ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1600 คุณชายสามเย่พึงพอใจแล้ว (3)
“อีกอย่างเมื่อตอนนั้นคุณก็ไม่ได้สมัครใจจะคบกับผมอยู่แล้วเหมือนกัน” คุณชายสามเย่คิด ๆ ไปแล้วก็ได้พูดเสริมออกมาอีกประโยคนึง
เวินลั่วฉิงพูดไม่ออกไปเลยชั่วขณะนึง เธอไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าตอนนี้เธอจะยังพูดอะไรออกไปได้บ้าง
“คุณคิดว่าถ้าฉันยังคิดถึงไป๋ยี่รุ่ยอยู่ ฉันจะให้คุณแตะต้องฉันเหรอ?” เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องที่พวกเขาทั้งสองคนเพิ่งทำไปเมื่อกี้นี้ เปลี่ยนรูปแบบการพูด ลักษณะการพูดแบบนี้คงจะตรงไปตรงมากกว่าหน่อย
“ทำไม? ความหมายของคุณคือยังคิดจะรักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกเพื่อไป๋ยี่รุ่ย” สีหน้าของคุณชายสามเย่ได้มืดครึ้มไปทันที มือที่โอบอยู่ที่บนเอวของเธอนั้นได้รวบแน่นเข้าไปทันที ในน้ำเสียงได้มีความเกลียดชังเพิ่มขึ้นมามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เวินลั่วฉิงได้หมดคำพูดไปโดยสมบูรณ์ ดูเหมือนว่าเธอจะประเมินค่าสติปัญญาของคุณชายสามเย่สูงไปจริง ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะพูดกับเขาไปตรง ๆ เขาก็ไม่ได้เข้าใจเลย
“ถ้าฉันยังชอบไป๋ยี่รุ่ยอยู่ ฉันจะตอบตกลงแต่งงานกับคุณเหรอ?” ตอนนี้เวินลั่วฉิงได้ถูกเย่ซือเฉินโกรธขึ้นมาแล้วจริง ๆ เหมือนกัน ดังนั้นแล้วน้ำเสียงได้ขึ้นสูงออกมาเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
คุณชายสามเย่ยังคงคิดถึงปัญหานี้ไปอย่างตั้งอกตั้งใจจริง ๆ จากนั้นก็ได้ตอบกลับเสียงต่ำออกมา “เพราะลูก?”
“พรุ่งนี้ฉันจะพาลูกทั้งสองคนแล้วไปแต่งงานกับคนอื่นเสีย” เวินลั่วฉิงได้ถูกเขาทำเอาโกรธเอามาก ๆ เลย ดังนั้นแล้ว ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความคิดแบบนี้มาตลอด
เขาคิดว่าเพราะว่าลูกเธอจึงยังฝืนอยู่กับเขา?
“คุณกล้า!!” ดวงตาทั้งสองข้างของเย่ซือเฉินได้หม่นลง น้ำเสียงเองก็ขึ้นสูงออกมาเล็กน้อยเหมือนกัน เธอยังคิดจะพาลูกทั้งสองคนไปแต่งงานกับคนอื่นด้วย?
“ฉันมีอะไรที่ไม่กล้า ฉันแต่งไปแล้ว คุณจะทำอะไรฉันได้?” เวินลั่วฉิงได้ยินการข่มขู่ของเขาแล้วก็ได้ยิ้มออกมาทันที วันนี้เขาได้ขู่เธอมาหลายครั้งแล้ว แต่มันมีประโยชน์เหรอ?
เย่ซือเฉินตะลึงงันไป ครั้งนี้ได้ตะลึงงันไปจริง ๆ ถ้าเธอจะต้องแต่งงานไปจริง ๆ เขาจะทำอะไรเธอได้? ลงโทษไม่ได้ ด่าว่าไม่ได้ เขาจะทำอะไรได้?
