ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1618 อธิบายเรื่องราวเอง
ไป๋ยี่รุ่ยคิดแบบนี้ตลอด แล้วอีกอย่าง……เขาก็ยังไม่เคยเสียใจเลยด้วย!
โชคดี ที่ตอนนี้เวินลั่วฉิงมีความสุข แม้ว่าความสุขนี้มันจะไม่ใช่สิ่งที่เขามอบให้กับเธอ แต่ว่าไป๋ยี่รุ่ยก็พอใจมากแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถวางใจได้แล้ว เวินลั่วฉิงหาแหล่งพักพิงของตัวเองเจอแล้ว!
หลายปีมานี้ไป๋ยี่รุ่ยอยู่ข้างๆ เวินลั่วฉิงมาโดยตลอด มองดูเธอเข้าใกล้เย่ซือเฉินขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนเริ่มสื่อสารกันมากขึน้ทีละเล็กทีละน้อย จนบรรลุผล เขารู้สึกดีใจแทนเวินลั่วฉิงจริงๆ และตอนนี้ทั้งสองคนยังเหลือแค่ได้จดทะเบียนสมรส แต่จัดงานแต่งงานกันเท่านั้น! น่าเสียดาย……ที่ตอนนี้ตัวเขาเองต้องเข้าคุก เกรงว่าจะไม่ได้เห็นงานแต่งงานของเวินลั่วฉิงซะแล้ว ไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงรู้ว่าเธอไม่สามารถปล่อยให้ไป๋ยี่รุ่ยยอมแพ้ต่อตัวเองได้ และเธอก็ไม่ได้บังคับอะไร ได้แต่ปลี่ยนเรื่องแทน “ไม่อย่างนั้น ฉันยอมรับนายเป็นพี่ชายจริงๆ เลยดีไหม? ต่อไป จื่อซีกับจื่อโม่ก็จะเรียกนายว่าลุง”
“ได้ด้วยเหรอ? ”ไป๋ยี่รุ่ยแทบไม่กล้าจะเชื่อ ที่แท้ สิ่งที่ฉิงฉิงก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด เธอเห็นเขาเป็นพี่ชายจริงๆ ถึงแม้ว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนจะไม่มีความรักต่อกัน แต่ก็สามารถกลายเป็นญาติพี่น้องกันได้ด้วยสินะ? จื่อซีกับจื่อโม่ พอไป๋ยี่รุ่ยนึกถึงเด็กทั้งสองคนนี้ก็จิตใจอ่อนยวบลงในทันที ลูกของฉิงฉิง เขาชอบมาเลยจริงๆ!
“ก็ต้องได้สิ!”เวินลั่วฉิงรู้สึกตลกเพราะน้ำเสียงของไป๋ยี่รุ่ย นี่เขากำลังสงสัยอะไรอยู่เนี่ย? “ถ้าฉันให้นายเป็นพี่ชาย จื่อซีกับจื่อโม่ก็ต้องเป็นหลานชายกับหลานสาวของนายอยู่แล้วสิ เรียกนายว่าลุงก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
ไป๋ยี่รุ่ยตาแดงเล็กน้อย เขานึกว่าต่อไปตัวเองจะอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้แล้วซะอีก ตอนนี้ เขาได้มีเวินลั่วฉิงเป็นน้องสาว แล้วก็ยังมีจื่อซีกับจื่อโม่อีก ต่อไปถ้าเขาไปเยี่ยมพวกเขา ก็จะไปได้แบบเหมาะสมแล้ว! ฉิงฉิง นี่เธอคิดเพื่อเขางั้นเหรอ?
