ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1640 “แย่งความรัก”
ซ่างกวนหงหัวเราะดังลั่น ทำไมรู้สึกมู่เฉิงว่าถูกรังเกียจเลย?ดูท่าวันนี้ออกไป มู่เฉิงยังไม่ได้น่ารักน่าชังเท่าคนอื่นเลย
เขามองมู่เฉิงด้วยสายตาหยอกล้อ มีการเปรียบเทียบถึงรู้ว่าตัวเองน่ารังเกียจมากแค่ไหน คนที่เพิ่งรู้จักกัน ถังจื่อซีก็ยังชอบขนาดนั้นเลย
ซ่างกวนหงนึกถึงถังจื่อซีกับถังจื่อโม่เรียกผู้หญิงที่เจอช่วงบ่ายว่าพี่สาว แต่เรียกมู่เฉิงว่าคุณอาก็อดขำไม่ได้ มู่เฉิงนี่คือแก่แล้วเหรอ?
ก็นั่นน่ะสิ!ใกล้จะ30อยู่แล้ว แฟนเป็นตัวเป็นตนก็ยังไม่มีสักคนเลย ไม่ใช่แก่แล้วคืออะไร แถมยังเป็นคนเดี่ยวเดียวดายด้วย
มู่เฉิงเบะปาก ได้ ทุกคนต่างก็ชอบรังแกเขากันหมด ฮื้อ!
ทำเรื่องดีแถมยังไม่มีคนชมอีก คราวหน้าไม่พาพวกเขาออกไปแล้ว!มู่เฉิงแอบบ่นอยู่ในใจ
เผชิญกับสายตาของซ่างกวนหง ได้จ้องกลับไปอย่างโหด ทำไม อยากจะทำอะไรอีก?รังแกเขาตัวคนเดียวเหรอ?จื่อซีกับจื่อโม่เป็นเด็ก แค่หยอกเล่นก็แล้วไป ทำไมเขาที่เป็นรุ่นใหญ่ก็รังแกเขาด้วย!มู่เฉิงโมโห
ซ่างกวนหงอดหัวเราะไม่ได้ เฮ้อ จู่ๆมีความรู้สึกเหมือนที่บ้านมีเด็กสามคน มู่เฉิงนี่ก็จริงๆเลยนะ โตป่านนี้ยังชิงรักหักสวาทกับเด็กอีก คำบ่นของซ่างกวนหงแฝงด้วยความอบอุ่น สมัยเด็กนิสัยแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกตลอดว่าเด็กคนนี้กับเขาไม่มีความห่างเหินกันเลยสักนิด เหมือนลูกในไส้แท้ๆ มู่เฉิงที่เป็นแบบนี้ทำให้คนรักและเอ็นดูจริงๆ
ถังจื่อซีหยอกเล่น: คุณอาคือกำลังแย่งความรักกับจื่อซี?หรือแย่งความรักกับพี่ชาย?หรือว่า……แย่งความรักกับพี่สาวคนนั้นเหรอคะ?
ถังจื่อโม่อดขำไม่ได้ จื่อซีปากร้ายจังเลย แค่คำพูดสองสามคำก็ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของมู่เฉิงไปโดยสิ้นเชิง แย่งความรักก็แล้วไป?แถมยังมาแย่งกับเด็กอีก คงขายหน้าแย่แล้วมั้ง?
ในขณะที่เขาคิดอยู่ก็ได้หันไปมองมู่เฉิง เห็นแค่มู่เฉิงหน้าเขียวหน้าดำเอาไว้ กำลังจ้องมองถังจื่อซีอย่างเย็นชา ถังจื่อซียักคิ้วอย่างไม่เกรงกลัว และเขยิบไปที่ข้างกายของซ่างกวนหง
ถังจื่อโม่กระแอมเสียงเบาทีนึง ต้องสมจริงขนาดนี้เลยเหรอ?ใบหน้าไม่เผยความหวาดกลัวออกมาเลยสักนิด ท่าทางไม่คลุมเครือเลยสักนิด คือกลัวว่ามู่เฉิงจะไป อัด เธอเหรอ?เห็นๆอยู่ว่าคุณอามู่เฉิงจงใจ
เขาคิดไม่ถึงว่าถังจื่อซีก็จงใจเหมือนกัน พิงอยู่บนตัวซ่างกวนหงพร้อมยักคิ้วอย่างได้ใจ และมองหน้ามู่เฉิงอย่างยั่วยุ
ถังจื่อโม่คอยดื่มน้ำของตัวเอง เดี๋ยวอย่ามาหาเขาเชียวนะ เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
ถังจื่อซีกำลังยั่วยุจริง เธอรู้สึกเรื่องนี้ค่อนข้างสนุก เกือบจะพูดกับมู่เฉิงอย่างเปิดเผยว่า หนูสามารถซบอยู่บนตัวคุณปู่ ถูกคุณปู่ชม แต่คุณอาไม่ได้!แถมอายังถูกคุณปู่รังเกียจอีก!ดูหนูสิ ดูจื่อซีสิน่ารักน่าเอ็นดูมากแค่ไหน!
