ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1624 เธอนั่นเอง
เวินลั่วฉิงเหมือนหัวจะระเบิดในทันที! ตอนที่หลิวหยิงพูดประโยคนั้นออกมา เธอก็มีเสียงแอบบอกตัวเองอยู่ในใจว่า ใช่ มันคือเขา มันคือถังไป๋เชียน เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ต้องมีถังไป๋เชียนคอยจัดการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!
ทำไมเวินลั่วฉิงถึงไม่นึกถึงถังไป๋เชียนเลย เพราะว่าเธอรู้สึกว่าถังไป๋เชียนไม่น่าจะลงมือทำอะไรไป๋ยี่รุ่ย เพราะถึงยังไงตอนนี้เธอก็อยู่กับเย่ซือเฉิน ถ้าเกิดว่าถังไป๋เชียนคิดจะทำอะไร ก็น่าจะมุ่งเป้าไปที่เย่ซือเฉินมากกว่า และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเรื่องที่เยว่หงหลิงเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องแผนร้ายก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่ได้สงสัยถังไป๋เชียนเลย เพราะว่าเธอรู้แผนร้ายของถังไป๋เชียนอยู่แล้ว แค่เพียงรอให้เขาเริ่มลงมือเท่านั้น แต่กลับลืมไปเลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันก็ใช้ได้เหมือนกัน!
ถังไป๋เชียนมีความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาก เรื่องของเธอกับไป๋ยี่รุ่ยในอดีต ถังไป๋เชียนก็รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกัน แต่เกรงว่าจะเก็บไว้ในใจอยู่ตลอด และในครั้งนี้เขาลงมือกับไป๋ยี่รุ่ย หาโอกาสเพื่อซ้ำเติมเขา พอเริ่มต้นแล้วก็กลายเป็นเรื่องใหญ่!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเห็นไป๋ยี่รุ่ยเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เรื่องที่มันจะสามารถย้อนกลับมาทำร้ายเธอได้ คิดว่าถังไป๋เชียนไม่น่าจะยอมปล่อยไปง่ายๆ หรอก!
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตัวเองดูถูกถังไป๋เชียนมากเกินไป หรือว่าในก้นบึ้งของหัวใจเธอไม่เคยตัดมิตรภาพของเขาออกไป ถึงได้ให้โอกาสเขาได้มาทำร้ายไป๋ยี่รุ่ย แม้แต่กลายมาเป็นทำร้ายตัวเองด้วย หลังจากนั้นเธอก็มองข้ามเขาไป ถ้าเกิดหลิวหยิงไม่ได้พูดขึ้นมา เธอก็คงจะไม่นึกถึงถังไป๋เชียนเลยจริงๆ แล้วก็ให้โอกาสแล้วเวลาถังไป๋เชียนได้วางแผนการต่อไป เวินลั่วฉิงตัดสินอยู่ภายในใจ ว่าครั้งนี้เธอจะต้องจับตามองถังไป๋เชียนให้ดี ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้มาหาเรื่องอีก!
เวินลั่วฉิงตัดสินอยู่ภายในใจ ว่าครั้งนี้เธอจะต้องจับตามองถังไป๋เชียนให้ดี ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้มาหาเรื่องอีก! เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าถังไป๋เชียนในตอนนี้เหมือนกับปลาสเตอร์หนังหมา ถอดยังไงก็ถอดไม่ออก แผนการก่อนหน้านี้ก็ถือว่าโหดเหี้ยมมากแล้ว ครั้งนี้ก็ทำกับไป๋ยี่รุ่ยจนชื่อเสียงของเขาถังไป๋เชียนถูกปู้ยี่ปู้ยำไปหมด! ถึงจะตาย ก็ไม่ยอมปล่อยให้ไป๋ยี่รุ่ยอยู่ได้อย่างสงบ เวินลั่วฉิงอยากจะไปถามมาก ว่าไป๋ยี่รุ่ยไปทำให้เขาขุ่นเคืองใจตรงไหนกัน? ถึงได้ทำทุกวิถีทางขนาดนี้!เพราะว่าเธอแค่เท่านั้นเหรอ? แต่ว่า ระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ย ความรู้สึกที่มีต่อกันมันไม่ได้ถือว่าลึกซึ้งเลยนะ!แต่เขากลับทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันจะส่งผลกระทบกับเธอเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เขาก็ไม่ยอมปล่อยไป!ทำไมโลกใบนี้ถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงได้มีคนที่ไม่มีเหตุผลและชั่วร้ายขนาดนี้อยู่ด้วย?