“แต่ว่า พี่ต้องต่อสู้เพื่อลดโทษ ฉันไม่อยากให้พี่ชายของฉัน และลุงของลูๆ ฉัน จะต้องอยู่ในคุกตลอด”เวินลั่วฉิงพูดจาหยอกล้อ
“ได้! ฉันจะต่อสู้!”เมื่อมีแรงขับเคลื่อนในการยืนหยัด มีเรื่องที่ต้องการจะทำ ไป๋ยี่รุ่ยก็ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในทันที เขาไม่ซึมเซาอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นสงบและแข็งแกร่ง
เวินลั่วฉิงคิดถึงเรื่องที่ต้องทำต่อไปในอนาคต ก็เลยตัดสินใจจะถามความเห็นของไป๋ยี่รุ่ย เธอพูดอย่างระมัดดระวัง “เรื่องที่พี่ฆ่าคน มันถูกเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ตแล้ว ตอนนี้ เหมือนกับว่าทุกคนจะรู้เรื่องที่พี่ฆ่าคนแล้ว แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ฉันอยากจะพูดข้อเท็จจริงบางอย่าง พี่คิดว่ามันจะโอเคไหม? ”
ไป๋ยี่รุ่ยลังเล ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากจะให้ใครรู้เรื่องนี้เลย แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้ เขาไม่อยากให้เรื่องนี้มันต้องผ่านมือของเวินลั่วฉิง มือของเธอมันสะอาดเกินไป และไม่ครจะแต่งต้องเรื่องสกปรกอะไรพวกนี้
“เรื่องนี้ความจริงแล้วมันค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ฉันแค่อยากจะพูดเรื่องที่พี่ถูกวางยาเท่านั้น เรื่องอื่นจะไม่พูดเลย พี่คิดว่ายังไง? ” เวินลั่วฉิงรู้ดีว่า ตัวตนของเธอค่อนข้างจะพิเศษ เรื่องของเธอกับเย่ซือเฉินก่อนหน้านี้ ก็ยังเป็นที่ฮือฮามาก แต่ว่าในสายตาของคนส่วนใหญ่ เธอก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ ก็ไม่สามารถตัดความสัมพันธ์กับเย่ซือเฉินได้หรอก ถ้าเกิดว่าไป๋ยี่รุ่ยมาข้องเกี่ยวกับเธออีก ก็กลัวว่าจะทำให้ผู้คนคาดเดาไปต่างๆ ทางมากขึ้น เช่น ไป๋ยี่รุ่ยมีปัญหาด้านนิสัย หรือไม่ก็อยากจะเข้ามาแทรกแซงความรักของเธอ ถึงยังไง เหตุผลที่เธอกับเย่ซือเฉินยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนั้น คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้ เวินลั่วฉิงไม่อยากให้มันมีปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมา ถ้าสามารถลดปัญหาที่ไม่จำเป็นได้ก็อยากจะ ทำให้มันเรียบง่ายได้มากที่สุด
ไป๋ยี่รุ่ยเม้มปากแน่น เรื่องนี้ ถ้าเกิดว่าทุกคนดูเข้า เขาก็ไม่ค่อยอยากจะให้เป็นแบบนั้นเท่าไหร่ ทำอะไรมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ กลัวว่าทุกคนจะไม่ยอมรับที่ผู้ชายคนหนึ่งถูกวางยา และถูกข่มขืน เขากลัวว่ามันจะสร้างเรื่องอื่นๆ ให้อีก เวินลั่วฉิงก็จะถูกลากเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
เวินลั่วฉิงรอคำตอบจากไป๋ยี่รุ่ย ความคิดเห็นของสาธารณชนสามารถถูกชี้นำได้อยู่แล้ว แล้วยิ่งไปกว่านั้น ใครจะอยากถูกบังคับให้ทำแบบนั้นกัน? แค่ใช้จิตวิทยาร่วมกันของทุกคน ชี้นำให้ความคิดเห็นเอนเอียงไปทางไป๋ยี่รุ่ยมันไม่ใช่เรื่องยากเลย แบบนี้ ตอนที่ตัดสินลดโทษแล้วนั้นทุกคนก็จะยอมรับได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้เวินลั่วฉิงอยากรู้ว่าใครเป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป!ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ยุ่งยากขนาดนี้ ตราบใดที่เจอหลักฐานที่มีประโยชน์ก็โอเคแล้ว ตอนนี้ กลับจะต้องให้มวลชนเข้าใจจุดที่สำคัญของเรื่องนี้ มันซับซ้อนมากเลย! แล้วอย่าง ในอินเทอร์เน็ตนั้นมีนักเลงคีย์บอร์ดตั้งมากมาย คนที่ชอบคาดเดาเรื่องของคนอื่นอย่างมีเจตนาร้ายก็เยอะ การยั่วยุเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างการต่อสู้ระหว่างความเห็นของประชาชนได้ ต้องใช้ความคิดมากขึ้นเยอะเลย!
