ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1589 ปฏิเสธ (2)
หากคุณชายสามเย่ได้ยินคำพูดแบบนี้แล้ว จะไม่รน?
จะไม่สนใจเหรอ?
คุณชายสามเย่สู้กับหัวหน้าน้อย งั้นผลที่ตามมาไม่อาจจะคาดคิดเลย
“ดูเหมือนว่าฉันจะโทรผิดแล้ว” นัยน์ตาของเวินลั่วฉิงมีความหม่นหมองลง คำพูดของหัวหน้าน้อยเธอไม่ได้เชื่อ รู้สึกเพียงแต่ว่าหัวหน้าน้อยยังมีเป้าหมายอื่น
แต่ว่าเธอก็คิดไม่ออกว่าตัวเองมีค่าอะไรให้หัวหน้าน้อยทำเช่นนี้
หรือว่าเธอจะโทรผิดไปแล้ว
“หืม?” มู่เฉิงยิ้มโค้งขึ้นที่มุมปาก “ฟังจากความหมายของคุณถังแล้วคือคุยไม่สำเร็จ?”
“คุยไม่สำเร็จ งั้นก็สู้กัน” เวินลั่วฉิงไม่ใช่คนที่นั่งรอความตาย ยิ่งไม่ใช่คนที่จะมารังแกได้ ถึงแม้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะใหญ่โต ทว่าหากองค์กรโกสต์ซิตี้มีเป้าหมายอะไรกับเธอ เธอไม่มีทางกลัว ไม่มีทางถอยหลัง
คุยไม่สำเร็จ งั้นก็สู้กัน เกรงว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
“เกรี้ยวกราด เก่งกาจ” คุณชายหานอดชมไม่ไหวเลย สมแล้วที่เป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา คุณชายหานรู้สึกว่า เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาไม่เป็นใครแล้ว เป็นคุณถังแน่นอน
หัวหน้าน้อยตะลึงงันไปที จากนั้นก็หัวเราะออกเสียง อื้ม สมกับที่เป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาจริงๆ
เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขาควรจะเป็นเช่นนี้แหละ
“เมื่อกี้ก็แค่ล้อเล่นครับ คุณถังวางใจได้ ผมจะรีบจัดการเจิ้งฉง ไม่มีทางให้เจิ้งฉงก่อเรื่องอะไรขึ้นเด็ดขาด” ตอนนี้ในน้ำเสียงของมู่เฉิงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ สามารถฟังออกว่าเสียงหัวเราะในตอนนี้จริงใจกว่าก่อนหน้านี้เยอะมาก ดังนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าเขาไม่ได้โกรธ และสามารถฟังออกว่าประโยคนี้เขาไม่ได้ล้อเล่น
เวินลั่วฉิงตะลึงงันอีกครั้ง หัวหน้าน้อยคนนี้แปลกเกินไปแล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำให้ไม่เข้าใจจริงๆ
“งั้นก็ขอบคุณหัวหน้าน้อยแล้วนะคะ” ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยเป็นอะไร ทว่าคำพูดของหัวหน้าน้อยเมื่อกี้พูดได้ดีมาก
“งั้นเรื่องข้างหลัง คุณถังจะพิจารณาหน่อยไหม” หัวหน้าน้อยยังไม่ตายใจ ดังนั้นยังคงพูดเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ
“ไม่” ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดคำไร้สาระเลยแม้แต่น้อย ประโยคปฏิเสธเพียงคำเดียว ความหมายชัดเจนมากแล้ว
เธอไม่อยากพูดมากกับหัวหน้าน้อยท่านนี้ เพราะเธอเห็นว่าหัวหน้าน้อยท่านนี้ไม่ได้ทำงานตามหลักการ
เป้าหมายที่เธอโทรมาบรรลุแล้ว เวินลั่วฉิงกลัวว่าหัวหน้าน้อยคนนี้จะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมาอีก ดังนั้นจึงวางสายไป
“ฉิงฉิง หัวหน้าน้อยบอกว่าเขามีใจให้เธอ นี่คือเรื่องจริงเหรอ?” หลิวหยิงในตอนนี้ยังไม่ได้สติกลับมาจากเรื่องเมื่อกี้ ประโยคนั้นของหัวหน้าน้อยถึงแม้ว่าจะแค่พูดล้อเล่น ทว่าหลิวหยิงรู้สึกว่าเหมือนหัวหน้าน้อยจะไม่ได้ล้อเล่นหมด
“เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” เวินลั่วฉิงมองไปทางหลิวหยิง เอาความจริงเธอไม่ได้คิดว่าคำพูดของหัวหน้าน้อยคนนั้นจะเป็นเรื่องจริงๆ
“ฉันรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเรื่องจริง ไม่ว่ายังไงแล้วฉิงฉิงของเราก็สวยขนาดนี้ เก่งขนาดนี้ ไม่มีคนไม่ชอบหรอก ดังนั้นหัวหน้าน้อยจะมีใจให้เธอก็ไม่แปลก” หลิวหยิงมองดูเวินลั่วฉิง ตอบกลับอย่างจริงจัง เธอคิดแบบนี้จริงๆ
“ฉันไม่เคยมีการติดต่อกับเขา ไม่เคยเจอหน้ากัน ใจที่มีให้ของเขามาจากไหนกัน” เวินลั่วฉิงส่ายหัวแล้วยิ้ม ความคิดของหลิวหยิงเป็นความคิดสาวๆ ทั้งนั้น
เวินลั่วฉิงรู้ว่าตัวเองมีใบหน้าที่งดงาม เธอเองก็มีความสามารถ ทว่าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นใคร คนแบบนี้วางอยู่ต่อหน้าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้เกรงว่าจะไม่คู่ควรแก่การพูดถึงเลย
อีกอย่างเขาและหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่รู้จักกันเลย จะมีใจให้จากไหน?
