ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1601 คุณชายสามเย่ได้คืบจะเอาศอก (1)
เวินลั่วฉิงนึกเสียใจภายหลังกับการสารภาพความรู้สึกออกไปเมื่อกี้อยู่บ้าง!!
แต่คำพูดที่พูดออกไป น้ำที่สาดออกไปแล้ว จะเก็บกลับมามันก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในสถานการณ์แบบนี้เลย เวินลั่วฉิงลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ความรู้สึกของการถูกบังคับจูบมันไม่ดีเลย ถึงขนาดที่รู้สึกแย่ขึ้นมาเล็กน้อย เวินลั่วฉิงอยากจะผลักเขาออกไปอยู่บ้าง ยื่นมือออกไปถู แต่เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินนั้นตื่นตัวเป็นอย่างมาก จูบเธอมาอย่างแรง ไม่ให้โอกาสให้เธอได้ต่อต้านเลยสักนิดเดียว ยิ่งไม่คิดจะแยกออกไปเลยด้วย
เวินลั่วฉิงใช้แรงผลักไปอีกที ผลักออกไปไม่ได้ จึงต้องยอมแพ้ไป ถูกบังคับให้รับจูบของเย่ซือเฉิน ถึงขนาดที่เป็นฝ่ายตอบกลับไปเองเลยด้วย อยากจะให้อารมณ์ของเขาสงบลง อย่างน้อยก็อย่ามาบังคับกันอย่างนี้
นึกไม่ถึงว่าพอเวินลั่วฉิงจู่โจมเข้าไปแล้ว เย่ซือเฉินกลับยิ่งตื่นตัวขึ้นมาแทน ยิ่งไม่อยากแยกออกไปกว่าเดิมเสียอีก เหมือนกับการที่จะหยุดลงนั้นมันจะยิ่งยากขึ้นแล้ว เวินลั่วฉิงนึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปจริง ๆ ทำไมเธอถึงได้สารภาพความรู้สึกออกไปตอนนี้ แทบจะเป็นการรนหาที่ตายเลยทีเดียว คืนนี้จะไม่ได้นอนจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย เธอสงสัยเล็กน้อย ถึงขนาดที่ผงะไปเลยทีเดียว
“ฉิงฉิง คำพูดเมื่อกี้นี้ ช่วยพูดอีกทีนึงได้หรือเปล่า” จู่ ๆ เย่ซือเฉินก็ปล่อยเธอ จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอแล้วพูดออกมา ดวงตาเป็นประกาย เหมือนกับส่องแสงแวววาวออกมาเลยทีเดียว
เวินลั่วฉิงตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอเห็นเย่ซือเฉินมีความสุขอย่างนี้น้อยมาก ไม่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองเลยสักนิดเดียว ไม่ใช่แค่สีหน้าที่แสดงออกมา สายตา ใบหน้า มุมปากล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าเย่ซือเฉินนั้นมีความสุขมากจริง ๆ เขามีความสุขเพราะการสารภาพความรู้สึกของเธอ ถึงขนาดที่มีความสุขอย่างที่ไม่เคยจะมีมาก่อน หลังจากที่เวินลั่วฉิงตะลึงงันไปแล้วก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา ทั้งยังรู้สึกปวดหนึบที่ใจอยู่บ้าง เธอไม่เคยสารภาพความรู้สึกกับเขามาก่อนเลยจริง ๆ งั้นเหรอ? แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไปเลยเหรอ? ดังนั้นแล้วแค่เพียงแสดงออกไปแค่ครั้งเดียวเขาก็มีความสุขขนาดนี้แล้ว ถึงขนาดที่ขอให้เธอพูดอีกครั้งเลยด้วย ปกติเขาจะเป็นคนเย็นชาหยิ่งยโสจำพวกนั้น เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไป หรือว่าระหว่างพวกเขาจะขาดการสารภาพความรู้สึกต่อกันจริง ๆ งั้นเหรอ? ทั้ง ๆ ที่ความสัมพันธ์ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าไม่มีเรื่องที่ไม่คาดฝันก็ได้จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ต่างก็มีลูกน้อยสองคนเข้าไปแล้ว ว่ากันตามหลักแล้วการสารภาพความรู้สึกระหว่างคนทั้งสองคนนั้นคงจะมีอยู่นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว เหมือนกับว่าจะมีแค่ไม่กี่ครั้งจริง ๆ และเธอก็ไม่เคยจะเป็นฝ่ายพูดออกไปก่อนเลยด้วย