“ฉิงฉิง เรื่องนี้เธอยังไม่ต้องยุ่งไปสักพักนึงเถอะ ฉันจะพูดกับตำรวจไปตามตรง ตอนนี้ความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเยอะ หลังจากที่ตำรวจพิจารณาแล้ว ก็คงจะเปิดเผยเอง ฉันคิดว่า คำพูดของตำรวจน่าจะทำให้ประชาชนเชื่อถือมากกว่าคำพูดของพวกเธอนะ”ไป๋ยี่รุ่ยพูดอย่างใจเย็น เขาไม่อยากให้เวินลั่วฉิงยื่นมือเข้ามาในเรื่องนี้ และเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเขาก็ไม่อยากพูดอะไรมากมาย ตอนนี้ไป๋หยิงก็ตายไปแล้ว หลายอย่างมันไม่มีความหมายอีกต่อไป ถ้าเกิดว่าเขาอยากจะต่อสู้เพื่อลดโทษ ทางที่ดีเขาควรจะพูดด้วยตัวเอง
“โอเค!” เวินลั่วฉิงพยักหน้า เรื่องนี้เธอก็คิดไว้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันตำรวจก็คงจะออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยยอมออกมาพูดแล้ว เธอก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปมาก
“วางใจเถอะ เดี๋ยวฉันจะหาทนายผู้เชี่ยวชาญมาช่วย เขาจะต้องช่วยลดโทษให้ได้เหลือสั้นที่สุดแน่นอน”เวินลั่วฉิงพูดอย่างจริงจัง
“โอเค”ไป๋ยี่รุ่ยยิ้มจางๆ โชคดีที่เวินลั่วฉิงอยู่ข้างกายเขาตลอด ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก เวินลั่วฉิงก็รู้ว่านี่เป็นการเตือนว่าหมดเวลาแล้ว เธอก็เลยลุกขึ้น แล้วก็มองไปที่ไป๋ยี่รุ่ยด้วยสายตามุ่งมั่น “พี่ต้องต่อสู้เพื่อลดโทษให้ได้นะ พวกเราจะรอพี่”
ไป๋ยี่รุ่ยถ้าอยากได้อย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อที่จะให้เวินลั่วฉิงสบายใจ เขาก็เสแสร้งหัวเราะออกมาอย่างสบายใจ “เรื่องที่พี่ชายคนนี้รับปากกับเธอ เคยมีเหรอที่จะทำไม่ได้”
เวินลั่วฉิงได้ยินชื่อเรียกนี้ ก็ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ฉันเชื่อพี่!”
พอพูดจบเธอก็ไปเปิดประตู แล้วก็เอ่ยขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านนอก พร้อมกับกำชับให้เขาดูแลไป๋ยี่รุ่ยให้ดี
ตำรวจก็พยักหน้า “คุณหญิงวางใจได้เลยครับ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย พวกเราจะต้องจัดการอย่างยุติธรรมอย่างแน่นอน เพราะถึงยังไงเขาก็เข้ามามอบตัวด้วยตัวเอง อากัปกิริยาก็ดี ตราบใดที่ผู้กระทำผิดหลักไม่ใช่เขา การลดโทษก็น่าจะไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“ถ้ายังงั้นฉันก็สบายใจแล้วค่ะ”เวินลั่วฉิงยิ้ม แล้วก็ออกไปจากที่นี่
ตำรวจเดินเข้ามาในห้อง ไป๋ยี่รุ่ยก็พูดขึ้นมาก่อน “เรื่องนี้ ผมอยากจะพูดให้หมดเลย ได้ไหมครับ? ”
ตำรวจไม่คิดเลยว่าแค่คุยกันเพียงชั่วโมงเดียว จะสามารถทำให้ไป๋ยี่รุ่ยเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ พร้อมกับมองเขาอย่างประหลาดใจ หลังจากที่ตั้งสติได้แล้วเขาก็รีบพูดในทันที “แน่นอน แน่นอนครับ!”เขายังจำได้ว่าตอนที่ไป๋ยี่รุ่ยเข้ามา หัวใจก็ป่นปี้เหมือนกับขี้เถ้า ท่าทางเหมือนไม่อยากจะสนใจอะไรเลย เหมือนกับว่าจะรอให้ถูกตัดสิน เขาเป็นตำรวจมาตั้งหลายปี แต่เขาก็แทบจะไม่เคยเห็นคนที่รอความตายแบบนี้มาก่อนเลย เขาตะลึงแล้วก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเยอะ——一一คนที่รอคอยความตายกับคนที่มุ่งมั่นจะอยู่รอดความแตกต่างมันแตกต่างกันมากเลย แค่มองแว๊บเดียวก็ดูออกแล้ว!
ไป๋ยี่รุ่ยคิดได้แล้ว เขายังอยากจะมีชีวิตต่อ แล้วอีกอย่าง เวินลั่วฉิงก็มอบแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เขาอยากจะมีชีวิตต่อ ถ้าเกิดว่าต้องพูดเรื่องนี้ออกไปจริงๆ เขาก็อยากพูดด้วยตัวของตัวเอง ไม่ดึงให้เวินลั่วฉิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ตอนที่ตำรวจถามเขาในครั้งนี้ เขาก็เล่าเรื่องราวออกมาอย่างตรงไปตรงมามาก แต่ว่าก็ปกปิดส่วนที่เกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง ไป๋ยี่รุ่ยบอกว่าไป๋หยิงวางแผนให้เขากินยา แล้วก็บังคับให้มีความสัมพันธ์กับเธอ แล้วก็เล่าเรื่องที่ไป๋หยิงไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลไป๋ และเรื่องที่แม่ของเธอวางแผนให้เธอเข้าไปอยู่ในตระกูลไป๋ ตอนที่ไป๋ยี่รุ่ยกำลังพูดอยู่นั้น เขาไม่ได้ใส่อารมณ์ส่วนตัวลงไปจนมากเกินไป เหมือนกับว่ากำลังเล่าเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองยังไงยังงั้น ตำรวจฟังแล้วความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด ไม่คิดเลยว่าจะมีความลับซ่อนอยู่เบื้องหลังคดีฆาตรกรรมมากมายขนาดนี้ ตระกูลไป๋เองก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวย เขาไม่รู้ว่าในนั้นมีความมืดมนซ่อนอยู่เท่าไหร่ แค่เพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งที่แสดงให้พวกเขาเห็นในตอนนี้ ก็ว่ายากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับแล้ว ถ้าเกิดว่าเข้าใจไม่ผิด คุณพ่อไป๋ถูกซ่อนตัวไว้ ถูกสวมเขายังไม่พอ แถมยังเลี้ยงลูกสาวคนอื่นมา20ปี ลูกสาวคนนี้ก็รู้ตัวเหมือนกัน และก็รับความดีจากตระกูลไป๋อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกขอบคุณก็แล้วไป แต่ว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนี้กลับวางยาลูกชายของตระกูลไป๋อย่างบ้าคลั่ง บังคับให้ทั้งสองคนมีอะไรกัน ทำลายลูกชายคนนี้! เกรงว่าไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ไม่น่าจะรับไหวแล้วนะ? แต่ว่าไป๋ยี่รุ่ย กลับรู้เรื่องทุกอย่างในทันที การที่เขาจะรับไม่ได้มันก็ไม่แปลกหรอก ตำรวจก็ค่อนข้างที่จะเข้าใจไป๋ยี่รุ่ย ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ พอฆ่าคนเสร็จแล้วก็คิดได้ในทันที และรีบไปจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย วันที่สองก็มามอบตัวด้วยตัวเอง ความเร็วและการจัดการนี้คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว แล้วอีกอย่าง วิธีที่ไป๋ยี่รุ่ยจัดการ จะพูดว่าผิดก็ไม่ได้ มันสามารถแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขา