ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1653 ถูกหลอกเข้าแล้ว
หลิวหยิงจมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นซือถูมู่หรงก็ดี คุณนายซือถูก็ดี สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย ถึงยังไงก็ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญอะไรทั้งนั้น ถึงขนาดที่……เป็นคนที่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีกแล้วด้วย
คุณแม่หลิวมองหลิวหยิง การพูดคุยปรึกษากันเมื่อตะกี้ของพวกเขาถูกตัดบทแล้ว เมื่อตะกี้หลิวหยิงถามว่าวิธีการของ ซือถูมู่หรงแสดงออกว่าเขามีความรู้สึกต่อเธอ พูดอย่างเป็นกลาง ก็คือคุณแม่หลิวรู้สึกว่า ซือถูมู่หรงมีความรู้สึกต่อหลิวหยิง แต่ว่า……คุณแม่หลิวไม่อยากพูดออกมา เธอไม่เข้าใจซือถูมู่หรง ไม่เข้าใจความคิดของเขา ดังนั้น ก็เลยไม่ได้ให้คำตอบหลิวหยิง แถม เธอไม่สามรถพูดออกมาได้อย่างใจเย็นและมีเหตุมีผลว่าซือถูมู่หรงมีความรู้สึกต่อหลิวหยิงจริงๆได้ นั่นเป็นเรื่องที่โหดร้ายเรื่องหนึ่งเลย
เพราะว่ามีความคิดที่อยากจะหนีออกมาแล้ว ตอนนี้ได้รับการสนับสนุนจากแม่ ความคิดนี้ก็เลยเริ่มเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมา หลิวหยิงคิดคำนึงถึงคนที่นี่อย่างจริงๆจังๆ เธอยังจำเป็นต้องเป็นกังวลใจใช่ไหม
เวินลั่วฉิงเธอไม่เป็นห่วง ตอนนี้ความรู้สึกของเธอกับเย่ซือเฉินมันมั่นคงเสถียรแล้ว ไม่มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นแน่นอน ทั้งสองคนอาจจะแต่งงานสมรสกันแล้ว หลิวหยิงรู้สึกเสียดาย อาจจะเป็นเพราะไม่สามารถเข้าร่วมงานแต่งงานของพวกเขาได้ แต่หลิวหยิงเชื่อว่าเวินลั่วฉิงจะต้องเข้าใจเธอแน่นอน ถึงขนาดที่สนับสนุนสิ่งที่เธอเลือกอีกด้วย
เรื่องของไป๋ยี่ลุ่ย ยังไม่ได้ถูกพิพากษา แต่ได้ฟังจากคนที่รู้จักบอก ว่าจะมีการลดโทษให้แน่นอน ถ้าตอนนี้ไม่มีใครคนอื่นสอดมือเข้ามา เรื่องน่าจะจัดการไปตามระเบียบไม่มีอะไรมาวุ่นวายแล้ว แต่ต่อให้จะมีปัญหาจริงๆ เวินลั่วฉิงก็จะจัดการให้เรียบร้อยเอง หลิวหยิงไม่เป็นห่วง
ถ้าอย่างนั้นที่นี่ ยังมีอะไรที่ให้อาลัยอาวรณ์อีกล่ะ? หลิวหยิงรู้สึกว่าเรื่องอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องให้ตนเองสอดมือเข้าไปยุ่งแล้ว คนอื่นต่างก็จัดการกันเองได้ ใจเริ่มสงบนิ่งลง หลิวหยิงคิดดีแล้ว ตอนที่เธอออกจากที่นี่ นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ก็ไม่เอาอะไรไปเลย ยิ่งสบายตัวยิ่งดี ตอนนี้ เหลือแค่โอกาสอย่างเดียวเท่านั้น
หลิวหยิงไม่อยากเป็นฝ่ายรอ ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไร ก็เลยตัดสินใจเป็นฝ่ายเข้าไปหาโอกาสเองซะเลย เส้นสายของเธอมีไม่มาก ดังนั้นจึงอยากถามเวินลั่วฉิงว่ามีรู้จักใครบ้างไหม หรือไม่ก็ให้โอกาสสักครั้งได้ไหม แต่ว่า หลิวหยิงคิดดีแล้ว ว่าจะไม่บอกตรงๆว่าตัวเองจะออกไปจากที่นี่
คุณแม่หลิวมองหลิวหยิง เธอเปลี่ยนไปไม่น้อย เธอเคยเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่ก็ไม่ได้สงบนิ่งใจเย็นขนาดนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลิวหยิงจะเดินตามถนนหนทางที่ไม่มีจุดวกกลับ แถมถนนสายนั้นผ่านสถานที่แห่งใดบ้างนั้น เธอไม่สนใจ
