ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1545 จะเข้าไปหรือเปล่า? (1)
ดังนั้นแล้วการมอบตัวจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้มันก็ไม่อาจชักช้านานเกินไปได้เลย! ถ้าเกิดถึงตอนนั้นแล้วทางตำรวจค้นพบเรื่องไป๋หยิงเข้าก่อน แล้วมาจับไป๋ยี่รุ่ยอีกที ลักษณะของเรื่องมันก็จะเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไรออกไปเลยจริง ๆ เธอไม่อยากให้ไป๋ยี่รุ่ยมีเรื่องเลยจริง ๆ เธอรู้ว่าพรุ่งนี้ไป๋ยี่รุ่ยไปมอบตัว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ต้องโทษประหารชีวิต ก็จะต้องเข้าคุกอยู่ดี
ใจเธอไม่อยากให้เขามีเรื่องอยู่เลย แต่เธอเองก็รู้ว่าถ้าเขาไม่ไปมอบตัว เรื่องมันก็จะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม ไป๋หยิงตายแล้ว เรื่องนี้มันจะต้องปิดเอาไว้ไม่อยู่อย่างแน่นอน ถ้าเกิดรอจนทางตำรวจตรวจพบเรื่องนี้ขึ้นมา สืบมาถึงตัวไป๋ยี่รุ่ย ถึงตอนนั้นแล้วรูปคดีมันจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
หลิวหยิงรู้ว่าสิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็มีเพียงแค่คิดหาวิธีลดโทษของไป๋ยี่รุ่ยให้เบาลงหน่อย แต่ถึงยังไงนั่นมันก็เป็นคดีฆาตกรรม ไม่ว่าจะลดโทษไปแค่ไหนมันก็ต้องเข้าคุกอยู่ดี ปัญหามันอยู่ที่ว่าต้องเข้าคุกกี่ปีก็เท่านั้น
ไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากรบกวนเวลาของหลิวหยิง เขาก็เลยลุกขึ้น เตรียมที่จะออกไปด้วยกันกับหลิวหยิง เพียงแต่ทันทีที่เขายืนขึ้นมา ร่างมันก็ได้โงนเงนออกมาทันที จากนั้นก็ร่วงล้มลงไปทันที
“พี่? พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” หลิวหยิงตกใจไป ได้เข้าไปประคองเขาทันที แต่เดิมทีเธอได้เว้นระยะห่างกับไป๋ยี่รุ่ยอยู่เล็กน้อย ไป๋ยี่รุ่ยร่วงลงไปกะทันหันเกินไป และเมื่อกี้เธอก็เหม่อลอยไปหน่อย การเคลื่อนไหวของเธอจึงยังถือว่าช้าไปอยู่
มือของเธอเข้าไปรับไป๋ยี่รุ่ยขึ้นมาได้แค่ข้างเดียว รับเอาไว้ไม่ได้ ไป๋ยี่รุ่ยได้ร่วงลงไปกับพื้น
“พี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?” หลิวหยิงวิ่งเข้ามา ย่อตัวนั่งลง เห็นสีหน้าเขาขาวซีดเสียจนน่าตกใจ “ฉันจะเรียกรถพยาบาลมาให้”
บนร่างของไป๋ยี่รุ่ยเดิมทีก็บาดเจ็บอยู่แล้ว การออกกำลังกายเมื่อคืนใช้พลังงานมากเกินกำลังของเขาไป วันนี้ก็ยุ่งมาทั้งวันอีก ไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิด ฝืนร่างกายมาตลอด
อันที่จริงตอนที่เขานั่งก็รู้สึกว่าร่างกายมันไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นักอยู่แล้ว ก็เลยอยากจะรีบกลับไปเร็ว ๆ หน่อย เพื่อเลี่ยงไม่ให้หลิวหยิงเป็นกังวล แต่นึกไม่ถึงว่าพอลุกยืนขึ้นมารู้สึกได้เพียงแค่ว่าดวงตาทั้งสองข้างมืดไป แล้วก็สลบไปเลย
ดีที่เมื่อกี้หัวทิ่มลงมา ทิ่มลงไปจนเจ็บมาก เขาเลยเจ็บจนฟื้นขึ้นมา เขาเห็นหลิวหยิงจะโทรศัพท์ จึงดึงเธอเอาไว้ “อย่า ฉันไม่เป็นไร ก็แค่เหนื่อยเกินไป พักสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่ว่าสภาพพี่ตอนนี้…” หลิวหยิงมองเขาที่ตอนนี้หน้าได้ไม่มีสีเลือดอยู่เลยสักนิด ยังไงก็ไม่อาจวางใจได้เลย
