ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1578 เรื่องราวร้ายแรงแล้ว (1)
หลิวหยิงไม่รอให้เวินลั่วฉิงพูดก็พูดติดต่อกันก่อนแล้ว เสียงของเธอทั้งเร็วทั้งรีบ ชัดเจนเลยว่ายังมีความรนและตื่นเต้นแฝงอยู่ แค่ฟังก็รู้ว่าเรื่องหนักหนาสาหัสเพียงไหน!!
“พึ่งเห็นเมื่อกี้ ฉันกำลังจะตรวจให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” เวินลั่วฉิงเองก็พึ่งเห็นข่าวเมื่อกี้ ถึงแม้ว่าระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยจะจบลงตั้งนานแล้ว ทว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับไป๋ยี่รุ่ย เธอก็ไม่สามารถไม่สนใจได้
“อื้ม ฉันรู้ ฉันรู้หมดเลย เรื่องนี้สองสามประโยคคงพูดไม่ชัดเจน อีกอย่างก็ไม่สะดวกพูดผ่านโทรศัพท์ พวกเราสามารถเจอกันแล้วค่อยพูดได้ไหม?” หลิวยิงได้ยินเวินลั่วฉิงไม่ได้เฝ้าดูอย่างนิ่งดูดายก็โล่งอกไปที เรื่องนี้มีแต่ฉิงฉิงแล้วที่จะช่วยไป๋ยี่รุ่ยได้ หากฉิงฉิงไม่ช่วย เธอไม่รู้จะหาใครแล้ว
“โอเค เจอกันที่ไหน เมื่อไหร่?” เวินลั่วฉิงฟังออกถึงน้ำเสียงที่ไม่ค่อยปกติแล้วหลิวหยิง “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เสียงของเธอดูเหมือนไม่ค่อยโอเค”
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรมเชนโจวลิ่ว เธอสามารถมาหาฉันได้ไหม? ฉันจะส่งตำแหน่งที่ตั้งของฉันให้เธอ เรื่องอื่นตอนที่เธอมาแล้วฉันค่อยคุยด้วย” หลิวหยิงไม่สะดวกพูดในโทรศัพท์จริงๆ อีกอย่างตอนนี้เสื้อผ้าของเธอยังไม่ถูกส่งมา สภาพของเธอในตอนนี้ก็ไม่สะดวกที่จะออกไป จึงได้แต่ให้ฉิงฉิงมา
“โอเค” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะไม่ได้พูดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับซือถูมู่หรง ทว่าเธอรู้ว่าเรื่องที่หลิวหยิงและซือถูมู่หรงอยู่ด้วยกัน
ในเมื่อหลิวหยิงกับซือถูมู่หรงอยู่ด้วยกัน แล้วทำไมต้องไปที่โรงแรมเชนโจวลิ่ว?
