ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1678 ทอดทิ้งเด็กคนนี้
อันฉีมองไปที่ผู้ชายที่ดูตื่นเต้นตรงหน้าเธอ หรือว่า จะเป็นแฟนเก่าของเขางั้นเหรอ? ไม่เหมือนเลยนะ ดูเรียกกันห่างเหินขนาดนั้น ถ้ายังงั้น……หรือว่าเป็นผู้หญิงคนก่อนของประธานซือถู? แท้จริงแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นของคนเรานั้นมันหนักมาก เพียงแค่มีเบาะแสเพียงนิดเดียว ก็อยากจะสืบเสาะต่อไป
เมื่อกี้ฉันพูดว่า ผู้หญิงที่พวกเราเจอเมื่อกี้นี้ อาจจะท้องอยู่ อันฉีพูดอย่างสงบ นี่เป็นเรื่องที่พิเศษมาก ถ้าเกิดว่าเธอรู้ตัวตนของผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่เมื่อกี้นี้ ก็คงจะไม่มีทางพูดออกมาหรอก แต่ว่า มันพูดออกไปแล้ว มันไม่มีหนทางให้เก็บคืนกลับมาแล้ว
เธอมองออกได้ยังไงกัน? ผู้ช่วยพิเศษเจียงสงสัย เขาพยายามย้อนคิดในตอนที่กำลังคุยกับหลิวหยิงเมื่อกี้นี้ และการกระทำทั้งหมด แต่ก็ไม่สังเกตเห็นอะไร แล้วทำไมอันฉีถึงได้พูดแบบนี้ล่ะ แต่ว่า มันต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน
เมื่อกี้ตอนที่เดินออกไป ผู้หญิงคนนั้นลูบท้องของตัวเอง ตอนที่เดินนั้น ปกติก็ไม่มีท่าทางแบบนี้หรอก สำหรับฉันแล้ว ถ้าเกิดจะลูบท้อง ปกติก็เพราะว่ากินอิ่มเกินไป ไม่ก็ประจำเดือนมา หรือว่าปวดท้อง ไม่มีเหตุผลอื่น แต่ว่าเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็แสดงว่า มีความเป็นไปได้มากว่าจะตั้งท้อง เธอต้องการที่จะสัมผัสลูกในท้อง อันฉีพูดอย่างสงบ ผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้ ตอนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่พอหันหลังไปก็นึกถึงใครบางคนเพราะว่าพวกเขา ก็เลยนึกถึงลูกในท้องขึ้นมา
?? งั้นเหรอ? เมื่อกี้เขาไม่ได้เห็นท่าทางนั้นของหลิวหยิง แต่ว่าพอมาคิดถึงคำพูดของอันฉี มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ น้อยคนนักที่จะลูบท้องของตัวเองตอนไม่ได้มีอะไร และยิ่งไปกว่านั้น หลิวหยิงก็ไม่ได้มีพุงน้อยๆ ด้วย ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นเธอทำท่าทีแบบนี้
ผู้ช่วยพิเศษเจียงพยายามบอกตัวเองในใจว่าให้สงบ ต้องสงบลงให้ได้ จะไปบอกประธานซือถูอย่างรวดเร็วขนาดนี้ไมได้ ต้องตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยบอก ถ้าเกิดว่าพิสูจน์และยืนยันได้ว่าคุณหลิวตั้งท้องจริงๆ ถ้ายังงั้นก็มีความเป็นไปได้มากว่าท่านประธานกับคุณหลิวจะได้กลับมาดีกัน แต่ว่าทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ และในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ ยังไม่ควรจะใจร้อนเกินไป
