ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1569 ร้องไห้เพื่อใคร (2)
“ประธานต้องทำอะไรต่อไหมครับ?”ผู้ช่วยไม่เข้าใจเจตนาของประธานของตน!!!ดังนั้นต้องถามให้ชัดเจน เพราะไม่ถามให้ชัดเจนแล้วทำผิดก็อาจจะลำบากได้
เพราะถึงยังไงเรื่องเรื่องนี้ก็ไม่เหมือนกับเรื่องงาน
“……ไม่ต้อง”ซือถูมู่หรงหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายพูดขึ้นมาเพียงสองคำ ต้องการอะไร?เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาต้องทำมีเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น ถือโอกาสนี้ซ้ำเติม ซื้อกิจการบริษัทไป๋ยี่รุ่ย แต่สุดท้ายเขาก็ยังอดทนไว้ได้
“ครับ”เมื่อผู้ช่วยได้ยินเสียงประธานของตนก็คลายความกังวลลง ดีที่ถามขึ้นหนึ่งประโยค วันนี้ตอนเช้าที่ประธานเขาจับตาดูไป๋ยี่รุ่ยด้วยท่าทีกัดฟันด้วยความแค้น ราวกับมีความแค้นบัญชีเลือดกับไป๋ยี่รุ่ย เดิมทีเขายังคิดว่าประธานจะต่อกรกับไป๋ยี่รุ่ย ที่แท้เขาก็เข้าใจผิด
ทางด้านของผู้ช่วยวางสายโทรศัพท์ลง ทางด้านของหลิวปิงก็รู้สึกตื่นตระหนกและเป็นกังวลมากขึ้น เมื่อสักครู่ที่ซือถูมู่หรงคุยโทรศัพท์กับเขานั้นไม่ได้วางสาย ดังนั้นเนื้อหาของการสนทนาเมื่อครู่นี้เขาได้ยินหมดแล้ว
หลิวปิงได้ยินผู้ช่วยพูดว่าไป๋ยี่รุ่ยฆ่าคน จากนั้นวันนี้ก็ไปมอบตัว หลิวปิงเชื่อมโยงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าที่หลิวหยิงโศกเศร้าเสียใจอยู่ตอนนี้เป็นเพราะไป๋ยี่รุ่ย
ตอนนี้หลิวปิงรู้แล้วว่าประธานของตนรู้สึกยังไงกับหลิวหยิง ตอนนี้หลิวหยิงเศร้าโศกเสียใจเพราะชายอื่น เรื่องเช่นนี้ประธานไม่มีทางทนได้ ประธานจะต้องโมโหอย่างแน่นอน
หลิวปิงรอสักพักหนึ่ง ก็ไม่ได้ยินเสียงของประธาน แต่ว่าประธานก็ไม่ได้วางสายโทรศัพท์ทางด้านนี้ลง ประธาน ไม่วางสาย แน่นอนว่าหลิวปิงคงไม่กล้าวาง
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต่างนิ่งเงียบ แต่ว่าหลิวปิงก็พอฟังรู้ว่าทางด้านของประธานนั้นกำลังขับรถอยู่
และในเวลานี้ หลิวปิงก็เห็นหลิวหยิงที่อยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนักลุกขึ้น จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า ดวงตาของหลิวปิงเป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นก็รายงานอย่างอัตโนมัติ:“ประธานคุณหลิว ออกไปแล้วครับ”
หลิวปิงรอสักพักก็ยังไม่มีการตอบกลับจากประธานของตน คิดว่าประธานของตนจะต้องกำลังโมโหอยู่อย่างแน่นอน คาดว่าไม่น่าจะมาแล้ว เพราะถึงยังไงคุณหลิวก็โศกเศร้าเสียใจเพราะชายอื่น สถานการณ์เช่นนี้ประธานรีบตามมาก็กระอักกระอ่วนใจเปล่าๆ
“ประธานยังต้องการให้ผมรายงานสถานการณ์ทางด้านนี้อยู่ไหมครับ?”แน่นอนว่าหลิวปิงไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง ยังคงต้องถามความเห็นจากประธานของตน
“อึม”ครั้งนี้ทางด้านฝั่งคู่สายในที่สุดซือถูมู่หรงก็ตอบกลับ ตอบกลับด้วยคำพูดที่เรียบง่าย ฟังดูก็รับรู้ถึงจิตใจที่หดหู่ของเขา และก็ฟังออกว่าในความหดหู่นั้นแฝงไว้ด้วยการประนีประนอมอย่างไม่เต็มใจ
สุดท้ายเขาก็ยังคงประนีประนอม และตัดสินใจที่จะไปพบเธอ
รู้ทั้งรู้ว่าในใจของเธอมีเพียงไป๋ยี่รุ่ยเพียงคนเดียว รู้ทั้งรู้ว่าเธอเสียใจให้กับไป๋ยี่รุ่ย แต่เขาก็ยังจะไป
ซือถูมู่หรงรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า แต่ก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้
“อ่า ดี ผมทราบแล้วครับ”หลิวปิงสูดหายใจเข้าลึก ขนาดนี้แล้วประธานของตนยังคงตัดสินใจมา ดูเหมือนว่าประธานของตนคงรักคุณหลิวมากจริงๆ
ติดกับดักความรักช่างน่าสงสารจริงๆ!!
