ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1591 สารภาพรัก (2)
ถึงแม้ว่าจะหยุดยั้งเจิ้งฉงไป แต่เกรงว่าจะมีคนอื่นเปิดเผยเรื่องออกไปอยู่ดี
เพราะถึงยังไงสาเหตุที่ไป๋ยี่รุ่ยได้ฆ่าไป๋หยิงตายไปรวมถึงสถานที่เกิดเหตุที่ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าไป๋หยิงไปมันน่ากลัวเกินไป ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจะมาล้วงหาความจริงออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจจากเหล่าผู้คนไปได้
“เธอจะบอกว่าไป๋ยี่รุ่ยฆ่าไป๋หยิงเป็นเรื่องจริง?” หลิวหยิงได้ยินเวินลั่วฉิงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าที่แสดงออกมาได้มีความเคร่งขรึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด “แต่ว่าเรื่องพวกนั้นมันเป็นฝีมือของไป๋ยี่รุ่ยทั้งนั้นจริง ๆ พวกเราจะแก้ปัญหากันยังไง ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยได้ไปมอบตัวไปแล้ว ตำรวจจะต้องเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุที่วิลล่าแล้ว พวกเราอยากจะปิดบังก็ปิดบังเอาไว้ไม่อยู่แล้ว”
อันที่จริงสิ่งที่หลิวหยิงกังวลที่สุดก็เป็นสิ่งนี้
“อืม มันค่อนข้างจะสายไปเสียแล้ว” เวินลั่วฉิงผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ถ้าเธอรู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ จัดการให้เร็วกว่านี้ ก็จะไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำเหมือนอย่างตอนนี้หรอก
“ขอโทษ ฉันผิดเอง ฉันควรจะบอกเธอ ฉันไม่ควรเชื่อฟังไป๋ยี่รุ่ยเลย ฉันควรบอกเธอให้เร็วกว่านี้ ทั้ง ๆ ที่ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้มันมีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้” หลิวหยิงอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดใจขึ้นมา ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอที่ลังเลตัดสินใจไม่ได้เสียทีมันถึงได้ทำให้เกิดปัญหายุ่งวุ่นวายมากมายขนาดนี้ขึ้นมา
“ไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากให้ฉันรู้ฉันก็เข้าใจได้ เขาก็มีนิสัยอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมเขาถึงตั้งใจให้เธอออกไป บอกเรื่องทั้งหมดให้เธอกันล่ะ?” เวินลั่วฉิงคิดไม่ตกเกี่ยวกับตรงจุดที่ไป๋ยี่รุ่ยบอกเรื่องทั้งหมดให้กับหลิวหยิงเลย
ไป๋ยี่รุ่ยจะทำอะไรก็ไม่ชอบบอกคนอื่นทั้งนั้นเลย ไป๋ยี่รุ่ยแม้แต่เธอก็อยากจะปกปิดเอาไว้ ว่ากันตามหลักแล้วก็ไม่ควรจะบอกเรื่องทั้งหมดให้กับหลิวหยิงไปสิ
“เขามาหาฉันเพราะว่ามีเรื่องอยากให้ฉันช่วย” ถึงตอนนี้แล้วหลิวหยิงคิดว่าไม่มีอะไรให้ต้องปิดบังอีกแล้วเหมือนกัน
“หืม?” เวินลั่วฉิงมองไปยังเธอ ตอบไปเสียงเบา การตอบสนองของเวินลั่วฉิงถึงแม้ว่าจะนิ่งมาก แต่เวินลั่วฉิงรู้ว่าในเมื่อไป๋ยี่รุ่ยตั้งใจมาหาหลิวหยิงมันจะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน
“เกี่ยวกับเธอ” หลิวหยิงเลิกสายตาขึ้นไป สบสายตากับเวินลั่วฉิง
คิ้วของเวินลั่วฉิงได้ขมวดออกมาเล็กน้อย เหมือนจะดูผิดคาดออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาชัดเจน
“หลังจากที่ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าไป๋หยิงไปก็ได้ตรงไปที่บริษัท แล้วก็ให้ทนายของบริษัทร่างสัญญาการถ่ายโอนขึ้นมา โอนหุ้นบริษัททั้งหมดในนามของเขา แล้วก็ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาไปให้เธอ เขาไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า ดังนั้นแล้ว เขาก็เลยให้ฉันบอกเธออีกทีในตอนที่ต้องการให้เธอออกหน้าแทนให้” ไป๋ยี่รุ่ยถึงแม้ว่าจะกำชับนักหนาแล้วว่าอย่าให้เวินลั่วฉิงรู้เรื่องก่อน แต่หลิวหยิงรู้ว่าเธอปิดบังเวินลั่วฉิงเอาไว้ไม่ได้
ตอนนี้ในเมื่อเวินลั่วฉิงก็ได้ถามมาแล้ว หลิวหยิงรู้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงแค่ต้องบอกความจริงไปเท่านั้น
“ฉิงฉิง เธอคงจะเข้าใจความคิดของเขานะ เขาฆ่าไป๋หยิง เขาก็เลยเตรียมพร้อมเข้าไปอยู่ในคุก เขาอยู่ในคุกสิ่งพวกนี้มันก็ไม่มีความหมายแล้ว” หลิวหยิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะอธิบายไปคำนึง
หลิวหยิงรู้ว่าเวินลั่วฉิงเมื่อก่อนหน้านี้นั้นรักไป๋ยี่รุ่ย เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่ได้รักแล้ว อีกอย่างตอนนี้ฉิงฉิงก็ได้มีคุณชายสามเย่แล้วด้วย ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไป๋ยี่รุ่ยโอนทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตัวเองไปให้ฉิงฉิง คงจะทำให้ฉิงฉิงรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง
ถ้าให้คุณชายสามเย่รู้เข้า ไม่แน่ว่าคุณชายสามเย่อาจจะหึงเอาก็ได้
แต่ไป๋ยี่รุ่ยได้ฆ่าไป๋หยิงไปแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคิดหาวิธีเพื่อให้ไป๋ยี่รุ่ยพ้นผิด ไป๋ยี่รุ่ยก็ยังจะต้องติดคุกอยู่ดี นี่จึงนับว่าเป็นกรณีพิเศษ
เวินลั่วฉิงไม่พูดอะไรออกมาเลย บนใบหน้าของเธอไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าออกมามายเท่าไหร่นัก หลิวหยิงคาดเดาความคิดเธอไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไง
หลิวหยิงมองไปทางเวินลั่วฉิง พูดหยั่งเชิงออกไป “ไม่อย่างนั้นเธอก็ช่วยไป๋ยี่รุ่ยบริหารบริษัทไปก่อน รอให้เขาออกมาแล้วก็ค่อยคืนให้เขาไป”
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่รู้เรื่องการบริหารบริษัทเลยสักนิด บริษัทเวินซื่อกรุ๊ปก็เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาเป็นคนบริหารมาตลอด” เวินลั่วฉิงในตอนนี้ก็ได้เลิกสายตาขึ้นมามองหลิวหยิงไปแวบนึง คำพูดประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงก็เท่ากับว่าเป็นการแสดงท่าทีออกมาแล้วเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงไม่มีทางรับของของไป๋ยี่รุ่ยมาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นการช่วยบริหารบริษัทแทนไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ได้ทั้งนั้น
“ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางจะตอบรับอยู่แล้ว” หลิวหยิงได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ “แต่กระบวนการทั้งหมดของเขาก็ได้ทำไปเรียบร้อยหมดแล้ว จะขาดก็เพียงแค่ให้เธอออกไปยืนยันยอมรับในตอนท้ายเท่านั้นแล้ว”
“ฉันไม่รับแน่นอนว่าจะต้องมีวิธีที่จะเอาทุกอย่างกลับคืนเขาไปได้” น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงนิ่งเรียบออกมา ไม่ได้ประดับไปด้วยอารมณ์มากมายนัก ไป๋ยี่รุ่ยเกิดเรื่องขึ้น เธอไม่อาจยืนดูอยู่เฉย ๆ ได้ แต่นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
และระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็ได้สิ้นสุดกันไปตั้งนานแล้ว ระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็เลยไม่อาจมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากมายเกินไปได้อีก และก็ไม่อาจมีความสัมพันธ์ต่อกันมากมายเกินไปอีกได้ด้วยเช่นกัน
รับทรัพย์สมบัติของไป๋ยี่รุ่ยมามันจะต้องไม่มีทางอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะจนเสียขนาดที่ไม่มีข้าวจะกิน แต่เธอก็ไม่มีวันจะต้องการของของไป๋ยี่รุ่ยเหมือนกัน
“ตอนนี้เขาต้องเข้าคุก เธอคืนกลับให้เขาไปมันจะไปมีประโยชน์อะไร?” หลิวหยิงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจออกมาเบา ๆ ในสถานการณ์แบบไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ ธุรกิจอื่นก็ยังดีอยู่ แต่บริษัททำอะไรไม่ได้เลย ไป๋ยี่รุ่ยเข้าไปอยู่ในคุกบริหารบริษัทไม่ได้อยู่แล้ว
อีกอย่างเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าคนไปในตอนนี้ก็ได้เผยออกไปแล้ว มันจะต้องส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทแน่ ๆ เลย
ดังนั้นแล้วตอนนี้ในสถานการณ์แบบนี้ การโอนบริษัทไปมันถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาบริษัทของไป๋ยี่รุ่ยเอาไว้ได้
“หาคนมาช่วยเขาบริหารเสียเถอะ หาคนที่เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือมาบริหารสักคน รอหลังจากที่เขาออกมาแล้ว บริษัทก็ยังเป็นของเขาอยู่” เวินลั่วฉิงจะไม่มีทางรับไปเด็ดขาด แต่ว่าสถานการณ์ของไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ เธอเองก็จะไม่สนใจเลยก็ไม่ได้จริง ๆ
“ฉันให้เย่ซือเฉินช่วย ลองดูว่าจะหาคนที่เหมาะสมมาได้หรือเปล่า” เวินลั่วฉิงไม่รู้เรื่องทางธุรกิจเลยสักนิดเดียว คนที่เธอรู้จักก็ไม่เชี่ยวชาญเรื่องทางธุรกิจเลยเหมือนกัน ดังนั้นแล้วทำได้แค่เพียงไปหาเย่ซือเฉินมาให้ช่วยเหลือเท่านั้น
“เรื่องนี้เธอไปให้คุณชายสามเย่มาช่วย เธอไม่กลัวว่าคุณชายสามเย่จะหึงเอาเหรอ?” หลิวหยิงมองเวินลั่วฉิงไปด้วยความประหลาดใจ เวินลั่วฉิงไปหาเย่ซือเฉินมาให้ช่วยไป๋ยี่รุ่ย เย่ซือเฉินจะไม่หึงเอา?
“ไม่ขนาดนั้นหรอก” เวินลั่วฉิงคิดว่าคุณชายสามเย่ไม่ถึงขนาดที่จะหึงหวงเพราะเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้หรอก
“ไม่ถึงขนาดนั้นได้ยังไงกัน ผู้ชายใจแคบในเรื่องพวกนี้มากเลยนะ เธอไปหาคุณชายสามเย่ แต่กลับให้ช่วยผู้ชายคนอื่น คุณชายสามเย่ไม่มีทางจะไม่โกรธเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างไป๋ยี่รุ่ยกับเธอก็ยังเคยคบกันมาก่อนด้วย” หลิวหยิงถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีความรักมาก่อน แต่หนังสือที่เธออ่านมามันก็ไม่ได้น้อยเลยจริง ๆ ดังนั้นแล้วเรื่องพวกนี้เธอค่อนข้างที่จะเชี่ยวชาญเลยทีเดียว
“ฉันคิดว่าคงจะไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง?” ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงจะยังยืนกรานในความคิดของตัวเองอยู่ แต่น้ำเสียงของเธอในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เด็ดขาดเหมือนกับเมื่อกี้นี้แล้ว
เธอคิดว่าความรู้ความเข้าใจในทางด้านนี้ของเธอมันเหมือนกับว่าจะยังน้อยไปบ้าง
“ถึงขนาดนั้นแหละ ฉันคิดว่ามันถึงขนาดนั้นเลย ฉันคิดว่าถ้าเธอไปพูดกับคุณชายสามเย่จริง ๆ คุณชายสามเย่จะต้องหึงแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วเธอก็ลองไปดูสิ” น้ำเสียงของหลิวหยิงมั่นใจเป็นอย่างมาก
“ความหมายของเธอก็คือ?” ดวงตาของเวินลั่วฉิงได้วูบไหวออกมาเบา ๆ เรื่องของความรู้สึกเธอไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่นัก ดังนั้นแล้วตอนนี้เธอจึงต้องถามความหมายของหลิวหยิงออกไป
“ฉันคิดว่า ทางที่ดีที่สุดเธออย่าบอกเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยได้โอนทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาให้เธอให้กับคุณชายสามเย่เลย” หลิวหยิงคิด ๆ ไปแล้วเธอก็คิดว่านี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
“แน่นอนว่ายิ่งไม่สามารถให้คุณชายสามเย่เชิญคนมาช่วยไป๋ยี่รุ่ยบริหารบริษัทได้เป็นอันขาด ถึงแม้ว่าเธอกับไป๋ยี่รุ่ยจะเลิกกันไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณชายสามเย่จะไม่เห็นไป๋ยี่รุ่ยเป็นศัตรูหัวใจ ดังนั้นแล้วเพื่อความปลอดภัยของเธอแล้ว ฉันคิดว่าเธออย่าให้คุณชายสามเย่รู้เรื่องนี้เลยจะดีกว่า”
หลิวหยิงในตอนนี้ได้ให้คำแนะนำกับเวินลั่วฉิงไปอย่างจริงจังมาก
มุมปากของเวินลั่วฉิงได้เม้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมาไปชั่วขณะนึง ดูเหมือนว่าจะกำลังขบคิดคำพูดของหลิวหยิงอยู่
เวินลั่วฉิงยังคงคิดว่าเย่ซือเฉินไม่ถึงขนาดที่จะหึงหวงเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ เพราะถึงยังไงเย่ซือเฉินก็รู้ว่าเธอไม่ได้ชอบไป๋ยี่รุ่ยแล้ว เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับไป๋ยี่รุ่ยไปตั้งนานแล้ว
ถ้าไม่เพราะว่าตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยได้เกิดเรื่องร้ายแรงอย่างนี้ขึ้นมา เธอไม่มีทางจะมายุ่งเรื่องไป๋ยี่รุ่ยอยู่แล้ว ไม่มีทางจะมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับไป๋ยี่รุ่ยอีกอยู่แล้ว
เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาดเสียขนาดนั้น จะต้องเข้าใจเหตุผลพวกนี้ เข้าใจเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน
“ตอนนี้เรื่องไป๋ยี่รุ่ยได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ส่งผลกระทบต่อบริษัทของไป๋ยี่รุ่ยหนักเลย ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครคอยนั่งรักษาการณ์อยู่ที่บริษัท บริษัทจะต้องวุ่นวายแน่ ๆ บริษัทมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะยุบตัวลงไปได้สูง ตอนนี้ต้องมีคนที่เชี่ยวชาญสักคนนึงมาแก้วิกฤติที่บริษัทของไป๋ยี่รุ่ยโดยด่วน คนที่เชี่ยวชาญแบบนี้มันหาได้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะ” คำพูดของหลิวหยิงเวินลั่วฉิงก็ฟังอยู่เหมือนกัน แต่ว่า สถานการณ์เหมือนอย่างในตอนนี้มันจำเป็นต้องแก้วิกฤติให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วไม่ต้องรอให้ไป๋ยี่รุ่ยออกมา บริษัทของไป๋ยี่รุ่ยตอนนี้ก็คงจะล้มลงไปแล้ว!!
แน่นอนว่า เธอจะไม่สนใจมันก็ได้ เดิมทีแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับไป๋ยี่รุ่ยอีกเหมือนกัน แต่ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ของไป๋ยี่รุ่ย สุดท้ายแล้วเธอก็ยังแข็งใจทนดูต่อไปไม่ไหวอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยเมื่อตอนนั้นมันเป็นกลอุบายของไป๋หยิงทั้งนั้น เมื่อก่อนหน้านี้เธอได้สืบเรื่องไป๋หยิงมาแล้ว ได้สืบไปเจอเรื่องมากมายที่ไป๋หยิงได้ทำลงไป หนึ่งในนั้นก็ได้รวมไปถึงเรื่องพวกนั้นที่ไป๋หยิงได้ทำลงไปเพื่อแยกเธอกับไป๋ยี่รุ่ยออกจากกันด้วย!!