หยิงเอ๋อร์ ช่วงนี้ ลูกทำตัวผ่อนคลายลงได้นะ แม่จะอยู่เคียงข้างลูกตลอดไป คุณแม่หลิว ไม่มีอะไรที่จะมอบให้กับหลิวหยิง มีสิ่งเดียวที่สามารถให้กับเธอได้ ก็คือการทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
หลิวหยิงพยักหน้า แม่ อย่าคิดเยอะเลย ตอนนี้หนูขอคิดๆดูก่อน แม่อย่าเพิ่งเป็นกังวลใจไปเลย เรื่องที่จะหนีออกมาจำเป็นต้องคิดดีๆ ในเมื่อซือถูมู่หรงยอมให้เวลา แน่นอนว่าเธอก็ไม่มีทางละทิ้งไปอยู่แล้ว
หยิงเอ๋อร์ ลูกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวแม่ทำอาหารให้ลูกทานเอง คุณแม่หลิวมองหลิวหยิงผอมลงไปไม่น้อย ก็รู้สึกเอ็นดู เข้าห้องครัวไปทำอาหารให้กับเธอ แต่เปิดตู้เย็นออกดู ของข้างในน้อยมาก ไม่มีแม้แต่ผักสดอะไรทั้งนั้น ก็รู้ว่าหลิวหยิงใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก เธอ เธอนิ่งทื่อ หลิวหยิงตอบสนองกลับมา รีบเดินตรงไปควงแขนของคุณแม่หลิวเอาไว้ทันที แม่ ผักในบ้านหนูกินไปเกือบหมดแล้ว พวกเราไปซื้อกันดีไหม?
คุณแม่หลิวสะบัดมือของหลิวหยิงออก มองเธออย่างไม่ได้ดั่งใจ หยิงเอ๋อร์ ลูกเอาสถานภาพของตัวเองมาล้อเล่นได้ยังไง? ลำพังลูกตัวคนเดียว จะดูแลตัวเองได้ยังไง!
หลิวหยิงพยักหน้า เข้าไปกอดแขนของคุณแม่หลิวเอาไว้ เขย่าเบาๆ พูดด้วยความออดอ้อน แม่ ก่อนหน้านี้หนูไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย หลังจากที่ขัดแย้งกับซือถูมู่หรงแล้วถึงได้มา แม่ลองคิดๆดู นี่เพิ่งจะกี่วันเอง!ก่อนหน้านี้หนูเลี้ยงดูตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด ช่วงหลายวันนี้เธอคงจะไม่ได้กินอะไรดีๆ แต่เมื่อก่อนไม่ใช่ ช่วงนี้มีเรื่องมากเกินไปจริงๆ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย เรื่องของซือถูมู่หรง ทะเลาะสร้างเรื่องกันจนน่าอัปยศอดสู ตอนนี้ถูกคุณแม่หลิวจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ รู้สึกละอายใจไม่น้อย
คุณแม่หลิวครุ่นคิดอย่างจริงจัง เป็นแบบนี้จริงๆ แต่พูดถามขึ้นด้วยความไม่เชื่อ เป็นแบบนี้จริงๆใช่ไหม?
หลิวหยิงพูดยืนยัน แถมยังพูดประจบอีกด้วย จริงสิคะ!หยิงเอ๋อร์เคยหลอกแม่ด้วยเหรอคะ!ในเมื่อวันนี้แม่มาแล้ว พวกเราก็ไปซื้อผักด้วยกันดีไหม? ตอนค่ำมาทำกับข้าวกินกันสักมื้อ
คุณแม่หลิวหมดหนทาง อยากที่จะให้หลิวหยิงกินอย่างสบายๆ อารมณ์ดี ก็เลยพยักหน้า เดี๋ยวขอแม่เตรียมตัวเสร็จก็ออกกันได้แล้ว
หลิวหยิงตอบอื้อกลับมาหนึ่งที มองเข้าไปในห้องของคุณแม่หลิว ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก ค่อยยังชั่วที่ยังไม่ถูกมองออก ช่วงนี้ไม่ว่าเธอจะกินหรือนอนก็ไม่เพียงพอทั้งนั้น ตอนนี้ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้
ทั้งสองคนสวมชุดสีขาวครีมที่ดูเหมือนๆกัน เพื่อที่จะทำให้คุณแม่หลิวอารมณ์ดี หลิวหยิงจึงพูดหยอกล้อขึ้น แม่ นี่พวกเราแต่งตัวคู่แม่ลูกกันใช่ไหม?