ถึงแม้ว่าในใจของเวินลั่วฉิงจะเกิดความสงสัย ทว่าไม่ได้ถามอะไรมาก ในโทรศัพท์ก็ไม่สะดวก อีกอย่างฟังจากน้ำเสียงของหลิวหยิงแล้วเหมือนจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
“เธอส่งตำแหน่งที่ตั้งให้ฉัน ฉันรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” ตอนแรกเวินลั่วฉิงยังกังวลเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยอยู่ ตอนนี้หลิวหยิงโทรหาเธอ เธอก็กังวลเรื่องของหลิวหยิง ดังนั้นจึงไม่กล้าเสียเวลา
“อื้ม” หลิวหยิงโล่งอกไปทีอย่างชัดเจน เส้นประสาทที่ตึงเครียดในที่สุดก็ปล่อยวางลง “ฉิงฉิง ขอบคุณนะ โชคดีมากเลยที่ยังมีเธอ”
โชคดีที่ในตอนที่เธอหมดหนทางก็ยังมีฉิงฉิงเพื่อนคนนี้
“คำพูดไร้สาระไม่ต้องพูด รอฉันไว้” เวินลั่วฉิงวางสายแล้วก็ตรงไปทางตำแหน่งที่ตั้งที่หลิวหยิงส่งมา เวินลั่วฉิงขับรถไปเอง ขับเร็วมาก ถึงแม้ว่ารถที่เวินลั่วฉิงขับจะไม่ได้หรูเหมือนรถของซือถูมู่หรง ทว่าก็ไม่แย่แน่นอน ไม่ว่ายังไงแล้วเฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นคนซื้อให้เธอเอง
วันนี้ รปภ.เห็นรถหรูที่น้อยมากจะพบเจอสองคันเลย และจอดรถไว้ด้านนอกโรงแรมด้วย วันนี้รปภ. ถือว่าได้เปิดตาดูโลกแล้ว
และในตอนที่เวินลั่วฉิงลงจากรถ รปภ.ตะลึงงันไปเลย เขาโตมาขนาดนี้แล้วยังไม่เคยเห็นคนที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย
รปภ.ยืนซื่ออยู่ที่นั่นนานมากกว่าจะดึงสติกลับมาได้ เวินลั่วฉิงเดินเข้าโรงแรมไปนานมาก รปภ.จึงจะตอบสนองกลับมา
โรงแรมเชนแบบนี้ไม่ได้เข้มงวดเหมือนพวกโรงแรมห้าดาว เวินลั่วฉิงพูดกับหน้าเคาน์เตอร์ไปสักพัก หน้าเคาน์เตอร์ก็ปล่อยให้เข้าไปแล้ว
เวินลั่วฉิงเดินขึ้นตึกเลย หาห้องของหลิวหยิงจนเจอ หลิวหยิงเปิดประตูออก ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะเดาออกแต่แรกแล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลิวหยิง ทว่าตอนนี้พอเธอเห็นสภาพของหลิวหยิงแล้วก็ยังตกใจมาก ดวงตาแดงก่ำคู่หนึ่งก็ช่างเถอะ แผลที่คอเกิดอะไรขึ้น?
ซือถูมู่หรงทำอะไรหลิวหยิง?
“นี่เกิดอะไรขึ้น?” เวินลั่วฉิงเดินเข้าห้องไปแล้วไม่ได้ถามเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยเลย แต่ว่าถามอาการของหลิวหยิงก่อน
“จริงๆ แล้วเธอน่าจะรู้เรื่องของฉันกับซือถูมู่หรงใช่ไหม?” หลิวหยิงยิ้มโค้งที่มุมปากเล็กน้อย น่าจะอยากจะยิ้มโค้งออกมา ทว่าสภาพของเธอในตอนนี้แย่มาก รอยยิ้มนั้นจึงทำให้ดูแย่ไปด้วย
“ฉันรู้ว่าเธออยู่กับซือถูมู่หรง ทว่าฉันไม่รู้ว่าหลักๆ แล้วระหว่างพวกเธอเกิดอะไรขึ้น เธอไม่บอกฉัน ไม่อยากให้ฉันรู้ แน่นอนว่าฉันก็จะไม่ถามอะไรมาก” หากเป็นเรื่องที่เวินลั่วฉิงอยากสืบ ทว่าตอนนั้นหลิวหยิงไม่อยากให้เธอรู้อย่างชัดเจน เธอจึงทำเป็นไม่รู้
“เมื่อห้าปีก่อนบ้านฉันเกิดเรื่องขึ้น ฉันไปหาเขาเพื่อช่วยพ่อของฉัน ตอนนั้นฉันเซนต์ใบสัญญาหนึ่งกับเขา เขาช่วยพ่อของฉัน ฉันอยู่กับเขาห้าปี” หลิวหยิงในตอนนี้พูดถึงเรื่องนี้แล้วหัวใจเจ็บปวดมาก เมื่อก่อนเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าอึดอัดใจ ทว่าไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้น ไม่ว่ายังไงแล้วเธอก็เป็นคนยอมเอง ซือถูมู่หรงช่วยเหลือเธอ ในใจของเธอจึงรู้สึกขอบคุณซือถูมู่หรงมาโดยตลอด
เวินลั่วฉิงคิดไม่ถึงว่าระหว่างเธอและซือถูมู่หรงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น สถานการณ์ที่มีการแลกเปลี่ยนกันตั้งแต่แรก ถึงแม้ว่าจะเกิดความรู้สึกขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย
เธอมองออกว่าซือถูมู่หรงใส่ใจหลิวหยิง น่าจะเป็นเพราะวันเวลาผ่านไปก็ค่อยๆ เกิดเป็นรัก ทว่าหลิวหยิงต้องสงสัยแน่นอน หรือไม่อาจจะปฏิเสธเลย แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือต้องดูว่าตอนนั้นพวกเขาเซนต์สัญญากันไว้ยังไง
หากสัญญาไม่ได้เกินไป อาจจะไม่ได้มีอุปสรรคด้านความรู้สึกมากมาย
“ในเมื่อตอนแรกพวกเธออยู่ด้วยกันเพราะสัญญา แต่ว่าพวกเธออยู่ด้วยกันมาห้าปี ระหว่างห้าปีนี้มีเรื่องราวมากมายเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความสัมพันธ์” เพราะเวินลั่วฉิงรู้ว่าซือถูมู่หรงชอบหลิวหยิงอยู่ และนิสัยของหลิวหยิงเธอเองก็เข้าใจ ในเมื่อหลิวหยิงอยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปีแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีความสัมพันธ์เลย
ตอนนี้ดูเหมือนว่าระหว่างทั้งสองน่าจะเกิดปัญหาขึ้น เวินลั่วฉิงก็ยังคิดอยู่ว่าหากระหว่างทั้งสองมีความรู้สึกต่อกัน เธอก็ยังหวังว่าสองคนนี้จะสามารถอยู่ด้วยกัน
“เธอรู้ว่าไหมว่าตอนนั้นเขาให้ฉันเซนต์สัญญาอะไร?” ดวงตาแดงก่ำของหลิวหยิงมองไปทางเวินลั่วฉิง “เธอคิดไม่ถึงแน่นอน ในใบสัญญานั้นล้วนเป็นความไม่เท่าเทียบ ถึงขั้นมีความเหยียดหยามแฝงอยู่ด้วย”
นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงเปล่งประกายเล็กน้อย ดูเหมือนว่าใบสัญญานั้นจะเกินไปแล้ว หากเป็นแบบนั้น งั้นเรื่องนี้ก็จัดการยากแล้ว แต่ว่าซือถูมู่หรงโง่เหรอ? ทำไมตอนนั้นถึงต้องให้หลิวหยิงเซนต์ใบสัญญาแบบนั้น?
ถึงแม้ตอนนั้นหลิวหยิงจะไปร้องขอความช่วยเหลือจากซือถูมู่หรง ซือถูมู่หรงก็ไม่จำเป็นต้องโหดร้ายขนาดนี้หรอกมั้ง?
“เธอรู้ไหมว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงต้องให้ฉันเซนต์สัญญาแบบนั้น” ครั้งนี้ไม่รอให้เวินลั่วฉิงถาม หลิวหยิงเริ่มพูดเองแล้ว
เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร ฟังหลิวหยิงพูดอย่างเงียบๆ เวินลั่วฉิงรู้ว่าขณะนี้หลิวหยิงต้องการผู้ฟัง ดังนั้นไม่ว่าหลิวหยิงจะพูดอะไร เธอแค่ตั้งใจฟังก็พอแล้ว
แต่ว่าดูจากท่าของหลิวหยิงแล้ว เรื่องระหว่งาหลิวหยิงและซือถูมู่หรงคงจะไม่เล็ก เวินลั่วฉิงรู้ว่าหลิวหยิงคือเด็กผู้หญิงที่จิตใจดีมากๆ ดังนั้นเรื่องนี้เกรงว่าซือถูมู่หรงจะทำเกินไปแล้ว
“เขานำใบสัญญาที่ฉันเซนต์ไปให้พ่อของฉัน พ่อของฉันเอ็นดูและรักใคร่ฉันที่สุดแล้ว ในตอนที่เห็นใบสัญญาโรคหัวใจก็กำเริบ พอส่งไปถึงโรงพยาบาลก็เสียชีวิตแล้ว” หลิวหยิงในตอนนี้อยู่ต่อหน้าเวินลั่วฉิงแล้วปล่อยวางตัวเองอย่างผ่อนคลายทั้งหมด ไม่เข้มแข็งอีกต่อไป แล้ว ดังนั้นจึงทนไม่ไหวร้องไห้ขึ้นมา
จากตอนที่คุณนายซือถูบอกเรื่องพวกนี้กับเธอผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว ทว่าทุกครั้งที่เธอนึกขึ้น ก็จะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก
“เธอฟังใครพูดเรื่องพวกนี้?” เวินลั่วฉิงที่เงียบสงบมาเพียงไหนขณะนี้ก็ตกใจมาก เธอคิดได้ว่าระหว่างหลิวหยิงและซือถูมู่หรงน่าจะเกิดปัญหาขึ้น ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่าปัญหาจะร้ายแรงขนาดนี้
การตอบสนองแรกของเวินลั่วฉิงก็คือสงสัยความเป็นจริงของเรื่อง เป็นไปได้หรือเปล่าที่จะมีคนอิจฉาหลิวหยิงที่สามารถอยู่ข้างกายของซือถูมู่หรง ดังนั้นจึงตั้งใจสร้างความแตกแยก?
“คุณนายซือถูบอกกับฉันเอง แม่ของฉันก็รู้เรื่องนี้ ตอนนั้นแม่ของฉันก็อยู่ในสถานการณ์ ตอนนั้นแม่ของฉันคิดว่าซือถูมู่หรงไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่นอน และกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับฉัน ดังนั้นจึงไม่ได้บอกฉัน แน่นอนว่าฉันเองก็ถามซือถูมู่หรงกับตัวแล้ว ตัวเขาเองก็ยอมรับแล้ว” หลิวหยิงเข้าใจความหมายของเวินลั่วฉิง จริงๆ แล้วตอนที่เธอได้ยินคำพูดของคุณนายซือถูก็มีความสงสัย ไม่เชื่อ
ทว่าเธอถามแม่ของเธอแล้ว ยังถามซือถูมู่หรงกับตัวด้วย ยืนยันแล้วว่าสิ่งที่คุณนายซือถูพูดคือความจริง
ใบหน้าของเวินลั่วฉิงมีความหนักแน่นเพิ่มขึ้น หากเรื่องเป็นเช่นนี้ งั้นเรื่องนี้ก็ร้ายแรงมากๆ แล้ว ไม่ว่ายังไงเวินลั่วฉิงก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะร้ายแรงเช่นนี้
คิดไม่ถึงว่าซือถูมู่หรงจะทำใบสัญญาที่หลิวหยิงเซนต์ไปให้พ่อของหลิวหยิงดู จากนั้นก็ทำเอาคุณพ่อของหลิวหยิงโมโหจนเสียชีวิต หากซือถูมู่หรงไม่ได้ตั้งใจเกรงว่าจะไม่มีคนเชื่อ
หากซือถูมู่หรงตั้งใจ งั้นเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบของเรื่องนี้ซือถูมู่หรงก็ได้วางแผนเอาไว้แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าการที่หลิวหยิงไปหาซือถูมู่หรงนั้นซือถูมู่หรงก็ได้วางแผนเอาไว้
“แต่ว่าทำไมซือถูมู่หรงถึงต้องทำแบบนั้น? เขาไม่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเรื่องนี้พูดไม่ถูก เป็นไปไม่ได้ที่ซือถูมู่หรงจะทำเรื่องแบบนั้นโดยไร้สาเหตุหรอกมั้ง?
ซือถูมู่หรงไม่ได้บ้าไปแล้วซะหน่อย?