ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1649 แม่มาแล้ว
คนขับรถพูดประโยคนี้ แล้วสังเกตสีหน้าของหลิวหยิงอย่างระมัดระวัง แต่บนใบหน้าหลิวหยิงไม่มีความรู้สึกใดๆ
หลิวหยิงฟังประโยคนี้ ในในมีความสะเทือนใจอยู่เล็กน้อย แต่นาทีต่อมาก็ถูกกดลงไป จงรักภักดี? ความรัก? นี่คือความเยาะเย้ยในใจหลิวหยิง ซือถูมู่หรงถือสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องอะไรพวกนี้กับเธอ ระหว่างพวกเขา ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคนรัก เขาไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องเช่นนี้กับเธอ
หลิวหยิงไม่เข้าใจ ทำไมในสายตาคนอื่น ซือถูมู่หรงดีกับเธอ เป็นเพราะเขารักเธอ พวกเขาไม่รู้เลยว่า ซือถูมู่หรงแท้จริงแล้วเป็นคนที่เลวร้ายมากเพียงไร ถ้าพวกเขารู้ว่า ซือถูมู่หรงกับตนมีความสัมพันธ์ตามสัญญาห้าปีกันเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะหัวเราะเยาะกันขนาดไหน
พวกเขาจะคิดอะไรกัน? คือตนโลภในเกียรติยศเงินทอง เป็นฝ่ายเข้าหาซือถูมู่หรง? หรือคิดว่า ตนสมควรได้รับการดูถูกเหยียดหยาม? หลิวหยิงยิ้มขึ้นมาโดยพลัน น่าเศร้าเสียจริง ฐานะไม่เท่ากัน ดูเหมือนว่าความรู้สึกก็ไม่มีโอกาสจะเท่าเทียม ในสายตาของคนพวกนี้ ความรักที่ซือถูมู่หรงมีต่อเธอ ก็คือรางวัลอย่างหนึ่งใช่หรือเปล่า? เธอควรจะยอมรับ มิฉะนั้นจะเป็นการไม่รู้ความเอาได้? หลิวหยิงกลัดกลุ้มใจ เห็นชัดว่าแรกเริ่ม ก็เป็นซือถูมู่หรงที่วางแผนคิดร้ายกับตน แต่ตนกลับไม่มีทางพูดออกมาอย่างเปิดเผยได้เลยสักนิด น่าเศร้าจริงๆ
คนขับรถดูหลิวหยิงเดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวสุข ที่มากกว่าคือความโมโหบนใบหน้า คิดๆแล้วระหว่างประธานซือถูกับหลิวหยิงคงเกิดอะไรขึ้นมากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนนอกคนหนึ่งอย่างเขาจะถามได้ ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้หลิวหยิงใคร่ครวญคนเดียว แต่เส้นทางกลับไม่ได้นานนัก หลิวหยิงมองออกไปข้างนอก ถึงที่พักของตนแล้ว
เธอมองดูที่นี่ คิดในใจ ยังดีที่มีเวินลั่วฉิงอยู่ เธอเก็บตนมา ทำให้ตนไม่ถึงกับว่าไม่มีที่ไป ยังดี เรื่องราวมากมาย เธอสามารถพูดกับเวินลั่วฉิงได้ เวินลั่วฉิงจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด หลิวหยิงมองผู้คนที่ไปๆมาๆ ครุ่นคิดว่า บนโลกใบนี้ มีเพื่อนคนหนึ่ง ที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนข้างกายตนได้ตลอด ไม่ถามถูกผิด ไม่ถามสิ่งอื่นใด เป็นเรื่องที่โชคดีขนาดไหนนะ หลิวหลิงยืนหยัดแน่วแน่ในใจ เรื่องของเธอกับซือถูมู่หรง จะลากเวินลั่วฉิงมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาด บางครั้งซือถูมู่หรงก็เป็นคนบ้าคนหนึ่ง เขาไม่อนุญาตให้ใครหลุดจากการควบคุมของเขา ถ้าฉิงฉิงเข้ามามีส่วนร่วมมากเกินไป โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการแยกจากของเธอ…หลิวหยิงไม่กล้าจะจินตนาการ ว่าซือถูมู่หรงจะล้างแค้นเวินลั่วฉิงอย่างเสียสติหรือไม่…แต่ว่า หลิวหยิงไม่กล้าเสี่ยง
เอาละ จอดตรงนี้แหละ หลิวหยิงไม่อยากให้คนอื่นรู้ที่พักของตนอย่างละเอียด ซือถูมู่หรงจะตรวจสอบได้ก็เป็นความสามารถของเขา ส่วนคนอื่น ไม่จำเป็น
คนขับรถพยักหน้า จอดรถ มองดูหลิวหยิงจากไป แผ่นหลังของเธอเหยียดตรงมาก คล้ายกำลังยืนหยัดอะไรอยู่ แต่ภาพด้านหลังกลับดูหงอยเหงาวังเวง เขาส่ายหัว ทุกคนต่างมีความยากลำบากของตัวเอง แต่ว่า โอกาสนี้ ไม่รู้ว่าตนคว้าไว้ได้หรือไม่
ตอนที่หลิวหยิงกลับไป เวินลั่วฉิงได้พาแม่ของเธอกลับมาที่พักแล้ว ทั้งสองพูดคุยหัวเราะกัน เวินลั่วฉิงตั้งใจแสดงออกว่าผ่อนคลาย ไม่กล้าทำให้คุณแม่หลิวสังเกตเห็นความลำบากของหลิวหยิง เธอจะให้คุณแม่หลิวรู้ถึงความยุ่งยากของหลิวหยิงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างหลิวหยิงกับซือถูมู่หรง ความสกปรกและน่ารังเกียจเหล่านั้น ไม่ว่าเธอจะรู้หรือไม่ รู้มากน้อยเท่าไร เธอก็ไม่อาจพูดออกมาได้อีก
หลิวหยิงเข้ามาในบ้าน เห็นเวินลั่วฉิงกับแม่นั่งอยู่บนโซฟา ตอนที่เห็นเธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกันโดยมิได้นัดแนะ หลิวหยิงตัดสินใจ คลี่ยิ้มอบอุ่นออกไป ฉิงฉิง ขอบคุณนะ
หลิวหยิงพูดก่อน เวินลั่วฉิงยิ้มบางเบา ยายเด็กโง่ มีอะไรให้ขอบคุณกัน? เธอเดาว่าหลิวหยิงคงมีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับคุณแม่หลิว จึงไม่คิดจะอยู่ต่อ ลุกขึ้นแล้วบอก หยิงเอ๋อร์กลับมาแล้ว พวกคุณแม่ลูกจะต้องมีเรื่องพูดคุยกันมากมายแน่ๆ ฉันไม่อยู่ต่อแล้ว วันหน้าจะมาเยี่ยมอีกนะคะ
หา? คุณแม่หลิวประหลาดใจ ไม่เป็นไร สิ่งที่ฉันกับหยิงเอ๋อร์มีก็คือเวลา อยู่ต่ออีกสักหน่อยสิ
เวินลั่วฉิงส่ายหน้า ไม่ละค่ะ สามีฉันมารับแล้ว! พูดแล้วเวินลั่วฉิงก็ยิ้มขึ้นมา เย่ซือเฉินคนผู้นี้ ออกจะ…ขี้หึงไม่เป็นเวล่ำเวลาจริงๆ เห็นชัดว่าบอกไปแล้วว่ามาหาหลิวหยิงที่นี่ ไม่ต้องมารับ หรือเป็นไปได้ว่าจะมีของขวัญมอบให้หัวหน้าซ่างกวนหงแล้ว? เวินลั่วฉิงคาดเดา ไม่พูดอะไรมากกับพวกหลิวหยิงแล้ว
พอหลิวหยิงได้ยินว่าเย่ซือเฉินมาแล่ว ก็เม้มริมฝีปาก อยู่ต่อ ย่อมอยู่ต่อไม่ได้แล้ว เธอพยักหน้า ได้ งั้นหลังจากนี้เราค่อยนัดกันอีก
เธอมีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับเวินลั่วฉิง แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว ทำได้เพียงรอในภายหลัง ทว่าไม่รีบร้อน เธอเองก็ยังคิดไม่ตก
เวินลั่วฉิงพยักหน้า แล้วไปจากที่นี่ เย่ซือเฉินมาถึงใต้อาคารพอดี ทั้งสองมองสบตากันแต่ไกล เวินลั่วฉิงเลิกคิ้ว เย่ซือเฉินนิ่งเงียบ ทว่าเวินลั่วฉิงเพิ่งจะเข้าไปนั่งในรถ ก็ถูกเย่ซือเฉินดึงเข้าไปจูบอย่างลึกซึ้ง ในใจคิดว่าเมื่อวานยังเหนื่อยไม่พอ ตกบ่ายยังมีแก่ใจไปเตร็ดเตร่ เขากลับไปก็ไม่เจอใคร!
เวินลั่วฉิงจนปัญญา จูบกลับไปอย่างปลอบใจ ไม่ได้พูดอะไร ถอนจูบแล้ว อารมณ์ของเย่ซือเฉินถึงได้ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ถามไปแล้วว่าเวินลั่วฉิงมาทำอะไร ตอนนี้จึงไม่ถามอีก พาเธอกลับเลย
หลิวหยิงที่อยู่ในห้องวางของลง แล้วโถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคุณแม่หลิว หลายวันมานี้เธออึดอัดใจนานเกินไปแล้ว เรื่องราวมากมาย เธอพูดกับเวินลั่วฉิงได้ แต่เธอไม่อาจเอาอารมณ์ด้านลบไปใส่เวินลั่วฉิง ไม่อาจให้เธอรู้ถึงความสิ้นหวังและความเหนื่อยใจในใจของตน มันไม่ยุติธรรมกับเธอ ยิ่งไปกว่านั้น เวินลั่วฉิงเองก็ยุ่งมาก เธอจะทำให้อีกฝ่ายกังวลใจอีกไม่ได้ ดังนั้นหลายวันมานี้ เธอจึงฝืนค้ำยันเอาไว้ตลอด ตอนนี้แม่ของเธอมาแล้ว เธอก็เหมือนกับเรือลำน้อยลอยล่องลำหนึ่งที่ในที่สุดก็มีท่าเทียบเรือ มีคนที่สามารถพึ่งพาโดยสมบูรณ์ได้แล้ว
หลิวหยิงพิงอยู่ในอกของแม่หลิว เดิมเพียงคิดจะดูดซับความอบอุ่นเล็กน้อย แต่พอจิตใจผ่อนคลายลง ความไม่เป็นธรรมเหล่านั้นก็ปรากฏออกมาทีละนิดๆ ยึดครองทั้งหมดภายในใจ หลิวหยิงสะอื้นเงียบๆ
แม่หลิวรู้ ช่วงนี้หลิวหยิงได้รับความไม่เป็นธรรมมากมาย เรื่องพ่อของเธอ แล้วก็เวลาห้าปีนี้ด้วย กดทับอยู่บนหัวใจของเธอมาตลอด เกรงว่าจะรับไม่ไหวขึ้นมา ตอนนี้ยังต้องมาเป็นห่วงตนอีก ความกดดันในใจของหลิวหยิงมากเกินไป ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่จะสบายใจได้ ยังไม่อาจระบายออกมาได้ตามใจอีก แม่หลิวปวดใจ เธอตบหลังของหลิวหยิง แล้วพูดเสียงเบา หยิงเอ๋อร์เด็กโง่ แม่อยู่นี่ ไม่เป็นไร แม่จะอยู่เป็นเพื่อนลูกตลอดไป
หลิวหยิงส่งเสียงร้องไห้ออกมาทันที น้ำตาไหลไม่ขาดสาย หยุดไม่ได้ ความกดดันและความไม่เป็นธรรมในหลายวันมานี้ ปลดปล่อยออกมาหมด ความกดดันที่ซือถูมู่หรงมอบให้เธอ การตามพัวพันไม่เลิกราเหล่านั้น ทำให้เธอทั้งรำคาญใจทั้งขัดเคือง ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ระบายออกมา ตอนนี้จึงปล่อยระบายออกมารวมกัน
น้ำตาของหลิวหยิง เหมือนดั่งเปิดสวิตช์น้ำไหล บวกกับไม่ได้ตั้งใจจะควบคุม จึงเลอะไปทั้งหน้า หลิวหยิงอิงซบอยู่บนร่างของแม่หลิวตลอด บนไหล่ของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาเช่นกัน แม่หลิวรู้สึกได้ถึงน้ำตาของหลิวหยิง ภายในใจก็เสียใจ หางตาเปียกชื้นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
ดีที่หลิวหยิงไม่ได้ระบายออกมาตามอำเภอใจไปตลอด เธอไม่อาจทำให้แม่เป็นห่วงอีก ระบายออกมาสักหน่อยก็พอแล้ว! เธอแหงนหน้าขึ้น มองแม่ด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา สะอื้นพูดว่า แม่คะ ฉันดีใจมากเลย ในที่สุดแม่ก็มาอยู่ข้างๆฉันแล้ว
หลิวหยิงไม่ได้พูดถึงความทุกข์ก่อนหน้านี้ของตน เธอรู้ แม่ของเธอตอนนี้ใส่ใจแค่เธอกับน้องชายสองคนเท่านั้น ไม่กล้าให้ตัวเองมีอันตรายแม้แต่น้อย ดังนั้น หลิวหยิงไม่พูด ไม่เอ่ยอะไรสักคำ
แม่หลิวมองหลิวหยิง เด็กคนนี้ ความคิดหนักแน่นขึ้นมาแล้ว ทั้งยังยับยั้งอารมณ์ตนเองได้ นี่เป็นเรื่องดี อยู่ข้างนอกจะได้ไม่บาดเจ็บเอาได้ง่ายๆ แต่ว่า คนคนนี้เป็นลูกสาวของตน อยู่ข้างหน้าตน เธอรู้สึกปวดใจขึ้นมา เป็นตนที่ไม่ได้มอบสภาพแวดล้อมที่มั่นคงปลอดภัยแก่ลูกสาว ไม่ได้ให้ความปลอดภัยเธอมากพอ เธอถึงได้เป็นเช่นนี้
แม่หลิวน้ำตาไหลทันที ห้าปีนี้ เธอได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วจริงๆ! เธอเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองได้ช่วยตระกูลหลิว ช่วยคนในครอบครัวไว้ แต่ว่า…กลับกลายเป็นว่าเธอได้ทำให้พ่อของตนตายไปด้วย เธอจะทนรับได้อย่างไร? แม่หลิวเกลียดขึ้นมาทันที เกลียดที่ตัวเองอ่อนแอเกินไป ไร้ซึ่งอำนาจ จึงทำให้หลิวหยิงต้องแบกภาระเหล่านี้ ตอนนี้…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เธอจะไม่ให้ใครคนไหนมาทำร้ายหลิวหยิงได้อีกเป็นอันขาด!
หลิวหยิงเพิ่งจะหยุดร้องไห้ เห็นแม่ของตนร้องไห้ ก็รีบช่วยเช็ดให้ แต่ก็หยุดไม่ได้ แม่หลิวก็รีบร้อนเช็ดออก ปกปิดน้ำตา เธอฝืนแย้มยิ้ม ไม่เป็นไร แม่ไม่เป็นไร แม่แค่รู้สึกว่า ทำให้ลูกได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว แม่ช่างไร้ประโยชน์
หลิวหยิงส่ายหน้า ไม่ใช่นะคะ แม่ แม่ไม่รู้หรอก มีแม่อยู่ข้างๆฉัน ฉันสบายใจมากแค่ไหน แม่คะ ขอแค่แม่อยู่ข้างๆฉัน ฉันก็จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกสาวของแม่ เป็นคนอิสระคนหนึ่ง