เวินลั่วฉิงมองหน้าเย่ซือเฉินไปเงียบ ๆ ด้วยความปวดใจ คนคนนี้นี่นะ ตอนนี้ดูโง่เง่าอยู่บ้าง แต่ก็รักเธออย่างนี้มาตลอดเลย รักมาตลอดเลย เธอรู้ดีว่าเย่ซือเฉินรักเธอ แต่เย่ซือเฉินไม่รู้ บางทีอาจจะไม่แน่ใจ ไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อก่อนหน้านี้คงไม่ตอบกลับเธอมาอย่างนั้นหรอกมั้ง? นึกถึงบทสนทนาของเย่ซือเฉินกับตนเมื่อกี้นี้ขึ้นมาแล้ว เวินลั่วฉิงก็รู้สึกตลกขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าจะคิดว่าตนจะแต่งงานกับคนอื่นไปจริง ๆ ทั้งยังรู้สึกปวดหนึบที่ในใจอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าเขาจะรักเธออย่างนี้ และยังรู้สึกจุกไปพร้อม ๆ กันด้วย นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่เชื่อใจตน! ไม่เชื่อว่าตนรักเขา
เวินลั่วฉิงคิดไปมากมายอยู่ชั่วขณะนึง แล้วส่ายหน้าออกไปมองชายคนตรงหน้าที่กำลังรอให้ตนเอ่ยปากพูดออกไป เธอยื่นมือไปแตะหน้าเขา จ้องมองเขาพลางเอ่ยพูดออกไปอย่างจริงจังแบบชัดถ้อยชัดคำ “คุณฟังให้ดี ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว! ฉันเวินลั่วฉิงรักคุณเย่ซือเฉิน รักคุณมาก รักแค่คุณ! ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าต่อจากนี้ไปมันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็แน่ใจแล้วว่าฉันรักคุณ ในสายตาในใจฉันมันมีแค่คุณ คุณต่างหากที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ฉันรัก ดังนั้นแล้ว ฉันไม่มีทางจะแต่งงานกับคนอื่น ไม่มีทางจะคบกับผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ฉันก็จะวางคุณอยู่เป็นอันดับหนึ่งเสมอ ฉันจะช่วยคนอื่น เพียงแค่เพราะว่าฉันเห็นพวกเขาเป็นเพื่อน เพียงแค่เพื่อน ไม่มีความรักแบบชายหญิงเลยสักนิดเดียว คุณเชื่อฉันได้มั้ย? อย่ามาสงสัยในตำแหน่งของคุณในใจฉันเลย!”
เดิมทีเย่ซือเฉินก็แค่พูดไปสักหน่อยเท่านั้นเอง เขานึกไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะพูดออกมาซ้ำอีกครั้งจริง ๆ ถึงขนาดที่พูดออกมามากกว่าเดิมเลยทีเดียว เย่ซือเฉินมีความสุขเสียจนแทบจะกระโดดขึ้นมาเลยทันที! เวินลั่วฉิงแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาน้อยมาก เขารู้ว่าเธอชอบเขา และก็รู้ดีว่าเธอไม่มีทางจะเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง ดังนั้นแล้วก็เลยไม่เคยจะบังคับเธอมาก่อนเลย เขาถึงขนาดที่ยังคิดเลยว่าขอเพียงแค่เวินลั่วฉิงอยู่ข้างกายเขาก็พอแล้ว ไม่ไปจากเขา ยิ่งไปอยากให้คิดไปจากเขาเลยด้วย ขอเพียงแค่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เขาก็พอใจมากแล้ว! แต่ว่าตอนนี้ เขารู้ว่าตนได้เปลี่ยนเป็นโลภขึ้นมาแล้ว นับจากนาทีที่เวินลั่วฉิงได้สารภาพความรู้สึกออกมานั้น เขาก็รู้ว่า เขาไม่มีทางจะครุ่นคิดในเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนกับเมื่อก่อนอีกแล้ว เขาอยากให้ทั้งสองคนได้เข้าใจกันชัดเจน แสดงออกถึงความรักกันไปให้ชัดเจนไปเลย
