ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1616 ฉันไม่ยอมรับ
ตอนเช้าเวินลั่วฉิงก็พักผ่อนต่ออีกหน่อย พอกินอาหารกลางวันเสร็จก็ไปที่สถานีตำรวจ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยยิ่งจัดการให้เร็วยิ่งดี สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างรุนแรง ถ้าเกิดว่าไป๋ยี่รุ่ยเอาแต่เงียบอยู่แบบนี้ การพิจารณาคดีน่าจะค่อนข้างหนัก เวินลั่วฉิงไม่อยากจะให้อนาคตของไป๋ยี่รุ่ยอยู่แต่ในคุก ดังนั้นเธอก็เลยมาเกลี้ยกล่อมไป๋ยี่รุ่ยด้วยตัวเอง
ทางสถานีตำรวจ เย่ซือเฉินได้โทรมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่าให้พวกเขาได้เจอหน้ากัน มีเวลาได้คุยกันสองต่อสอง 1 ชั่วโมง เวินลั่วฉิงรู้สึกพึงพอใจมาก เพราะถึงยังไง นี่ก็เป็นสิ่งที่เย่ซือเฉินมอบให้ตามความสมัครใจ
เวินลั่วฉิงคิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อ เย่ซือเฉินในวันนี้สามารถพูดคุยกันได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ แถมยังออกตัวช่วยก่อนด้วยซ้ำ ในเรื่องของผู้ชายคนอื่นเขากลับพูดง่ายขนาดนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกพึงพอใจและก็ตลกด้วย เกรงว่าไม่นานเขาน่าจะตั้งสติได้ ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเขาจะมีสีหน้ายังไง
“คุณนายเย่”เข้ามาถึงสถานีตำรวจ ก็มีคนเข้ามาต้อนรับ ดูท่าทางน่าจะเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เวินลั่วฉิงพูดอย่างเป็นทางการว่า “เรื่องนี้คงต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ”
ตำรวจพูดกับเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เรื่องนี้มันค่อนข้างจะร้ายแรง สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ ก็คือให้พวกคุณได้เจอกันเท่านั้น ทางด้านฝั่งนี้พวกเราได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะคุณมีเวลา 1 ชั่วโมงในการพูดคุยกันส่วนตัว ถ้าเกิดว่าผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้วจะมีคนไปเตือนคุณ กรุณาอย่าทำให้พวกเราลำบากด้วยนะครับ”
เวินลั่วฉิงแสดงให้เห็นว่าเข้าใจ แล้วก็เดินเข้าไปข้างในกับพวกเขา มันเป็นห้องปิด เพราะว่าเรื่องราวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ดังนั้นไป๋ยี่รุ่ยก็ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิม มันดูยับยู่ยี่ เนื้อติดอยู่กับตัว เขาไม่ได้โกนหนวดมาหลายวันแล้ว ดูค่อนข้างจะมอมแมม ดวงตาที่เคยสดใสของเขาไม่มีแสงสว่าง ตอนที่เห็นเวินลั่วฉิงนันก็ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เธอ……มาเยี่ยมเขาด้วย
ไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที ตอนนี้เขาดูน่าอายมากเลยใช่ไหม? เสื้อผ้าก็ยุ่งเหยิง ผมก็มัน สีหน้าของดูแย่มากเลยใช่ไหม? เขากลับแสดงด้านที่ไม่ดีทั้งหมดให้ฉิงฉิงเห็น……ไป๋ยี่รุ่ยไม่สามารถรับได้ จนถึงขั้นที่อยากจะหนีไปด้วยซ้ำ
“ไป๋ยี่รุ่ย!”เวินลั่วฉิงเรียกเขาเอาไว้ในทันที ไม่มีใครอยากโชว์ด้านที่น่าเกลียดต่อหน้าคนที่ชอบหรอก เวินลั่วฉิงแสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจ แล้วอีกอย่างเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยเคยทำก่อนหน้านี้ เธอก็เข้าใจเขาเหมือนกัน เธอรู้ว่าเขาทำเพื่อเธอ เวินลั่วฉิงรู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย ไป๋ยี่รุ่ยทำเพื่อเธอเยอะขนาดนี้ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าหลิวหยิงบอก เธอก็คงไม่รู้หรอก จากคำพูดของหลิวหยิง เธอก็สามารถดูได้อย่างชัดเจนว่า ไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากให้เธอเห็นในด้านที่ไม่ดีเหล่านี้ เรื่องที่สุดจะทนเหล่านั้น เขาไม่อยากจะให้เธอเข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ว่า ไม่มีทางเลือก ไป๋ยี่รุ่ยไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่แม้แต่นิดเดียว ถ้าเกิดว่าเธอไม่มาด้วยตัวเอง เกรงว่าใครพูดไปก็คงจะไม่มีประโยชน์
“ฉิงฉิง เธอ……”ไป๋ยี่รุ่ยก้มหน้าลง เขารู้สึกว่าเขาไม่มีหน้าจะไปมองเวินลั่วฉิง เขาในตอนนี้ ต้องดูน่าอึดอัด แล้วอีกอย่าง บนตัวของเขายังมีคราบสกปรกอยู่เลย ไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกว่า การเข้าใกล้เวินลั่วฉิงเป็นการกระทำที่เลวร้าย เวินลั่วฉิงทั้งงดงาม ใจดี และอบอุ่นขนาดนั้น แล้วเขาล่ะ? ก็แค่คนที่ถูกคนอื่นวางแผนใส่ ถูกวางยา แถมตัวเขาเองยังฆ่าคนอื่นอีก มือเต็มไปด้วยเรื่อยๆ แล้วเขาจะเข้าไปใกล้เวินลั่วฉิงได้ยังไงกัน?
เวินลั่วฉิงมองไปที่คนที่พาไป๋ยี่รุ่ยเข้ามา ส่งสัญญาณให้พวกเขาออกไป คนข้างๆ ก็รู้ตัวดีว่าต้องทำยังไง ก็เลยเดินออกไปทันที แถมยังปิดประตูด้วย เวินลั่วฉิงเดินเข้าไปแล้วพูดเบาๆ ว่า “นั่งคุยกันหน่อยเถอะ”
ไป๋ยี่รุ่ยกัดฟันและนั่งลง เขารู้สึกว่าไม่มีหน้าจะเงยหน้าขึ้นมามองเวินลั่วฉิง ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคน เหมือนกับว่าคนหนึ่งเป็นท้องฟ้า ส่วนอีกคนอยู่บนดิน ไม่ควรจะมาเกี่ยวพันกัน
“เรื่องที่นายฆ่าคน ฉันรับรู้แล้วนะ”เวินลั่วฉิงพยายามพูดอย่างอ่อนโยนที่สุด เธอรู้ดีว่าไป๋ยี่รุ่ยเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมาก เหตุการณ์นั้นต้องทำร้ายเขาอย่างรุนแรง และแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงมันโดยตรง
ไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกเหมือนว่าหัวใจเขาแทบจะหลุดออกมา ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าเวินลั่วฉิงก็รู้เรื่องที่เขาถูกไป๋หยิงวางยาด้วยหรือเปล่า ไป๋ยี่รุ่ยหน้าซีดลงในทันที เขาพยายามรวบรวมความกล้าและถามว่า “ถ้ายังงั้น……เรื่องนั้นล่ะ? เธอรู้หรือเปล่า? ”
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า สำหรับคนที่รักในศักดิ์ศรีของตัวเองแบบนี้ เรื่องนี้เกรงว่ามันจะทำให้เขาเสียใจมากกว่าการฆ่าคนอีก แต่ว่าในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้ สิ่งเดียวที่สามารถแก้ไขได้ก็คือความคิดของตัวเอง เวินลั่วฉิงพยักหน้า “เรื่องของไป๋หยิง ฉันรู้แล้ว เรื่องที่เธอวางยาใน ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน”
เหมือนกับว่าแสงในดวงตาของไป๋ยี่รุ่ยจะหายไปในทันที เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า ในสายตาของเขาไม่มีความรู้สึกอะไร ทั้งว่างเปล่าและอ่อนแอ ฉิงฉิงของเขา รู้เรื่องนี้แล้วงั้นเหรอ แล้วเธอจะรังเกียจเขาหรือเปล่า? เรื่องที่สกปรกเหล่านั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถปกปิดได้ ฉิงฉิงจะมาปนเปื้อนสิ่งสกปรกแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะ?
“ที่ฉันตั้งใจมาที่นี่วันนี้ ก็เพื่อนายโดยเฉพาะเลยนะ”เวินลั่วฉิงอยากจะมอบความรักให้เขา ไม่มีอะไรทำให้คนคนหนึ่งดีใจไปได้มากกว่าการที่คนที่เขาชอบเป็นห่วงเขาหรอก ความรู้สึกของไป๋ยี่รุ่ย เธอรับรู้มาโดยตลอด แต่ว่าตอนนี้ เธอมีเย่ซือเฉินแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะลงเอยกับเขา ไมตรีจิตของเธอกับเขามันมีอยู่มาตลอดตั้งแต่เด็ก แล้วอีกอย่าง ไป๋ยี่รุ่ยก็ดีกับเธอมากจริงๆ เธอไม่สามารถไม่สนใจเขาได้
“ฉิงฉิง เธอ……เธออยากจะมาทำไมอีก”ไป๋ยี่รุ่ยฝืนยิ้ม เขาในตอนนี้ สกปรกไปทั้งตัว มีค่าอะไรให้เวินลั่วฉิงมาหาด้วยล่ะ? ตอนนี้เขาไม่อยากจะพบเจอใครทั้งนั้น โดยเฉพาะเวินลั่วฉิง เขาไม่เหมาะสมกับเธออีกต่อไปแล้ว……เขาแค่อยากรู้ว่าเวินลั่วฉิงกำลังใช้ชีวิตอย่างดี แค่นั้นเขาก็พอใจมากแล้ว
“ที่ฉันมาหานาย เพราะว่านายสำคัญกับฉันมาก นายเองก็รู้ ว่าความจริงแล้วตอนเด็กๆ ฉันมีชีวิตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก รอบข้างฉันมีแค่นายกับหลิวหยิงเท่านั้น หลายปีมานี้ ความรู้สึกที่พวกนายมีต่อฉันมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก ที่มีเพื่อนอย่างพวกนายอยู่ข้างๆ ฉัน” เวินลั่วฉิงพูดช้าๆ สำหรับไป๋ยี่รุ่ยแล้ว เธอคงต้องเนรคุณความรักของเขา สิ่งที่เธอสามารถทำได้ ก็คือพยายามอย่างถึงที่สุดให้เขามีชีวิตที่ดี “ฉันเห็นนายเป็นพี่ชายคนหนึ่ง นายก็เหมือนกับพี่ชายที่คอยปกป้อง และดูแลฉันตลอด ฉันไม่มีทางทิ้งนาย และไม่มีทางจะทนเห็นในเอาแต่อยู่ในคุก หรือแม้กระทั่งใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกได้”
“ฉันฆ่าคน ฉันก็ควรจะได้รับบทลงโทษ”ไป๋ยี่รุ่ยหัวเราะ เขารู้สึกขอบคุณมากที่เวินลั่วฉิงมาเยี่ยมเขา แต่ว่าเรื่องนี้ เขาก็เต็มใจที่จะยอมรับอยู่แล้ว การฆ่าคนก็ต้องทดแทนด้วยชีวิต นี่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับไป๋หยิงแล้ว เขารู้สึกว่าถ้าพูดไปมากกว่านี้ก็เป็นการดูถูก เขาไม่เสียใจเลยที่ฆ่าไป๋หยิง แค่เกลียดที่ไม่ทำให้เธอได้รับบทลงโทษที่เยอะกว่านี้
“แต่ว่า นายเองก็ถูกบังคับนี่ นายไม่ได้ตั้งใจจะไปฆ่าเธอ แต่ว่านายแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้นเอง เรื่องที่ไป๋หยิงทำ เกรงว่าคงไม่มีใครรับได้หรอก”เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกชอบพอไป๋หยิงเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้หญิงคนนี้วางแผนใส่เธอตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าเกิดว่าบังเอิญตกลงไปในกลอุบายข้อไหนของเธอ เกรงว่าถ้าไม่ตายก็คงถูกทำลายชีวิตไปเลย คนแบบนี้ในสายตาของเวินลั่วฉิงแล้ว ตายไปก็ไม่น่าเสียดายหรอก แล้วอีกอย่างไป๋หยิงกับเจิ้งฉง ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก่อนก็คงจะได้รับบทลงโทษจากองค์กรโกสต์ซิตี้ เกรงว่านั่นมันจะทุกข์ทรมานกว่าการตายซะอีก สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ไป๋ยี่รุ่ยไม่ทันรอให้องค์กรโกสต์ซิตี้ตามหาไป๋หยิงจนเจอซะก่อน ก็ลงมือฆ่าเธอไปแล้ว ทำให้มือของตัวเองแต่ไปเรื่อยๆ แถมยังต้องได้รับบทลงโทษทางกฎหมายอีก
“ฉิงฉิง ฉันไม่เสียดายเลยที่ฆ่าเธอ แต่แค่เกลียดที่ไม่รีบฆ่าเธอก่อนหน้านี้!”ไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกฮึกเหิมเล็กน้อย เขาแทบทนไม่ไหวที่จะได้กินเลือดกินเนื้อไป๋หยิงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ทางตายไปง่ายๆ แบบนี้ ถือว่ามันน้อยไปสำหรับเธอซะด้วยซ้ำ!
“ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มต้น นายก็วางแผนจะเอาชีวิตมาแลกชีวิตแล้วงั้นเหรอ? ” เวินลั่วฉิงพยายามเข้มงวดก็อยากจะให้เขาดีขึ้น เขาทำอะไรใจร้อนเกินไป ตอนนี้เขาไม่เสียใจก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ว่า มันคุ้มแล้วเหรอที่จะเอาชีวิตของตัวเองทั้งชีวิตมาแลก? ผู้หญิงที่ไร้ยางอายแบบนั้น มีค่าอะไรให้ไป๋ยี่รุ่ยต้องเอาชีวิตมาแล้วในการชดใช้บาป?
ไป๋ยี่รุ่ยอ้าปากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขารู้สึกว่าเวินลั่วฉิงไม่น่าจะชอบฟังอะไรแบบนี้ ความจริงตอนแรก เขาก็ไม่ได้วางแผนจะฆ่าไป๋หยิง ถึงแม้ตอนที่ถูกวางยา แล้วก็บังคับให้มีความสัมพันธ์กัน เขาก็ยังไม่ได้คิดจะฆ่าไป๋หยิงเลยซะด้วยซ้ำ เขาแค่รู้สึกรังเกียจเท่านั้นเอง แต่ว่าตอนที่ไป๋หยิงพูดว่าจะวางแผนทำร้ายเวินลั่วฉิงนั้น เขาก็ระเบิดออกมาในทันที ไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองได้ ไม่มีใครสามารถทำร้ายฉิงฉิงได้เด็ดขาด ไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น!
“ไป๋ยี่รุ่ย ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดอะไรอยู่ แต่ฉันรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ ฉันเห็นนายเป็นพี่ชายมาโดยตลอด ฉันไม่อยากให้นายตาย แล้วก็ไม่อยากให้นายเอาชีวิตมาแลกกับไป๋หยิงด้วย แน่นอนว่า อาจจะไม่ได้ต้องโทษประหารชีวิตก็ได้ แต่ว่านายไม่ยอมพูดอะไรเลยแบบนี้ อาจจะมีสิทธิ์ต้องติดคุกตลอดชีวิตก็ได้ นายอาจจะยอมรับการตัดสินแบบนี้ไปแล้วก็ได้ แต่ว่าฉันไม่สามารถยอมรับสิ่งที่นายเลือกได้หรอกนะ นายคิดว่านายได้เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ยกบริษัทหรืออะไรก็แล้วแต่ให้กับฉัน ทำให้ชีวิตฉันในอนาคตปราศจากเรื่องให้ต้องกังวล นายคิดว่านายให้ฉันแล้วฉันจะยอมรับเหรอ ความจริงฉันไม่ได้ต้องการอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณที่นายทำแบบนี้ด้วย เพราะว่านายชดใช้ด้วยตัวของนายเอง ถ้าเกิดว่าไม่มีนาย ไม่ได้เจอนาย แล้วทรัพย์สินพวกนั้นของนายมันจะมีประโยชน์อะไรกัน? ”