ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1536 ไม่ต้องให้เขามายุ่ง (1)
ทางไป๋ยี่รุ่ยได้วางสายไปแล้ว หลิวหยิงยืนอยู่ตามลำพังอีกสักพักนึง หลังจากนั้นก็ผันร่างกลับไป เดินไปยังที่นั่งเดิมของเธอ!!
ตอนที่หลิวหยิงกลับไป พบว่าซือถูมู่หรงกำลังจ้องมองเธออยู่ สายตานั้นมันเยือกเย็นมาก น่ากลัวมาก เหมือนกับว่าจะฆ่าคนเลยไม่มีผิด
หลิวหยิงรู้ว่าการชอบควบคุมเจ้ากี้เจ้าการของซือถูมู่หรงมันรุนแรงมากเป็นพิเศษ ห้าปีนี้ที่เธอได้อยู่ข้างกายของซือถูมู่หรงมา ซือถูมู่หรงไม่อนุญาตให้เธอติดต่อกับผู้ชายคนอื่นเลย อีกอย่างตรงจุดนี้ตอนแรกที่ในข้อตกลงมันก็ได้เขียนเอาไว้ชัดเจนแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลิวหยิงคงจะอธิบายกับเขาไปสักหน่อย ไม่ว่าเมื่อก่อนเธอกับไป๋ยี่รุ่ยจะเป็นยังไง ห้าปีมานี้เธอไม่เคยติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ยมาก่อนเลย สิ่งที่เธอรับปากซือถูมู่หรงแล้วก็ทำได้ทั้งนั้น ห้าปีมานี้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยฝ่าฝืนเรื่องที่พวกเขาได้ตกลงกันในตอนแรกมาก่อนเลย
แต่ว่าตอนนี้ช่วงเวลาห้าปีมันได้ครบกำหนดแล้ว อย่างนั้นแล้วข้อตกลงของพวกเขามันก็ได้โมฆะไปแล้วเหมือนกัน หลิวหยิงก็เลยไม่คิดว่าเธอมีความจำเป็นจะต้องอธิบายอะไรกับเขาไปอีก
อีกอย่าง หลิวหยิงคิดว่าซือถูมู่หรงคงจะไม่รู้เหมือนกันว่าสายเมื่อกี้นี้ป็นใครโทรเข้ามา ถ้าเธออธิบายไป มันจะเป็นการหาเรื่องวุ่นวายเข้ามาเองแทน
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรเลย นั่งลงไปทันที เมื่อกี้ตอนที่เธอไปโทรศัพท์ เถ้าแก่ได้ยกของมาเสิร์ฟบ้างแล้ว หลิวหยิงจึงเริ่มกินทันที
ซือถูมู่หรงเห็นเธอไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียว เริ่มกินไปเลยทันทีอย่างนี้ มุมปากก็ค่อย ๆ ฉีกยิ้มเย็นออกมาช้า ๆ นี่เธอทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้?
หรือไม่ เธอก็อยากจะทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้มากเลย?
เมื่อกี้ไปรับสายของคนในดวงใจมา ตอนนี้เธอคงแทบอยากจะให้เขาหายตัวไปเลยล่ะมั้ง?
หลิวหยิงกินข้าว ซือถูมู่หรงไม่ได้กิน จ้องมองเธออยู่อย่างนั้น
ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะไม่คิดอะไรมากมายแค่ไหนก็กินไม่ลงแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางเขา คิ้วได้ขมวดออกมาเบา ๆ “คุณจ้องฉันทำไม ถ้าคุณไม่อยากกินของที่นี่ งั้นคุณก็เปลี่ยนที่เอาเองอีกทีแล้วกัน”
หลิวหยิงรู้ว่าคนอย่างเขาจะต้องไม่เคยกินของที่นี่มาก่อนอย่างแน่นอน จะต้องปรับตัวไม่ได้ ให้เขามาที่นี่ค่อนข้างจะฝืนใจเขาอยู่บ้างจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่าเมื่อตอนที่หลิวหยิงเสนอไปในตอนแรกก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะตอบตกลงมาเลยจริง ๆ
“ทำไม? อยากให้ฉันไปขนาดนี้เลย?” สายตาที่เยือกเย็นวาบผ่านออกมาจากในดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อยของซือถูมู่หรง เมื่อกี้ตอนที่เธอรับสายถึงแม้ว่าจะเดินออกไป แต่ทักษะการฟังของเขามันดีกว่าคนอื่นเสมอ เมื่อกี้นี้เขาได้ยินคำว่าเจอหน้ากันคำนั้นของเธอ เพราะว่าตอนที่เธอพูดว่าเจอหน้ากันคำนั้นน้ำเสียงได้สูงขึ้นเล็กน้อย
ดังนั้นแล้ว จึงไม่ยากที่จะคาดเดาได้ว่าผู้ชายคนนั้นได้นัดเจอเธอ และตอนที่เธอกลับมานั่งกินเมื่อกี้ ก็อดไม่ได้ที่จะมองโทรศัพท์อยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้ปลดล็อก เห็นได้ชัดว่ากำลังดูเวลาอยู่
มองออกว่าเธอรีบร้อนมากเลย ดังนั้นแล้วผู้ชายคนนั้นคงจะนัดเจอเธอเย็นนี้
ดังนั้นแล้ว เธอเลยรีบร้อนอยากจะไล่เขาไปเร็ว ๆ
ไล่เขาไปให้เร็ว ๆ แล้วไปเจอคนในดวงใจของเธอ
เธอมันสุดยอดจริง ๆ !!
