ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1533 ครบกำหนดสัญญา (1)
เธอจำได้ว่าคงจะเป็นช่วงหนึ่งปีให้หลัง ซือถูมู่หรงไม่พาเธอไปสถานที่อะไรจำพวกนั้นอีก คงจะบอกว่าหนึ่งปีให้หลังนั้น ซือถูมู่หรงก็ไม่พาเธอออกไปข้างนอกอีกเลยจะดีกว่า
เธอทำได้แค่เพียงรอซือถูมู่หรงอยู่ที่บ้านทุกวัน เมื่อตอนนั้น เธอแทบไม่ออกจากบ้านเลย
ทุกครั้งที่ซือถูมู่หรงเข้าร่วมงานเลี้ยงจะมีคู่ควงที่ตายตัวอยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยพาเธอไปเลย
ตอนที่ซือถูมู่หรงคุยงาน ก็ยิ่งไม่พาเธอไปอยู่แล้ว สรุปแล้วสถานที่ที่ซือถูมู่หรงปรากฏตัวเธอจะไม่สามารถปรากฏตัวได้เป็นอันขาด
เธอเป็นคนรักที่ไม่อาจบอกกับใครได้ แน่นอนว่า ในช่วงเวลาห้าปีนี้เธอสำเหนียกในตัวเองมาโดยตลอด เธอเองก็ไม่เคยจะออกไปโชว์ตัวข้างนอกด้วยกันกับซือถูมู่หรงเลยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะบังเอิญเจอกัน เธอก็จะหลบเลี่ยงไปด้วย
แต่ว่าตอนนี้ช่วงเวลาห้าปีของพวกเขาก็ได้ผ่านไปแล้ว เขายังคงไม่ปล่อยเธอไป หลิวหยิงโกรธมาก
เธอรู้ว่าสำหรับซือถูมู่หรงแล้วเธอนั้นไม่อาจให้ใครรับรู้ได้ ซือถูมู่หรงคงจะเห็นเธอเป็นสิ่งที่น่าอับอาย หลิวหยิงก็เลยจงใจไปหาเขาที่บริษัท
ตอนที่หลิวหยิงไปหาเขาที่บริษัท ยังจงใจวางแผนสร้างสถานการณ์ใหญ่โตออกมา เธอถึงขนาดที่บอกเด็กสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่าเธอเป็นแฟนของซือถูมู่หรงไปเลย
แล้วยังจงใจพูดเสียงดังอยู่ที่หน้าล็อบบี้ เดิมทีหลิวหยิงนึกว่าซือถูมู่หรงจะต้องให้คนไล่เธอออกไปแน่ ๆ แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่าเพียงไม่นานซือถูมู่หรงกลับลงมาเลยทันที ทั้งยังพาเธอขึ้นไปด้วย
เมื่อตอนนั้นซือถูมู่หรงยังโอบเอวเธอเข้าลิฟต์ไปด้วยกันอีกด้วย
ตอนนั้นหลิวหยิงมึนงงอยู่บ้าง เรียกสติกลับคืนมาไม่ได้เลย ก็เลยลืมขัดขืนออกไปเลย จึงได้ถูกซือถูมู่หรงโอบเข้าลิฟต์ไป หลังจากนั้นก็ได้ถูกเขาโอบเข้าห้องทำงานเข้าไป
สิ่งที่ทำให้เธอมึนงงยิ่งกว่าเลยก็คือนึกไม่ถึงเลยว่าซือถูมู่หรงจะไม่โกรธเลย และยังพูดกับเธออีกว่าต่อจากนี้เธอมาไม่จำเป็นต้องแจ้ง ตรงขึ้นมาที่ห้องทำงานเขาได้เลย
หลังจากนั้นแผนการรนหาที่ตายที่เธอได้สั่งสมเอาไว้เต็มไปหมดก็ได้ล้มเหลวไปหมด
หลังจากนั้นตลอดทั้งบ่ายเธอก็ได้ถูกเขารั้งอยู่ที่ในห้องทำงาน เขาทำงาน เธอมอง
รอจนถึงตอนที่เขาเลิกงานบอกว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน เธอจึงเสนอมาที่นี่ แล้วตอนนี้พวกเขาก็มานั่งกันอยู่ที่นี่
ซือถูมู่หรงเห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยจะเข้ากับสถานที่แบบนี้เท่าไหร่นัก หลิวหยิงเห็นเขานั่งตัวแข็งทื่อออกมาเล็กน้อย คงจะเป็นเพราะว่าเสียงดังหนวกหูเกินไป และคงจะเป็นเพราะว่าบรรยากาศมันดูสกปรกซอมซ่อไปหน่อย แต่ซือถูมู่หรงก็ไม่ได้เสนอให้ออกไปจากที่นี่
หลิวหยิงมีความคิดไม่ตกอยู่บ้างเล็กน้อยว่าซือถูมู่หรงคิดยังไงกันแน่ คนอย่างเขาคงจะไม่เคยมาสถานที่อย่างนี้มาก่อน และจะต้องไม่ชินกับสถานที่อย่างนี้แน่ ๆ เลย ทำไมเขาถึงได้ฝืนตัวเองมาที่นี่เป็นเพื่อนเธออีกล่ะ?