คุณแม่หลิวยิ้มๆ ลูกบอกว่าใช่ก็ใช่ หลายปีมานี้เธอดูแลตัวเองได้ไม่ดีมากเท่าไร ก่อนหน้านี้ตอนที่ยืนด้วยกันกับหลิวหยิง อาจจะดูเหมือนสองพี่น้องที่อายุห่างกันเยอะ ตอนนี้ ก็คือแม่ลูกกัน แต่คุณแม่หลิวไม่สนใจอะไรพวกนี้ หลิวหยิงดูเด็กมาก เสื้อผ้าสีอ่อนทำให้หลิวหยิงดูแล้วให้ความรู้สึกอ่อนโยนดั่งสายน้ำ คุณแม่หลิวเป็นฝ่ายเข้าไปควงหลิวหยิง มา พวกเราสองแม่ลูกออกไปเดินช็อปปิ้งกันเถอะ
ตอนที่มาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่งจะเป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ คนยังมากอยู่ หลิวหยิงเข็นรถเข็น เธอกะที่จะพักอยู่ที่นี่สักสองสามวัน ซื้อเยอะสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากว่าจะทำของอร่อยๆให้หลิวหยิงกิน คุณแม่หลิวก็เลยเลือกของอย่างไม่หยุดยั้งพลั้งมือ ทั้งสองคนพูดคุยยิ้มแย้มกัน อิสระสบายใจสุดๆ
จู่ๆหลิวหยิงก็อยากจะกินบ๊วยดำขึ้นมา หันไปหยิบมาหนึ่งกล่อง ตอนที่หันไปก็ไปชนเข้ากับคนคนหนึ่งเข้า หลิวหยิงพูดขอโทษทันที ขอโทษค่ะๆ
ได้ยินผู้หญิงตรงหน้าสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยันหนึ่งที ไม่ดูตาม้าตาเรืออย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ มาชนกันแบบนี้แค่ขอโทษคำเดียวคิดว่าได้แล้วเหรอ?
หลิวหยิงสีหน้าบึ้งตึง นี่มันอะไรกัน? เธอหันมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง มั่นใจแล้วว่าไม่รู้จัก ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แถมคุณแม่หลิวก็รออยู่ข้างๆด้วย เธอพูดขึ้นอย่างสงบนิ่ง ถ้าขอโทษแล้วคุณไม่ยอมรับล่ะก็ ของที่คุณซื้อ ฉันช่วยจ่ายเงินให้แทนทั้งหมดก็แล้วกัน
ผู้หญิงตรงหน้าโกรธ ใครต้องการไม่ทราบ? เธอน่ะแย่งคู่หมั้นของคนอื่นไป ไม่อายบ้างเลยเหรอ?
หลิวหยิงรู้สึกว่าแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นี่มันเรื่องอะไรกัน? คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร? เธอแน่ใจว่าไม่รู้จักแน่นอน!แถม แย่งคู่หมั้นของคนอื่น? ห้าปีมานี้ นอกจากความสัมพันธ์กับซือถูมู่หรง แล้วก็ความสัมพันธ์กับไป๋ยี่ลุ่ยในช่วงนี้แล้ว ผู้ชายคนอื่นๆก็แทบไม่เคยแม้แต่จะเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ จะไปแย่งคู่หมั้นของใครได้อีก? ไม่มีแม้แต่จะมาให้เธอแย่งเลยสักคนด้วยซ้ำ
หลิวหยิงไม่อยากพูดเยอะ ถามออกมาตรงๆ คุณคือใคร?
