ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1629 รอคอยอย่างคาดหวัง
จู่ๆ ซ่างกวนหงก็นึกถึงตอนที่มู่เฉิงยังเด็ก ดังนั้นเมื่อเห็นใบหน้าที่รอคอยคำตอบอย่างน่าเอ็นดูของมู่เฉิงในตอนนี้……จิตใต้สำนึกอยากจะปฏิเสธ
เขารักมู่เฉิงมาก และปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นลูกชาย ดังนั้น ความรังเกียจของเขาในตอนนี้ก็ยังไม่ถูกปิดบัง มู่เฉิงรู้สึกเมหือนได้รับบาดเจ็บ นี่ต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่ารังเกียจอย่างนั้นเหรอ? ก็เขาอยากจะรู้จริงๆ นี่! ตอนนี้ซ่างกวนหงจัดการเรื่องของตัวเองไป ไม่สนใจมู่เฉิง
มู่เฉิงเห็นว่าซ่างกวนหงไม่มีท่าทางเหมือนจะตอบสนองเขาเลย ก็อดไม่ได้ที่จะทำปากมุ่ย สีหน้าที่ดูรังเกียจและการหลบเลี่ยงอย่างไม่ปิดบังแบบนี้คืออะไรกัน ตัวเขาไม่น่าต้อนรับขนาดนั้นเลยเหรอ? ก่อนหน้านี้แค่เขาทำตัวออดอ้อนหน่อยก็ได้แล้ว ตอนนี้ทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้! เขามองไปที่ซ่างกวนหงด้วยสายตาบ่นอุบอิบ พยายามทำให้เขาอ่อนลง
ซ่างกวนหงไม่ได้หลบ แค่ดื่มชาอย่างสบายๆ เห็นมู่เฉิงเป็นเหมือนอากาศ มู่เฉิงไม่พอใจและมองไปที่ผู้ดูแลจ้ง
ผู้ดูแลจ้งรู้ดีว่า นี่เป็นสภาพปกติในตอนเด็ก หัวหน้าสามารถเมินหัวหน้าน้อยได้ แต่ว่าเขาไม่สามารถทำได้ ก็เลยอธิบายอย่างอดทนว่า หัวหน้าไปเจอกับคุณหนูจื่อซีที่ตระกูลถัง คุณหนูจื่อซีชอบหัวหน้าของพวกเรามาก ดังนั้นก็เลยมาหาหัวหน้าของเราที่นี่ พอคิดแล้วก็พูดเสริมต่อว่า จื่อซีกับจื่อโม่อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว หลายวันมานี่หัวหน้ามีความสุขมากครับ
มู่เฉิงพยักหน้า อยากจะถามต่อแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่เจอกันครั้งเดียวก็มาหาแล้ว แล้วสนิทสนมขนาดนี้ แทบไม่น่าเชื่อ แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดนั้นวิเศษมาก บางทีอาจจะสนิทสนมขนาดนี้ก็ได้ มู่เฉิงก็ดีใจที่เห็นมันทำสำเร็จ และเขาก็นึกถึงจื่อซีกับจื่อโม่ขึ้นมาได้ และถามอย่างคร่าวๆ ว่า พ่อเลี้ยง พ่อเคยคิดจะพาจื่อซีกับจื่อโม่ ไปตรวจDNAไหมครับ คุณถังทั้งอ่อนไหวและฉลาดหลักแหลม ยากสำหรับเราที่จะเริ่มต้นลงมือกับเธอ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคืออาจจะกระตุ้นความรู้สึกต่อต้านกับคุณถังก็ได้ ไม่คุ้มเลย
มู่เฉิกล่าวช้าๆ เมื่อมองดูสีหน้าของขอซ่างกวนหง ก็รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญสำหรับซ่างกวนหงขนาดไหน ซ่างกวนหงอยากจะเจอลูกสาวที่หายไปของตัวเองมาโดยตลอด พอมีข่าวก็รีบมาทันที ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความอิจฉา แต่เมื่อนึกถึงแล้ว ความคิดถึงที่พ่อมีต่อลูกสาว ความรู้สึกผิด และความรักต่างๆ ก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ เขาอยู่เคียงข้างพ่อบุญธรรมมาหลายปี พ่อบุญธรรมก็เทความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อลูกสาวลงมาที่ตัวของเขา ความรู้สึกที่ไม่ได้เป็นของเขาทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัว เขาถึงได้มีสถานะและความสำเร็จแบบทุกวันนี้ เขามีสิทธิอะไรถึงอิจฉาถังฉิ้นเอ๋อ และมีสิทธิอะไรที่เขาต้องโทษพ่อบุญธรรม?
หลังจากที่มู่เฉิงคิดได้แล้ว ก็พยายามช่วยซ่างกวนหงตามหาลูกสาวอย่างเต็มที่ พิสูจน์สายเลือดของถังฉิ้นเอ๋อ เขาอยากให้ซ่างกวนหงหาลูกสาวของตัวเองเจอ ทำความปรารถนาที่มีมานานหลายปีของเขาให้สำเร็จ มู่เฉิงรู้ว่า ต่อให้ถังฉิ้นเอ๋อกลับมา เขาก็จะยังคงเป็นหัวหน้าหน่อย ความรู้สึกที่ซ่างกวนหงมีให้กับเขา มันไม่มีทางเปลี่ยนไป ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้น้องสาวมาคนหนึ่ง แล้วก็มีจื่อซีกับจื่อโม่เป็นหลาน ดีมากเลย พอมู่เฉิงนึกถึงเด็กทั้งสองคน ก็ยิ้มกว้างออกมาในทันที
มือของซ่างกวนหงที่ถือถ้วยชาอยู่นั้นชะงักไปทันที นี่คือเรื่องที่เขายังไม่เคยนึกถึงมาก่อน ความจริงเขาก็ได้ยอมแพ้กับความคิดนั้นไปแล้ว จื่อซีกับจื่อโม่มาเล่นเป็นเพื่อนเขา แล้วก็คอยรักษาการติดต่อกันอยู่เสมอ แค่นี้เขาก็พึงพอใจแล้ว ตอนนี้……มู่เฉิงจะสื่อว่า ถังจื่อซีและถังจื่อโม่อาจจะเป็นหลานชายหรือหลานสาวเขาได้งั้นเหรอ? และถังฉิ้นเอ๋อก็คือลูกสาวของเขาใช่ไหม?
ซ่างกวนหงอดไม่ได้ที่จะมองมู่เฉิง เขาเก็บสีหน้าและมองไปที่มู่เฉิงอย่างจริงจัง ซ่างกวนหงรู้จักมู่เฉิงดี ถ้าเขาไม่แน่ใจ เขาจะไม่เสนอแบบนี้ออกมา เขาจะไม่ให้ความหวังและปล่อยให้ตัวเองสิ้นหวัง! ซ่างกวนหงมีความหวังใหม่เข้ามาในใจอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่กังวลเหมือนครั้งที่แล้วอีกต่อไป เพราะว่าท่าทางที่แน่วแน่ของมู่เฉิงทำให้เขามั่นคงขึ้น เขาถอนหายใจเบา ๆ : นายแน่ใจเหรอ?
ใช่ครับ! มู่เฉิงตอบอย่างจริงจัง เมื่อก่อนผมประมาท แต่ผมแน่ใจว่า ถังฉิ้นเอ๋อเป็นลูกสาวของพ่อบุญธรรม แล้วอีกอย่าง พ่อบุญธรรมไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ ลูกชายกับลูกสาวของถังฉิ้นเอ๋อ สนิทกับพ่อบุญธรรมมาก ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรแบบนั้นเหรอ?
ซ่างกวนหงจำได้ว่าตอนที่เขาพบกันครั้งแรก เขาก็รู้สึกสนิทสนมกับถังจื่อซีเลย? หรือว่า เป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริงหรือ? แล้วนายจะทำยังไง ซ่างกวนหงถาม ถังจื่อซีมองโลกในแง่ดี อ่อนโยน และห่วงใย แต่ถ้าเขาเอาเลือดหรือผมของเธอไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาอาจจะทำให้เด็กน้อยคนนี้โมโหก็ได้
มู่เฉิงไม่ได้ตอบอย่างชัดเจน เขามอบสายตาที่แน่วแน่ให้ซ่างกวนหง: ไม่ต้องห่วง พ่อบุญธรรม ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ผมเถอะ ผมจะให้จื่อซีและจื่อโม่ทำโดยสมัครใจแน่นอน ไม่ไปบังคับพวกเขา หลังจากที่พูดคุยกันได้ครู่หนึ่ง มู่เฉิงก็เข้าใจนิสัยของถังจื่อซีและถังจื่อโม่ คุณสามารถเจรจากับพวกเขาได้ แต่คุณไม่สามารถตัดสินใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเกี่ยวกับพวกเขา
อืม ซ่างกวนหงพยักหน้า ในใจยังคงรู้สึกไม่มั่นใจ ครั้งแรกที่เต็มไปด้วยความหวังแต่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ถ้าครั้งที่สองมู่เฉิงคิดผิด… เขาไม่รู้ว่าเขาจะรับการกระทบกระเทือนแบบนี้ได้ไหม ความปรารถนาอันยาวนานกว่า 20 ปี ดูเหมือนจะเป็นจริงในไม่กี่วันนี้ แต่เขากลัวว่ามันเป็นเพียงความสุขที่ว่างเปล่า ซ่างกวนหงมีความขัดแย้งในใจ เขาบังคับตัวเองไม่ให้คิดมาก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่จริงๆ แต่จื่อซีกับจื่อโม่ก็จะไม่ทำตัวห่างเหินกับเขา ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้มีการสูญเสียอะไร ซ่างกวนหงพยายามปลอบใจตัวเอง
มู่เฉิงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมันมากนัก คราวนี้เขาค่อนข้างมั่นใจ สิ่งเดียวที่กังวลก็คือถังจื่อโม่กับถังจื่อซีไม่เต็มใจ แต่วันนี้พอเห็นพวกเขาเล่นกับซ่างกวนหงอย่างสนุกสนานแบบนั้น ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
…………
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ถังจื่อซีเก็บข่าวของให้เรียบร้อย แล้วก็ลากถังจื่อโม่ออกมา ทั้งสองคนนั่งรออาหารอยู่บนโต๊ะ ตอนที่ซ่างกวนหงลงมานั้น ก็เห็นเด็กน้อยที่ละเอียดอ่อนทั้งสองคนนั่งอยู๋บนโต๊ะ แต่ว่าอีกคนหนึ่งมีสีหน้าตื่นเต้น ส่วนอีกคนกลับมีสีหน้ามืดมน
ทำไมพวกหนูลงมาเร็วจัง ซ่างกวนหงแปลกใจ จื่อซีกับจื่อไม่ไม่เคยลงมาเร็วขนาดนี้ ปกติจะเก็บข้าวของให้เรียบร้อยก่อนค่อยลงมากินข้าว แล้ววันนี้ทำไม?
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปู่! ถังจื่อซีกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง เธอทักทายด้วยรอยยิ้ม มองไปข้างหลังซ่างกวนหง และถามด้วยความสงสัย หือ? ลุงมู่เฉิงอยู่ที่ไหนล่ะคะ เขาบอกว่าเขาจะพาพวกเราออกไป วันนี้!
ถังจื่อซีไม่เห็นมู่เฉิงก็รู้สึกสงสัย หรือว่าคุณลุงตื่นสายงั้นเหรอ?
ซ่างกวนหงเข้าใจทันที ถังจื่อซีกำลังรอให้มู่เฉิงพาเธอออกไปเล่น ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าเขาจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า ช่างเป็นเด็กน้อยจริงๆ เลย!
เขาอดหัวเราะไม่ได้และตอบช้าๆ ว่า มู่เฉิงไปออกกำลังกาย เขาน่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้
ถังจื่อโม่ถูกดึงดูดทนัที ไปออกกำลังกายแต่เช้า ตามไปได้ไหม วันนี้ตอนออกไปลองถามดีกว่า!
อาหารเช้ามาเสิร์ฟทีละนิด และมู่เฉิงก็กลับมาเช่นกัน ขณะที่เขากำลังจะทักทาย เขาก็เห็นสามคนที่โต๊ะจ้องมองเขา ก็รู้สึกตกใจ เขาทำอะไรไปเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงมีท่าทางเช่นนี้? ถังจื่อซีและถังจื่อโม่มองเขาอย่างตื่นเต้น…ซ่างกวนหงก็มองเขาอย่างเรียบเฉย ในสายตานั้นมีความ……อิจฉางั้นเหรอ? มู่เฉิงรู็สึกเหมือนกับว่าตัวเองอยู่ริมหน้าผา……หรือว่าเด็กทั้งสองคนนี้พูดอะไรไปรึเปล่า
คุณลุง มากินข้าวกันเถอะ อีกเดี๋ยวก็ออกไปเล่นข้างนอกกันได้แล้ว ถังจื่อซีเร่ง มู่เฉิงก็จำสัญญาที่เขารับปากไว้เมื่อคืนนี้ได้ ก็อดหัวเราะไม่ได้ว่าเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถปฏิเสธเสื้อผ้าที่สวยงามได้เลยจริงๆ
เขาเดินเข้าไป แล้วก็ลูบหัวถังจื่อซี ทำไม กลัวว่าลุงจะเสียใจงั้นเหรอ? ร้านที่ลุงอยากพาไปมันเปิดสี่โมงเย็น ไม่ต้องรีบนะ
ถังจื่อซีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย สี่โมงเย็นเลยนะ อีกนานเลย เธอตื่นเช้าขนาดนี้ก็เสียเปล่าสิ? แต่พอย้อนคิด ร้านค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของในนั้นต้องดีเยี่ยม แต่ความน่าสนใจนั้นสูงกว่าแน่นอน
วันนี้มู่เฉิงต้องการคุยกับถังจื่อซีแลถังจื่อโม่ เกี่ยวกับการตรวจความสัมพันธ์ทางสายเลือด และต้องการพาพวกเขาออกไปแต่เนิ่นๆ และกลับไปที่นั่งของพวกเขาและพูดช้าๆ ว่า ความจริงแล้ว พวกเราก็ออกไปเร็วหน่อยก็ได้นะ? จะได้ไปเล่นที่อื่นก่อน
ถังจื่อซีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที มองไปที่ถังจื่อโม่ ถังจื่อโม่ก็พยักหน้า ถังจื่อซีก็เลยพูดว่า โอเค ถ้ายังงั้นเดี๋ยวพวกเราไปกันเลย
ซ่างกวนหงจ้องมองอยู่ด้านข้าง ใบหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส มองไปที่ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ก็เหมือนกับมองไปที่หลานชายและหลานสาวของตัวเอง แล้วก็มองไปที่มู่เฉิง รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาแก่กว่าถังฉิ้นเอ๋อซะอีก แต่ยังไม่มีแม้แต่แฟนเลย! เขาไม่มีหวังจะได้มีหลานแล้วใช่ไหม?
มู่เฉิงสัมผัสได้ถึงสายตาของซ่างกวนหง มองมาที่ตัวเองอย่างสงสัย ทำไมจู่ๆ ถึงไม่พอใจกันล่ะ?
ซ่างกวนหงไม่ได้พูดตรงๆ ได้แต่ส่งสายตาให้เขาดูประสบการณ์ของตัวเอง แล้วก็กินข้าวต่อ บนโต๊ะอาหารมีความสุขสนุกสนาน มีเพียงแค่มู่เฉิงเท่านั้นที่ไม่รู้สถานการณ์ แต่ว่าซ่างกวนหงไม่พูด เขาก็คิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไร แล้วก็กินข้าวพร้อมกับพูดคุยกับจื่อซี จื่อโม่ไปด้วย อย่างมีความสุข