ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1594 คุณชายสามเย่โกรธจริง ๆ แล้ว (1)
เลขาหลิวออกไปจากห้องทำงาน ภายในห้องทำงานเหลือเพียงแค่คุณชายสามเย่คนเดียว คุณชายสามเย่มองโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่บนโต๊ะทำงาน สีหน้านิ่งขรึมลง สายตาเยือกเย็นออกมา ภายในใจหดหู่ใจขึ้นมา!!
หลังจากนั้นครู่นึง เขาได้หยิบโทรศัพท์ออกมา ส่งข้อความไปหาเวินลั่วฉิง เขาส่งตำแหน่งของตัวเองไปให้เวินลั่วฉิง ให้เวินลั่วฉิงมาหาเขา
เขาคิดว่ามีความจำเป็นจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องสักหน่อย!!
ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่รู้ความคิดของคุณชายสามเย่เลยสักนิด ตอนที่เวินลั่วฉิงได้รับข้อความจากคุณชายสามเย่ก็รู้สึกแปลกอยู่บ้าง ปกติเย่ซือเฉินจะส่งข้อความมาน้อยมาก เขามีธุระอะไรปกติแล้วจะโทรตรงมาเลยเสียมากกว่า
อีกอย่างในสายเมื่อกี้เขาก็ได้บอกแล้วว่าให้เธอทำธุระเสร็จแล้วไปหาเขา ทำไมถึงได้ตั้งใจจะส่งข้อความมาอีก?
หรือว่าจะมีเรื่องสำคัญมาก ด่วนมากอะไรขึ้นมางั้นเหรอ?
ธุระทางนี้ก็จัดการได้ประมาณนึงแล้ว หัวหน้าน้อยรับปากแล้วว่าจะจัดการเจิ้งฉงให้ อย่างนั้นแล้วเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยก็ควรจะหยุดเอาไว้ที่ตรงนี้ได้แล้ว แน่นอนว่าเธอยังต้องแก้ไขปัญหาที่พื้นฐานที่สุดด้วย แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการเสร็จไปในชั่วพริบตาเดียวได้เลย มันยังต้องมีการจัดเตรียมอีกสักหน่อย
อารมณ์ของหลิวหยิงในตอนนี้ก็ได้ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วเธอไปหาเย่ซือเฉินก่อนดีมั้ย ลองไปดูสักหน่อยว่าตกลงแล้วเขามีเรื่องสำคัญอะไรกันแน่?
“เธออย่าอยู่ที่โรงแรม อยู่คนเดียวมันไม่ปลอดภัย และก็ไม่สะดวกด้วย ฉันมีห้องที่ค่อนข้างจะเงียบสงบเลยห้องหนึ่งในนามของฉันเอง เธอไปอยู่ที่นั่นก่อน” เวินลั่วฉิงไม่วางใจให้หลิวหยิงไปอยู่ที่โรงแรมตามลำพัง อีกอย่างอยู่โรงแรมเป็นเวลานานมันก็ไม่เหมาะด้วยเหมือนกัน
“ได้” ตอนนี้หลิวหยิงไม่ได้ปฏิเสธเวินลั่วฉิงออกไปเหมือนกัน ในสถานการณ์ตอนนี้ของเธอตัวเธอเองก็จัดการได้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ การกินการอยู่เธอสามารถแก้ปัญหาเองได้ เธอมีมือมีเท้า สามารถไปหางานมาได้ สามารถไปเช่าห้องได้ แต่ทางซือถูมู่หรงเธอจะต้องรับมือไม่ไหวแน่ ๆ เลย ทางซือถูมู่หรงจำเป็นต้องให้ฉิงฉิงช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ในเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือจากฉิงฉิง อย่างนั้นก็แน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องเชื่อฟังฉิงฉิงอยู่แล้ว พยายามก่อเรื่องวุ่นวายให้ฉิงฉิงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
