ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1595 คุณชายสามเย่โกรธแล้วจริง ๆ (2)
เห็นเลขาหลิวออกมาจากด้านในบริษัทพอดี ท่าทางของเลขาหลิวมองไปแล้วดูแปลก ๆ ไป เห็นเลขาหลิว เวินลั่วฉิงจึงได้แน่ใจขึ้นมาแล้ว
เลขาหลิวเองก็เห็นเวินลั่วฉิงเหมือนกัน ภายในใจของเลขาหลิวดีใจเป็นอย่างมาก ดวงตาได้ส่องประกายไม่รู้กี่ระดับออกมาทันที
“คุณผู้หญิง คุณมาแล้ว” ความเศร้าโศกและความเจ็บช้ำบนใบหน้าของเลขาหลิวได้เลือนหายไปทันที เปลี่ยนมาเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแทน ยิ้มตาหยีออกมาจนแทบจะมองไม่เห็นเลย
“คุณผู้หญิง บอสอยู่ที่ห้องทำงาน ผมพาคุณขึ้นไปเองครับ” เลขาหลิวรู้ว่าคุณผู้หญิงนั้นเป็นผู้ช่วยชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเชา เพราะว่านอกจากคุณผู้หญิงแล้วไม่มีใครสามารถทำให้บอสของเขาใจเย็นลงได้แล้ว
คุณผู้หญิงมาได้ถูกเวลามากเลย
ก่อนหน้านี้ไม่ง่ายเลยกว่าเลขาหลิวจะหนีออกมาจากในห้องทำงานได้ เดิมทีเลขาหลิวนั้นตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าถึงแม้ว่าวันนี้จะมีเรื่องใหญ่มากเขาก็จะไม่ไปหาบอสของเขาที่ห้องทำงานอีกแล้ว ไม่ว่าเรื่องมันจะยากลำบากแค่ไหนเขาก็สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งนั้นแล้ว
แต่ว่าตอนนี้คุณผู้หญิงมาแล้ว แน่นอนว่าสถานการณ์มันได้ต่างออกไปแล้ว ไม่ว่าก่อนหน้านี้บอสจะโกรธยังไง ไม่ว่าก่อนหน้านี้สีหน้าของบอสจะเย็นชามากแค่ไหน พอคุณผู้หญิงมา รับรองว่าบอสจะต้องดีขึ้นทันที ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ต้องไปกังวลอีกไปโดยปริยาย ไม่ไปกลัวอีกแล้ว
ในระหว่างที่เวินลั่วฉิงได้ตามเลขาหลิวเข้าบริษัทมา ก็ได้ตรงเข้าลิฟต์ส่วนตัวสำหรับบอสโดยเฉพาะทันที หลังจากเข้าลิฟต์ไป เลขาหลิวก็ได้กดชั้น28
“เลขาหลิวอารมณ์ดีเลยทีเดียว มีเรื่องดี ๆ อะไรหรือเปล่าคะ?” เวินลั่วฉิงเห็นเลขาหลิวตั้งแต่ที่เจอเธอก็แสดงรอยยิ้มออกมาเต็มใบหน้า มุมปากนั้นมันแทบจะฉีกไปถึงหูอยู่แล้ว เธอเคยติดต่อพูดคุยกับเลขาหลิวมาหลายครั้งแล้ว ภาพจำต่อเลขาหลิวนั้นไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อตอนที่เธอไปหาเลขาหลิวเพื่อจัดการขั้นตอนการหย่าร้างของเธอกับเย่ซือเฉินตอนนั้น เลขาหลิวยังคิดเผื่อเธอไปทุกจุดเลย และยังคิดพิจารณาให้เธอไปทุกจุดด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นงานที่บริษัทเวินซื่อกรุ๊ปในตอนนี้เองก็ล้วนแล้วจะเป็นเลขาหลิวที่เป็นคนรับผิดชอบอยู่ตลอดด้วยทั้งนั้น
ดังนั้นแล้วเห็นเลขาหลิวมีความสุขขนาดนี้แล้ว เวินลั่วฉิงจึงอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไปสักหน่อย ก็แค่พูดออกไปด้วยน้ำเสียงเชิงคุยเล่นเรื่อยเปื่อยอย่างเป็นธรรมชาติไปเท่านั้น