ช่วงหลายวันมานี้ เขาผิดปกติตลอดเลย ผิดปกติมากเลย หลิวหยิงรู้ว่าเขาผิดปกติ หลิวหยิงเองก็ไม่ชินกับความผิดปกติอย่างนี้ของเขาเหมือนกัน เธออยากเปลี่ยนความผิดปกติจำพวกนี้ของเขาไป เธออยากให้เขากลับไปเป็นแบบเดิม แต่เธอก็เปลี่ยนมันไม่ได้
หลิวหยิงรู้ว่าพูดอะไรไปมันก็ไร้ประโยชน์ จึงไม่ได้พูดออกไปอีก เธอสั่งเมนูที่ตัวเองชอบมาเยอะมาก เพราะว่าธุรกิจของร้านอาหารข้างทางมันดีมาก จึงต้องรอนานหน่อย
ประธานซือถูมาที่นี่ก็ต้องรอเหมือนกัน ไม่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษเหมือนกับสถานที่ระดับสูงจำพวกนั้น
คนที่มาที่นี่มันเยอะมาก ผู้คนมากมายสัญจรไปมา แทบจะต้องเบียดเสียดกันถึงจะผ่านเข้าไปได้
ตำแหน่งที่ซือถูมู่หรงนั่งเยื้องไปทางด้านนอก ในตอนที่ผู้คนสัญจรไปมาจึงมักจะต้องมีคนไม่ระวังชนเข้ากับเขาอยู่ตลอด หลิวหยิงเห็นคิ้วของเขาขมวดเข้าด้วยกันอยู่หลายครั้ง
“ไม่งั้นคุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันกินคนเดียวเสร็จก็กลับแล้ว” หลิวหยิงลอบถอนหายใจ เธอคิดว่าเธอชวนเขามาที่นี่เหมือนจะทำเกินไปหน่อย เพราะถึงยังไงชีวิตของซือถูมู่หรงมันไม่เหมาะกับสถานที่อย่างนี้เลยจริง ๆ
มากินข้าวที่นี่ ซือถูมู่หรงจะต้องกินไม่เป็นแน่ ๆ เลย และยังถูกคนเบียดไปเบียดมาอีก มันรังแกเขาเกินไปแล้วจริง ๆ
ซือถูมู่หรงเงยหน้ามองไปเธอแวบนึง สีหน้าเรียบนิ่งออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร”
เขาปรับตัวกับสภาพแวดล้อมอย่างนี้ไม่ได้อยู่บ้างจริง ๆ ปรับตัวไม่ได้เป็นอย่างมากกับการถูกคนเบียดไปเบียดมา เขาต่อต้านการถูกใครพบเจอมาโดยตลอด แต่เธออยากมา อย่างนั้นแล้วเขาจึงต้องมาเป็นเพื่อนเธอ
อันที่จริงเขาก็รู้เหมือนกันว่าเธอจงใจ แต่เขาชอบเธอที่สดใสมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติอย่างนี้ ไม่อยากเห็นเธอแสร้งทำตัวขัดกับเจตจำนงของตัวเองอยู่ต่อหน้าเขาอีกแล้ว
“ประธานซือถู ที่นี่มันมีคนเยอะมากเลยนะ คุณไม่กลัวถูกถ่ายเอาเหรอ?” สำหรับตรงจุดนี้หลิวหยิงคิดไม่ตกเลยจริง ๆ เมื่อก่อนเขากลัวคนอื่นถ่ายเธอตอนที่กำลังอยู่กับเขาที่สุดเลย
เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นคนรักที่ไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ตลอดไป และเขาก็ไม่มีทางจะแต่งงานกับเธอเป็นอันขาด การแต่งงานของเขาคงจะเป็นการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของตระกูล ถ้าเรื่องที่เธออยู่กับเขาได้ถูกคนถ่ายไปได้มันจะต้องส่งผลกระทบต่อการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ของเขาอย่างแน่นอน
นี่มันจะต้องเป็นสิ่งที่ซือถูมู่หรงไม่อาจทนได้โดยเด็ดขาด
ซือถูมู่หรงเพียงแค่มองเธอไปนิ่ง ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“คุณจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อครั้งก่อนคุณไปนัดบอดกับคุณหยวนท่านหนึ่ง ความคืบหน้าเหมือนกับว่าจะไม่เลวเลยใช่มั้ยล่ะ? คุณไม่กลัวว่ามันจะส่งผลต่อการคบหากันระหว่างพวกคุณ?” ปกติหลิวหยิงจะไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ของซือถูมู่หรงเลย เพราะว่าหลิวหยิงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือถูมู่หรงดี ด้วยสถานะของเธอมันไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องพวกนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่อยากจะไปยุ่งเรื่องพวกนั้นด้วยเหมือนกัน ระยะเวลาที่เธอขายให้กับเขาแค่ห้าปี เธอก็เป็นอิสระแล้ว เธอกับเขาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว ทำไมเธอจะต้องไปสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย?
