ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1547 จะเข้าไปหรือเปล่า? (3)
ตอนนี้เขาลงแรงไปแค่เล็กน้อย บุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วมือก็ได้บดขยี้เป็นผุยผง ตกกระจายไปทั่วห้องโดยสาร แหลกละเอียดจนไม่อาจจะแหลกได้อีกแล้ว มองไปแล้วก็ดูน่าตกตะลึงเลยทีเดียว…
ซือถูมู่หรงได้ยินคำพูดที่ดังออกมาจากในโทรศัพท์ เรื่องนั้นมันไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมารายงานเขาก็รู้อยู่ก่อนแล้ว เขาเงียบไป เงียบไปนานมาก
คนที่อยู่ในสายนั้นตอนที่โทรศัพท์นั้นภายในใจมันรู้สึกไม่สงบเลย เพราะถึงยังไงเขาก็รู้ดีว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านในเป็นผู้หญิงของซือถูมู่หรง และได้อยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปีแล้ว
ผู้หญิงของซือถูมู่หรงนัดกับผู้ชายคนอื่นที่ในคลับซิงหยุน อีกทั้งสองชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังไม่ออกมาเลย ถ้าเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายทั่ว ๆ ไปแล้วต่างก็ทนไม่ไหวกันทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซือถูมู่หรง?
อันที่จริงเขาเองก็คิดว่ามันค่อนข้างนานอยู่เหมือนกัน ก็เลยถามซือถูมู่หรงไปว่าจะให้เข้าไปตรวจสอบดูสักหน่อยหรือเปล่า เพราะถึงยังไงรออย่างนี้ต่อไป มันก็ยิ่งนานขึ้น สถานการณ์มันจะต้องยิ่งแย่กว่าเดิมแน่ ๆ
ถ้าคุณหลิวไม่ออกมาทั้งคืน เขาคิดว่าพรุ่งนี้คงจะต้องถูกซือถูมู่หรงแยกชิ้นส่วนศพเป็นชิ้น ๆ แน่เลย
ซือถูมู่หรงลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ มือที่กำโทรศัพท์เอาไว้ได้กำแน่นไม่หยุด ดวงตาทั้งสองข้างตอนนี้ได้มืดครึ้มเสียจนน่ากลัว “รอก่อนอีกหน่อย”
ถึงแม้ว่าคนอื่นอยากจะเข้าไปสืบในคลับซิงหยุนมันจะยากมาก แต่ถ้าเขาคิดจะทำ อันที่จริงมันเป็นเรื่องง่าย ๆ เรื่องหนึ่งเลย แต่เขาก็ยังอดทนเอาไว้อยู่
เขาคิดว่าเขายังควรจะเชื่อใจเธออยู่ เชื่อว่าพวกเขากำลังคุยธุระกันอยู่จริง ๆ ในเมื่อคุยธุระกัน มันก็จะต้องมีตอนที่คุยกันเสร็จอยู่แล้ว บางทีตอนนี้พวกเขาอาจใกล้จะคุยกันเสร็จแล้วก็ได้ บางทีพวกเขาอาจจะใกล้จะออกมากันแล้วก็ได้ ดังนั้นแล้ว เขาก็ยังอยากจะรออีกสักหน่อย
ทางนั้นได้ยินคำพูดของซือถูมู่หรงแล้วก็อึ้งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าจะนึกไม่ถึงว่าซือถูมู่หรงจะพูดคำพูดที่ว่ารออีกสักหน่อยคำพูดอย่างนี้ออกมาได้
เดิมทีเขานึกว่าซือถูมู่หรงจะให้เขาบุกเข้าไปเสียอีก
แต่นึกไม่ถึงว่าท่านประธานซือถูจะบอกว่ารออีกหน่อย งั้นเขาก็ไม่ร้อนใจเลย งั้นก็รออีกสักหน่อยแล้วกัน บางทีคุณหลิวอาจจะใกล้จะออกมาแล้วก็ได้
เขาหวังจริง ๆ ว่าคุณหลิวจะรีบออกมาโดยเร็วที่สุด
วางสายไป ซือถูมู่หรงนั่งอยู่บนรถ ดวงตาทั้งสองข้างยังคงทอดมองไปที่หน้าประตูทางเข้าคลับซิงหยุนอยู่ เขาเพิ่งจะบอกคนของเขาไปว่ารออีกสักหน่อย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาพูดคำพูดประโยคนั้นออกไปได้ยังไง
ตอนนี้ภายในใจของเขามันไม่สบายไปทั้งใจเหมือนอย่างกับแมวข่วนอยู่เลยไม่มีผิด
ซือถูมู่หรงดึงบุหรี่ออกมาอีกมวนนึง ครั้งนี้เขาไม่ได้บีบบุหรี่ให้แหลกอีก แต่ได้จุดมันไปเลย เจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ตรงนี้ เขายังจะต้องกังวลอะไรอีก
ตอนนี้เธออยู่ด้วยกับไป๋ยี่รุ่ยที่ด้านในคลับซิงหยุน
ซือถูมู่หรงขอเพียงแค่คิดไปถึงว่าตอนนี้ทั้งสองคนได้อยู่ด้านในกันตามลำพังแล้ว แทบอยากจะเข้าไปฆ่าคนเสียให้ได้เลย
แต่เขาก็ยังอดทนไว้