“คุณผู้หญิง” เลขาหลิวพอได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อกี้มันก็ได้เลือนหายไปในทันที แล้วได้เปลี่ยนกลายมามีสีหน้าที่อมทุกข์ออกมาแทน “ไม่มีเรื่องดี ๆ อะไรหรอกครับ มีก็แต่เรื่องร้าย ๆ ทั้งนั้น ผมมันซวย ซวยมาก ๆ เลย”
เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณซวยมาก ๆ เลยแต่ก็ยังสามารถยิ้มอย่างนี้ได้ สภาพจิตใจนี้ของคุณดีมากเลยนะคะ”
เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นคนที่ซวยเอามาก ๆ ยิ้มออกมาอย่างนี้ เลขาหลิวคนนี้บางครั้งก็ดูน่ารักมากจริง ๆ เลย
“ผมยิ้มก็เพราะว่าเห็นคุณผู้หญิงก็เลยดีใจ…” เลขาหลิวมองไปยังเวินลั่วฉิง ลังเลอยู่แป๊บนึง จากนั้นก็ได้พูดออกมาอีกครั้งว่า “เพราะมีเพียงแค่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่จะช่วยผมได้”
“หา? เกี่ยวกับฉัน? คุณลองว่ามาสิว่าตกลงแล้วมันเรื่องอะไรกันแน่ ฉันช่วยคุณยังไง?” เวินลั่วฉิงประหลาดใจขึ้นมา เดิมทีเธอก็แค่ถามไปงั้น ๆ เอง นึกไม่ถึงว่ามันจะเกี่ยวโยงกับเธอด้วย
“บอสเขาจะไล่ผมไปขุดบ่อที่แอฟริกาครับ” เลขาหลิวทอดถอนหายใจออกมา อารมณ์ได้ดิ่งต่ำลงไปทันที “ความยากลำบากที่แอฟริกาผมทนได้อยู่แล้ว แต่ผมไปแอฟริกาครั้งนี้ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ถึงจะกลับมาได้ ผมเองก็อายุมากแล้ว ควรแต่งงานได้แล้ว ที่บ้านผมก็เร่งผมมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่ตอนนี้ผมแม้แต่แฟนสักคนก็ยังไม่มีเลย ถ้าผมไปแอฟริกาแล้ว ผมจะไปหาแฟนได้ยังไง ผมไม่อาจแต่งสะใภ้ชาวแอฟริกันสักคนได้หรอกนะครับ”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเลขาหลิวมุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่เห็นใจเลขาหลิว แต่เพราะว่าเธอคิดว่าเรื่องนี้มันน่าตลกสุด ๆ “ทำไมเขาถึงต้องไล่คุณไปขุดบ่อที่แอฟริกาด้วยล่ะคะ?”
เวินลั่วฉิงรู้ความสามารถของเลขาหลิวดี เลขาหลิวเป็นถึงคนข้างกายของเย่ซือเฉินที่มีความสามารถที่สุดเลย อย่างน้อยที่เมือง Aนี้ก็เป็นคนที่มีความสามารถที่สุดแล้ว
เมื่อก่อนงานมากมายของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปล้วนแล้วแต่เป็นเลขาหลิวที่เป็นคนจัดการทั้งนั้น บริษัทเวินซื่อกรุ๊ปหลังจากที่มาอยู่ในมือของเธอแล้ว เย่ซือเฉินก็ได้มอบหมายบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปให้เลขาหลิวเป็นคนจัดการเลยทันที เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เลขาหลิวยังดูแลบริษัทMYแทนเย่ซือเฉินอีกด้วย
เห็นได้ชัดเจนมากว่าเลขาหลิวทำได้ดีทั้งนั้น คนอย่างนี้นึกไม่ถึงเลยว่าเย่ซือเฉินจะไล่ไปขุดบ่อที่แอฟริกาได้?
มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ?