“ฉิงฉิง เธอคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นถังไป๋เชียน?”หลิวหยิงถามด้วยความเป็นกังวล ตั้งแต่ตอนที่เวินลั่วฉิงได้ยินชื่อนั้นไปก็ไม่มีท่าทีที่ตอบสนองอะไรเลย เอาแต่จมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง สิ่งนี้มันทำให้หลิวหยิงรู้สึกไม่สบายใจ เวินลั่วฉิงไม่ค่อยหลับเลยเธอแบบนี้ หรือเพราะว่าเรื่องนี้มันใหญ่เกินไป? หลิวหยิงไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงคิดอะไรอยู่ ก็นึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป แต่ว่า เธอก็รู้สึกจากใจจริงว่าถังไป๋เชียนเป็นคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด และท่าทีของเวินลั่วฉิง ก็ไม่ได้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่าจะไม่ใช่ถังไป๋เชียน แต่เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับถังไป๋เชียนแทน? เธอควรจะถามเวินลั่วฉิงอีกไหม? คุณจะทำยังไงดี? หลิวหยิงได้แต่สงสัย
“หยิงเอ๋อร์ !ขอบคุณเธอมากนะ!”จู่ๆ เวินลั่วฉิงก็พูดออกมา สายตามองไปที่หลิวหยิงอย่างแน่วแน่และพูดว่า “เธอเดาถูกแล้ว ถ้าเกิดไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วล่ะก็ ต้องเป็นฝีมือของถังไป๋เชียนอย่างแน่นอน!ฉันไม่ได้นึกถึงเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าฉันไม่ได้นึกถึงตัวเองเลย ฉันคิดว่าไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้มีครอบครัวของภรรยา ยังคิดอยู่เลยว่ามีใครจงใจใส่ร้ายเขาหรือเปล่า หรือว่าฉันคิดผิดไป ฉันไม่ได้นึกถึงเลยว่าคนที่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไปจะเป็นถังไป๋เชียน ถ้าเกิดว่าเป็นถังไป๋เชียนจริงๆ ไป๋ยี่รุ่ยของถูกฉันดึงเข้าไปให้เกี่ยวข้องแล้วแหละ”เวินลั่วฉิงรู้สึกผิดเล็กน้อย ความรู้สึกที่เธอมีต่อไป๋ยี่รุ่ย มันเป็นแค่ความรู้สึกของเพื่อนกันเท่านั้น แปลว่าไป๋ยี่รุ่ยกลับพยายามสุดชีวิตเพื่อปกป้องเธอ ความรู้สึกที่ไม่สามารถตอบรับได้ แค่ปล่อยมันไว้แบบนั้นก็ได้พอแล้ว แต่มันกลับย้อนมาทำร้ายเขาอีก ช่างน่าเศร้าซะเหลือเกิน
หลิวหยิงอ้าปาก ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา “ฉิงฉิง เธออย่าคิดแบบนี้สิ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยไม่ใช่ความผิดของเธอ การที่เขาฆ่าคนมันก็เป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ไม่ใช่ว่าเธอไปบังคับให้เขาทำสักหน่อย เขาต้องยอมรับผลลัพธ์ในสิ่งที่เขาเลือกทำลงไป ถังไป๋เชียนน่าเกลียด แต่ว่า ต้นตอที่แท้จริงคือเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ย ฆ่าคน เรื่องนี้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ถ้าเกิดว่าไม่มีถังไป๋เชียน เรื่องราวมันคงไม่ใหญ่โตขนาดนี้ แต่จะทำเป็นเหมือนไม่มีเรื่องราวเกิดขึ้นก็เป็นไปไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ตอนนี้เธอก็กำลังช่วยเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ? ”หลิวหยิงรู้สึกทุกข์ใจ ไป๋ยี่รุ่ยกับเวินลั่วฉิง ต่างก็เป็นคนที่สำคัญกับเธอมาก ตอนนี้ทั้งสองคนถูกทําร้าย แต่ว่าเธอกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะปลอบใจพวกเขายังไงดี เธอไม่สามารถทำร้ายไป๋ยี่รุ่ยเพื่อเวินลั่วฉิงได้ และก็ไม่สามารถทำร้ายเวินลั่วฉิงเพื่อไป๋ยี่รุ่ยได้เหมือนกัน หลายๆ เรื่องเธอทำได้แค่เก็บซ่อนไว้คนเดียวอยู่ภายในใจ ก็เหมือนกับตอนนี้ เธอรู้ว่าการที่ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าไป๋หยิง สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็เพราะว่าไป๋หยิงทำร้ายเวินลั่วฉิง แต่ว่า เธอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ตั้งแต่แรกเวินลั่วฉิงก็ได้พูดคุยกับไป๋ยี่รุ่ยอย่างชัดเจนมากแล้ว เธอไม่ได้ให้ความคลุมเครือใดๆ กับไป๋ยี่รุ่ยเลย ไม่ได้ให้ความหวังเขา แต่ไป๋ยี่รุ่ยไม่สามารถลืมเวินลั่วฉิงได้ และนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเวินลั่วฉิง
“โชคดีที่เธอคิดละเอียดรอบคอบ”เวินลั่วฉิงตัดสินใจ ว่าต้องตัดกับถังไป๋เชียนให้สะอาดหมดจดไปเลย ถังไป๋เชียนทำร้ายไป๋ยี่รุ่ยได้ แล้วครั้งต่อไปล่ะ? แล้วครั้งต่อจากครั้งต่อไปอีกละ? เธอไม่มีทางทนให้ใครก็ตามมาทำร้ายคนที่เธอแคร์ได้หรอก! อันตรายที่ซ่อนอยู่อย่างถังไป๋เชียน ก็ควรจะกำจัดไปให้เร็วที่สุด
“ฉิงฉิง ถ้าอย่างนั้นเธอวางแผนจะทำยังไงล่ะ? เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย จะมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหรือเปล่า? ”หลิวหยิงมีเรื่องให้ต้องกังวลอยู่มาก เธอจับอารมณ์ของตัวเองไม่ถูก แต่ปัจจุบันเป็นเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ถ้าเกิดว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เกรงว่าจะสามารถรับมือได้ยาก
“ไม่หรอก” เวินลั่วฉิงตอบอย่างเย็นชา “เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยมันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องอะไรมากขึ้น ก็ทำได้เพียงแค่โต้แย้งกันไป ถ้าเกิดว่าจะมีเหตุไม่คาดฝัน ก็คงจะมีแค่เรื่องที่ไป๋หยิงทำกับไป๋ยี่รุ่ยนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่ว่าเรื่องพวกนี้มันมีหลักฐานพิสูจน์ความจริงอยู่แล้ว ไม่สามารถโกหกได้ อย่างมากก็แค่เพื่อที่จะปิดกั้นฉัน แล้วก็สร้างเรื่องอื่นขึ้นมาอีก”เวินลั่วฉิงนึกถึงความไม่มีเหตุผลของถังไป๋เชียน แล้วก็รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้มันจะมีภาคต่อ หรือว่าจะรักเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย? เวินลั่วฉิงรู้สึกอึดอัด ถ้าเกิดว่าจะดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้องจริงๆ เกรงว่าทางฝั่งของเย่ซือเฉินต้องใช้ความคิดมากมาย แต่ต้องลำบาก
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว แต่ว่าถังไป๋เชียนไม่มีทางปล่อยเธออย่างง่ายดายแน่นอน ต่อไปต้องทำอะไรอีกแน่ ฉิงฉิงเธอต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะ ปกป้องตัวเองให้ดี”หลิวหยิงเตือนด้วยความเป็นห่วง จุดนี้ เธอสบายกว่าเวินลั่วฉิงเยอะมาก ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก็มีแค่กับตัวเองเท่านั้นแหละ และไม่คุกคามถึงชีวิต แต่ว่าเวินลั่วฉิงมันไม่เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าไม่ทันระวัง ชีวิตของเธออาจจะถูกคุกคามก็ได้
“เขาไม่มีทางเข้ามาหาฉันเองหรอก และก็ไม่มีทางไปหาเย่ซือเฉินโดยตรงด้วย เว้นแต่ว่าจะถูกบังคับ”เรื่องนี้เวินลั่วฉิงค่อนข้างแน่ใจ ถังไป๋เชียนภะว้าภวังค์เกี่ยวกับเย่ซือเฉินมาแค่ไหน ถ้าเกิดว่าไม่มั่นใจจริงๆ ก็ไม่มีทางลงไม้ลงมือหรอก
“ถ้าอย่างนั้นจื่อซีกับจื่อโม่ล่ะ? เป็นไปได้ไหมว่าถังไป๋เชียนเมื่อเข้าตาจน จะไปทำร้ายจื่อซีกับจื่อโม่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง? ”คนที่เวินลั่วฉิงแคร์มากที่สุดก็คือจื่อซีกับจื่อโม่ ถ้าเกิดว่าถังไป๋เชียนกล้าแตะต้องพวกเขาจริงๆ แล้วก็ เวินลั่วฉิงเกรงว่าคงจะสู้กับถังไป๋เชียนสุดชีวิต พอหลิวหยิงนึกถึงสถานการณ์นี้ก็รู้สึกเป็นกังวลมาก แล้วอีกอย่างจื่อซีกับจื่อโม่ก็ยังเด็กอยู่ แล้วก็ยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วย ถ้าเกิดว่าถูกข่มขู่ขึ้นมา……
ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็รู้สึกว่า การให้จื่อซีกับจื่อโม่ไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง มันมีความเป็นไปได้ที่ถังไป๋เชียนจะข้ามเธอกลับเย่ซือเฉินไป และอาศัยโอกาสนี้ในการทำร้ายจื่อซีกับจื่อโม่ และเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ถ้าเกิดว่าดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้องเมื่อไหร่ ก็กลัวว่าเธอจะทนกับการถูกรบกวนไม่ไหว และเผลอละเลยที่จะดูแลจื่อซีกับจื่อโม่ และเป็นการให้โอกาสถังไป๋เชียน เวินลั่วฉิงเกลียดทางแผนการของถังไป๋เชียน แล้วก็รู้สึกโชคดีที่จื่อซีกับจื่อโม่ไม่ได้อยู่ด้วยในตอนนี้ และจื่อซีกับจื่อโม่ก็ไปหา——คุณปู่คนนั้น เวินลั่วฉิงยังคงเชื่อใจ จะคำพูดของจื่อซี เธอฟังออกว่าเขารักและทะนุถนอมจื่อซีกับจื่อโม่เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาจะต้องปกป้องพวกเขาอย่างดีด้วย
“ตอนนี้จื่อซีกับจื่อโม่อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยมาก คงจะไม่รับกลับมาช่วงหนึ่งเลย”เวินลั่วฉิงตอบหลิวหยิง ลูกรักทั้งสองคนของเธอ จะได้รับบาดเจ็บไม่ได้เด็ดขาด เธอจะต้องปกป้องอย่างดี
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว”หลิวหยิงวางใจ แล้วก็พูดด้วยความสงสัยว่า “แล้วตอนนี้จื่อซีกับจื่อโม่ไปไหนเหรอ?”
“พวกเขาไปหาคุณปู่คนหนึ่ง อยากจะอยู่หลายวันด้วย”เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมากมายอประเด็นสำคัญ……ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าครั้งนี้ถ้าจื่อซีกับจื่อโม่กลับมาเมื่อไหร่เรื่องราวคงชัดเจนขึ้นเยอะ
หลิวหยิงเม้มปาก เวินลั่วฉิงวางใจเกี่ยวกับถังจื่อโม่มาก และเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ ไม่ว่าใครเห็นก็ชอบ หลิวหยิงคิดแล้วก็มองไปที่เวินลั่วฉิงด้วยความอิจฉา รู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน เธอก็อยากจะมีลูกที่น่ารักแบบนี้เหมือนกัน
เวินลั่วฉิงพูดอะไรไม่ออก และก็ได้รับความช่วยเหลือจากเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ เธอเปิดโทรศัพท์ ก็เห็นว่าอาหารมาส่งแล้ว ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วเธอก็ลุกไปรับอาหารที่คนขับรถเอามาส่ง
“หิวไม่ใช่เหรอ? รีบมากินแล้ว”เวินลั่วฉิงเปิดอาหารออก แล้วก็พูดกับหลิวหยิง
หลิวหยิงหิวโหยมาทั้งวัน พอเห็นอาหารก็เริ่มจะทนไม่ไหว และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้รอบข้างเธอมีแค่เวินลั่วฉิง ก็เลยไม่ต้องแคร์อะไรมากมาย เธอเดินเข้าไปกินในทันที เวินลั่วฉิงต่างเลือกมาแต่สิ่งที่เธอชอบ เธอก็เลือกกินไปเรื่อยๆ แต่ว่าในใจของเธอก็เอาแต่คิดว่าจะจัดการกับถังไป๋เชียนยังไงดี