ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1592 รักแรกลืมได้ยากที่สุด (1)
เมื่อก่อนหน้านี้เธอได้สืบเรื่องไป๋หยิงมาแล้ว ได้สืบไปเจอเรื่องมากมายที่ไป๋หยิงได้ทำลงไป หนึ่งในนั้นก็ได้รวมไปถึงเรื่องพวกนั้นที่ไป๋หยิงได้ทำลงไปเพื่อแยกเธอกับไป๋ยี่รุ่ยออกจากกันด้วย!!
ไม่ว่าจะยังไงเวินลั่วฉิงก็คิดไม่ถึงเลย เมื่อตอนนั้นไป๋หยิงเพื่อห้ามไม่ให้ไป๋ยี่รุ่ยมาหาเธอ นึกไม่ถึงว่าจะใช้ยาให้กับไป๋ยี่รุ่ย ให้ไป๋ยี่รุ่ยต้องตกอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นมาตลอด
ตอนนี้ลองคิดดูแล้ว เธอคิดว่าไป๋ยี่รุ่ยน่าอนาถมากเลย ตระกูลไป๋เกิดเรื่อง คุณพ่อไป๋ฆ่าตัวตาย ไม่นานคุณแม่ไป๋ก็ตายตามไปด้วย เมื่อตอนนั้นภาระทั้งหมดของตระกูลไป๋ได้ตกมาอยู่ที่ตัวของไป๋ยี่รุ่ยทั้งนั้น อีกทั้งคุณพ่อไป๋ยังรับลูกสาวนอกสมรสมาอีกคนนึง
หลายปีมานี้ไป๋ยี่รุ่ยไม่ง่ายเลยกว่าจะพยายามมาจนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้ แต่กลับถูกไป๋หยิงทำให้ต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ไปโดยสมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนั้นที่เมื่อก่อนไป๋หยิงได้ทำกับไป๋ยี่รุ่ยลงไปก่อน เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็ได้ทำลายไป๋ยี่รุ่ยไปแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีวิธีมาช่วยให้ไป๋ยี่รุ่ยหลุดรอดไปได้อีก ไป๋ยี่รุ่ยก็จะต้องติดคุกอยู่ดี
“เรื่องทางธุรกิจพวกเราต่างก็ไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ แน่นอนว่าฉันเองก็สามารถให้ถังหลินมาช่วยสักหน่อยได้ แต่ไปให้ถังหลินช่วยเย่ซือเฉินก็จะต้องรู้เหมือนกัน ฉันคิดว่าไม่สู้ไปให้เย่ซือเฉินช่วยไปเลยไม่ดีกว่า” เวินลั่วฉิงได้ครุ่นคิดมาอย่างดีแล้วเหมือนกัน
“งั้นเธอก็ลองไปให้คุณชายสามเย่ช่วยดูแล้วกัน อธิบายกับคุณชายสามเย่ไปให้ชัดเจน ไม่งั้นฉันก็จะช่วยเธออธิบายกับคุณชายสามเย่ให้เอง” หลิวหยิงได้ยินเวินลั่วฉิงพูดมาเสียจริงจังขนาดนี้ก็ได้คิดยุ่งเหยิงไปด้วยเหมือนกัน
ไป๋ยี่รุ่ยเกิดเรื่องขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเธอไม่อาจมองดูบริษัทของไป๋ยี่รุ่ยอวสานไปเฉย ๆ ได้เลยจริง ๆ
“ฉันลองโทรถามดูก่อนแล้วกัน” ดวงตาของเวินลั่วฉิงวูบไหวออกมาเล็กน้อย เธอคิดว่าโทรไปหยั่งเชิงความคิดของเย่ซือเฉินดูก่อนสักหน่อยก็ได้
“ดี ดี โทรได้ คุยผ่านทางโทรศัพท์ ถึงแม้ว่าคุณชายสามเย่จะหึงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หลิวหยิงพยักหน้าออกมาอย่างแรง เห็นด้วยกับความคิดของเวินลั่วฉิงเป็นอย่างมาก