พูดไปมั่วชัดๆ
“แต่ว่าเรื่องของเธอถูกรายงานบนอินเทอร์เน็ต บนอินเทอร์เน็ตก็มีรูปของเธอ ตอนที่เธอพึ่งกลับบ้านถัง ไม่แน่หัวหน้าน้อยอาจจะเพราะว่าเห็นรูปพวกนั้น ดังนั้นถึงได้มีใจให้กับเธอไง” หลิวหยิงไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเวินลั่วฉิง เธอรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้
ใครบอกว่าไม่เคยเจอหน้าก็ไม่ชอบแล้ว มีแฟนคลับดารามากมายที่ไม่เคยเจอไอดอลของตัวเอง ทว่าก็ยังรักจะเป็นจะตาย
“เธอรู้สึกว่าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ว่างมาก ไม่มีเรื่องอะไรทำแล้วเสือกเรื่องชาวบ้านไปทั่วเหรอ” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของหลิวหยิงแล้วก็อดหัวเราะไม่ไหว เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกว่าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้จะว่างขนากนั้น แล้วเสือกเรื่องชาวบ้านบนอินเทอร์เน็ตทุกวัน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เธอกลับบ้านถังก็มีข่าวแพร่ออกไปไม่มาก ก็แค่พูดว่าเธอได้แก้คดีความหนึ่งสำเร็จ เรื่องอื่นๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย ตอนนั้นก็ได้ลงรูปเธอไปหนึ่งรูปจริงๆ
ทว่าผ่านไปไม่นาน ก็ถูกเย่ซือเฉินกดทับลงไป หลังจากนั้นก็หารูปเธอเบนอินเทอร์เน็ตไม่เจอแล้ว
ดังนั้น หัวหน้าน้อยท่านนี้ถึงแม้ว่าจะจ้องโทรศัพท์เสือกเรื่องชาวบ้านอยู่ทุกวันก็ไม่มีทางบังเอิญมาเจอเรื่องของเธอ
ดังนั้นหลิวหยิงบอกว่าหัวหน้าน้อยเคยเจอภาพจากบนอินเทอร์เน็ตแล้วชื่นชอบนั้นไม่ถูกต้อง “เธอไม่เข้าใจคำว่าพรหมลิขิตเหรอ โดยเฉพาะตอนนี้ข่าวบนอินเทอร์ในสมัยที่เจริญเติบโตเช่นนี้ ดังนั้นรักแรกพบภายใต้หนึ่งในหมื่นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” หลิวหยิงยังมีหัวใจสาวอยู่ ถึงแม้ว่าห้าปีนี้ระหว่างเธอและซือถูมู่หรงจะเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ถึงแม้ว่าห้าปีมานี้เธอจะอยู่ข้างกายซือถูมู่หรงอย่างเชื่อฟังมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าซือถูมู่หรงจะโกหกเธอตั้งแต่แรก ทว่าเธอยังคงมีมุมมองที่ดีกับความรักเหมือนเดิม
เวินลั่วฉิงเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันก็ของเธอก็อดหัวเราะไม่ไหว ไม่ว่าสถานการณ์อะไรหลิวหยิงก็จะคิดไปในแง่ดีตลอด ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด เธอก็ยังเชื่อว่าโลกใบนี้มีเรื่องราวมากมายที่สวยงาม
ท่าทีที่มองในแง่ดีแบบนี้ยากมากที่จะมี เห็นหลิวหยิงในแบบนี้แล้วเวินลั่วฉิงก็ไม่ได้เป็นห่วงเธอมากมาย
“ฉิงฉิง เธอเงียบสงบเกินไป มีสติเกินไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าใจความรู้แบบรักแรกพบ ความรักที่เข้ามากะทันหันแบบนั้น ไม่สามารถควบคุมได้ เธอไม่เข้าใจไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะไม่มี ดังนั้นเธออย่ามาทำหน้าไม่เชื่อ” หลิวหยิงเห็นสีหน้าที่ไม่มีอารมณ์ใดๆ ของเวินลั่วฉิงแล้ว หลิวหยิงรู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่เห็นด้วยกับการพูดของเขา ทว่าเรื่องของความรักไม่สามารถใช้หลักวิชาการไปคาดเดาได้
เวินลั่วฉิงมองสีหน้าที่ตั้งใจเน้นย้ำของหลิวหยิงแล้ว บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มเพิ่มขึ้น “โอเค โอเค เธอพูดถูก”
“เวินลั่วฉิง เธอจะขอไปทีกว่านี้ได้ไหม?” แค่ดูหลิวหยิงก็มองออกว่าท่าทีของเวินลั่วฉิงกำลังขอไปทีกับเธอ
“ฉิงฉิง เธออย่าไม่เชื่อสิ ไม่แน่หัวหน้าน้อยอาจจะชอบเธอจริงๆ ก็ได้” หลิวหยิงขยับไปใกล้เวินลั่วฉิง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง “ครั้งที่แล้วตอนที่หัวหน้าน้อยเปิดงานแถลงข่าวฉันเห็นเขาทางอินเทอร์เน็ตแล้ว หัวหน้าน้อยหล่อมากจริงๆ ฉันเกิดมาโตขนาดนี้แล้วยังไม่เคยเจอผู้ชายที่หล่อขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่ ถึงแม้ว่าผู้หญิงที่ฉันเจอมาก็ไม่เคยมีใครดูดีเท่เขาเลย เขาดูดีมากจริงๆ ดูดีจนไม่สามารถบรรยายได้ ทำให้ฉันนึกถึงคำพูดบนอินเทอร์เน็ตว่า หล่อจนทำเอาเข่าทรุด……” ปกติแล้วหลิวหยิงจะรักนวลสงวนตัว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอชื่นชมผู้ชายคนหนึ่ง เพราะว่าหัวหน้าน้อยดูดีมากจริงๆ
“อีกอย่างน้ำเสียงของเขาก็น่าฟังมาก โดยเฉพาะตอนที่หัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะนั้นทำเอาใจละลายไปเลย โดยเฉพาะเสียงหัวเราะที่แฝงความเอ็นดูอยู่ ถือเป็นปีศาจเลยทีเดียว ไม่สามารถต่อต้านได้ เมื่อกี้ตอนที่เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเขาเธอไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อยเหรอ” หลิวหยิงนึกถึงเสียงที่แฝงแสงหัวเราะของหัวหน้าน้อยเมื่อกี้ มองเวินลั่วฉิงแล้วยิ้มอย่างลึกซึ้ง
“ไม่มี” เวินลั่วฉิงตอบ ง่ายๆ และชัดเจน เสียงของหัวหน้าน้อยน่าฟังมาก เสียงที่แฝงเสียงหัวเราะของหัวหน้าน้อยอ่อนโยนมากจริงๆ ทว่าเธอไม่ได้มีความรู้พิเศษอะไรจริงๆ
หัวหน้าน้อยท่านนั้นจะหล่อหรือไม่ เสียงจะน่าฟังหรือเปล่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอเลย
เธอแค่รู้สึกว่าหัวหน้าน้อยท่านนั้นแปลกเกินไป หลิวหยิงเบิกตาโต จ้องเธอด้วยความโกรธเล็กน้อย “ฉิงฉิง ในด้านความรักเธอมันเย็นชามาก”
“ฉันมีเย่ซือเฉินแล้ว” เวินลั่วฉิงไม่ได้อยากทะเลาะกับหลิวหยิง แค่อธิบายอย่างง่ายๆ เธอไม่ได้เย็นชากับความรัก เธอไม่ได้เย็นชากับเย่ซือเฉิน
ถึงว่าในตอนแรกการตอบสนองของเธอจะค่อนข้างเชื่องช้า ทว่าต่อมาเธอรู้ถึงความรู้สึกที่เย่ซือเฉินมีต่อเธอ เข้าใจความในใจของเย่ซือเฉินแล้ว เธอรู้สึกว่าเธอน่าจะถือว่าเป็นมิตรอยู่
อีกอย่างตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอมักเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ตอนแรกเธอจะไปจดทะเบียนสมรสกับเย่ซือเฉินอีกครั้งแล้ว แต่ว่าหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นทำให้ต้องหยุดไปก่อน