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางอึ้งตะลึงของเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา และก็ไม่ได้ยั่วยุเขาออกไปอีก คุณชายสามเย่ที่ตอนนี้สติปัญญาติดลบอยู่ยั่วยุไปไม่ได้เลยจริง ๆ
เวินลั่วฉิงคิดว่าตอนนี้คุณชายสามเย่ดูเหมือนว่าจะน้อยใจอยู่บ้าง ดูน่าสงสารสุด ๆ ไปเลย
เวินลั่วฉิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ฉันกับไป๋ยี่รุ่ยได้จบกันไปแล้ว”
“แต่คุณยังไม่ลืมเขา” ตอนนี้คุณชายสามเย่กำลังหัวรั้นมากเลย ในใจก็ยังจำคำพูดที่เวินลั่วฉิงได้พูดไปเมื่อกี้นี้ไว้ชัดเจนอีก
“แน่นอนว่าฉันไม่มีทางลืมคนคนนี้ไปได้” เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางของเขาแล้วก็ทั้งโกรธและทั้งน่าตลกอยู่บ้าง ตอนที่เธอพูดคำพูดนี้ออกไปสีหน้าของเขามันก็ได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้งนึง
เวินลั่วฉิงลอบถอนหายใจออกมา แล้วพูดออกไปต่อด้วยความรวดเร็ว “ก็เหมือนฉันกับฉู่หลิงเอ๋อ ฉันกับพี่หงหลิง คำเปรียบเทียบนี้คงจะเหมาะที่สุดแล้ว กล่าวอีกนัยนึง ก็เหมือนคุณกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เคยร่วมงานกับคุณไป ธุรกิจของพวกคุณสิ้นสุดลง ธุรกิจสิ้นสุดลงไปแล้ว ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก แต่คุณก็จะต้องยังจำคนคนนั้นได้อยู่ แน่นอนว่าธุรกิจสิ้นสุดลงไปแล้วก็ยังสามารถคุยกันเรื่องธุรกิจอันต่อไปกันได้อีกอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกที่ได้สิ้นสุดไปแล้วก็สิ้นสุดไปเลย ไม่มีทางจะมีความเป็นไปได้อื่นอีก ฉันพูดอย่างนี้ คุณเข้าใจหรือเปล่า?” เวินลั่วฉิงอธิบายออกไปในครั้งนี้สามารถบอกได้ว่าขยายความออกไปละเอียดมากแล้ว ถ้าเย่ซือเฉินยังไม่เข้าใจอีกเธอก็อยากจะต่อยคนขึ้นมาแล้ว
“ความหมายของคุณคือตอนนี้คุณยังไม่ลืมเขา ต่อจากนี้ไปก็ไม่มีทางลืมไปเหมือนกัน” ตอนนี้คุณชายสามเย่จับประเด็นได้เพียงแค่จุดสำคัญที่เขาต้องการเท่านั้น
ดวงตาทั้งสองข้างของเวินลั่วฉิงได้ถลึงใส่เขาไป “เย่ซือเฉิน คุณแกล้งโง่หรือว่าโง่จริง ๆ ?”
“ความหมายของคุณเมื่อกี้ไม่ใช่ว่าไม่มีวันลืมเขาหรือไง?” คุณชายสามเย่ถูกถลึงเข้าใส่ก็ยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมสุด ๆ ไปเลย คำพูดเมื่อกี้ของเธอทั้ง ๆ ที่ก็หมายความว่าอย่างนี้อยู่แล้ว
“คนที่ปรากฏตัวขึ้นมาในชีวิตฉันคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นคนที่เคยชอบกันอีกด้วย ถ้าฉันพูดไปว่าฉันได้ลืมคนคนนั้นไปโดยสมบูรณ์แล้ว คุณจะเชื่อเหรอ?” เวินลั่วฉิงแทบจะถูกคุณชายสามเย่ในตอนนี้ทำให้โกรธจนจะตายอยู่แล้ว
“คุณพูดผมก็จะเชื่อ” คุณชายสามเย่ตอบกลับมารวดเร็วมาก ทั้งยังตอบกลับมาอย่างจริงจังมากเลยด้วย
ดวงตาของเวินลั่วฉิงได้วูบไหวออกมาเล็กน้อย เห็นเขาแสดงหน้าตาจริงจังออกมา ในที่สุดก็ต้องแพ้ให้เขาไป “งั้นก็ดี คุณฟังให้ดีนะ ฉันกับไป๋ยี่รุ่ยจบกันไปแล้ว ฉันไม่ชอบเขาแล้ว ฉันไม่ได้มีความรู้สึกแบบชายหญิงต่อเขาอีกเลยสักนิดเดียว”
“แล้วทำไมคุณถึงช่วยเขา?” วันนี้คุณชายสามเย่จริงจังมากเลยจริง ๆ
“เขาเกิดเรื่องใญ่ขนาดนี้แล้ว เขาไม่มีเพื่อนอะไรกับเขาเลย และก็ไม่มีญาติพี่น้องเลยด้วย หลิวหยิงโทรหาฉัน หรือว่าจะให้ฉันมองดูอยู่เฉย ๆ ไม่ไปยุ่งได้เหรอ? เรื่องวันนี้ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นแล้ว ฉันเองก็จะช่วยเหมือนกัน” เมื่อก่อนเวินลั่วฉิงไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเดิมทีแล้วคุณชายสามเย่จะไม่มีเหตุผลได้ขนาดนี้
เวินลั่วฉิงเห็นคุณชายสามเย่ยังมีท่าทีไม่ยอมเลิกราออกมา “เอาเถอะ ฉันไม่ยุ่งแล้ว ฉันไม่ยุ่งเรื่องของเขาแล้ว เขาจะเป็นจะตาย ฉันก็ไม่ยุ่งแล้วทั้งนั้น โอเคแล้วหรือยัง?”