เวินลั่วฉิงจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาเย่ซือเฉิน
โทรศัพท์ดังขึ้นมาเพียงแค่ครั้งเดียว ทางเย่ซือเฉินก็ได้รับสาย หลิวหยิงตกตะลึงไปกับความเร็วในการรับสายของคุณชายสามเย่ไปหมด
“ฉิงฉิง…” พอรับสาย น้ำเสียงที่น่าดึงดูดของคุณชายสามเย่ก็ได้ดังเข้ามา อ่อนโยนเป็นอย่างมาก ได้ประดับไปด้วยความรักใคร่หลงใหลสุด ๆ ออกมาด้วย
นาทีนี้จู่ ๆ หลิวหยิงก็เข้าใจขึ้นมาแล้วว่าทำไมเวินลั่วฉิงถึงไม่ถูกเสียงของหัวหน้าน้อยทำเอารู้สึกชวนอี๋ขึ้นมาเลย
เพราะว่าเสียงนี้ของคุณชายสามเย่มันยิ่งทำให้คนอื่นรู้สึกเลี่ยนกว่าเสียงของหัวหน้าน้อยเสียอีก ไพเราะน่าฟังมากกว่าด้วย
หลิวหยิงมองไปทางเวินลั่วฉิง บนใบหน้าได้ประดับไปด้วยความอิจฉา และก็มีความปลาบปลื้มใจอยู่ด้วย ฉิงฉิงมีความสุขจริง ๆ ยังดีที่ระหว่างพวกเขาฉิงฉิงนั้นได้มีความสุข
“ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยเรื่องนึง” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงที่อ่อนโยนและหลงใหลรักใคร่ของคุณชายสามเย่นั้นแล้วก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรมากมาย คงจะเป็นเพราะว่าได้ยินมาจนชินไปแล้ว เวินลั่วฉิงจึงได้เข้าเรื่องไปเลย
“เรื่องอะไร?” ทางปลายสาย เสียงของเย่ซือเฉินเหมือนกับว่าจะยิ่งอ่อนลงกว่าเดิมไปเล็กน้อย และยังประดับไปด้วยความอารมณ์ดีออกมาจาง ๆ “คุณว่ามา”
น้ำเสียงของได้ประดับไปด้วยความอารมณ์ดีของคุณชายสามเย่ในตอนนี้มันสามารถทำให้คนอื่นหลงมัวเมาไปได้เลยจริง ๆ
เพราะมาก มีเสน่ห์ดึงดูดมากเกินไปแล้ว
“ไป๋ยี่รุ่ยเกิดเรื่อง เขาฆ่าไป๋หยิงไป แล้วไปมอบตัว ตอนนี้เขาอยู่ที่สถานีตำรวจแล้ว” ตอนนี้เสียงพูดของเวินลั่วฉิงเหมือนกับเมื่อกี้เลย ไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกอื่นออกมามากมายเลย เธอก็แค่เล่าเรื่องนี้ออกไปอย่างปกติมาก
คุณชายสามเย่ที่อยู่ทางปลายสายได้เงียบไปครู่นึง แล้วเสียงของเขาก็ได้ดังเข้ามาอีกครั้ง “แล้วไงล่ะ?”
“เรื่องของเขาค่อนข้างจะซับซ้อน ฉันคงจะต้องช่วยเขาจัดการอะไรสักหน่อย” เวินลั่วฉิงสำหรับเรื่องนี้แล้วไม่มีทางที่จะไม่สนใจไปได้เลย อย่างนั้นแล้วถึงแม้ว่าไป๋ยี่รุ่ยจะไม่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เกรงว่าคงจะต้องติดคุกไปจนตายแน่เลย
“อืม” คุณชายสามเย่ที่อยู่ทางปลายสายได้ส่งเสียงตอบมาเบา ๆ ยังคงอ่อนโยนรักใคร่หลงใหลเหมือนก่อนหน้านี้อยู่ “ดังนั้นแล้ว ต้องการให้ผมทำอะไร?”
