ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1527 รู้สึกชอบตั้งแต่แรกเห็น(1)
นอกจากคุณหญิงแล้ว ถึงยังไงสถานการณ์ตอนนั้นมันก็ค่อนข้างพิเศษ พอหัวหน้าได้เจอคุณหญิงเป็นครั้งแรกก็ได้มีการสัมผัสกันทางกายแล้ว !!
นอกจากคุณหญิงแล้ว 40 ปีมานี้ อย่าพูดถึงเรื่องที่หัวหน้าเจอใครครั้งแรกเรารู้สึกชอบเลย แม้แต่คนที่ต้องติดต่อกับหัวหน้าอยู่ทุกวัน หัวหน้ายังแทบไม่มองหน้าเลยด้วยซ้ำ
ปกติแล้วคนที่อยากจะเข้าใกล้หัวหน้า อยากประจบประแจง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คนพวกนั้นต่างก็โดดเด่น และดีเยี่ยมเป็นพิเศษ แต่ว่าไม่มีใครเลยสักคนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษจากหัวหน้า แม้แต่ไม่มีใครสามารถทำให้หัวหน้ามองเป็นครั้งที่สองได้ด้วยซ้ำ
แต่ว่าหัวหน้าที่เป็นแบบนี้ กลับรู้สึกชอบเด็กน้อยคนนั้นตั้งแต่แรกเห็น
บวกกลับก่อนหน้านี้หัวหน้าก็เอาใจใส่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นพิเศษ ในตอนนี้สิ่งเดียวที่ผู้ดูแลจ้งคิดได้ก็คือเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
ตอนแรกผู้ดูแลจ้งคิดว่าจะยังไม่บอกหัวหน้าจนกว่าเรื่องนี้จะชัดเจน แต่ว่าเมื่อกี้ผู้ดูแลจ้งเห็นว่าหัวหน้าชอบเด็กคนนี้
ผู้ดูแลจ้งเห็นอย่างชัดเจนว่าเมื่อกี้หัวหน้าของเขายิ้มไม่หยุด และยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนั้น เขาไม่เห็นหัวหน้ายิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้มานานมากแล้ว
ผู้ดูแลจ้งรู้ว่า ถ้าเกิดว่าเด็กคนนั้นสามารถมาอยู่เป็นเพื่อนหัวหน้าได้บ่อยๆ หัวหน้าก็จะมีความสุขเหมือนกับวันนี้ ต่อให้เด็กคนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับหัวหน้า ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์หรอก
แต่ถ้าเกิดว่าเด็กคนนั้นมีอะไรเกี่ยวข้องกับหัวหน้าล่ะ? ถ้าเกิดว่าเด็กคนนั้นเป็นญาติของหัวหน้าล่ะ?
ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้น มันจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีมากๆ เลย ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ หัวหน้าก็คงจะดีใจจนแทบบ้าแน่ๆ ต่อไปเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าหัวหน้าจะเป็นทุกข์อยู่คนเดียวแล้ว
“ผลDNA……”ดวงตาของซ่างกวนหงสั่นไหวเล็กน้อย เขาเองก็ชอบเด็กคนเมื่อกี้นี้จริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยอยู่กับถังฉิ้นเอ๋อก็ตาม แต่ว่าตอนที่เขาได้เห็นรูปเธอ เขาก็รู้สึกเหมือนว่ามีโชคชะตากับเธอ
ความจริงแล้วเขาก็แอบหวังอยู่ในใจเสมอว่าถังฉิ้นเอ๋อจะเป็นลูกสาวของเขา หรือจะบอกว่าเขายินยอมที่จะรับผลลัพธ์แบบนี้อย่างเดียวเท่านั้น
ถ้าเกิดว่ามีคนอื่นที่มีหลักฐานทั้งหมดเพื่อมาพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นลูกสาวของเขานั้น เขาอาจจะไม่ยอมรับก็ได้
แต่ว่าผลDNAออกมาอย่างชัดเจนขนาดนั้น เขาก็จำเป็นต้องเชื่อ
“ผลDNAอาจจะมีข้อผิดพลาดก็ได้นะครับ”ผู้ดูแลจ้งต้องรู้ความคิดของหัวหน้าอยู่แล้ว เขารู้ว่าหัวหน้าแคร์เรื่องนี้มาก ก็เลยไม่กล้าเชื่อง่ายๆ อีก
ความจริงแล้วเขากับหัวหน้ามีความคิดเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ผู้ดูแลจ้งก็รู้สึกว่าควรลองดูอีกครั้ง
“หัวหน้าครับ ความจริงแล้วหัวหน้าน้อยก็ไม่เชื่อผลDNAเท่าไหร่นัก หัวหน้าน้อยก็เลยเตรียมจะส่งตรวจผลDNAระหว่างคุณกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีกครั้ง แต่แน่นอนว่าถ้าอยากจะเอาตัวอย่างมาจากเธอน่าจะไม่ได้แล้ว”ตอนนี้ผู้ดูแลจ้งไม่ปิดบังเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะถึงยังไงไม่ว่าจะช้าหรือเร็วหัวหน้าก็ต้องรู้อยู่ดี
“อะเฉิงเขา……สืบเรื่องนี้อีกครั้งนั้นเหรอ?”ซ่างกวนหงอึ้งไป เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ หลังจากนั้นซ่างกวนหงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “แต่ไหนแต่ไรมาอะเฉิงเป็นคนหัวแข็ง แล้วอะเฉิงก็เป็นคนที่รู้ใจฉันที่สุด”
ซ่างกวนหงจะไม่รู้เจตนาของมู่เฉิงได้อย่างไรกัน เด็กคนนั้นโตมากับมือของเขาเอง
มู่เฉิงไม่อยากยอมแพ้ ไม่อยากให้เขาผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสหนึ่งในพันก็ตาม มู่เฉิงก็จะลองดูอีกครั้งอย่างไม่ลังเลเลย
“เรื่องตรวจDNAอะเหลียง เป็นคนทำครับ ตอนนั้นมีคนมากมายร่วมด้วย น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเกิดว่าจะมีปัญหาก็คือปัญหาตรงตัวอย่าง DNA ถึงแม้ว่าคุณชายหานกับเจ้าเก้าจะมีความสามารถโดดเด่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด ตอนนี้ผมมาคิดดูแล้วรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากว่าจะมีปัญหาที่ตัวอย่าง DNA” ตอนนี้ความคิดของผู้ดูแลจ้งเริ่มแตกต่างแล้ว ทิศทางความคิดก็เปลี่ยนไป ก็เลยค้นพบความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง
ซ่างกวนหงไม่ได้พูดอะไร ได้แต่หันไปมองเขา
“หัวหน้าครับ คุณว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังฉลาดมากหรือเปล่าครับ? ไม่สิ คุณว่าเธอฉลาดเป็นพิเศษหรือเปล่า”ผู้ดูแลจ้งไม่ได้พูดต่อ แต่กลับถามคำถามซ่างกวนหงแทน
“อืม เธอฉลาดเป็นพิเศษจริงๆ แหละ”ถึงแม้ว่าซ่างกวนหงกลับไม่เคยเจอถังฉิ้นเอ๋อ แต่ว่าหลังจากผ่านเรื่องราวพวกนั้นมาซ่างกวนหงก็รู้ข้อนี้ได้อย่างชัดเจน