“ดี” ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็ได้สงบลงเสียที ครั้งนี้ได้ตอบมาเสียง่ายดายเอามาก ๆ เลย
เวินลั่วฉิงถลึงตาใส่เขาไปทีนึง ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคุณชายสามเย่นับวันจะยิ่งไม่มีเหตุผลขึ้นเรื่อย ๆ เล้ว
แต่เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยเองก็ได้จัดการไปประมาณนึงแล้ว เจิ้งฉงหัวหน้าน้อยจะเป็นคนจัดการ ตอนที่เกิดเหตุระหว่างทางที่เธอเพิ่งจะมานั้นก็ได้ให้คนแก้ปัญหาไปแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่เรื่องที่บริษัทของไป๋ยี่รุ่ยเท่านั้นแล้ว
เรื่องในด้านการค้านั้นเดิมทีแล้วเธอไม่รู้เรื่องเลย เธอเองก็ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะช่วยได้เหมือนกัน แต่เดิมเธออยากให้เย่ซือเฉินช่วยหาคนมาให้ แต่เย่ซือเฉินอย่างในตอนนี้นั้นอย่าได้คิดเลยจะดีกว่า ดังนั้นแล้วก็เอาอย่างนี้แล้วกัน
ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยก็เข้าคุกไปแล้ว อย่างนั้นแล้วสิ่งของนอกกายเองก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นแล้วเหมือนกัน ไป๋ยี่รุ่ยยังมีธุรกิจอื่นอยู่อีกบางส่วน หลังจากที่ไป๋ยี่รุ่ยออกมาแล้วชีวิตก็ไม่ต้องไปกังวลแล้วเหมือนกัน เธอก็เลยไม่ต้องไปสนใจแล้ว
คุณชายสามเย่พอใจแล้ว ปัญหานี้ในที่สุดก็แก้ปัญหาได้เสียที ในที่สุดเวินลั่วฉิงก็ได้สบายใจขึ้นมาได้เสียที
แต่ในตอนนี้จู่ ๆ โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงก็ได้ดังขึ้นมา
มือยาวของเย่ซือเฉินได้เข้ามาหยิบโทรศัพท์ของเธอไปทันที จากนั้นก็ยังช่วยเธอกดปุ่มรับสายไปด้วยเลย
“ใครน่ะ?” เมื่อกี้เวินลั่วฉิงมองไปแวบนึง เห็นหมายเลขชุดหนึ่ง อีกทั้งตัวเลขมันก็ไม่คุ้นเลยด้วย คงจะไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก
เย่ซือเฉินก็ได้ช่วยเธอกดรับสายเพราะว่าเห็นตัวเลขชุดหนึ่งออกมาเหมือนกัน
เย่ซือเฉินได้ยินเธอถามว่าใคร จึงได้กดเปิดลำโพงขึ้นมาเลย
“ฉันเอง มู่เฉิง หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้” เสียงผู้ชายที่เพราะมากเสียงหนึ่งที่อยู่ในสายได้ดังเข้ามา
เวินลั่วฉิงได้ยินว่าเป็นสายของหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่โทรเข้ามาก็ได้ตะลึงงันไปอย่างเห็นได้ชัด เธอนึกไม่ถึงว่าหัวหน้าน้อยจะโทรมาหาเธอ
แต่สีหน้าที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงไปเมื่อกี้นี้ของคุณชายสามเย่ก็ได้มืดครึ้มออกมาทันที อีกทั้งยังมืดครึ้มกว่าเมื่อก่อนหน้านี้เสียอีก
เธอไปรู้จักหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เรื่องที่คุณได้มอบหมายมาผมได้จัดการตามที่คุณต้องการแล้ว เมื่อไหร่พวกเราจะนัดเจอกันที่ไหนสักที่นึงดีครับ?” เสียงของหัวหน้าน้อยฟังไปแล้วมันฟังดูเป็นธรรมชาติมากเลย เหมือนกับว่าเวินลั่วฉิงได้รับปากไปแล้วจริง ๆ ว่าจะไปเจอกับเขา ทั้ง ๆ ที่เมื่อตอนนั้นเวินลั่วฉิงก็ได้ปฏิเสธเขาไปแล้วแท้ ๆ
“ไสหัวไป” ไฟโกรธที่เมื่อกี้เพิ่งจะถูกปลอบประโลมลงไปของคุณชายสามเย่ก็ได้ทะยานสูงขึ้นมา นี่เขายังระวังไป๋ยี่รุ่ยอยู่เลยนะ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีมาอีกคนนึงอีก ทั้งยังเป็นหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้อีกด้วย
หลังจากที่คุณชายสามเย่ด่าเสร็จไปก็ได้วางสายไปเลย
“อธิบายมาหน่อย หัวหน้าน้อยมันเรื่องอะไรกัน?” ดวงตาทั้งสองข้างของเย่ซือเฉินได้มองเวินลั่วฉิงเขม็ง สีหน้ามืดครึ้มเสียจนเหมือนกับว่าสามารถมีฝนหยดลงมาได้เลยทีเดียว “นึกไม่ถึงว่าคุณจะตอบตกลงนัดหมายกับเขาด้วย”
ผู้หญิงคนนี้ช่างดึงดูดความสนใจจากคนอื่นมาได้ทั่วทุกหนแห่งเลยจริง ๆ !!