มุมปากของเลขาหลิวได้เม้มออกมาเล็กน้อย มองเวินลั่วฉิงไปแวบนึงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เอ่ยออกมาเบา ๆ “บอสอารมณ์ไม่ดี”
เลขาหลิวเองก็ไม่กล้าพูดเรื่องระหว่างบอสกับคุณผู้หญิงด้วยเหมือนกัน เลขาหลิวยิ่งไม่อยากจะพูดว่าร้ายบอสต่อหน้าคุณผู้หญิงเลยอีกด้วย ดังนั้นแล้วเลขาหลิวจึงเพียงแค่พูดออกไปแบบกว้าง ๆ ว่าบอสอารมณ์ไม่ดีเท่านั้น
เลขาหลิวคิดว่าคำพูดประโยคนี้ของเขามันไม่ได้ผิดไปเลยสักนิดเดียว บอสอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ อีกทั้งยังไม่ดีเอามาก ๆ เลยด้วย
เลขาหลิวคิดดูแล้ว ถ้าคุณผู้หญิงถามว่าทำไมบอสถึงอารมณ์ไม่ดี เขายังสามารถเปิดเผยกับคุณผู้หญิงไปอีกสักเล็กน้อยได้ จะได้ให้คุณผู้หญิงได้ทำใจให้พร้อมไปด้วยเลย
“เขาอารมณ์ไม่ดีก็จะไล่คุณไปขุดบ่อที่แอฟริกา?” หางคิ้วของเวินลั่วฉิงได้เลิกขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่ได้ถามว่าทำไมเย่ซือเฉินถึงอารมณ์ไม่ดี เธอเพียงแค่นึกไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะทำเรื่องอย่างนี้ออกมาเท่านั้น
เลขาหลิวอึ้งไปเล็กน้อย ไม่รู้เลยว่าจะตอบกลับไปยังไงไปชั่วขณะนึง คำถามนี้มันตอบได้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ
ตอนนี้ ลิฟต์ได้มาถึงแล้ว ประตูลิฟต์เปิดออก เวินลั่วฉิงไม่ได้รีบร้อนออกจากลิฟต์ แต่ได้หันไปทางเลขาหลิวแทน เอ่ยยิ้ม ๆ ออกไปอย่างกึ่งจริงกึ่งเล่น “บอสของคุณอยู่ดี ๆ ก็ไล่คุณไปแอฟริกา ไม่อย่างนั้นคุณก็มาทำงานกับฉันสิ”
เวินลั่วฉิงคิดว่าคนที่มีความสามารถอย่างเลขาหลิวมันหายากมากจริง ๆ มีความสามารถ มีความเก่งกล้าในการทำสิ่งต่าง ๆ อีกทั้งยังหนักเอาเบาสู้ทนต่อการว่ากล่าวได้ ซื่อสัตย์จงรักภักดีเป็นอย่างมาก คนแบบนี้หาได้ไม่ง่าย ๆ เลยนะ
แน่นอนว่า คำพูดนี้เวินลั่วฉิงพูดล้อเล่นเสียเป็นส่วนใหญ่ เธอจะไปฉกคนของเย่ซือเฉินมาเลยได้ยังไง เธอก็แค่เห็นภาพเลขาหลิวมีใบหน้าเศร้าสลดเจ็บปวดเสียใจแล้วก็อดสงสารขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้อยู่บ้างเท่านั้นเอง
แต่เวินลั่วฉิงก็นึกไม่ถึงเลยว่า ตอนนี้เย่ซือเฉินได้ผ่านมาทางลิฟต์พอดี และก็ได้ยินคำพูดประโยคนี้ไปพอดี
เมื่อกี้เย่ซือเฉินเพิ่งไปห้องน้ำมา อันที่จริงเขาได้เดินเข้ามาที่หน้าประตูลิฟต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เดิมเขาได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิงก็รู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อย ความหดหู่ในใจมันก็ได้หายไปบ้างแล้ว แต่หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเวินลั่วฉิงจบไป ใบหน้าของเขาก็ได้เยือกเย็นและถมึนทึงออกมาทันที
เขาผันกลับไปที่หน้าประตูลิฟต์ ดวงตาทั้งสองข้างได้ทอดมองตรงไปที่เวินลั่วฉิงเขม็ง
เวินลั่วฉิงนึกไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะอยู่ที่ข้างนอกพอดี คำพูดเมื่อกี้นี้ของเธอประโยคนั้นคือล้อเลขาหลิวเล่น แต่ถูกเย่ซือเฉินได้ยินไปอย่างนี้แล้วดูเหมือนว่าจะทำตัวไม่ถูกอยู่บ้างเหมือนกัน
“คุณส่งตำแหน่งมาให้ฉัน ฉันเลยมาหาคุณ” เวินลั่วฉิงไม่อยากให้บรรยากาศมันชวนอึดอัดอย่างนี้ต่อไป ไม่ก็เปลี่ยนไปเป็นอึดอัดมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ดังนั้นแล้วเธอจึงเอ่ยปากพูดออกไปก่อน เพื่อจะได้เบี่ยงเบนความสนใจของเย่ซือเฉินไป
เย่ซือเฉินมองเธอ ไม่ได้พูดอะไร ดวงตาทั้งสองข้างได้กรอกไปยังเลขาหลิวที่ยืนอยู่ที่ข้าง ๆ เวินลั่วฉิง สายตาได้เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นออกมาทันที “ฉันไล่นายไปแอฟริกา?”