ดวงตาที่ทอดมองมาของซือถูมู่หรงได้เยือกเย็นออกมาเล็กน้อย “ยังรู้อะไรอีกบ้าง?”
ซือถูมู่หรงไม่รู้ว่าเธอไปได้ข้อมูลอย่างนี้มาจากที่ไหน นัดบอดกับคุณหยวน? ตัวเขาเองทำไมถึงไม่รู้เลย? เธอไปได้ยินมาจากไหน?
หรือไม่ก็อาจจะมีคนจงใจแพร่ข่าวเข้าหูเธอมา?
“คุณอย่าเข้าใจผิด คุณอย่าได้เข้าใจผิดเป็นอันขาด” หลิวหยิงเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย คงจะโกรธอยู่บ้าง หลิวหยิงนึกว่าเขาโกรธที่เธอไปสืบข่าวเขามา
“ฉันไม่ตั้งใจจะไปสืบข่าวคุณนะ ฉันก็แค่บังเอิญไปได้ยินมันโดยไม่ได้ตั้งใจ…” หลิวหยิงไม่อยากทำให้เกิดความเข้าใจผิดใด ๆ ขึ้นมา ดังนั้นแล้วเธอก็เลยต้องอธิบายออกไปให้ชัดเจน
“ไปได้ยินมาจากไหน?” สีหน้าของซือถูมู่หรงนิ่งขรึมออกมามากกว่าเดิมเล็กน้อย ในน้ำเสียงเหมือนกับว่าจะเยือกเย็นขึ้นมาเล็กน้อย
“ครั้งที่แล้วฉันไปกินข้าว บังเอิญเจอเข้าพอดี ในตอนหลังก็บังเอิญไปได้ยินเรื่องบางอย่างที่ห้องน้ำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ” หลิวหยิงไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ วันนั้นเพื่อนคนนึงของเธอนัดเธอไปกินข้าวด้วยกัน จากนั้นเธอก็บังเอิญเจอซือถูมู่หรงเข้าร้านอาหารด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่นเข้าพอดี
เรื่องมันก็ประจวบเหมาะเลยด้วย ในตอนหลังตอนที่เธออยู่ที่ห้องน้ำก็บังเอิญเจอกับผู้หญิงที่มากับซือถูมู่หรงเข้าพอดี ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดว่ากำลังไปมาหาสู่กับซือถูมู่หรงอยู่ ความหมายที่อยู่ในคำพูดของผู้หญิงคนนั้นเมื่อตอนนั้นมันหมายความว่าทั้งสองตระกูลมีการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์กันนั่นเอง
แต่หลิวหยิงก็ไม่ได้สนใจ เดิมทีสัญญาห้าปีของเธอกับซือถูมู่หรงมันก็ถึงกำหนดแล้ว ถึงตอนนั้นซือถูมู่หรงจะแต่งงานกับใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธออยู่แล้ว เมื่อตอนนั้นเธอจึงไม่ได้เอามันมาใส่ใจเลยสักนิด
เมื่อตอนนั้นได้ยินไปก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน จึงไม่ได้ขบคิดให้ดีว่ามันประจวบเหมาะเกินไปหรือเปล่า ถึงยังไงเรื่องพวกนั้นมันก็ไม่มีผลอะไรต่อเธอ เธอจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว!!