ขอบคุณนะ วันนี้เธอช่วยได้มากเลย!เธอไปหาคุณป้าก่อนเถอะ ถ้าเกิดว่าขาดตกบกพร่องอะไรก็พูดมาได้เลย ฉันไปทำธุระก่อนนะ ผู้ช่วยพิเศษเจียงพยายามอดทนต่อความตื่นเต้นและพูดออกมา หลายมันมานี้อาการของประธานซือถูเป็นยังไง เขาเห็นอยู่ในสายตามาโดยตลอด เขาสามารถรับรู้ได้ว่าซือถูมู่หรงเสียใจแค่ไหน ตอนนี้ โอกาสที่หายากมาถึงแล้ว จะพลาดไปไม่ได้เด็ดขาด และแม่ของอันฉีก็ได้จัดการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว สองสามวันมานี้อาการก็เริ่มคงที่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ แต่ว่าเรื่องทางฝั่งของหลิวหยิง ถ้าเกิดว่าช้าอีกหน่อยอาจจะพลาดอะไรไปมากมายเลย
อันฉีพยักหน้า ยังไงก็ไม่ได้จำเป็นต้องให้เขามาด้วยอยู่แล้ว เธอไปคนเดียวก็ได้ แล้วอีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้น จะพูดว่ายังไงดี รู้สึกได้ว่าเธอไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่เลย เหมือนกับว่าไม่ได้ต้องการเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้ อันฉีส่ายหน้า นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เธอควรจะไปนึกถึง แต่ก็หวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดี
หลังจากที่หลิวหยิงกับคุณแม่หลิวกลับมาถึงบ้าน ก็นอนอยู่บนเตียงนานมาก เหนื่อยมากจริงๆ แล้วมันก็เหนื่อยทั้งกายและใจเลยด้วย เดิมหลิวหยิงก็กังวล ว่าการที่บังเอิญเจอผู้ช่วยพิเศษเจียงในวันนี้จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้นรึเปล่า แต่ว่าก็คิดว่ามันไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นได้อีกแล้ว ควรพักผ่อนให้ดีก่อน พักฟื้นสักหน่อย แล้วค่อยไปตรวจดูที่โรงพยาบาลอีกที
หลิวหยิงก็รู้ร่างกายตัวเองอยู่เหมือนกัน ช่วงเวลาก่อนหน้านี้มันเจ็บปวดมากจริงๆ เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย เรื่องของซือถูมู่หรง และที่ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือเรื่องของพ่อ มันกดทับมาที่เธอจนแทบจะหายใจไม่ออก ช่วงเวลานั้น ดูภายนอกเธอดูเหมือนยังไหว แต่ว่าก้นบึ้งของหัวใจเธอมันสั่นคลอน ทำงานและพักผ่อนแบบไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ กินข้าวก็น้อย มันส่งผลกระทบต่อร่างกายของเธออย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นก็ตั้งท้องแล้วด้วยสินะ? ไม่รู้เหมือนกันว่าทำร้ายลูกไปมากน้อยแค่ไหน
เช้าวันที่สองหลังจากตื่นมา หลิวหยิงเห็นแม่กำลังยุ่งวุ่นวาย ก็ตะลึงไปนานเลย เธอชอบความอบอุ่นแบบนี้มาก และยิ่งรู้สึกว่าเด็กคนนี้จะกลายเป็นส่วนเกิน ลูกของซือถูมู่หรง ไม่ควรจะปรากฏตัวที่บ้านของเธอ ดังนั้น หลิวหยิงก็เลยหาข้ออ้าง และออกไปที่โรงพยาบาล
คุณหมอคะ ฉันตั้งท้อง และฉันอยากจะเอาเด็กออกค่ะ หลิวหยิงพูดประโยคนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน หมอที่มาในวันนี้ไม่ใช่คนเดียวกับเมื่อวาน เธอก็กลัวว่าจะได้เจอกับผู้ช่วยพิเศษเจียงอีก การเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ มันจะสร้างความสงสัยให้คนอื่นได้ คุณหมอที่ผู้ตรงหน้าของเธอในตอนนี้เป็นแพทย์หญิง อายุน่าจะประมาณ40กว่าปี ดูท่าทางอัธยาศัยดี หลิวหยิงรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้นหน่อย
