ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1537 ไม่ต้องให้เขามายุ่ง (2)
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบไป๋ยี่รุ่ยมาโดยตลอด แต่ไป๋ยี่รุ่ยไม่ชอบเธอ ไป๋ยี่รุ่ยไม่เคยรู้ความคิดของเธอมาก่อนเหมือนกัน เย็นนี้ไป๋ยี่รุ่ยโทรหาเธอ ทั้งหมดก็เพื่อให้เธอช่วยทั้งนั้น ความเป็นไปได้อย่างมากเลยก็คือมันจะต้องเกี่ยวกับเวินลั่วฉิง มันจะนับว่าเป็นการนัดเดทได้ยังไง
แต่ว่าคำอธิบายของหลิวหยิงยังไม่ทันได้พูดออกไป น้ำเสียงที่เย็นชานั้นของซือถูมู่หรงก็ได้ดังเข้ามาเสียก่อน “ฉันตามใจเธอเกินไปใช่มั้ย?”
“หา…” หลิวหยิงได้ยิ้มออกมา “คุณซือถู ฉันให้คุณมาตามใจฉันเหรอ? คุณต้องเข้าว่าสัญญาห้าปีเมื่อก่อนหน้านี้ของพวกเรามันได้สิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับฉัน ตอนนี้ฉันอยากจะไปไหนก็ไป อยากจะทำอะไรก็ทำ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง มันไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะตามใจฉันหรือเปล่า อีกอย่างฉันก็ไม่ชอบใจเลยจริง ๆ”
หลิวหยิงพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจเขาอีก เริ่มกินของตัวเอง ไอ้ผู้ชายพันธุ์เธอไม่อยากจะไปสนใจเลยจริง ๆ
เมื่อก่อนภายในระยะเวลาของข้อตกลงของพวกเขา เธอเชื่อฟังเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ทำตามเขาหมด นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอเอาเงินเขามา เมื่อตอนนั้นเขาช่วยพ่อเธอเอาไว้ แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ช่วยชีวิตพ่อเธอกลับมาไม่ได้ แต่เมื่อตอนนั้นเขาก็ได้ช่วยพ่อเธอออกมาจากคุก และเขาก็ส่งแม่กับน้องชายเธอไปต่างประเทศอีกด้วย ไม่ได้ปล่อยให้เรื่องของพ่อส่งผลกระทบไปถึงแม่กับน้องชาย
เธอเองก็รู้ว่าห้าปีมานี้แม่กับน้องชายใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศกันได้ไม่เลวเลยทีเดียว น้องชายเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ไม่เลวเลย เธอรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เขาได้ช่วยจัดเตรียมให้เหมือนกัน
เธอซาบซึ้งในบุญคุณของเขา ในห้าปีนี้เธอก็เลยทำตามคำสั่งของเขาไปอย่างเคร่งครัด ยอมเชื่อฟังทุกอย่าง เขาให้เธอทำอะไรเธอก็ทำทั้งนั้น
เช่นนั้นแล้วเมื่อเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากทำ เธอก็ไม่เคยขัดคำสั่งมาก่อนเลย ถึงแม้ว่าในช่วงแรก ๆ เขาจะเหยียบย่ำให้เธออับอายขนาดนั้น จงใจทรมานเธอ จงใจทำให้เธอลำบากใจ เธอก็อดทนอดกลั้นกับมันไปทั้งนั้น เพราะว่าเรื่องที่เขาได้รับปากเธอเอาไว้ก็ทำได้ทั้งนั้น ดังนั้นแล้วสิ่งที่เธอรับปากเขาเอาไว้ก็ต้องทำให้ได้เหมือนกัน
แต่เธอรับปากเขาแค่ห้าปี เธอขายให้เขาแค่ห้าปี ชีวิตหลังจากห้าปีมันเป็นของเธอเอง
เขาช่วยพ่อของเธอ แล้วยังจัดการชีวิตให้แม่กับน้องชายเธอด้วย และเธอก็ได้มอบช่วงเวลาห้าปีที่ดีที่สุดของผู้หญิงคนหนึ่งของเธอให้กับเขาไป พวกเขาทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว เธอไม่คิดว่าเธอยังติดค้างอะไรเขาอีก
