผู้ดูแลจ้งก็ยังคงมีความหวังอยู่ในใจบ้างเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้มันมีความหวังเพียงแค่เล็กน้อยในใจของผู้ดูแลจ้ง แต่เพราะว่าเรื่องของเด็กน้อยคนนั้น ทำให้ความหวังในหัวใจของเขามันเพิ่มขึ้น
ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าคนที่สามารถทำให้คนเย็นชาอย่างหัวหน้ารู้สึกชอบเป็นพิเศษได้ตั้งแต่เจอกันเพียงครั้งแรก และรู้สึกอยากจะใกล้ชิด เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว
ถึงยังไงก็แล้วแต่ เขาก็อยู่กับหัวหน้าของเขามา 40 ปีแล้ว 40 ปีมานี้ เขาไม่เคยเห็นหัวหน้าของเขาชอบใครตั้งแต่แรกเห็นเลยสักคนเดียว
นอกจากคุณหญิงแล้ว ถึงยังไงสถานการณ์ตอนนั้นมันก็ค่อนข้างพิเศษ พอหัวหน้าได้เจอคุณหญิงเป็นครั้งแรกก็ได้มีการสัมผัสกันทางกายแล้ว !!