ลองตรวจร่างกายดูก่อนแล้วกันนะคะ คุณหมอหวางเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว พอเห็นว่าเธอมาคนเดียว ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าผู้หญิงที่หน้าตาดีขนาดนี้ จะถูกทอดทิ้ง แล้วอีกอย่าง ท่าทางของเธอก็ดูระทมทุกข์มามากพอสมควร
หลิวหยิงทำตามกระบวนการ แล้วก็กลับมาหาหมอคนเดิมอีกครั้ง เธอมองมาที่หลิวหยิง แล้วก็อ่านผลการตรวจ สีหน้าของเธอก็ดูจริงจังขึ้นเรื่อยๆ หลิวหยิงมองเธอด้วยความกังวล
หมอขอถามหน่อยนะคะ คุณอยู่กับคนในครอบครัวรึเปล่าคะ? คุณหมอหวางพูดอย่างจริงจัง น้ำเสียงแบบนี้ทำให้หลิวหยิงมีลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ฉัน……พวกเขาไม่อยู่ค่ะ คุณหมอพูดมาตามตรงได้เลยค่ะ ฉันรับได้ หลิวหยิงลูบท้องของตัวเอง ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นชัดเจนนัก ยังลูบไม่เจออะไร แต่ว่าหลายวันมานี้เธอก็รู้สึกมาโดยตลอดว่า เธอไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้ว ตอนนี้เธอจะเป็นแม่คนแล้ว ต้องดูแลให้ดี
ร่างกายของคุณค่อนข้างอ่อนแอ มดลูกเย็น ถ้าเกิดว่าเอาเด็กคนนี้ออก ในอนาคตอาจจะตั้งครรภ์ยากนะคะ สถานการณ์แบบนี้ คุณหมอหวางก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อหลิวหยิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ได้ผ่านความทรมานมา อย่างมากน่าจะเป็นทางด้านจิตใจ ก็จริง ถ้าเกิดว่าทั้งสองคนยังรักกันดีอยู่ แล้วทำไมถึงจะอยากเอาเด็กออกล่ะ?
หมายความว่าถ้าฉันอยากจะเอาเด็กคนนี้ออก ต่อไปก็จะไม่สามารถมีลูกได้แล้วเหรอคะ? หลิวหยิงย้ำอีกครั้ง น่าเศร้าจริงๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงด้วย หรือว่า เธอต้องเก็บเด็กคนนี้เอาไว้อย่างนั้นเหรอ?
ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แค่ตั้งครรภ์ยากเท่านั้นเองค่ะ บวกกับการที่อารมณ์ของคุณในช่วงนี้ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก มันอาจส่งผลกระทบให้คุณฟื้นตัวได้ยากหลังจากแท้งบุตร คุณหมอหวางพูดออกมา คนที่มาที่นี่ มีคนที่สงบ เศร้า ปวดใจ แล้วก็มีคนที่ทะเลาะกันมาอีกด้วย แต่ว่าแบบหลิวหยิงนี้ ที่ทั้งสงบและสิ้นหวังแบบนี้มีไม่ค่อยเยอะ เหมือนกับว่าได้รับการกระทบกระเทือนอะไรมา แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่คอยสนับสนุนเธออยู่
หลิวหยิงเอียงหัว นี่มันน่าขันซะจริงเลย เธอน่ะหกคะเมนเพราะซือถูมู่หรงมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ตอนนี้เธอยังจะต้องมาล้มเพราะเด็กคนนี้อีกเหรอ?