“ก่อนเขาไปมอบตัว ได้ให้ทนายร่างสัญญาการถ่ายโอนขึ้นมา โอนหุ้นทั้งหมดของเขามาให้ฉัน” เวินลั่วฉิงรู้ว่าเรื่องนี้ถ้าเธอไม่พูดไปตอนนี้ เย่ซือเฉินก็จะต้องรู้อย่างแน่นอน เพราะถึงยังไงไป๋ยี่รุ่ยก็ได้เซ็นชื่อเอาไว้บนสัญญาการถ่ายโอนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ให้ทนายไปจัดการเอาไว้แล้วด้วย
ดังนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะไม่ได้ตั้งใจไปสืบมาเป็นพิเศษ ถึงตอนนั้นแล้วเกรงว่าคงจะรู้เหมือนกัน เวินลั่วฉิงไม่อยากปิดบังกับเย่ซือเฉิน เธอคิดว่าระหว่างทั้งสองคนควรจะจริงใจมีความตรงไปตรงมาต่อกัน ถ้าตอนนี้เธอปิดบังเรื่องนี้ไป ถึงตอนนั้นแล้วเย่ซือเฉินรู้เข้า เกรงว่ามันจะเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นขึ้นมา
คุณชายสามเย่ที่อยู่ทางปลายสายได้เงียบไป ครั้งนี้ได้เงียบไปนานกว่าครั้งที่แล้วจนเห็นได้ชัดเลย
หลิวหยิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ก็ตึงเครียดเสียจนไม่กล้าส่งเสียงออกไป ถึงขนาดที่ไม่กล้าหายใจออกไปแรง ๆ เลย
หลิวหยิงคิดว่าคุณชายสามเย่จะต้องหึงแน่ ๆ เลย
“คุณฟังอยู่หรือเปล่า?” เวินลั่วฉิงเห็นเย่ซือเฉินเอาแต่ไม่พูดอะไร อดไม่ได้ที่จะถามออกไปอีกประโยคนึง
“อืม คุณพูดต่อ” น้ำเสียงของคุณชายสามเย่ตอนนี้ได้ดังเข้ามาอีกครั้ง ฟังไปแล้วก็ยังคงอ่อนโยนอยู่ ยังคงประดับไปด้วยความรักใคร่อยู่เหมือนเดิม
ฟังไปแล้วไม่ได้ต่างอะไรไปจากเมื่อตอนแรกเลย
หลิวหยิงลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ฟังไปแล้วเหมือนกับว่าคุณชายสามเย่จะไมได้โกรธอะไรเลย
แต่สิ่งที่หลิวหยิงไม่รู้คือตอนนี้เลขาหลิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คุณชายสามเย่ขาได้อ่อนเปลี้ยไปหมดแล้ว แผ่นหลังก็ได้มีเหงื่อเย็นไหลอาบเต็มไปหมด
“แน่นอนว่า บริษัทของเขาฉันไม่ได้ต้องการอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีกอย่างวันนี้ก็มีคนเปิดเผยเรื่องที่เขาฆ่าคนออกไป ตอนนี้บริษัทจะต้องวุ่นวายแน่ ๆ เลย ฉันอยากให้คุณช่วยหาคนมาบริหารบริษัทแทนเขาหน่อย” ในที่สุดเวินลั่วฉิงก็ได้แสดงความต้องการของเธอออกไปจบแล้ว เวินลั่วฉิงนึกถึงคำพูดของหลิวหยิงเมื่อก่อนหน้า ภายในใจก็มีความกังวลอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินจะโกรธหรือเปล่า? จะหึงหรือเปล่า
“ได้” ครั้งนี้ คุณชายสามเย่ไม่ได้เงียบนัก เสียงของเขาเพียงไม่นานก็ได้ดังออกมาจากทางปลายสายอีกครั้ง คำเดียวที่เรียบง่ายเสียจนไม่มีเรียบง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ความหมายกลับแน่นอนและตรงไปตรงมา อีกทั้งน้ำเสียงของเขาก็ยังคงอ่อนโยนเหมือนเมื่อกี้อยู่ ยังคงมีความรักใคร่หลงใหลอยู่เหมือนเดิม
เวินลั่วฉิงฟังไม่ออกถึงความผิดปกติใด ๆ ออกมาจากในน้ำเสียงของเขา และก็ไม่มีความผิดแปลกไปทางอารมณ์เลยสักนิดเลยเหมือนกัน
อีกทั้งคุณชายสามเย่ยังตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมามาก ไม่มีความลังเลเลยสักนิดเดียว
เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ดูเหมือนว่าความกังวลเมื่อกี้นี้ของเธอมันจะไม่จำเป็นเลยสักนิด เย่ซือเฉินไม่ได้โกรธเลย ไม่ได้หึงหวงเลย