“เปล่า ฉันไม่ได้รับปากเขา เมื่อตอนนั้นฉันได้ปฏิเสธไปแล้ว” เวินลั่วฉิงได้แสดงความเห็นของตัวเองออกไปซ้ำ ๆ ไม่หยุด คำพูดเมื่อกี้ของหัวหน้าน้อยมันง่ายต่อการเข้าใจผิดเลยจริง ๆ เธอไม่อาจปล่อยให้เย่ซือเฉินเข้าใจผิดอีกได้
“แล้ว พวกคุณได้มีการติดต่อระหว่างกันจริง ๆ ?” ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าสติปัญญาของคุณชายสามเย่จะฉุดไม่อยู่แล้ว คำถามมันค่อนข้างจะเฉียบคมเลย
“ฉันไปหาเขาเพราะเรื่องเจิ้งฉง เขาเสนอมาว่าอยากจะเจอกัน แต่ฉันก็ได้ปฏิเสธไปทันที…” เวินลั่วฉิงเห็นดวงตาที่จ้องเตรียมที่จะตะคลุบเหยื่อคู่นั้นของคุณชายสามเย่ที่กำลังมองเธออยู่ แสดงท่าทีออกมาชัดเจนว่าไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของเธอเท่าไหร่นัก
ในทันใดนั้นเองเวินลั่วฉิงก็นึกคำพูดของหลิวหยิงขึ้นมาได้
“คนที่ฉันชอบคือคุณ คนที่ฉันรักก็คือคุณ ในใจของฉันมีแค่คุณ กับผู้ชายคนอื่นแล้วฉันจะไม่มองเลยสักนิด แล้วจะไปตอบรับเขาได้ยังไงกัน” เวินลั่วฉิงคิดว่าตอนนี้เธอสารภาพความรู้สึกของเธอออกไปสักหน่อย บางทีอาจจะมีประโยชน์ขึ้นมาบ้าง
คุณชายสามเย่นิ่งค้างไป ตอนนี้เขากำลังกอดเวินลั่วฉิงอยู่ เวินลั่วฉิงสามารถรู้สึกได้ถึงความแข็งค้างที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดจากร่างกายของเขา เขานิ่งค้างไปหลายวิ ต่อมา ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความปีติยินดีเอ่อล้นออกมา ความโกรธเมื่อกี้นี้ได้เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
“อืม คำพูดนี้ผมเชื่อ ชอบฟัง” ตอนนี้คุณชายสามเย่ไหนเลยจะยังมีความโกรธอยู่อีก เต็มไปด้วยความสุข เพราะว่าดีใจมากเกินไป ในน้ำเสียงของเขาก็ได้สั่นไปหมด
คำพูดประโยคนี้ของเวินลั่วฉิง มันได้ทำให้เรื่องทั้งหมดได้สงบลงไปทันที ผลที่ได้นั้นมันดีเสียจนเหนือความคาดหมายเลยจริง ๆ
แต่ทว่าต่อมา เย่ซือเฉินก็ได้จูบเธอเข้ามาอย่างแรง จากนั้นก็เป็นอย่างที่หลิวหยิงว่ามาเมื่อก่อนหน้านี้เลย เวินลั่วฉิงคาดว่าเธอคงจะลงจากเตียงไม่ได้ไปอีกนานเลย !!
เวินลั่วฉิงนึกเสียใจภายหลังกับการสารภาพความรู้สึกออกไปเมื่อกี้อยู่บ้าง!!