คำแนะนำของหมอก็คือ เก็บเด็กคนนี้ไว้ก่อนชั่วคราว ด้านหนึ่งก็เพื่อที่จะรอให้หวังว่าร่างกายของคุณจะไม่ได้รับความเสียหายมากจนเกินไป อีกด้านหนึ่งก็คือหวังว่าคุณจะได้ปรึกษากับคนในครอบครัวดูก่อน ถ้าเกิดว่าตัดสินใจจะเอาเด็กคนนี้ออกจริงๆ หลังจากการผ่าตัดคุณก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ ไม่ให้มีอันตรายใดๆ แฝงเร้นอยู่ สิ่งที่คุณหมอหวางไม่อยากจะเห็นมากที่สุดก็คือ ถ้าเกิดว่าเอาลูกออกไปแล้วจะไม่สามารถมีลูกได้อีก นี่มันเหมือนกับมีดเล่มหนึ่ง ที่จ่ออยู่ที่คอของผู้หญิง ไม่ว่าจะเลือกยังไง มันก็ไม่ได้ปลอดภัยเลย
และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ หนทางยังอีกยาวไกล หากเธอเสียโอกาสในการเป็นแม่ไปเพราะเหตุนี้ เกรงว่าน่าจะทุกข์ใจมากน่าดู แค่หวังว่าเธอกับคนรักของเธอยังจะมีความรู้สึกต่อกันอยู่ คุณหมอหวางไม่อยากพูดว่าสามี ปกติแล้วผู้หญิงที่มาที่นี่คนเดียว ก็ต่างยังไม่ได้แต่งงานกันทั้งนั้น การที่จะสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ ผู้หญิงพวกนั้นต้องผิดหวังมากแน่นอน ดังนั้นเธอก็เลยไม่ถามอะไรเลย ได้แต่ถามอีกรอบว่า คุณคิดเรียบร้อยรึยังคะ?
ไม่ใช่ว่าประโยคนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เสมอไป แต่ว่า เธอแค่หวังว่า ตอนที่ผู้หญิงคนไหนก็ตามทำการตัดสินใจแบบนี้ พวกเธอไม่ได้ตัดสินใจด้วยความใจร้อน แต่ว่ามันผ่านการไตร่ตรองอย่างจริงจังมาแล้ว พวกเธอต้องทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น ในเรื่องนี้ คนที่ต้องเจ็บปวดก็คือฝ่ายหญิงเท่านั้น
หลิวหยิงอ้าปาก เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ไปปรึกษากับคนอื่นงั้นเหรอ? ซือถูมู่หรงหรือไง? ไม่ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เธอกับซือถูมู่หรง ถ้าเกิดว่าสามารถไม่เจอกันได้ เธอก็ไม่อยากจะเจอเขาอีกตลอดชีวิต ปรึกษากับแม่งั้นเหรอ? ถ้าเกิดว่าแม่รู้อาการของร่างกายเธอตอนนี้ ต้องให้เธอเก็บเด็กเอาไว้อย่างแน่นอน แต่ว่า เธอจะให้แม่ของเธอเลี้ยงลูกของซือถูมู่หรงได้ยังไงกัน? เธอมีสถานะอะไรที่จะสามารถทำแบบนั้นได้?
ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ? หลิวหยิงทำได้แค่ฝากความหวังไว้กับหมอ แต่น่าเสียดาย ที่คุณหมอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ต่อให้จะอยากทำมากก็ตาม ดูจากอาการคุณในตอนนี้ หลังจากผ่าตัดต้องมีคนดูแล และอีกอย่าง ต้องบำรุงรักษาตัวเองให้ดีมาก จำเป็นต้องให้คนในครอบครัวของคุณรับรู้ด้วยนะคะ คุณหมอหวางก็ปวดใจเหมือนกัน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้ ดูเหี่ยวแห้ง ซีดเซียว แม้เสื้อผ้าบนตัวจะมีราคาแพง แต่ว่า เงินจะรักษาหรือเติมความเจ็บปวดและความว่างเปล่าในใจได้ที่ไหนกันล่ะ?
หลิวหยิงหลุบตาลง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เป็นแบบนี้ไปแล้วกัน เธอยังจะทำยังไงได้อีก? แล้วจะทำอะไรได้อีกล่ะ?