“ประธานคุณหลิวเรียกแท็กซี่ น่าจะไปจากที่นี่แล้ว”หลิวปิงเห็นหลิวหยิงที่อยู่ข้างหน้าตะโกนเรียกรถ แล้วขึ้นรถ จึงรีบรายงาน ในขณะเดียวกัน หลิวปิงก็รีบไปขับรถของตนเอง
“ตามเธอไป และรายงานผมตลอดเวลา”ในเวลานี้น้ำเสียงของซือถูมู่หรงกลับมาเป็นปกติ ไม่ได้หดหู่จนปัญญาเหมือนเมื่อครู่นี้ ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะไป ก็คงไม่สามารถลังเลได้ เพราะหากยังลังเล เขาก็อาจจะเป็นบ้าได้
แน่นอนว่าหลิวปิงตอบรับคำอย่างอัตโนมัติ ขับรถ และรีบตามหลิวหยิง แน่นอนว่าหลิวปิงรายงานสถานการณ์ต่อประธานของตนเองอยู่ตลอดเวลา
ทางด้านของซือถูมู่หรงไม่ได้ตอบกลับ แต่ว่าหลิวปิงรู้ดีว่าประธานของตนกำลังฟังอยู่
“ประธาน ผมคิดว่าคุณหลิวน่าจะกำลังกลับไปที่คฤหาสน์ นี่เป็นทางกลับคฤหาสน์” เมื่อหลิวปิงพบจุดจุดนี้ก็คลายกังวลลงไม่น้อย ใจที่แขวนอยู่เมื่อสักครู่นี้ก็สงบลง
พูดตามตรงตอนนี้หลิวปิงกลัวว่าหลิวหยิงจะไปหาไป๋ยี่รุ่ย หากเป็นเช่นนั้นประธานของเขารีบตามมา เกรงว่าน่าจะเกิดความยุ่งยากไม่น้อย
“กลับคฤหาสน์?”ซือถูมู่หรงตะลึงงันอย่างเห็นได้ชัด ที่จริงเขาก็คิดว่าหลิวหยิงจะไปหาไป๋ยี่รุ่ย เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะกลับคฤหาสน์
“ครับ เป็นเส้นทางกลับคฤหาสน์ครับ ”ครั้งนี้คำตอบของหลิวปิงหนักแน่นขึ้น เพราะว่าคฤหาสน์ของพวกเขาไม่ได้อยู่ชานเมือง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในเมืองที่พลุกพล่าน แน่นอนว่าคฤหาสน์จะต้องอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกล ตอนนี้เส้นทางของหลิวหยิง จะต้องเป็นทางกลับคฤหาสน์อย่างแน่นอน
“อึม”ซือถูมู่หรงสูดหายใจเข้าลึก อารมณ์ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าก็ดูอบอุ่นขึ้นไม่น้อย ที่แท้เธอก็ต้องการกลับบ้าน กลับบ้านของเขาและเธอ ไม่ได้ไปหาไป๋ยี่รุ่ย
หากเป็นเช่นนี้ เขาสามารถให้อภัยที่เธอเสียใจให้กับไป๋ยี่รุ่ยได้
เธอเป็นผู้หญิงของเขา เธออยู่กับเขามาห้าปีแล้ว เธอไม่เคยร้องไห้ให้กับเขาเลย แล้วมีสิทธิ์อะไรที่เธอจะร้องไห้ให้กับไป๋ยี่รุ่ย
ในเวลานี้หลิวหยิงตัดสินใจที่จะกลับคฤหาสน์แล้ว เธอต้องการที่จะถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนให้กระจ่างแจ้ง ต้องการถามต่อหน้าซือถูมู่หรง เดิมทีเธอต้องการที่จะไปหาซือถูมู่หรงที่บริษัทเหมือนเมื่อวาน
แต่เธอเกรงว่าจะทะเลาะกันจนน่าเกลียด เพราะถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดี อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องร้ายแรงด้วย ไม่เหมือนเรื่องเมื่อวานที่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับใคร
ดังนั้นสุดท้ายหลิวหยิงยังคงตัดสินใจกลับบ้านไปรอซือถูมู่หรง รอให้ซือถูมู่หรงกลับมา จากนั้นค่อยถามให้ชัดเจน
หลิวหยิงไม่ได้โทรหาซือถูมู่หรง เธอกลัวว่าตอนที่ตนโทรหาซือถูมู่หรงจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนได้
เธอติดตามซือถูมู่หรงมาห้าปี รู้ดีว่าซือถูมู่หรงฉลาดขนาดไหน เธอไม่ต้องการให้ซือถูมู่หรงได้มีเวลาในการแต่งเรื่องโกหกไว้ล่วงหน้า
สิ่งที่เธอต้องการก็คือถามเขาต่อหน้า ตอนที่เขายังไม่ได้เตรียมตัว
จะโทษว่าเธอไม่เชื่อใจซือถูมู่หรงไม่ได้ เพราะถึงยังไงซือถูมู่หรงก็โกหกเธอมาห้าปี
เริ่มต้นตั้งแต่ห้าปีก่อนทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ซือถูมู่หรงสร้างขึ้นให้กับเธอทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการโกหกหลอกลวง
รับปากว่าจะช่วยพ่อของเธอก็เป็นเรื่องโกหก วัตถุประสงค์หลักของสัญญาก็คือการโกหก
หลิวหยิงนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ศีรษะของเธอพิงไปที่เบาะหลัง ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆ เธอพยายามที่จะปกปิดความรู้สึกของตน พยายามที่จะบังคับตนเอง ไม่ให้ตนต้องร้องไห้ออกมา ร้องไห้ไม่ได้ ฟันของเธอกัดริมฝีปากแน่น จึงจะสามารถบังคับไม่ให้น้ำตาไหลออกมาได้
“สาวน้อย เป็นอะไรไป?”คนขับรถเห็นท่าทีของเธอ จึงอดที่จะเอ่ยถามขึ้นประโยคหนึ่งไม่ได้ มีความเป็นห่วงและเป็นกังวล
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะว่าเธอกลัวว่าหากเธอพูดอะไรออกมาน้ำตาก็จะไหลพรากออกมาเช่นกัน
“สาวน้อยทะเลาะกับที่บ้านเหรอ?หรือว่าทะเลาะกับแฟน?”ผ่านไปไม่นานคนขับรถก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามขึ้นอีกครั้ง เขาเหลือบมองกระจกหลังครู่หนึ่ง:“ทางด้านหลังมีรถคันหนึ่งตามพวกเรามาโดยตลอด ใช่คนที่บ้านของคุณหรือเปล่าครับ?หรือว่าเป็นแฟนของคุณ?”
หลิวหยิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะเธอรู้ว่าซือถูมู่หรงให้คนสะกดรอยตามเธอตั้งนานแล้ว
แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนของซือถูมู่หรง จะจับตาดูเธอก็ดูไปเถอะ เธอไม่ใส่ใจ ไม่ได้ใส่ใจ
“สาวน้อย อย่าเสียใจไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือว่าแฟน การที่เขาสะกดรอยตามคุณก็เป็นเพราะเขาเป็นห่วงคุณ หากเป็นแฟน ก็แสดงว่าแฟนรักคุณมาก คุณควรที่จะดีใจ”
ฝีมือในการสะกดรอยตามของหลิวปิงนั้นไม่เลว เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนขับรถเก่าแก่ ลักษณะพิเศษที่สุดของคนขับรถก็คือ ระหว่างที่ขับรถจะสังเกตทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวอย่างอัตโนมัติ ดังนั้นจึงพบว่ามีรถตามมาข้างหลัง
คนขับรถเป็นลุงช่างพูดคนหนึ่ง และปลอบประโลมคนเก่ง
หากเป็นช่วงที่เหตุการณ์ปกติ คำพูดของลุงขับรถก็ยังจะสามารถโน้มน้าวเธอได้
แต่ว่านี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ระหว่างซือถูมู่หรงกับหลิวหยิงทุกอย่างล้วนไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ
หลิวหยิงเผยอริมฝีปากออก พลางเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา เป็นห่วงเธอ รักเธอ?
คนที่ตามมาข้างหลังเป็นคนของซือถูมู่หรง แต่ว่ากลับไม่ได้เป็นห่วงเธอ รักเธอ แต่กลับเป็นการจับตาดูเธอต่างหาก
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมซือถูมู่หรงจะต้องให้คนคอยจับตาดูเธอ ตอนนั้นเธอเซ็นสัญญากับซือถูมู่หรงเป็นเวลาถึงห้าปี ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าซือถูมู่หรงเป็นคนทำร้ายพ่อของเธอ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องทำตามสัญญา
ซือถูมู่หรงไม่จำเป็นต้องส่งคนมาจับตาดูเธอ
หรือว่าซือถูมู่หรงกลัวว่าเธอจะรู้ความจริง?!
ดวงตาของหลิวหยิงเป็นประกายเล็กน้อย เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่เคยสงสัยมาก่อนเลย?
เธอนี่โง่จริงๆ ถูกเขาหลอกมาห้าปี เธอรู้สึกว่าความสาวตลอดระยะเวลาห้าปีของเธอได้ถูกหมาบ้าตัวหนึ่งย่ำยีจนป่นปี้แล้ว !
เมื่อคนขับรถเห็นว่าคำพูดของเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถปลอบใจหลิวหยิงได้ อีกทั้งท่าทีของหลิวหยิงก็ยิ่งเศร้าขึ้นอีก คนขับรถจึงทำได้เพียงหุบปาก ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาอีก
นิ่งเงียบมาตลอดทาง เมื่อถึงคฤหาสน์หลิวหยิงก็ลงจากรถ
หลิวปิงที่ตามมาข้างหลังก็หยุดรถ รอให้ประธานของตนมาก่อน!!!!