“ฉันเห็นคุณไม่ได้กินอะไรเลย คุณคงจะไม่ชินกับการกินของพวกนี้แน่ ๆ เลย คุณจะมาหิวอยู่อย่างนี้ไม่ได้นะคะ” เมื่อกี้หลิวหยิงไม่ได้คิดอะไรมากมายเลยจริง ๆ เธอจึงคิดว่าซือถูมู่หรงคงไม่ชินกับการกินอะไรพวกนี้ จะมาปล่อยให้เขาทนหิวอยู่ตลอดอย่างนี้ไม่ได้
“เย็นนี้หลังจากที่กลับไปเธอทำให้ฉันกิน” ซือถูมู่หรงไม่รู้ว่ายอมรับคำพูดในตอนนี้ของเธอไปหรือเปล่า เพียงแต่ว่าเสียงของเขาในตอนนี้มันฟังดูเรียบนิ่ง ฟังไม่ออกถึงอารมณ์อะไรมากมายนัก
“เย็นวันนี้?” หลิวหยิงได้ยินคำพูดของเขาก็ได้อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด ไป๋ยี่รุ่ยบอกว่าเจอกันเย็นนี้ แล้วยังรีบร้อนมากเลย จะต้องมีธุระสำคัญมากแน่ ๆ เลย ไป๋ยี่รุ่ยถึงขนาดที่บอกว่าพรุ่งนี้มีความเป็นไปได้ว่ามันจะไม่ทันแล้ว เธอรับปากไป๋ยี่รุ่ยแล้วว่าจะต้องไปให้ได้
หลิวหยิงรู้ว่าเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยจะคุยกับเธอส่วนใหญ่มันจะเกี่ยวกับเวินลั่วฉิงทั้งนั้น อันที่จริงหลิวหยิงกังวลเกี่ยวกับพวกเรื่องของเวินลั่วฉิงอะไรพวกนั้นมากกว่าเสียอีก
“เป็นอะไรไป?” ดวงตาของซือถูมู่หรงได้หรี่ลงมากกว่าเดิม แต่ตอนนี้เขากำลังมองเธออยู่ มุมปากมันกลับค่อย ๆ ยกขึ้นช้า ๆ มองไปก็เหมือนกับกำลังยิ้มอยู่
“เย็นวันนี้คุณไม่มีธุระอื่นเหรอ?” หลิวหยิงมองดูเวลาไปเล็กน้อย ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เพิ่งจะเจ็ดโมงเอง ปกติตอนนี้ซือถูมู่หรงจะยังไม่กลับบ้าน ปกติซือถูมู่หรงมักจะยุ่งอยู่ตลอด ออกสังคมเยอะมากเหมือนกัน ปกติแล้วซือถูมู่หรงจะกลับบ้านก่อนเก้าโมงน้อยครั้งมากเลย
“ไม่มี เย็นนี้จะอยู่เป็นเพื่อนเธอ” มุมปากของซือถูมู่หรงที่แสยะขึ้นได้กดลึกลงไปมากกว่าเดิม เพียงแต่ว่าความเยือกเย็นที่อยู่ในดวงตามันกลับกระจายไปทั่วทีละนิด ๆ
“ฉันไม่ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อน คุณยุ่งเรื่องของคุณไปก็พอแล้ว” คำพูดนี้ของหลิวหยิงมันเป็นคำที่ออกมาจากใจจริง ๆ เธอไม่ต้องการให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนเธอเลยจริง ๆ เธอหวังเป็นอย่างมากว่าเขาจะงานยุ่งขึ้นมาอีกหน่อย กลับมาช้า ๆ หน่อย แน่นอนว่าถ้าเขายุ่งขึ้นมาแล้วไม่กลับมาหลาย ๆ วันเลยก็จะยิ่งดี
เพราะว่าทุกครั้งที่เขากลับมาแล้วก็จะพยายามทรมานเธอตลอด เมื่อห้าปีก่อนก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่
คนอื่นเขาไม่ใช่ว่าบอกกันว่ายิ่งนานวันเข้าก็จะเบื่อกันไม่ใช่หรือไง? นี่มันก็ห้าปีเข้าไปแล้วทำไมเขายังไม่เบื่ออีก และเธอถึงขนาดที่คิดเลยว่าช่วงนี้เขาทรมานกันโหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอรู้สึกว่าทุกครั้งเหมือนกับว่าเขาแทบอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัวไปเสียให้ได้เลย