เธอก็บอกแล้วมั้ยล่ะว่าเย่ซือเฉินไม่ถึงขนาดที่จะหึงหวงเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” ครั้งนี้ ไม่รอให้เวินลั่วฉิงพูด คุณชายสามเย่ก็ได้ถามออกมาก่อน
“ฉันอยู่ที่ทางหลิวหยิง มีบางเรื่องที่ยังต้องจัดการอยู่” เวินลั่วฉิงไม่ได้คิดอะไรมากมาย ได้ตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยยังต้องจัดการ ทางหลิวหยิงเองก็มีเรื่องด้วยเหมือนกัน
“ได้ จัดการธุระเสร็จแล้วก็มาหาผม มีเรื่องจะคุยกับคุณ” คุณชายสามเย่ไม่ได้ถามอะไรมากมาย และก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ในน้ำเสียงที่ยังคงอ่อนโยนเหมือนกับว่าจะยังประดับไปด้วยความอารมณ์ดีออกมาด้วยเล็กน้อย ฟังไปแล้วน่าหวั่นไหวมากเลย
“อืม” เวินลั่วฉิงได้ตอบรับไปเบา ๆ และก็ไม่ได้ถามเย่ซือเฉินไปด้วยว่าจะคุยเรื่องอะไรกับเธอ เพราะถึงยังไงช่วงนี้พวกเขาก็มีเรื่องเยอะมาก เย่ซือเฉินจะมาคุยกับเธอมันก็เป็นเรื่องปกติ
เรื่องที่พวกเขาต้องคุยกันอันที่จริงแล้วมันก็เยอะมากเลย
หลังจากที่เวินลั่วฉิงพูดจบ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แล้วก็ได้วางสายไป
“ว้าว นึกไม่ถึงว่าคุณชายสามเย่จะไม่โกรธเลย? ไม่หึงแล้วยังอ่อนโยนอย่างนั้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ” หลิวหยิงเห็นเวินลั่วฉิงวางสายไปถึงจะกล้าส่งเสียงออกมาได้เสียที ตอนนี้หลิวหยิงได้ประหลาดใจไปแล้วจริง ๆ เธอนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคุณชายสามเย่จะไม่หึงเลยสักนิด นึกไม่ถึงว่าน้ำเสียงตั้งแต่ต้นจนจบจะไม่เปลี่ยนไปเลย
ตอนนี้หลิวหยิงได้ตระหนักได้ว่าเมื่อกี้เธอได้เอาจิตใจที่คับแคบไปคิดแทนคนที่มีจิตใจกว้างขวางไปแล้วจริง ๆ
“เมื่อกี้ฉันก็บอกแล้วว่ามันไม่ถึงขนาดนั้น เขารู้ว่าระหว่างฉันกับไป๋ยี่รุ่ยมันได้จบกันไปตั้งนานแล้ว เขารู้ว่าตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเขา เขาเชื่อใจฉัน อีกอย่างคุณชายสามเย่ก็มั่นใจในตัวเองมากเหมือนกัน ดังนั้นแล้วเขาไม่มีทางหึงซี้ซั้วหรอก” ตอนนี้เวินลั่วฉิงได้โล่งอกขึ้นมาโดยสมบูรณ์ เมื่อกี้เธอคิดมากไปแล้วจริง ๆ
แต่ว่าตอนนี้อีกด้านนึงนั้น เลขาหลิวได้มองไปยังบอสของเขา เหงื่อเย็นได้ไหลออกมาอย่างเสียไม่ได้ ขาทั้งสองข้างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นออกมา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ ออกมาเลยทีเดียว
เลขาหลิวคิดว่าตอนนี้บอสของเขานั้นน่ากลัวมากจริง ๆ ตั้งแต่บอสได้เจอกับคุณผู้หญิง เลขาหลิวก็ไม่เห็นบอสน่ากลัวขนาดนี้มานานมากแล้ว
เมื่อกี้เลขาหลิวไม่ได้ยินเสียงของทางปลายสาย แต่เลขาหลิวรู้ว่าทางปลายสายจะต้องเป็นคุณผู้หญิงโทรเข้ามาแน่ ๆ เพราะว่ามีเพียงแค่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่จะทำให้บอสของเขามีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ได้มากขนาดนี้ได้ บอสเปลี่ยนมาน่ากลัวขนาดนี้ได้มีเพียงเพราะว่าเรื่องของคุณผู้หญิงเท่านั้น
เพียงแต่ว่าบอสกับคุณผู้หญิงไม่ใช่ว่าคืนดีกันแล้วเหรอ? ทำไมบอสถึงได้เปลี่ยนมาเป็นอย่างนี้ได้?
“บอสครับ ผมยังมีเอกสารที่ต้อง…” เลขาหลิวใกล้จะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เลขาหลิวก็เลยคิดหาเหตุผลมาเพื่อจะหนีออกไป แรงกดดันของบอสในตอนนี้มันสามารถทำให้ตายได้เลยจริง ๆ เขาแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว