ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1637 ความสมดุลที่อ่อนแอ
เวินลั่วฉิงไม่เคยคิดว่ามู่เฉิงจะทำอะไรเพื่อเธอ แต่เธอเชื่อว่ามู่เฉิงจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอเสี่ยงไม่ได้
มู่เฉิงพยักหน้า และถือโอกาสอธิบาย: ถึงแม้องค์กรโกสต์ซิตี้แข็งแกร่งมาก แต่ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ไม่เคยปรากฎตัวเลย เกรงว่านอกจากคุณถังที่สนิทกันที่สุดแล้ว คงไม่มีคนรู้ตัวตนของพวกเขามั้งครับ? มู่เฉิงนับถือจากใจจริง เวินลั่วฉิงปกป้องถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ได้ดีมาก แถมยังอบรมสั่งสอนพวกเขาได้ดีมาก พึ่งพาตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง พวกเขาฉลาดแต่ไม่ยโสโอหัง พวกเขารู้จักปกป้องตัวเอง ไม่เอาตัวเองเข้าไปในที่ที่อันตราย จุดนี้ จะมีเด็กอายุห้าขวบสักกี่คนที่ทำได้?
มู่เฉิงคิดแล้วก็ได้พูดเสริมว่า: ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่พวกเราหาเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แค่สงสัยคุณถัง ไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบคนข้างกายของคุณหมด พวกเราก็รู้แค่ตัวตนของเด็กสองคนนี้ แม้แต่รูปถ่ายก็ยังไม่เคยเห็นเลย
มู่เฉิงได้อธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับการตรวจสอบเวินลั่วฉิง ก็ไม่เลี่ยงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ จริงใจต่อกัน เวินลั่วฉิงพยักหน้า เธอรู้ว่ามีคนตรวจสอบเธอ แต่เธอไม่แคร์ คนที่อยากรู้สถานะเธอมีเยอะแยะ แต่รู้แล้วจะทำไม?เพราะยังไงก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้ว
อีกอย่างถ้าซ่างกวนหงเป็นหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ตระกูลถังเขาก็เคยเจอถังจื่อซีแล้ว เห็นได้ชัดว่าจำพวกเขาสองคนไม่ได้ ถังจื่อซีเป็นคนอาลัยอาวรณ์อยากจะไปหาเขาเอง ถ้าหากมู่เฉิงตรวจสอบข้อมูลลูกทั้งสองของเธอเจอ เกรงว่าตอนที่ซ่างกวนหงอยู่ตระกูลถังคงไม่จากไปอย่างง่ายดายแล้ว ในจุดนี้มู่เฉิงน่าจะไม่ได้โกหก
แต่ว่า……ยังมีอีกคำถามนึงที่เธออยากรู้
องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกคุณ มาที่นี่แค่เพื่อตามหาเจ้าหญิงอย่างเดียว?ไม่ทำเรื่องอย่างอื่นที่เกินความจำเป็น? เรื่องของก่อนหน้านี้เธอไม่มีทางลืม ถึงเจ้าหญิงปลอมคนนั้นเป็นคนก่อขึ้นมาก็ตาม แต่เธอก็ยังอยากรู้ท่าทีที่แท้จริงขององค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ดี อย่างน้อยอย่าก่อเรื่องใดๆขึ้นมาอีก
ใช่ครับ วัตถุประสงค์หนึ่งเดียวขององค์กรโกสต์ซิตี้ในครั้งนี้คือแค่เพื่อหาเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เจอ เรื่องของคราวก่อน ก็เพราะพวกเราคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือเจ้าหญิงตัวจริง ถึงได้ลงมือ ผมใช้สถานะของหัวหน้าน้อยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้รับประกัน ว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกครับ มู่เฉิงพูดจาสาบานที่เต็มไปด้วยน้ำใสใจจริงน่าเชื่อถือ
เวินลั่วฉิงพยักหน้า คำพูดของมู่เฉิงน่าเชื่อถือมาก ข่าวสารที่เธอได้รับใกล้เคียงกับที่มู่เฉิงพูด เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เหมือนหายตัวไปนานมากแล้ว คราวนี้อุตส่าห์มีข่าว แต่เสียดายเป็นข่าวปลอม
เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็จะทำให้นึกถึงไป๋หยิงและไป๋ยี่รุ่ย ในความเป็นจริง เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยราบรื่นมาก ราบรื่นจนค่อนข้างเหนือความคาดหมาย ความฮอตในโซเชียลก็ได้แผ่วลงแล้ว ถึงแม้คอมเม้นท์ไม่น้อยเลย แต่ส่วนใหญ่แทบจะยืนอยู่ฝ่ายไป๋ยี่รุ่ย บวกกับไป๋ยี่รุ่ยไม่มีความคิดและพฤติกรรมที่อยากจะหนีจากการเอาผิดทางกฎหมาย เลยสักนิด ทิศทางคอมเม้นท์ก็ไม่มีอะไรที่ออกนอกกรอบ
เวินลั่วฉิงเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิดตลอด แต่ไม่มีคนปลุกปั่นต่อสักที เวินลั่วฉิงไม่กล้าไว้วางใจ
เพราะฉะนั้น คุณถังคือจะให้จื่อซีกับจื่อโม่อยู่ต่อแล้วเหรอครับ? มู่เฉิงเห็นถังฉิ้นเอ๋อไม่ได้คัดค้าน จึงได้สอบถาม
ว่าไปแล้ว ถังฉิ้นเอ๋อกับหัวหน้าเหมือนกันมาก เวลาส่วนใหญ่คือช่วยญาติโดยที่ไม่ดูว่ามีเหตุผลหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ไปทำร้ายโดนคนที่ตัวเองแคร์ พวกเขาล้วนจะสื่อสารกับคุณดีๆ จะไม่งี่เง่าไร้เหตุผลเกินไป
ก็เหมือนอย่างเช่นตอนนี้ ก่อนหน้านี้ถังฉิ้นเอ๋อยืนกรานที่จะให้ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่กลับไป ตอนนี้หลังจากแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่มีเจตนาร้าย ไม่ทำร้ายถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ เรื่องนี้ก็สามารถคุยกันได้แล้ว
มะรืน มะรืนฉันไปรับจื่อซีกับจื่อโม่ค่ะ เวินลั่วฉิงพูด ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยได้ถาม เป็นเพราะว่าเชื่อใจ และบวกกับจื่อซีกับจื่อโม่แจ้งความปลอดภัยให้ทุกวัน
ตอนนี้ การเข้าร่วมของมู่เฉิง ทำให้เธอสังเกตเห็นว่าตัวเองคิดพิจารณาน้อยเกินไป ยังไงก็เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน ความเชื่อใจนี้เปราะบางเกินไป ถ้าจื่อซีกับจื่อโม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เธอจะเสียใจอย่างมาก มะรืน เป็นขีดจำกัดสูงสุดแล้ว วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้ให้เวลาพวกเขาจัดเก็บข้าวของหนึ่งวัน นี่เป็นการอ่อนข้อที่สุดที่เธอจะสามารถยอมได้แล้ว
เมื่อครู่มู่เฉิงยังค่อนข้างดีใจ ตอนนี้ได้ถูกความจริงตบหน้าทันที เธอได้ปรึกษากับตัวเองดีๆแล้ว แต่……เวลากลับได้กำหนดตายตัวแล้ว แล้วมันต่างอะไรกับกลับไปตอนนี้เหรอ!มู่เฉิงตะโกนอยู่ในใจ
ไม่ ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่!
ถ้ากลับวันนี้ ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่จะต้องเศร้าใจแน่เลย ตัวเองกลับไปก็จะถูกซ่างกวนหงสั่งสอนด้วย ความผิดหวังของเขาจะมาอย่างไวมาก เหมือนความหวังถูกช่วงชิงไปในพริบตา
แต่ถ้ากลับมะรืน ยังสามารถให้ระยะเวลาทำใจกับถังจื่อซีถังจื่อโม่และซ่างกวนหง สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นแค่การจากกัน ต่อไปยังจะเจอหน้ากันอีก ไม่ได้ไร้ซึ่งการเตรียมตัวเลย
มู่เฉิงได้แต่ยอมรับ เขามองหน้าเวินลั่วฉิงแล้วถอนหายใจ: ผมรู้ว่าเพราะคุณถังยังไม่เชื่อใจพวกเรา พวกเรามีเวลาได้รับความไว้วางใจจากคุณถัง ส่วนจื่อซีกับจื่อโม่ คุณถังมารับมะรืนก็พอครับ
เรื่องที่รู้ทั้งรู้ว่าแน่ใจแล้ว มู่เฉิงก็ไม่ไปฝืนให้เปลี่ยนแปลง ตอนนี้ถังฉิ้นเอ๋อไม่เชื่อใจก็ไม่เป็นไร พวกเขายังมีโอกาสอยู่ส่วนวันนี้ ถังจื่อซีก็ตอบตกลงว่าจะตรวจDNA พรุ่งนี้ก็ไปตรวจได้แล้ว พอดีเลย เขากลับไปให้คนไปเตรียมความพร้อมหน่อย
เวินลั่วฉิงพยักหน้า มู่เฉิงทำเรื่องมีขอบเขตมาก เรื่องที่ไม่ควรไขว่คว้าก็จะไม่ไขว่คว้า ไม่ให้ตัวเองลำบากใจ ยิ่งไม่ทำให้จื่อซีกับจื่อโม่ลำบากใจ ดูออกว่าชอบจื่อซีกับจื่อโม่จริงๆ เธอยิ้มให้กับมู่เฉิงอย่างหายาก: หัวหน้าน้อย ฉันว่า ถ้าระหว่างเราไม่ได้มีความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ เรากลายเป็นเพื่อนกันได้ค่ะ
มู่เฉิงค่อนข้างประหลาดใจที่ได้รับความรักโดยที่ไม่คาดฝัน ก่อนหน้านี้ถังฉิ้นเอ๋อเย็นชาเกินไป แค่คำพูดหยอกเล่นคำเดียวก็ยังสามารถโกรธได้ ครั้งนี้กลับเป็นฝ่ายแสดงความเป็นมิตรเอง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เขานึกว่าจะทำให้ถังฉิ้นเอ๋อซอฟลงยังต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากเลยเสียอีก
แต่นาทีต่อมามู่เฉิงก็ได้เข้าใจว่าถังฉิ้นเอ๋อเป็นเพราะถังจื่อซีกับถังจื่อโม่มากกว่า เพราะตัวเองได้แสดงความเป็นห่วงที่แท้จริงกับจื่อซีและจื่อโม่ เธอถึงยอมเป็นมิตรกับตัวเอง
หัวใจของมู่เฉิงโปร่งใส นี่เป็นวิธีที่สามารถได้รับความไว้วางใจจากถังฉิ้นเอ๋อได้เร็วที่สุด แต่มู่เฉิงเชิดใส่ที่จะไปใช้มัน หรือต้องบอกว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่ดี วัตถุประสงค์ที่เห็นได้ชัดเกินไป สุดท้ายมักจะล้มเหลวได้ง่าย
เพราะฉะนั้นมู่เฉิงไม่ได้รีบร้อนเลย ถังฉิ้นเอ๋อฉลาดมากพอ เธอแค่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจตัวเองหน่อย เขาก็จะสามารถทำให้เธอเชื่อตัวเองสุดหัวใจ พอดีเลยถึงเวลาค่อยรับจื่อซีกับจื่อโม่มาอีก มู่เฉิงวางแผนอยู่ในใจ
ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ฟังทั้งสองคนคุยกันได้แล้ว หัวใจก็ค่อยๆสงบลง เดิมทีพวกเขานึกว่าเวินลั่วฉิงโกรธมาก ถึงตอนนี้แน่ใจความปลอดภัยของพวกเขาแล้วก็ตาม ก็รีบร้อนพาพวกเขากลับขนาดนี้ ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้ว อยู่ในสายตาเวินลั่วฉิง มู่เฉิงเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ ปู่ซ่างกวนก็ไว้ใจไม่ได้สักทีเดียว เธอไม่ไว้วางใจตัวเองอยู่ในที่ๆแปลกตา
ถังจื่อซีไม่ค่อยเข้าใจทำไมก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงเห็นด้วย ต่อมาก็ไม่เห็นด้วยอีก
แต่ถังจื่อโม่เข้าใจ นั่นเป็นเพราะว่าเดิมทีเวินลั่วฉิงก็รู้จักมู่เฉิงอยู่แล้ว คนๆนี้อันตรายเกินไป เกินขอบเขตที่เวินลั่วฉิงจะสามารถควบคุม เธอไม่กล้าเสี่ยง ในขณะที่ถังจื่อโม่ละอายใจ ก็รู้สึกว่าตัวเองประเมินซ่างกวนหงกับมู่เฉิงต่ำเกินไป สถานะของสองคนนี้จะต้องพิเศษมากแน่ๆ พิเศษจนเวินลั่วฉิงไม่กล้าเสี่ยงแม้แต่น้อย
แต่ตอนที่เวินลั่วฉิงเห็นด้วยที่ให้พวกเขาอยู่ต่ออีกหนึ่งวัน ถังจื่อโม่ก็สบายใจแล้ว นี่แสดงว่าซ่างกวนหงกับมู่เฉิงปลอดภัยอยู่ ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับพวกเขา
ทั้งสองเหมือนได้บรรลุความสมดุลที่เปราะบาง จุดสมดุลนี้ก็คือตัวเองกับน้องสาว ตอนนี้ตัวเองไม่ควรพูดอะไรมาก สิ่งเดียวที่ต้องทำนั่นก็คือทำตามข้อตกลงนี้ กลับไปมะรืนนี้
ส่วนเรื่องที่อยากไปองค์กรโกสต์ซิตี้ในก่อนหน้านี้ สามารถยืดเยื้อได้อีกอยู่
ถังจื่อโม่รู้สึกเกิดความสนใจกับองค์กรโกสต์ซิตี้มาก เดิมทีอยากถือโอกาสนี้ไปเที่ยวเล่นสักหน่อย ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ คงไปไม่ได้แล้ว ถังจื่อโม่ไม่กล้าเอ่ยถึง
อีกอย่างเขาเชื่อมั่นว่ามู่เฉิงจะสามารถได้รับความไว้วางใจจากเวินลั่วฉิง ถึงเวลาค่อยไปก็ได้
อีกอย่างอารมณ์ของตอนนั้นแตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง ตอนนี้แค่แปลกใจ เหมือนไปท่องเที่ยวไปดูสักหน่อย แต่ถึงเวลาจะสามารถเหมือนศึกษาวิจัย มองดูอย่างละเอียด เพราะอย่างไรซะ ได้รับอนุญาตจากเวินลั่วฉิงหมด ต่างกับที่เวินลั่วฉิงแค่เพราะสนับสนุนการตัดสินใจของถังจื่อโม่เลยเห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง
ถังจื่อโม่คิดเรื่องพวกนี้ได้ ก็ได้พูดกับเวินลั่วฉิงว่า: หม่ามี๊วางใจได้ครับ พรุ่งนี้ผมกับน้องจะเก็บข้าวของให้เรียบร้อย แล้วรอหม่ามี๊มารับพวกเราครับ
เวินลั่วฉิงพยักหน้า ถังจื่อโม่ไม่เคยให้เธอต้องเป็นห่วงเลย นาทีนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองลำบากใจเลยสักนิด เธอพูดปลอบโยน: ลูกสองคนกลับไปอำลากับคุณปู่ดีๆ และเก็บข้าวของให้เรียบร้อยนะ อย่าลืมอะไรไว้ล่ะ
ถังจื่อโม่พยักหน้า
ถังจื่อซีรู้ว่าตอนนี้เรื่องไม่มีทางพลิกผันแล้ว