“ผมเองก็เหมือนกัน ผมรักคุณ รักคุณมาก” เย่ซือเฉินค่อย ๆ เอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ ความรักที่เข้มข้นไม่มีปกปิดเลยสักนิดเดียว และปนไปด้วยความกังวลอยู่ด้วยเล็กน้อย หลังจากที่พูดจบไปก็ได้จูบเวินลั่วฉิงเข้ามาอีกครั้ง ตรงมือก็เริ่มอยู่ไม่สุขขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงเดิมทีแล้วนึกว่าอย่างนี้แล้วจะสามารถผ่านไปได้แล้ว ทั้งสองคนจะสามารถค่อย ๆ พูดคุยปัญหากันให้ดี ๆ กันได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เธอเองก็ไม่ฝืนมันแล้ว วันนี้ได้แก้ปัญหาเรื่องเย่ซือเฉินของเธอไปอย่างราบรื่นแล้ว พรุ่งนี้ทั้งสองคนคุยกันแล้วก็จะได้ง่ายขึ้นเยอะ แต่เธอต้องลองพยายามมาให้ได้สักหน่อย
“เย่ซือเฉิน! คุณรอก่อน” เวินลั่วฉิงรีบพูดออกไปทันที “พรุ่งนี้ฉันยังมีธุระ คุณ…”
“ผมรู้ คุณเป็นเด็กดีหน่อย จะพยายามให้พรุ่งนี้คุณออกจากบ้านไหวแล้วกัน” เย่ซือเฉินเอ่ยออกมาพร้อมกับการกระทำที่ไม่หยุดลงไป
“??” เวินลั่วฉิงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง ตอนนี้เย่ซือเฉินพูดคุยด้วยง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? ปกติทำไมไม่เห็นว่าเขาจะ…อ่อนโยนขนาดนี้เลย? “คุณ…กินยาลืมเขย่าขวดมาใช่มั้ย?” เธอถามเสียงสั่นออกไป นาทีที่ได้พูดออกไปนั้นก็ได้นึกเสียใจภายหลังขึ้นมา เธอกำลังสงสัยอะไรอยู่เหรอ!
การกระทำของเย่ซือเฉินได้หยุดลงไปชั่วขณะ เขาคิดว่าตัวเองแทบจะโกรธตายอยู่แล้ว เขาอุตส่าห์คิดให้เธอดี ๆ ไม่อยากให้วันนี้เธอต้องเหนื่อยเกินไป นึกไม่ถึงว่าเธอจะสงสัยใจตัวเขา ดูเหมือนว่าไม่ควรจะใจอ่อนเลยจริง ๆ พรุ่งนี้ไม่อาจปล่อยให้เธอลงจากเตียงไปได้แล้ว!
“ที่แท้คุณก็หมายความว่าอย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณภรรยาให้เต็มที่อย่างแน่นอนเลย” เย่ซือเฉินหัวเราะเบา ๆ ออกมา แฝงไปด้วยเจตนาร้าย
เวินลั่วฉิงได้รู้สึกว่าทั้งร่างมันเย็นยะเยือกขึ้นมาเพราะเสียงหัวเราะนี้ เหมือนกับว่าถูกอะไรจ้องจะตะคลุบอยู่ก็ไม่ปาน คนคนนี้…จะไม่ปล่อยเธอไปจริง ๆ แล้วล่ะมั้ง? เธอไม่อยากจะเหนื่อยเจียนตายไปหลายวันหรอกนะ! ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็มีเรื่องมากมายขนาดนี้อีก เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยก็ยังไม่ชัดเจนเลย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญเลย เธอกลัวว่าพลาดโอกาสไปสักนิดก็จะพลาดไปหลายเรื่อง ช่วงหลายวันนี้ไม่อาจมัวชักช้ารีรออยู่ได้เลยจริง ๆ!
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้” เวินลั่วฉิงรีบอธิบายออกไปทันที “คุณก็รู้ช่วงนี้ฉันมีธุระจริง ๆ ไม่อาจจะปล่อยตัวปล่อยใจเกินไปได้”
“หืม?” เย่ซือเฉินพึมพำกับตัวเอง เวินลั่วฉิงไม่ได้คิดเลยจริง ๆ คำพูดจำพวกนี้ก็พูดออกมาได้หมด แต่ในเมื่อเธอให้โอกาสแล้ว เขาจะไม่ใช้ประโยชน์จากมันได้เหรอ? “งั้นความหมายของคุณคือ ผ่านช่วงนี้ไปแล้วก็สามารถปล่อยตัวปล่อยใจไปได้แล้ว?”