มู่เฉิงกุมขมับ เด็กที่อยู่ข้างกายตัวเองนี่มันเด็กอะไรกันเนี่ย ตอนที่เชื่อฟังคือนางฟ้า ตอนที่กวนประสาทคือมาร ยังสามารถเข้ากันอย่างเป็นมิตรได้มั้ยเนี่ย
ตอนนี้เขาอยากถามมากเลยว่านิสัยของถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ได้กรรมพันธุ์มาจากใคร?พ่อบุญธรรมไม่ได้ชั่วร้ายขนาดนี้หนิ!หรือจะเวินลั่วฉิง?หรือว่าเย่ซือเฉิน?ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ให้ความรู้สึกอย่างนึงกับเขา คนเราไม่อาจตัดสินด้วยหน้าตาจริงๆ!แต่มู่เฉิงลืมไปว่าตัวเขาเองก็ตัดสินที่หน้าตาไม่ได้ ไม่น้อยกว่าถังจื่อซีและถังจื่อโม่เลย
ถังจื่อซียิ้มแฉ่งพร้อมพูดอย่างอวดดี: คุณอาอย่าลืมเชียวนะคะ ว่าเสื้อผ้าที่จื่อซีใส่อยู่หลินฉือ姐姐เป็นคนเลือกให้หมด คุณอาไม่ได้เป็นคนเลือก คุณปู่ไม่ชมคุณอาก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เธอก็ไม่แคร์ว่าจะเติมเชื้อไฟลงในกองเพลิง เพราะยังไงก็มีคนปกป้องอยู่!
มู่เฉิงเหนื่อยใจ แกล้งจ้องถังจื่อซีด้วยความโกรธ ถังจื่อซีส่งเสียงหัวเราะ ส่วนซ่างกวนหงคอยจิบชาของตัวเองแล้วมองดูพวกเขาหยอกเล่นกัน ตัวเองในนาทีนี้ เด็กคอยอยู่เคียงข้าง ลูกหลานอยู่ในโอวาท ยังมีใครสบายกว่าตัวเองอีกล่ะ?ซ่างกวนหงคิดอย่างสบายๆ
ทันใดนั้นถังจื่อซีนึกขึ้นได้ว่าหลินฉือบอกให้ตัวเองเพิ่มช่องทางติดต่อกับเธอ จึงได้หยิบกระดาษโน๊ตออกมา แล้วขมวดคิ้วดู
เป็นอะไร? ซ่างกวนหงถามด้วยความสงสัย จื่อซีนี่คือกำลังลังเลเหรอ?
เครื่องประดับบนตัวหนูคือพี่สาวคนนึงมอบให้ พี่คนนั้นได้ให้วิธีติดต่อกับหนู หนูกำลังคิดอยู่ว่าโทรศัพท์ไปโดยตรง หรือว่าเพิ่มวีแชทโดยตรงค่ะ ถังจื่อซีลังเล วีแชทใช่เบอร์เดียวกันหรือเปล่า!
ช่างเถอะ หนูโทรศัพท์ก่อน! ถังจื่อซีเลิกลังเลในพริบตา แล้วหยิบมือถือออกมาโทรหา
ซ่างกวนหงดูอยู่ข้างๆ คราวก่อนก็เหมือนกัน ถังจื่อซีได้ให้วิธีติดต่อกับเขาโดยตรง ครั้งนี้……ก็ติดต่อกับคนแปลกหน้าโดยตรง สะเพร่าเกินไปหรือเปล่า
โทรศัพท์ถูกรับสายอย่างไวมาก เสียงเย็นชาที่แฝงด้วยรอยยิ้มก้องออกมา: คือจื่อซีจอมน่ารักหรือเปล่าคะ?
ว้าว!พี่สาวรู้ได้ยังไงคะ! ถังจื่อซีตกใจ เธอยังไม่ได้พูดสักคำเลย
มู่เฉิงคอยฟังเสียงใสๆ เสียงหัวเราะเบาๆ ถึงต่อไปไม่ได้เจอหน้ากันอีก เขาก็ไม่ลืมเสียงนี้หรอก ในความเย็นชาแฝงด้วยความไพเราะ มักจะรู้สึกว่าแฝงด้วยหางสียง ซ่างกวนหงขมวดคิ้ว เสียงนี้……ทำไมฟังแล้วคุ้นหูจังเลย?เหมือนเสียงที่ไม่ได้ยินมานานแต่เคยได้ยินแน่นอน
เพราะคนที่รู้เบอร์นี้ของพี่มีน้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้พี่เพิ่งให้เบอร์กับหนูไป หลินฉือพูดด้วยรอยยิ้ม
ถังจื่อซีดีใจมาก พี่ที่เสียงไพเราะขนาดนี้ หน้าตาก็ต้องสวยแน่นอน!ถึงแม้วันนี้ไม่ได้เห็นก็ตาม เพระเธอใส่แว่นตาสีดำอันใหญ่ไว้ตลอด แต่นี่ไม่กระทบกับการที่ถังจื่อซีจินตนาการรูปลักษณ์ของเธอเลย รู้สึก……เป็นพี่สาวที่เด็ดเดี่ยวและเท่ห์มากคนนึง
พี่สาวคะ เสื้อผ้าที่พี่เลือกให้หนู หม่ามี๊กับคุณปู่ของหนูต่างก็พึงพอใจมากค่ะ ขอบคุณนะคะ! ถังจื่อซีพูดจาน่ารัก ความรู้สึกที่หลินฉือให้เธอเหมือนพี่สาวข้างบ้าน ไม่วางมาดเลยสักนิด
เธอรู้สึกเข้าหากับหลินฉือมีความสุขมาก ไม่ต้องถือสาอะไรมากมาย
ชอบก็ดีแล้วค่ะ หลินฉือพูดตามมารยาท เธอคิดๆแล้วได้ถามว่า หนูเคยคิดที่จะเป็นนางแบบมั้ยคะ?
ถังจื่อซีสงสัย นางแบบ?
นางแบบแฟชั่นเหรอคะ? ถังจื่อซีคิดแล้วก็ได้ถามออกมา
ใช่ค่ะ หลินฉือพูดคอนเฟิร์ม ทางนี้คือVK ถ้าหนูอยาก เดี๋ยวพี่ให้คนไปคุยกับหนู ถึงแค่ทำเป็นงานอดิเรกก็ไม่เป็นไรค่ะ
คนที่สามารถไป‘ร้านเยว่จือซิงซิง’ล้วนเป็นเหล่าคนรวยทั้งนั้น โดยทั่วไปคนในครอบครัวไม่มีทางให้ลูกตัวเองไป แต่หลินฉือก็ยังอยากลองดู ถังจื่อซีสามารถใส่เสื้อผ้าออกมาสวยทุกสไตล์จริงๆ น้อยมากที่จะได้เห็นสาวน้อยแบบนี้
มู่เฉิงเบะปากอย่างไม่พอใจ ถังจื่อซีเหมือนคนที่จะทำพวกนี้เหรอ?อีกอย่าง ทำไมจ้างแค่จื่อซีคนเดียว ไม่จ้างจื่อโม่ด้วย!จื่อโม่ก็ใส่ชุดออกมาดูดีมากเหมือนกันหนิ!นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของมู่เฉิง จากนั้นถึงสังเกตเห็นว่า ที่หลินฉือพูดคือVK บริษัทเครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ดีไซน์เนอร์ที่ยอดเยี่ยมโผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย แถมมีความจงรักภักดีค่อนข้างสูง น้อยมากที่จะมีคนสามารถดึงคนเก่งมาจากVK
หลินฉือ?เหมือนเขาจะไม่เคยได้ยินบุคคลท่านนี้มาก่อน เพียงแต่……ถ้าจำไม่ผิด ประธานของVKคือหลินจื่อ หรือจะมีความเกี่ยวข้องกับหลินฉือ?มู่เฉิงสงสัย
หลินจื่ออยู่ในแวดวงธุรกิจมีชื่อเสียงโด่งดังมาก คนในครอบครัวเธอเคยได้ยินแค่คนที่ชื่อหลินเนี่ยน คนนี้คือหลินฉือ?เขาคิดมากไปเหรอ?มู่เฉิงพูดอยู่ในใจ
ซ่างกวนหงอึ้งไปครู่นึง เหมือนจู่ๆนึกถึงเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ถ้าไม่ใช่ได้ยินชื่อVKอีกครั้ง เขาอาจจะไม่ไปคิด หรือต้องบอกว่า เรื่องนี้ถูกเขาตั้งใจหลงลืมไป ถ้าสามารถไม่ไปเอ่ยถึงได้ เขาไม่อยากนึกถึงอีกตลอดชีวิต
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้คลุกคลีกับหลินซื่อกรุ๊ปอีกครั้ง เขากระวนกระวายใจอย่างอธิบายไม่ได้
ถังจื่อซีเอียงศีรษะคิดไปครู่นึง แล้วพูดอย่างจริงจัง: พี่คะ ตอนนี้หนูยังตัดสินใจไม่ได้เลยค่ะ ให้คำตอบพี่ทันทีไม่ได้ เดี๋ยวค่อยให้คำตอบพี่ได้มั้ยคะ? เสียงของถังจื่อซีนิ่มนวล ฟังจนหัวใจของหลินฉือจะละลายอยู่แล้ว เด็กที่น่ารักขนาดนี้ ใครจะปฏิเสธได้?หลินฉือจึงเห็นด้วยอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด อยู่ในใจเธอ ถังจื่อซีสามารถเห็นด้วยก็เซอร์ไพรส์มากแล้ว!
งั้น หนูเพิ่มวีแชทของพี่สาว?เป็นเบอร์โทรนี้หรือเปล่าคะ? ถังจื่อซีอยากดูหน้าตาที่แท้จริงของหลินฉือจังเลย ตอนนี้ก็ชักอยากจะวิดีโอคอลไปโดยตรงเลย
ใช่ค่ะ หนูเพิ่มพี่โดยตรงเลยค่ะ เดี๋ยวพี่รับเป็นเพื่อน หลินฉือชอบเด็กที่เป็นฝ่ายรุกขนาดนี้ น่ารักน่าเอ็นดู
ถังจื่อซีพยักหน้าแล้วพูดต่อ: งั้นบ๊ายบายค่ะ หนูจะเพิ่มพี่ตอนนี้เลย หลังจากได้ยินคำตอบแล้ว ถังจื่อซีก็ได้วางสายทิ้ง
ถังจื่อซีค้นหาเจอวีแชทของหลินฉือ เห็นรูปโปรไฟล์คือสาวสวยที่กำลังกัดแอปเปิ้ลอยู่ ถังจื่อซีกดเข้าไปดูโดยเฉพาะ เธอได้ร้องด้วยเสียงตะลึงคำนึง: ว้าว!พี่สาวสวยจังเลย!
ถังจื่อโม่เขยิบไป มู่เฉิงเดินไป ต่างก็ใกล้เข้าไปดู ผู้หญิงมีดวงตาสีน้ำตาลคู่นึง ใต้ตาขวามีไฝน้ำตาเม็ดนึง ความรู้สึกที่เดิมทีเปล่งประกาย พริบตาเดียวได้มีความเศร้ากับ多情เพิ่มมากขึ้นหลายส่วน สวยมาก แต่มีความสวยที่ห่างเหิน เพียงแต่……กัดแอปเปิ้ลไว้เหมือนน้องสาวข้างบ้าน
ถังจื่อซีกดเพิ่มเป็นเพื่อน ทางโน้นได้ตอบรับไวมาก
หลินฉือได้ส่งข้อความติดต่อกันหลายข้อความ ถังจื่อซีกดดูแล้วเป็นรูปเสื้อผ้าหมด เธอถามถังจื่อซีว่าชอบอันไหน
ถังจื่อซีแข็งทื่อไว้ นี่ควรจะตอบยังไงดี?พี่สาวคืออยากให้เธอเป็นนางแบบ?หรือว่าอยากให้เสื้อผ้าเธอ?
เธอมองซ่างกวนหงด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
ซ่างกวนหงรับมือถือมา สายตาถูกรูปโปรไฟล์ของหลินฉือดึงดูด เขาได้กดดูโมเม้นท์ของหลินฉืออย่างจับพลัดจับผลู……