เลขาหลิวตอนที่เห็นบอสของเขานั้นก็ตกใจจนอ้าปากค้างไปเลย เลขาหลิวหวังแค่เพียงว่าในสายตาของบอสจะมีเพียงแค่คุณผู้หญิง มองไม่เห็นเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าสวรรค์ไม่ได้ยินคำอธิษฐานของเขา บอสของเขาไม่เพียงจะเห็นเขา แต่ยังส่งสายตาประณามความผิดมาอีกด้วย
แต่ว่า ตอนนี้คุณผู้หญิงมาแล้ว คุณผู้หญิงยืนอยู่ตรงนี้ บอสไม่สนใจคุณผู้หญิง แต่กลับส่งสายตาประณามความผิดใส่เขา นี่มันปกติเหรอ?
อีกอย่าง สิ่งที่เขาพูดไปมันก็เป็นความจริง เขาไม่ได้ฟ้องคุณผู้หญิงไปมั่ว ๆ เสียหน่อย
เลขาหลิวฉุกคิดขึ้นมา ฟ้อง? นี่บอสกังวลว่าเขาจะฟ้องคุณผู้หญิง?
ความหมายของบอสอันที่จริงแล้วคงจะอยากรู้ว่าเขาพูดอะไรกับคุณผู้หญิงไปกันแน่ พูดไปแค่ไหนแล้วล่ะมั้ง?
หลังจากที่เลขาหลิวเข้าใจขึ้นมา ก็ลอบถอนหายใจออกมา “บอสครับ ผมไม่ได้ฟ้องคุณผู้หญิงนะครับ ผมก็แค่พลั้งปากพูดขึ้นมาประโยคเดียวเอง ว่าคุณจะส่งผมไปแอฟริกา”
ความหมายที่เลขาหลิวต้องการจะสื่อก็คือเขาไม่ได้พูดอะไรอื่นเลย
ดวงตาทั้งสองข้างของเวินลั่วฉิงกวาดมองไปที่ร่างของเลขาหลิวกับเย่ซือเฉิน ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมานะ
เย่ซือเฉินแน่นอนว่าต้องเข้าใจความหมายของเลขาหลิวอยู่แล้ว สายตาที่เยือกเย็นนั้นของเขาในที่สุดก็ได้เคลื่อนออกไปจากตัวเลขาหลิวเสียที เพียงแต่ในขณะเดียวกันที่สายตาที่น่ากลัวนั้นของเย่ซือเฉินได้เคลื่อนออกไป ก็ได้ทิ้งประโยคนึงให้กับเลขาหลิวไปด้วย “นายไสหัวไปได้แล้ว พรุ่งนี้ก็ไสหัวไปขุดบ่อที่แอฟริกาเสีย”
มุมปากของเลขาหลิวได้กระตุกออกมาอย่างแรง ภายในใจมันปวดร้าวไปหมด แต่เดิมเขานึกว่าคุณผู้หญิงมาแล้ว บอสจะอารมณ์ดีขึ้น แล้วก็ปล่อยเขาไป แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์มันเหมือนจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมเสียอีก
ดังนั้นแล้ว คุณผู้หญิงมาแล้ว อารมณ์ของบอสก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย?
ดูท่าทางของบอสในตอนนี้ เหมือนกับว่าจะโกรธกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก!!
ไม่มีเหตุผลเลยนี่ บอสไม่มีเหตุผลที่จะเห็นคุณผู้หญิงแล้วจะไม่ดีใจน่ะ ถึงแม้ว่าภายในใจบอสจะยังโกรธอยู่ แต่เมื่อเห็นคุณผู้หญิงแล้วความโกรธภายในใจมันก็จะต้องหายไปเกินครึ่งเลยอย่างแน่นอน
แต่แล้วทำไมท่าทางบอสในตอนนี้มองไปแล้วดูยังน่ากลัวเสียขนาดนั้นอยู่เลยน่ะ?
ในทันใดนั้นเองเลขาหลิวก็นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ที่คุณผู้หญิงพูดเป็นคำสุดท้ายขึ้นมา ความหมายของคำพูดเมื่อกี้ของคุณผู้หญิงคืออยากจะฉกเขาไป บอสโกรธเพราะคำพูดประโยคนี้?
ถึงแม้ว่าคุณผู้หญิงฉกคนของบอสไปแล้วถูกบอสได้ยินเข้าแล้วมันจะไม่ดีอยู่บ้าง แต่บอสเองก็ไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น ไม่มีทางจะโกรธคุณผู้หญิงเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้หรอก
ยิ่งไปกว่านั้นบอสกับคุณผู้หญิงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ทั้งสองคนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน จะอยู่กับใครก็เหมือนกันทั้งนั้น และมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากมายเลยด้วย บอสไม่มีความจำเป็นจะต้องคิดเล็กคิดน้อยเลย