ดังนั้นแล้ว หลิวหยิงจึงไม่ต้องการให้เขารีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเร็ว ๆ อย่างนี้เลยจริง ๆ
ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเอง ถ้าตามปกติของเขานั้น ไม่ทรมานถึงเที่ยงคืนจะไม่นอน รีบกลับไปเร็วอย่างนั้น เกรงว่าพรุ่งนี้เธอคงจะอย่าคิดว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
“ไม่ต้องการให้ฉันอยู่เป็นเพื่อน เธออยากให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน?” มุมปากของซือถูมู่หรงที่แสยะยิ้มออกมาเหมือนจะนิ่งค้างไปเล็กน้อย ตอนนี้มองดูอีกทีก็จะดูเยือกเย็นมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
ไม่ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อน? ใช่ เธอไม่ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อน เพราะว่าเย็นวันนี้นัดผู้ชายคนอื่นเอาไว้แล้ว เธออยากให้ผู้ชายคนอื่นมาอยู่เป็นเพื่อน
หลิวหยิงเลิกตาขึ้นมองเขาไปแวบนึง คิ้วได้ขมวดออกมาเล็กน้อย “ซือถูมู่หรง คุณจะพูดจะจาอะไรก็ไม่เห็นจะต้องพูดจากระทบกระทั่งกันอย่างนี้เลย ใช่ เย็นนี้ฉันนัดเพื่อนเอาไว้ กินข้าวเสร็จ ฉันจะไปเจอเพื่อน คุณจะทำอะไรก็ตามใจ”
หลิวหยิงไม่ได้โง่ แน่นอนว่าเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของซือถูมู่หรงอยู่แล้ว จึงเข้าใจว่าเมื่อกี้นี้ซือถูมู่หรงคงจะได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ รู้ว่าเย็นนี้เธอมีนัดแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เธอเองก็ไม่ต้องปิดบังอีก
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบไป๋ยี่รุ่ยมาโดยตลอด แต่ระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยบริสุทธิ์ใจกันมาโดยตลอด มันไม่มีอะไรทั้งนั้น เธอถึงขนาดที่จนถึงตอนนี้แล้วก็ไม่ให้ไป๋ยี่รุ่ยรู้ความคิดของเธอเลย เธอเองก็ไม่เคยจะเปิดเผยต่อหน้าใครสักนิดเลยด้วย แม้แต่ฉิงฉิงเองก็ยังไม่รู้เลย
อีกอย่างห้าปีนี้ที่เธอกับซือถูมู่หรงได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เคยได้ติดต่อกับไป๋ยี่รุ่ยเลย เธอไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องรู้สึกผิดต่อซือถูมู่หรงเลย
ดังนั้นแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สัญญาห้าปีของเธอกับซือถูมู่หรงมันก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว สิ้นสุดลงแล้ว เธอควรจะเป็นอิสระได้แล้ว
ซือถูมู่หรงเองก็ไม่มีสิทธิ์มาควบคุมเธออีกเหมือนกัน
“ความหมายของเธอคือทิ้งฉันไปนัดเดทกับคนอื่น?” ซือถูมู่หรงได้ยิ้มออกมาด้วยอารมณ์โกรธจัดออกมา เธอยังกล้าพูดออกมาอีก เธอไปเจอคนในดวงใจ จึงไล่เขาไปเลยทันที
ช่วงนี้เขาตามใจเธอมากไปใช่มั้ย?
หลิวหยิงแต่เดิมอยากจะอธิบายออกไป ว่ามันไม่ใช่นัดเดท ถึงแม้ว่าเธอจะชอบไป๋ยี่รุ่ยมาโดยตลอด แต่ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ชอบเธอ