ซือถูมู่หรงตะลึงไปเล็กน้อย อันที่จริงเขารู้มาก่อนแล้วว่าเธอไม่ได้น่ารักว่าง่ายเหมือนอย่างที่แสดงออกมาในตอนปกติอย่างนั้น เขารู้มาโดยตลอดว่าเธอเป็นแมวที่ซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ตัวหนึ่ง
เขาอยากเห็นเธอแสดงเขี้ยวเล็บของเธอตอนหน้าเขามาโดยตลอด แต่เขาไม่นึกว่าตอนที่เธอแสดงเขี้ยวเล็บออกมานั้นจะร้ายกาจอย่างนี้
แน่นอนว่า ความร้ายกาจอย่างนี้ของเธอกับคนอื่นเขายินดีที่ได้เห็น เขายินดีที่จะเห็นเธอที่สดใสอย่างนี้
แต่เขี้ยวเล็บนี้ของเธอล้วนจู่โจมมาหาเขาทั้งนั้นเลย ความรู้สึกของซือถูมู่หรงมันไม่ดีเท่าไหร่นัก
ซือถูมู่หรงทอดมองหลิวหยิงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินไปด้วยความรวดเร็วได้เหม่อลอยเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลิวหยิงกินเร็วมาก ใช้เวลาเพียงไม่นานก็กินอิ่มแล้ว
หลิวหยิงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เห็นซือถูมู่หรงที่ไม่ได้กินเลยสักนิด “คุณจะกินไม่กิน? ไม่กินก็ไป”
“ฉันจะกลับไปกิน” คิ้วของซือถูมู่หรงเหมือนจะขมวดออกมาเล็กน้อย ของพวกนี้เขาไม่ชอบกินเลยจริง ๆ อีกอย่างเขาก็อยากกินของที่เธอทำอีกด้วย
“แล้วแต่คุณ” หลิวหยิงไม่ได้สนใจเขาอีก ตรงเข้าไปคิดเงิน ตอนที่หลิวหยิงกลับมา ซือถูมู่หรงยังนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันมีนัด” ครั้งนี้หลิวหยิงไม่ได้ปิดบังไปเลยแม้แต่น้อย ไล่เขาไปเลยตรง ๆ และก็แจ้งไปตรง ๆ ว่าตัวเองจะไปเจอคนอื่น
ซือถูมู่หรงโกรธจนเจ็บปวดใจไปหมด เธอไล่เขามาอย่างนี้เลย? กลัวว่าเขาจะขัดขวางเดทของเธอ
ซือถูมู่หรงมองออกว่าเธอจะต้องไปเจอไป๋ยี่รุ่ยให้ได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะจับเธอมัดบังคับพาเธอกลับไป แต่ซือถูมู่หรงไม่อยากทำอย่างนั้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาสามารถทำอย่างนั้นได้ และเขาก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรมากมาย และถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอเองก็จะไม่มีทางที่จะทิ้งเขาไปหาคนอื่นด้วยเหมือนกัน
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้สัญญาห้าปีของพวกเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว ถึงแม้ว่าช่วงหลายวันนี้เขาจะเก็บเธอไว้ข้างกายตลอด แต่หัวใจของเธอมันได้บินออกไปนานแล้ว
ถ้าเขาบังคับเธอไปอีก เธอคงจะหนีไปจริง ๆ
“ฉันยังไม่กินอะไรเลยนะ” ซือถูมู่หรงข่มกลั้นความไม่พอใจและไฟโทสะภายในใจเอาไว้ หาเหตุผลที่เขาคิดว่ามันสมเหตุสมผลมาเหตุผลนึง
เขาอยากกลับไปกินอาหารที่เธอทำ เขารู้ว่าเธอทำอาหารเป็น ครั้งก่อนเขาเคยชิมมาก่อน แต่เมื่อครั้งก่อนเขาก็ได้อานิสงส์จากไป๋ยี่รุ่ย อันนั้นเดิมทีเธอได้ทำให้ไป๋ยี่รุ่ย
หลิวหยิงมองเขาไปนิ่ง ๆ “งั้นคุณก็ไปกินข้าว ประธานซือถูอย่างคุณอยากกินอะไรแล้วจะกินไม่ได้กัน”