เวินลั่วฉิงตะลึงงันไป เธอหมายความว่าอย่างนี้งั้นเหรอ! คนคนนี้ทำไมถึงได้หน้าเนื้อใจเสือได้ขนาดนี้? เธอรู้ว่าตัวเองไม่อาจอ่อนข้อได้เลย คำพูดนี้ถ้าได้ตอบรับไปแล้ว จากนี้ไปจะต้องไม่มีจุดจบที่ดีแน่ ๆ เลย! ปกติก็ทรมานตนเองก็ไม่น้อยอยู่แล้ว ถ้าไม่ยี่หระกับอะไรเพราะว่าคำพูดนี้ คนที่แย่คือเธอ! เวินลั่วฉิงคิดอยู่ว่าตัวเองจะตอบกลับไปยังไงถึงจะดีขึ้นสักหน่อย หรือไม่ก็ขายตัวเองออกไปดี แต่ว่าเย่ซือเฉินไม่ให้เวลาเธอคิดเลยนี่สิ
“ใช่หรือเปล่าล่ะ?” เย่ซือเฉินข่มกลั้นความต้องการของตัวเองเอาไว้ ค่อย ๆ เอ่ยถามออกไปช้า ๆ จูบเวินลั่วฉิงไปไม่หยุด ภายในใจลอบถอนหายใจออกมา เพื่ออนาคตของตัวเองก็ต้องทุ่มไปสุดตัวเลยจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าจะข่มกลั้นตัวเองอยู่อย่างนี้ ปกติแล้วเขาไม่ได้สนใจอยู่หรอก
เวินลั่วฉิงกัดฟันไม่ได้พูดอะไรออกไป เย่ซือเฉินเอ่ยออกมาอย่างไม่รีบร้อน “งั้นก็ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะปล่อยให้เป็นตามใจสักหน่อยไปก่อนก็ได้”
“อย่า!” เวินลั่วฉิงรีบหยุดเขาไปทันที เย่ซือเฉินถือโอกาสพูดออกไป “งั้นคุณหมายความว่าอะไร? หลังจากนี้เหรอ?” เขาจงใจกัดฟันแน่นพูดคำว่าหลังจากนี้ออกมา เขาเข้าใจเวินลั่วฉิง ตอนนี้ให้เธอไม่สนใจไป๋ยี่รุ่ยมันก็เป็นไปไม่ได้ ถ้าเพราะว่าเขาไปทำให้เรื่องสำคัญมันล่าช้าไป เวินลั่วฉิงเองก็จะไม่มีความสุขขึ้นมาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะไม่พูดออกมา ทำตัวเฉยชากับตนไปหลายวันมันก็เป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ไม่สู้ตอนนี้ก็เรียกร้องเอาผลประโยชน์มาอีกสักหน่อย อนาคตยังอีกยาวไกล…
เวินลั่วฉิงพิจารณาซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง รับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ขยับเคลื่อนไปทั่วร่างของเธอ ปลุกปั่นขึ้นมา กัดฟันเอ่ยออกไป “รอให้เรื่องมันจัดการเสร็จแล้ว พวกเราก็มีเวลาแล้ว”
“ได้” เย่ซือเฉินรีบตอบมาด้วยความรวดเร็ว “อย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน” พูดไปแล้วก็ได้จูบเข้ามา “วันนี้ก็ค่อยเป็นค่อยไปกันไปก่อน”
เวินลั่วฉิงรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าถูกหลอกเข้าแล้ว เดิมทีแล้วมันไม่ใช่แบบนี้เลยนะ! ตั้งแต่ตอนที่เธอสารภาพความรู้สึกออกไป เย่ซือเฉินก็ไม่ได้คิดจะไม่ทำอะไรอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ไม่ได้ทำเกินไป! หลังจากที่ฝืนปลอบใจตัวเองไปแล้วก็ได้ปล่อยไปตามใจ! คำพูดนี้พอพูดออกมาแล้ว เย่ซือเฉินจะ “ใจอ่อนทำไม่ลง” ขึ้นมาได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ การกระทำของเย่ซือเฉินก็ได้บอกเธอชัดเจนแล้ว วันนี้ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยก็จะไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่!
“ฉิงฉิงเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว?” เย่ซือเฉินถอดเสื้อผ้าของเวินลั่วฉิงออก เอ่ยออกมาอย่างคลุมเครือ
“ไม่ถึงขนาดเสียใจภายหลังหรอก แต่อย่าลืมรับปากอะไรฉันด้วย!” บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าได้สารภาพความรู้สึกออกไปแล้ว บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีเรื่องที่ดุเดือดอย่างนี้มานานแล้ว เวินลั่วฉิงมีความรู้สึกบอกไม่ถูกอยู่บ้างว่าตอนนี้มันเป็นความรู้สึกแบบไหน เธออยากจะปล่อยตามใจเย่ซือเฉิน แค่ตอนนี้เท่านั้น! ในตอนที่พวกเขามีใจตรงกัน!