“หัวหน้าครับ คุณคิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังฉลาดกว่าเจ้าเก้ากับคุณชายหานหรือเปล่าครับ? ” คำพูดของผู้ดูแลจ้งหยุดไป หลังจากนั้นก็พูดต่ออีกครั้งว่า “ผมเปลี่ยนวิธีการพูดดีกว่า คุณคิดว่าเจ้าเก้ากับคุณชายหานสองคนรวมกัน ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของคุณหญิงใหญ่ตระกูลถังได้หรือเปล่า? ”
“ไม่ได้” ซ่างกวนหงไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตอบอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา
เขารู้จักความสามารถของเจ้าเก้ากับอะหานอยู่แล้ว ความสามารถของพวกเขาทั้งสองคนโดดเด่นจริงๆ แต่ถ้าพูดถึงสมอง พูดถึงการต่อสู้ด้วยสติปัญญา เจ้าเก้ากับอะหานสองคนรวมกันก็ไม่สามารถสู้กับถังฉิ้นเอ๋อคนเดียวได้หรอก
ถังฉิ้นเอ๋อเรียนจิตวิทยามา เธอถนัดด้านสงครามทางจิตวิทยามากที่สุด ดังนั้นในแง่ของการวางแผนและกลยุทธ์ เกรงว่าจะมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับถังฉิ้นเอ๋อได้
“ดังนั้น ผมก็เลยกำลังคิดว่า เป็นไปได้ไหมว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังวางกับดักไว้ให้เจ้าเก้ากับคุณชายหานตั้งแต่แรก และทั้งสองคนนั้นก็ติดกับ? ”ผู้ดูแลจ้งยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มาก หลังจากค้นพบแบบนี้ น้ำเสียงของผู้ดูแลจ้งก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“นายจะบอกว่า ถังฉิ้นเอ๋อจงใจให้เจ้าเก้ากับอะหานเอาเส้นผมของเธอไป และก็ทำให้พวกเขาเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันเป็นผมของเธอจริงๆ แต่ว่าความจริงแล้วผมเส้นนั้นไม่ใช่ของเธอ”ซ่างกวนหงกะพริบตาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของผู้ดูแลจ้ง
และถ้าเกิดมาคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“ใช่ ผมคิดแบบนั้นล่ะครับ ที่แท้แผนที่หัวหน้าน้อยมอบให้เจ้าเก้ากับอะหานทำนั้นล้มเหลว ถูกคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังจับได้ และอะหานก็บอกว่า ก็เขายังไม่ทันจะลงสนามก็ถูกเธออ่านออกแล้ว ผ่านการยังไม่ทันเริ่มต้นก็ต้องจบลงแล้ว ในเมื่อเธออ่านแผนการของพวกเขาออกแล้ว ดูจากนิสัยของเธอแล้ว เธอต้องระมัดระวังตัวอย่างแน่นอน แล้วทำไมจะเอาผมของตัวเองให้เจ้าเก้ากลับมาด้วยล่ะ ถึงตอนนั้นเจ้าเก้าจะบอกว่าจะช่วยเธอเอาไปทิ้ง แต่ดูจากความรอบคอบของเธอแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะเอาผมให้เจ้าเก้าด้วยเหตุผลนี้”
“แล้วอีกอย่าง ในเมื่อเธอรู้แผนการของพวกเขาตั้งแต่แรก ดูกับความฉลาดของเธอแล้ว น่าจะเดาได้ว่าเจ้าเก้ากับอะหานอยากได้เส้นผมของเธอ เถอะน่าจะคาดเดาได้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้าประตูโรงพยาบาลน่าจะเป็นสิ่งที่เธอวางแผนเอาไว้”ผู้ดูแลจ้งรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้พอรวมองค์ประกอบเข้าด้วยกันแล้วก็ค่อนข้างง่าย
“เดิมทีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงพยาบาลก็ค่อนข้างแปลก ตอนนั้นเจ้าเก้ากับอะหานยังเคยสงสัยเลยว่าหัวหน้าน้อยเป็นคนจัดเตรียมมา แต่ว่ามันไม่ใช่ฝีมือของหัวหน้าน้อย ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้มากกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่คุณหนูใหญ่ของตระกูลถังจัดเตรียมไว้”