เมื่อก่อนเขาไม่ต้องกังวลเลย เขารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่จำเป็นต้องให้เขาเอ่ยปากพูดออกไป เธอก็จะต้องตามเขากลับไปอย่างว่าง่ายอยู่แล้ว
แต่ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เส้นตายห้าปีของพวกเขาก็ได้มาถึงแล้ว เธออยากจะจากไปมาโดยตลอด เธอจะไม่ตามเขากลับมาอย่างว่าง่ายโดยที่ไม่สนว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามเหมือนอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว
เขารู้ว่าตอนนี้ถ้ามันเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาจริง ๆ บางทีเธออาจจะจากไปเลยก็ได้
แล้วจากนั้นล่ะ? หรือว่าเขาจะต้องใช้วิธีการบังคับพวกนั้นมาบังคับให้เธอกลับมาจริง ๆ งั้นเหรอ?
เรื่องอย่างนั้นเมื่อห้าปีก่อนเขาได้ทำไปครั้งนึง เมื่อตอนนั้นเขาไม่แยแสอะไรทั้งนั้น อีกทั้งเมื่อตอนนั้นเขาก็จงใจทำลงไปด้วย แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะทำอย่างนั้นลงไปได้อีก
อีกอย่างเรื่องเมื่อห้าปีก่อนนั้น เขาไม่อาจให้เธอรู้ได้
ถ้าเธอรู้เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเข้า ระหว่างเขากับเธอเกรงว่าจะ…
ซือถูมู่หรงสูดบุหรี่เข้าไปอย่างแรง แล้วก็ได้สำลักขึ้นมาทันที
มือของเขาได้จับแน่นขึ้นมาทันที ไม่อาจให้เธอรู้ได้ ไม่อาจให้เธอรู้ได้เลยจริง ๆ
ถ้าเขารู้ก่อนว่ามันจะมีวันนี้ เมื่อห้าปีก่อนเขาจะไม่มีวันทำอย่างนั้นลงไปแน่นอน
ซือถูมู่หรงค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ บุหรี่ในมือจุดไปแล้ว แต่เขากลับไม่ได้สูบไปอีก ได้ปล่อยให้บุหรี่มันเผาหมดไปเอง ลวกไปถึงนิ้วมือของเขา เขาถึงจะลืมตาออกมา แต่เขาก็ไม่ได้โยนบุหรี่ทิ้งไป ได้ปล่อยให้บุหรี่มันเผาไหม้อยู่ที่ระหว่างนิ้วมือของเขาไปอย่างนั้น
บางทีตอนนี้เขาคงจะต้องใช้ความเจ็บนี้มาเตือนสติตัวเอง
เขามองดูเวลา มันได้ผ่านไปอีกสิบกว่านาที แต่เธอก็ยังไม่ออกมา ตอนนี้เขารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้ามาก
แต่ถึงแม้ว่าเวลามันจะผ่านไปช้าแค่ไหน ตอนนี้เขาก็ต้องฝืนทนให้ได้อยู่ดี
หลังจากที่ซือถูมู่หรงลืมตาออกมาแล้ว ก็ได้มองไปทางประตูทางเข้าคลับซิงหยุนไปอีกที ตรงประตูทางเข้ามีคนเข้าออกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เธอเลยสักคน อีกอย่างไป๋ยี่รุ่ยก็ยังไม่ออกมาเลยเหมือนกัน
ดังนั้นแล้ว เธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็ยังอยู่ด้านในมาโดยตลอด
ซือถูมู่หรงนั่งอยู่ในห้องโดยสารด้วยลำตัวที่เหยียดเกร็ง สูบบุหรี่ไปมวนนึง ภายในรถได้อบอวลไปด้วยควันบุหรี่ บางคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่เขากลับไม่มีความรู้สึกเลยสักนิดเดียว
เวลาได้ผ่านไปทีละนิด ๆ ซือถูมู่หรงนั่งอยู่บนที่นั่งไปอย่างนั้น ไม่ขยับเลยสักนิดเดียว ดวงตาของเขาก็ได้มองไปที่หน้าประตูทางเข้าคลับซิงหยุนอยู่ตลอดเช่นกัน ไม่กะพริบตาเลย
เวลาได้ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ
แต่ คนที่เขาจะต้องรอก็ไม่ออกมาเลย
ตอนนี้ดวงตาของซือถูมู่หรงเริ่มเป็นสีแดงก่ำออกมาเล็กน้อย เขาก้มหน้าลง มองโทรศัพท์ในมือตัวเอง คิดแล้วคิดอีก แล้วเขาก็ตัดสินใจเลือกที่จะโทรหาเธอ
มือที่กำโทรศัพท์อยู่ได้กำแน่นขึ้นมาทันที จากนั้นก็หาเบอร์โทรศัพท์เธอออกมา แล้วโทรเข้าไป
โทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง ทางนั้นก็ไม่รับสายเลย สีหน้าของซือถูมู่หรงได้มืดครึ้งลงทีละนิด ๆ ในดวงตาที่แดงก่ำทั้งสองข้างได้อาบย้อมไปด้วยความน่ากลัวเสียน่าตกใจ
ไม่รับสาย เธอทำอะไรอยู่?
ทำอะไรอยู่ถึงไม่รับสายเลย?
สามชั่วโมงแล้ว เธอกับไป๋ยี่รุ่ยอยู่ด้านในมาสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว มีธุระอะไรที่สามชั่วโมงก็ยังคุยกันไม่เสร็จ?
อีกอย่างแม้แต่โทรศัพท์เธอก็ยังไม่รับสายอีก
ภายในห้องตอนนี้ หลิวหยิงเอาแต่คิดเรื่องบางอย่างอยู่ตลอด คิดไปจนหมกมุ่นอยู่กันเรื่องนั้นไปจนเกินไป จากนั้นโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นมา ตอนที่เธอเห็นสายที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ก็เรียกสติกลับมาไม่ได้อยู่สักพักนึง เพราะว่าเมื่อกี้เธอกำลังคิดเรื่องซือถูมู่หรงอยู่พอดี แล้วซือถูมู่หรงก็โทรมา
เธอทำอะไรไม่ถูกไปเล็กน้อย จ้องมองสายที่โทรเข้ามาที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ สมองมันเหมือนกับว่าจะหยุดหมุนไปเลย เธอนั่งอยู่อย่างนั้น จ้องมองโทรศัพท์ไป แต่ก็ไม่ได้รับสาย นาทีนี้ ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ได้หยุดไปแล้ว กว่าหลิวหยิงจะเรียกสติกลับมา เมื่อกี้ซือถูมู่หรงโทรหาเธอ? แต่เธอไม่ได้รับสาย?
เพราะว่าความเคยชินที่บ่มเพาะมาจนเป็นนิสัยในช่วงห้าปีนี้ หัวใจของหลิวหยิงได้เต้นรัวออกมา เธอรู้นิสัยใจคอของซือถูมู่หรงดี เธอไม่รับสายเขา เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
หลิวหยิงอยากจะโทรกลับไปทันทีตามจิตใต้สำนึก แต่ในทันใดนั้นเองก็นึกขึ้นมาได้ว่าข้อตกลงระหว่างพวกเขามันได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ดังนั้นแล้วเธอเหมือนว่าจะไม่ต้องกลัวเขาขนาดนั้นแล้วก็ได้
อีกอย่างเมื่อกี้เธอเอาแต่คิดถึงเรื่องซือถูมู่หรงอยู่ตลอดเลยเหมือนกัน แต่ก็ไม่เข้าใจเลย คิดหาคำตอบไม่ออกเลยสักที
หลิวหยิงลังเลอยู่สักพักนึง แต่ก็ไม่ได้โทรกลับไป
ภายในรถ ซือถูมู่หรงมองโทรศัพท์ที่ได้ตัดสายไปโดยที่ไม่มีใครรับสายเลย ดวงตาทั้งสองข้างก็ได้หรี่ลงอย่างร้ายกาจ ดี ดีมาก แม้แต่โทรศัพท์เธอก็ยังไม่รับสาย
เธอกับไป๋ยี่รุ่ยตกลงยุ่งกันมากแค่ไหนกัน ถึงขนาดที่สายของเขาก็ไม่มีเวลารับสายเลย
ซือถูมู่หรงถอนหายใจออกมาอย่างแรง แล้วก็ได้โทรไปอีกครั้ง เขาอยากจะลองดูสิว่าเธอยุ่งมากแค่ไหนกันแน่?
โทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลิวหยิงเพียงแค่ลังเลอยู่แป๊บนึง แล้วก็รับสายไป
ซือถูมู่หรงเห็นว่ารับสายแล้ว ก็อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพียงแต่เสียงของเขากลับเยือกเย็นเสียจนน่ากลัว “อยู่ที่ไหน?