“งั้นฉันตรงไปส่งเธอไปเลย” เวินลั่วฉิงดูเวลาแป๊บนึง เวลายังไม่สาย อีกทั้งเมื่อกี้ตำแหน่งที่เย่ซือเฉินได้ส่งมาให้เธอก็ไปทางเดียวกับตำแหน่งบ้านของเธอพอดีเลย ไม่ต้องขับวน เธอสามารถไปส่งหลิวหยิงได้เลยพอดี
บ้านทางนั้นถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ไปอยู่เลย แต่ข้าวของก็มีครบหมด และก็จะให้คนไปทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ หลิวหยิงสามารถเข้าไปอยู่ได้เลย
เมื่อกี้เวินลั่วฉิงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลิวหยิงไม่ได้พกอะไรมาเลย ขนาดเสื้อผ้าจะเปลี่ยนก็ยังไม่มีเลย เธอจำเป็นต้องให้คนส่งเสื้อผ้ากับข้าวของไปให้หลิวหยิงสักหน่อย อย่างอื่นคงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
เสื้อผ้าที่หลิวหยิงได้สั่งไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาส่งพอดี หลิวหยิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จัดระเบียบให้เรียบร้อยสักหน่อย แล้วก็ได้ตามเวินลั่วฉิงออกจากห้องไป
ตอนที่เธอมาไม่ได้พกอะไรมาเลย ดังนั้นแล้วตอนที่ไปก็ยังสะอาดเรียบร้อยอยู่เหมือนเดิม
ตอนนี้หลิวหยิงได้เสื้อผ้าไปแล้ว ความบวมแดงที่ดวงตาก็ได้หายไปบ้างแล้วเหมือนกัน ความเศร้าเสียใจและอารมณ์ที่ดิ่งลงเมื่อกี้นี้ก็ได้หายไปแล้วเหมือนกัน ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
หลิวหยิงเช็คเอาท์แล้วก็ตามเวินลั่วฉิงออกไปจากโรงแรมด้วยกัน ด้านนอกโรงแรมในตอนนี้มีรถหรูจอดติดกันอยู่สองคัน คันหนึ่งเป็นของหลิวหยิงที่ขับมาก่อนหน้านี้ อีกคันเป็นของเวินลั่วฉิง
“รถของเธอจะจัดการยังไง?” เวินลั่วฉิงมองรถที่อยู่ข้าง ๆ ไปแวบนึง เธอรู้ว่ารถคันนี้เป็นของซือถูมู่หรง ตอนนี้หลิวหยิงกับซือถูมู่หรงทะเลาะกันจนเป็นอย่างนี้ไปแล้ว หลิวหยิงจะต้องไม่มีทางจะขับรถของซือถูมู่หรงไปอยู่แล้ว
“ทิ้งไว้ที่นี่เถอะ เขาหาเจออยู่แล้ว” ตอนที่ดวงตาของหลิวหยิงได้กวาดตามองรถหรูของซือถูมู่หรงไป ดวงตามันเย็นชามืดครึ้มอยู่บ้าง เธอรู้ความสามารถของซือถูมู่หรงดี อีกอย่างซือถูมู่หรงก็ไม่อยากให้เธอไป ถึงแม้ว่าเมื่อตอนนั้นซือถูมู่หรงไม่ได้ตามเธอมา ก็จะต้องสืบหามาอยู่แล้ว แน่นอนว่าจะต้องสามารถหารถของเขาเจออยู่แล้ว
หลิวหยิงคิดว่าเธอไม่จำเป็นจะต้องกังวลไปกับเรื่องแบบนี้เลย
“ก็ได้” เวินลั่วฉิงไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจของหลิวหยิง เพราะถึงยังไงก็เป็นเรื่องระหว่างหลิวหยิงกับซือถูมู่หรง เธอไม่เหมาะที่จะแสดงความคิดเห็นออกไปมากมายเกินไป
แน่นอนว่า เธอเป็นเพื่อนของหลิวหยิง อีกอย่างสิ่งเหล่านั้นที่เมื่อก่อนซือถูมู่หรงได้ทำกับหลิวหยิงลงไปพวกนั้นมันก็เกินไปจริง ๆ ดังนั้นแล้วเรื่องนี้เวินลั่วฉิงจึงต้องเคารพความต้องการของหลิวหยิงอยู่แล้ว
หลิวหยิงได้ขึ้นรถของเวินลั่วฉิงไปเลย ตำแหน่งที่อยู่ของเวินลั่วฉิงห่างจากที่นี่ไปไม่ไกล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