“ร่างกายของฉันรู้ดี บาดแผลก็หายดีเกือบจะทั้งหมดแล้ว ก็แค่เหนื่อย อย่าโทร ตอนนี้ฉันไม่อยากให้มีปัญหาใหม่แทรกเข้ามาอีก อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเย็นนี้พวกเรามาเจอกันด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่นัดมาที่นี่หรอก” ไป๋ยี่รุ่ยทำอะไรก็คิดไปอย่างรอบคอบมาก ตอนนี้เขาเป็นฆาตกร เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าหลิวหยิงมีการติดต่อกับเขามากมายเกินไปในช่วงเวลานี้
เพื่อเลี่ยงไม่ให้หลิวหยิงต้องมาเกี่ยวพันกับในเรื่องนี้ด้วย
“ตอนนี้พี่จะตายอยู่แล้ว ยังคิดมากมายอีก…” หลิวหยิงโกรธขึ้นมานิดหน่อย เขาคิดแทนคนอื่นเอาไว้แล้วทุกอย่าง ทำไมถึงไม่คิดเพื่อตัวเองบ้าง
“ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ แค่เหนื่อยจริง ๆ เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ได้พักมาบ้างแล้ว ฉันพักสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว” ไป๋ยี่รุ่ยรู้ว่าเธอเป็นห่วง พยายามฉีกยิ้มออกมา เพื่ออยากให้เธอสบายใจ
“ฉันเหนื่อยจริง ๆ คืนนี้ก็จะพักอยู่ที่นี่แล้ว เธอกลับไปก่อนเถอะ” ก่อนหน้านี้ไป๋ยี่รุ่ยพยายามพยุงร่างไม่ให้ตัวเองร่วงลงไปยังไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่หรอก แต่ตอนนี้เรื่องมันก็ได้จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอร่วงลงไปอย่างนี้ จึงได้ค้นพบว่าตนเองนั้นแม้แต่แรงจะยืนก็ยังไม่มีเลย
ดีที่ที่แห่งนี้มันมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในห้องส่วนตัวบางห้องจะมีห้องพักอยู่ด้วย ไป๋ยี่รุ่ยได้จองห้องส่วนตัวเอาไว้เป็นการชั่วคราว เดิมทีก็ไม่ได้คิดจะพักที่นี่ แต่ห้องส่วนตัวที่เขาจองเอาไว้ห้องนี้มันมีห้องส่วนตัวพอดีเลย
“เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันไม่เป็นไร” ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยแม้แต่แรงจะยืนขึ้นมาก็ยังไม่มี แต่เขายังห่วงหลิวหยิงอยู่ อยากจะให้หลิวหยิงกลับไปก่อน
“ฉันพยุงพี่เข้าห้องรับรองไปก่อน” หลิวหยิงแทบจะถูกเขาทำเอาโกรธจะตายอยู่แล้ว หลังจากที่เขาร่วงลงไปก็ได้ฟุบอยู่บนพื้นอย่างนี้มาตลอด ลุกขึ้นมาไม่ได้เลย เขายังให้เธอไปก่อน แล้วยังบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรอีก
หลิวหยิงเห็นการพูดจาลมหายใจอะไรพวกนี้ของเขามันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โตเลยด้วย คงจะเหนื่อยอย่างที่เขาว่ามาจริง ๆ เพราะถึงยังไงเมื่อคืนไป๋หยิงได้วางยาอย่างนั้นไป เขากับไป๋หยิงได้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น
เรื่องอย่างนั้นเดิมทีแล้วมันก็กินแรงมากอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกวางยาอีก ยามันจะต้องทำร้ายร่างกายอยู่บ้างเหมือนกัน
ดังนั้นแล้ว เขาจึงได้เหนื่อยจนล้มฟุบไปเลยล่ะมั้ง?
ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยแม้แต่แรงที่จะยืนขึ้นมาก็ไม่มีเลยจริง ๆ เขาเองก็รู้ว่าหลิวหยิงไม่มีทางจะให้เขาฟุบอยู่กับพื้นอย่างนี้แล้วพาตัวเองจากไปแน่
ไป๋ยี่รุ่ยจึงไม่ได้ปฏิเสธออกไปอีก แล้วปล่อยให้หลิวหยิงประคองเขา
ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยใช้แรงไม่ได้เลยสักนิดเดียว ไป๋ยี่รุ่ยสูง185 หลิวหยิงประคองขึ้นมาจึงต้องใช้แรงเยอะเป็นพิเศษ อีกอย่างหลิวหยิงก็ยังกลัวว่าจะทำให้เขาบาดเจ็บอีก
ดังนั้นแล้วพาไป๋ยี่รุ่ยเข้าห้องรับรองไป เธอจึงใช้เวลาไปสิบกว่านาทีเลยทีเดียว
หลิวหยิงพาไป๋ยี่รุ่ยเข้าห้องรับรองไปแล้วตัวเองก็แทบจะเหนื่อยจนล้มฟุบไปเลย ไป๋ยี่รุ่ยถึงแม้ว่าจะถูกเธอประคองเข้ามา แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน
เดิมทีไป๋ยี่รุ่ยทนพยุงร่างกายเอาไว้ไม่ไหวอยู่แล้ว หลังจากที่หลิวหยิงประคองเขามาถึงเตียง เขาก็ได้หลับตาพูดกับหลิวหยิง แล้วก็หลับไป
เขาเหนื่อยมากจริง ๆ แน่นอนว่าเป็นเพราะไป๋หยิงวางยาใส่เขามากเกินไป มันมีผลสืบเนื่องจากยานั้นอยู่บ้าง ดังนั้นแล้วหลังจากที่ให้เขาได้จัดเตรียมเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็พยุงร่างกายเอาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว
หลิวหยิงเห็นเขานอนหลับไปแล้ว ลองตรวจลมหายใจ และอุณหภูมิร่างกายของเขาดู พบว่าไม่มีปัญหาอะไร
หลิวหยิงจึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาได้ในที่สุด
สภาพของเขาในตอนนี้ หลิวหยิงไม่สบายใจเลยจริง ๆ เพราะว่าสภาพของเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ดีเลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเมื่อกี้เขายืนกรานออกมา เธออยากจะส่งเขาไปโรงพยาบาลจริง ๆ
เมื่อกี้เขาบอกว่าเหนื่อยมาก เธอก็เชื่ออยู่หรอก แต่เหนื่อยจนมีสภาพแบบนี้ แม้แต่แรงจะลุกขึ้นเดินก็ยังไม่มี อย่างนั้นแล้วอาการมันจะต้องหนักมากแน่ ๆ เลย
หลิวหยิงกังวลมากเลยจริง ๆ ว่าเขาจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้นมา
แต่ตอนนี้ในสถานการณ์แบบนี้จะให้คนอื่นมาดูแลเขาก็ไม่เหมาะอีก เพราะถึงยังไงเขาก็ฆ่าไป๋หยิงไปแล้ว อีกอย่างเขาก็วางแผนจะไปมอบตัววันพรุ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เข้า แม้แต่เลขากับผู้ช่วยของเขาก็จะต้องไม่รู้ด้วยแน่ ๆ
ดังนั้นแล้วหลิวหยิงจึงไม่รู้ว่าจะให้ใครมาดูแลเขาได้ และดูเหมือนว่าไม่ว่าใครก็ไม่เหมาะทั้งนั้นเลยด้วย
หลิวหยิงมองใบหน้าที่นอนหลับของเขาพลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ เธอไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมมันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปเสียได้ ทำไมเขาถึงได้ทำตัวเองให้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้?
เธอเติบโตมาพร้อมกับเขาตั้งแต่เด็ก พูดตามตรงเธอไม่รู้เลยว่าเริ่มชอบเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกัน
เมื่อตอนเด็ก เขาปกป้องเธอ ปกป้องเหมือนกับน้องสาว คงจะเป็นเพราะความรู้สึกปลอดภัยนั่น ถึงได้ทำให้เธอหวั่นไหว
แต่เธอเองก็รู้เหมือนกันว่า เขาเห็นเธอเป็นน้องสาวมาโดยตลอด เธอก็เลยเก็บซ่อนความชอบนั้นอยู่ในส่วนลึกของภายในใจมาโดยตลอด
เดิมทีเธอก็เคยคิดเหมือนกันว่า รอให้เธอโตแล้ว บางทีเขาอาจจะมาชอบเธอเหมือนกันก็ได้ หรือไม่บางทีทั้งสองคนก็อาจจะคบหากันเพราะความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวก็ได้