ฉัน! ผู้หญิงกำลังจะพูด ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นมาได้ เปลี่ยนน้ำเสียง ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วย
หลิวหยิงเริ่มจะเดาได้แล้วว่ามีคนมาหาเรื่อง พูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ ในเมื่อพวกเราไม่รู้จักกัน แล้วฉันก็ไม่รู้จักแฟนของคุณด้วย คิดว่าคงจะจำคนผิดแล้วล่ะ
พูดจบหลิวหยิงก็กะที่จะเดินจากไป แต่กลับถูกผู้หญิงคนนั้นรั้งเอาไว้ หนี? เธอกล้าดียังไงเธอจะเดินหนีไป? อ่อยแฟนของคนอื่นแล้วคิดจะเดินหนีไปอย่างนั้นเหรอ? ไม่มียางอายเลยใช่ไหม
น้ำเสียงที่สูงแหลม ผู้คนรอบๆเริ่มเข้ามาล้อม หลิวหยิงมองคนรอบๆ ขมวดคิ้ว รู้สึกยุ่งยากน่ารำคาญ!แถมแม่ก็ยังอยู่ที่นี่อีกด้วย หลิวหยิงไม่อยากให้เธอเห็นตัวเองอึดอัดใจ ก็เลยใช้แรงสะบัดเธอออกไปเล็กน้อย ในเมื่อพวกเราไม่รู้จักกัน คุณก็พูดออกมาตรงๆเลยสิ ว่าแฟนหรือว่าคู่หมั้นของคุณคือใคร?
ผู้หญิงคนนั้นตื่นตกใจเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงคนนี้ท่าทางไม่ได้สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว เธอกัดฟัน ไม่ได้พูดออกมาทันที
หลิวหยิงจัดผม เห็นเงาคนหนึ่งคนที่กำลังแอบอยู่ตรงมุม มองเห็นไม่ชัดว่าเป็นใคร แต่ก็เข้าใจได้ว่า เรื่องนี้จะต้องมีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน ในใจรู้สึกเบื่อหน่าย แค่หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับซือถูมู่หรง ไม่อย่างนั้นจะต้องยุ่งยากลำบากแน่ๆ
ดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้านี้จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน สายตาดุร้าย หลิวหยิงจ้องเขม็งกลับไป เห็นแม่ของเธอเดินตรงเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน แถมตนเองก็ยืนอยู่ตรงกลางของกลุ่มคนอีกด้วย แค่มองมาก็เห็นแล้ว
หลิวหยิงรู้สึกลนลานอยู่ไม่น้อย แต่เธอรู้ว่าจะให้แม่ของเธอมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวเบาๆให้กับแม่ของเธอ ส่งสัญญาณว่าตนจัดการเองได้
คุณแม่หลิวเดิมทียืนอยู่ข้างนอกวงของกลุ่มคน มองไม่ชัดว่าข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่หลังจากที่เบียดเข้าไปอย่างระมัดระวังแล้ว ก็เห็นสีหน้าที่นิ่งเฉยของหลิวหยิง รู้ว่าหลิวหยิงมีวิธีที่จะจัดการแล้ว จึงยืนมองอยู่อย่างนั้น
คุณมีแฟนหรือว่าคู่หมั้นเหรอ? พูดไม่ออกหรือว่าพูดออกมาไม่ได้กันแน่ หลิวหยิงพูดบีบบังคับผู้หญิงคนนั้น เธอเบื่อกับเรื่องพวกนี้อยู่ไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นตัวเองก็ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ถูกคนมาใส่ความให้ร้ายแล้วปั้นน้ำเป็นตัวแล้ว ถ้าเกิดเป็นซือถูมู่หรง เธอก็ไม่เกรงกลัว ซือถูมู่หรงไม่มีทางสนเรื่องแบบนี้แน่นอน ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับซือถูมู่หรงแม้แต่นิดเดียว จะพูดอะไรได้ล่ะ? บวกเข้ากับคุณแม่หลิวอยู่ข้างๆอีก เธออยากที่จะจัดการแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
แน่นอนว่าฉันมีอยู่แล้ว! ผู้หญิงคนนั้นถูกแหย่จนโมโห พูดออกมาตรงๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะถูกคนคอยบงการ แต่การข่มขู่แบบนี้เธอก็รับไม่ไหวเหมือนกัน!นี่มันกำลังดูถูกใครอยู่!