หมู่บ้านคอนโดนี้เวินลั่วฉิงซื้อมาเมื่อหลายปีก่อน ไม่เคยมาอยู่เลย เมื่อตอนนั้นได้เตรียมไว้ในยามฉุกเฉิน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หมู่บ้านที่หรูหรา แต่สภาพแวดล้อมรอบ ๆ หมู่บ้านดีมาก ตำแหน่งก็ไม่เลวเลยเหมือนกัน ทางด้านความปลอดภัยก็ทำได้ดีเหมือนกัน เป็นหมู่บ้านจำพวกที่อยู่ได้สบายมากเลยอย่างนั้น
“ข้าวของที่นี่ครบครันหมดแล้ว เธอเข้ามาอยู่ได้เลย ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น อีกเดี๋ยวฉันจะให้คนส่งเสื้อผ้ากับอาหารมาให้บางส่วน” เวินลั่วฉิงดูห้องไปแป๊บนึง ไม่มีปัญหาอะไร ทำความสะอาดได้สะอาดมาก เธอเองก็สบายใจแล้ว
“ไม่ต้อง ฉันเอง…” หลิวหยิงอยู่ในที่ของเธอ ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเธอ ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะไม่ปฏิเสธ แต่ภายในใจมันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี อย่างการซื้อของเรื่องเล็กน้อยพวกนี้แน่นอนว่าหลิวหยิงจะไม่อาจรบกวนเวินลั่วฉิงได้อีกอยู่แล้ว
“ฝีมือเธอดี วันหลังฉันจะพาเด็กน้อยทั้งสองคนมาร่วมกินข้าวด้วย ที่นี่ไม่เคยมีใครอยู่มาก่อนเลย ไม่มีบรรยากาศความมีชีวิตชีวาอะไรเลย ตอนนี้เธอย้ายเข้ามาแล้ว ในที่สุดก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างเสียที” เวินลั่วฉิงได้ขัดคำพูดของหลิวหยิงออกมาเลยทันที ระหว่างเพื่อนกันไม่จำเป็นต้องพูดคำพูดที่เกรงอกเกรงใจกันแบบคนอื่นคนไกลพวกนี้เลย
“ได้” หลิวหยิงเข้าใจความหมายของเธอ ภายในใจรู้สึกซาบซึ้งใจ จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกให้มากมาย เพียงแค่ตอบรับออกไปเสียงเบาเท่านั้น
“เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยฉันจะจัดการเองเธอไม่ต้องห่วง” ตอนนี้เวินลั่วฉิงรู้แล้วว่าหลิวหยิงชอบไป๋ยี่รุ่ยมาโดยตลอด ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยเกิดเรื่องขึ้นหลิวหยิงจะต้องเป็นห่วงและร้อนใจอยู่แล้ว
“ได้” เกี่ยวกับความสามารถของเวินลั่วฉิงนั้นหลิวหยิงเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เรื่องไป๋ยี่รุ่ยจัดการโดยเวินลั่วฉิง ตอนนี้เธอไม่ห่วงเลยสักนิดเดียว
“ฉันมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อน” เวินลั่วฉิงยังคิดถึงข้อความที่คุณชายสามเย่ส่งมาอยู่ ทั้ง ๆ ที่คุณชายสามเย่ก็ได้โทรคุยไปแล้ว หลังจากนั้นก็ยังส่งข้อความมาย้ำอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วมันเป็นเรื่องสำคัญอะไรกันแน่
“คือรีบร้อนจะไปเจอคุณชายสามเย่ใช่มั้ยล่ะ?” หลิวหยิงมองเธอ แสดงใบหน้ายิ้มคลุมเครือออกมา
“เห็นได้ชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ?” เวินลั่วฉิงไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อกี้เธอไม่ได้พูดเรื่องเย่ซือเฉินออกไปเลยด้วย หลิวหยิงก็มองออกแล้วว่าเธอจะไปหาเย่ซือเฉิน มันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ?
“อืม ชัดเจนมาก ความรักรัญจวนอยู่ภายในใจ หน้าเต็มไปด้วยความสุข” บนใบหน้าของหลิวหยิงได้มีรอยยิ้มออกมามากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย “ไปเถอะ ไปเถอะ รีบไปเสียเถอะ อย่าให้คุณชายสามเย่รอนานเลย”
“โอเค งั้นฉันไปแล้วนะ” เวินลั่วฉิงแต่ไหนแต่ไรมาไม่มีนิสัยกระมิดกระเมี้ยนเขินอายอย่างนั้นอยู่แล้ว จึงกลับไปเลยตามความต้องการของหลิวหยิงทันที
หลังจากที่เวินลั่วฉิงออกจากหมู่บ้านมาแล้วก็ได้ดูตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมาให้เธอไปอีกแป๊บนึง ตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมาคือย่านธุรกิจที่หรูที่สุดในเมือง A
เย่ซือเฉินก่อนหน้านี้เหมือนจะเคยบอกว่าจะไปจัดการงานที่บริษัทสักหน่อย แต่เย่ซือเฉินไม่ได้บอกว่าบริษัทไหน บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเย่ซือเฉินได้คืนให้คุณปู่เย่ไปหมดแล้ว เย่ซือเฉินได้แถลงข่าวแยกตัวออกจากความเกี่ยวข้องทั้งหมดกับตระกูลเย่ไปแล้ว เย่ซือเฉินจะต้องไม่มีทางไปบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอยู่แล้ว
เดิมทีเวินลั่วฉิงนึกว่าเย่ซือเฉินจะไปบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปเสียอีก คุณปู่เวินจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังคงอยู่ในอาการโคม่าไม่ฟื้นขึ้นมาเลย ตอนนี้บริษัทเวินซื่อกรุ๊ปทั้งหมดได้อยู่ในนามของเธอ เพียงแต่เธอไม่รู้เรื่องธุรกิจเลย ดังนั้นแล้วเย่ซือเฉินจึงให้คนมาบริหารให้มาโดยตลอด
แต่ว่าตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมาให้ตอนนี้มันไม่ใช่ตำแหน่งของบริษัทเวินซื่อกรุ๊ป แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ได้ไปหาตามตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมา
ตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมาคืออาคารพาณิชณ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง A คือบริษัทMY บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ได้สร้างขึ้นมาในช่วงหลายปีมานี้ แนวโน้มของการเจริญเติบโตรวดเร็วมาก เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แค่ไม่กี่ปีก็ได้ครองตำแหน่งที่มั่นคงในเมือง Aได้แล้ว หลากหลายคนถึงขนาดที่นำบริษัทMYกับบริษัทของซือถูมู่หรงมาพูดเปรียบเทียบกันเลยทีเดียว
แต่ทว่า บอสของบริษัทMYไม่เคยเผยโฉมหน้าออกมาก่อนเลย ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของบริษัทเป็นใคร ปกติล้วนแล้วแต่จะเป็นพนักงานที่เชี่ยวชาญทางด้านการบริหารโดยเฉพาะมาบริหารอยู่ตลอด
ตอนที่เวินลั่วฉิงยืนอยู่ด้านล่างบริษัทMYก็ได้ตกตะลึงไปเล็กน้อย ตำแหน่งที่เย่ซือเฉินส่งมาให้เธอมันอยู่ที่นี่ ดังนั้นแล้วที่เย่ซือเฉินบอกว่าจะไปจัดการงานที่บริษัทเป็นที่นี่?
ดังนั้นแล้ว ที่จริงแล้วMYก็เป็นของเย่ซือเฉิน?
เวินลั่วฉิงรู้แค่เพียงว่าในสถานที่อื่น ๆ เย่ซือเฉินมีธุรกิจอยู่เยอะมาก ที่เมือง Aเธอรู้แค่องค์กรยมบาล เกี่ยวกับเรื่องMYเธอไม่รู้เลยจริง ๆ ตอนนั้นขนาดในข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเย่ซือเฉินที่มู่หรงดัวหยางให้เธอมาก็ยังไม่มีMYอยู่เลย
เย่ซือเฉินเองก็ไม่เคยจะพูดถึงขึ้นมาก่อนเลย แน่นอนว่าธุรกิจของเย่ซือเฉินเยอะมากขนาดนั้น ถ้าจะต้องพูดขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าพูดอยู่ทั้งวันก็ยังพูดไม่จบเลย
ตอนนี้เวินลั่วฉิงกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าบริษัท ถึงแม้ว่าภายในใจของเธอจะมีการคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว แต่ถึงยังไงก็ยังไม่สามารถแน่ใจได้เลยเหมือนกัน ดังนั้นแล้วเวินลั่วฉิงจึงตัดสินใจจะโทรหาเย่ซือเฉิน
โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงเพิ่งจะหยิบออกมา โทรศัพท์ยังไม่ทันได้ต่อสายออกไป ก็เห็นเลขาหลิวออกมาจากด้านในบริษัทพอดี ท่าทางของเลขาหลิวมองไปแล้วดูแปลก ๆ ไป!!