หลิวหยิงคิดว่าเขางี่เง่าไร้เหตุผลที่สุดเลย เหตุผลอย่างนี้ต้องขอบคุณเขาจริง ๆ ที่ทำให้คิดออกมาได้
“ฉันอยากกลับไป กินของที่เธอทำ” ซือถูมู่หรงคิดว่าอารมณ์ของตัวเองในเย็นวันนี้คงจะดีที่สุดเท่าที่มีมาเลย เธอปฏิบัติต่อเขาอย่างนี้ เขาสามารถข่มกลั้นไม่ให้อารมณ์เสียออกมาได้ตลอดเลย
“ขอโทษนะ ทำไม่เป็น” หลิวหยิงคร้านจะไปพูดกับเขาให้มากมาย อยากจะไล่ไปตรง ๆ คำเดียวเลย
“ทำไม่เป็น หรือว่าไม่อยากทำ? หรือไม่ก็ไม่อยากทำให้ฉัน?” ซือถูมู่หรงนึกถึงตอนที่ไป๋ยี่รุ่ยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อครั้งที่แล้ว เธอตุ๋นซุปไก่ให้ไป๋ยี่รุ่ย รสชาติดีมาก รสชาติดีกว่าซุปไก่ทั้งหมดที่เขาเคยได้กินมาเลย
และเขาก็รู้ว่าเธอยังเคยทำเมนูอื่นให้กับไป๋ยี่รุ่ยด้วยเหมือนกัน ฝีมือการทำอาหารของเธอมันไม่เลวเลย เพียงแต่ว่าห้าปีตอนที่เธออยู่กับเขา เธอไม่เคยจะทำอาหารเพื่อให้เขาเลยสักมื้อ
เธอไม่ได้ทำไม่เป็น เธอเพียงแค่ไม่อยากทำให้เขาก็เท่านั้น
หลิวหยิงตะลึงไปเล็กน้อย ดวงตาวูบไหวออกมา “คุณซือถู ในข้อตกลงห้าปีของพวกเรามันไม่ได้รวมไปถึงว่าฉันจะต้องปรนนิบัติด้านอาหารการกินของคุณมั้ยล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นสัญญาห้าปีของพวกเรามันก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว”
คำพูดนี้ของซือถูมู่หรงพูดได้ถูกต้อง หลิวหยิงไม่อยากจะทำให้เขาจริง ๆ ในข้อตกลงในตอนแรกของพวกเขามันไม่ได้มีข้อที่ว่าเธอจะต้องทำอาหารให้เขาข้อนี้อยู่เลย ดังนั้นแล้วเธอมีสิทธิ์อะไรไปทำให้เขากัน?
อีกอย่างซือถูมู่หรงเขาเป็นใครกัน? จะมาชอบอาหารที่เธอทำ?
ยิ่งไปกว่านั้นปกติแล้วซือถูมู่หรงก็จะกินอาหารที่บ้านน้อยมากเหมือนกัน
“ฉันเรียกรถออกไปก่อนนะคะ” หลิวหยิงไม่อยากทะเลาะอะไรกับเขาอยู่ที่นี่ และมันก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรมาเหมือนกัน
หลิวหยิงเองก็รู้ดีเหมือนกันว่าถ้าซือถูมู่หรงไม่ปล่อยเธอไปจริง ๆ เธอคิดจะไปมันก็ยาก ยากมาก ด้วยความสามารถของเธอเกรงว่าจะไม่มีทางจะจากไปได้เลย
แต่ว่าตอนนี้มันจำเป็นต้องไปให้ได้
“รีบร้อนขนาดนี้เลย?” ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของซือถูมู่หรงล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง มองไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ข้างใน
หลิวหยิงเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ของเขา แต่เธอไม่อยากจะเถียงกับเขาอยู่ที่นี่เลยจริง ๆ
หลิวหยิงไม่ได้สนใจเขา ได้ผันร่างเตรียมจะเดินออกไปเลยทันที
“รีบร้อนขนาดนี้เพื่อไปเจอ…” เสียงของเขาดังเข้ามาอีกครั้ง คำพูดได้หยุดชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ได้พูดออกมาต่อว่า “ไป๋ยี่รุ่ย”
ฝีเท้าที่เตรียมจะก้าวออกไปของหลิวหยิงได้หยุดลง ดวงตาชำเลืองมาเล็กน้อย หันกลับไปมองเขา
เขารู้ได้ยังไงว่าคนที่เธอนัดเป็นไป๋ยี่รุ่ย?