ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1690 ทำร้ายตัวเองเพื่อหลอกให้อีกฝ่ายเห็นใจ
เพียงแต่ว่า ซือถูมู่หรงไม่ได้ใช้ข้ออ้างเดิม และไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย แค่ยิ้มให้กับเธอเฉยๆ คุณกลับไปก่อนเถอะ พักผ่อนดีๆนะ เป็นเพราะว่ากดดันมากเกินไปแล้ว
หลิวหยิงกลับไปโดยธรรมชาติ กลับไปถึงห้องก็ยังงงๆเบลอๆ ผลกระทบแรงเกินไปแล้ว นานมากแล้วที่หลิวหยิงไม่ได้เอาคนข้างนอกมาทับซ้อนกับซือถูมู่หรงในความทรงจำ หลังจากเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าอย่าคิดมากอีกเลย ถึงมีปฏิกิริยาตอบรับว่าความจริงแล้วเธอไม่ได้ทำอะไรเลย ซือถูมู่หรงไม่ได้พูดว่าไม่ตามติดเธอ ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ตัวเองกลับมาอย่างสมเหตุสมผล เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ หลิวหยิงโมโหเล็กน้อย แต่ว่าเมื่อกี้ออกไปหนึ่งครั้งแล้วนี่น่า ออกไปตอนนี้ไม่ได้อีกแล้วแน่นอน หลิวหยิงนอนคว่ำอยู่บนเตียงด้วยความโมโห ดึงกระชากหมอนข้างมาระบาย
หยิงเอ๋อร์ เป็นอะไรลูก? แม่หลิวเห็นว่าหลิวหยิงเดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออก ซึ่งใช้เวลาไม่มากนัก ที่สำคัญหลายวันมานี้ซือถูมู่หรงไม่มีการเคลื่อนไหวเลย บางครั้งไปที่ใกล้ๆ แม่หลิวจึงไม่ได้ตามไปด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพียงแต่ว่า แม่หลิวชอบหลิวหยิงในสภาพแบบนี้ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้หน้าตาเศร้าหมอง โมโห ยังรู้จักระบายออกมา สำหรับสุขภาพทางจิตแล้วดีมากเลย
เปล่าค่ะ โมโหซือถูมู่หรงค่ะ หลิวหยิงตอบ คำคำนี้ ตอบไปว่าไม่มีอะไร แต่ว่าซือถูมู่หรงดันทำให้คนอื่นโมโหจะแย่ ที่สำคัญตัวเองยังไม่สามารถระบายกับเขาโดยตรง ช่างเกินไปแล้วนะ
ซือถูมู่หรงพูดว่า เพราะหนูพูดว่าลูกไม่เกี่ยวกับเขา หนูก็คือไม่ยอมรับในตัวตนของเขา ถ้างั้นเขาก็ไม่มีตัวตน เพราะฉะนั้นเขาตามติดหนูหนูก็ปฏิเสธไม่ได้ หลิวหยิงคิดยังไงก็รู้สึกไม่ใช่นี่น่า แต่ดันหาวิธีที่ปฏิเสธไม่ได้ ตอนที่พูดกับแม่หลิวกล้ำกลืนฝืนทนเล็กน้อย
แม่หลิวมองดูหลิวหยิง อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นี่ถูกซือถูมู่หรงหลอกเข้าแล้วสิ ทำไมถึงเหมือนกับกระต่ายเลยอ่ะ ทั้งอ่อนโยนและเชื่อฟัง เด็กโง่เอ้ย ถ้าอย่างงั้นทำไมลูกต้องสนใจเขา เขาพูดจบลูกก็เดินหนีไปเลยสิ บอกเขาว่าลูกไม่เห็นเขาก็ได้แล้วนี่?
หลิวหยิงคิดๆดู ใช่สิน่ะ ซือถูมู่หรงมาครั้งนี้ ต้องไม่ยอมให้ตัวเองไม่สนใจเขาแน่นอนอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ทำไมต้องพูดมากขนาดนั้นด้วย ไม่สนใจเขาก็พอแล้วนี่?
หลิวหยิงคิดแบบนี้ก็คิดออกทันทีเลย ไม่คาราคาซังอีกแล้ว ตอนนี้ดูท่าแล้ว ซือถูมู่หรงไม่จากไปง่ายๆหรอก ถ้างั้น วันหลังมีโอกาสทำให้ซือถูมู่หรงรู้สึกว่า ตัวเองไม่สนใจเขาก็แล้วกัน อารมณ์ของตัวเองดีขึ้นเลยไม่น้อย
แม่หลิวมองดูหลิวหยิง ค่อยๆหดหู่ใจขึ้นมา รู้สึกว่าเรื่องราวเกินที่จะควบคุมไว้ได้ตั้งนานแล้ว ระหว่างซือถูมู่หรงกับหลิวหยิง ความแค้นเหล่านั้นเหมือนได้หายไปหมดแล้ว อย่างงุนงง พวกเขาสามารถคบกันอย่างใจเย็น และพูดคุยกันอย่างใจเย็น ไม่รู้ว่าใจเย็นแบบนี้ เป็นเพราะว่าทั้งคู่ต่างไม่สนใจกันแล้ว หรือเป็นเพราะว่าพวกเขาละเลยบางอย่างจากจิตใต้สำนึก แต่ว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม ล้วนไม่ใช่เรื่องราวที่สวยงามขนาดนั้น
หลายวันมานี้ซือถูมู่หรงตามติดหลิวหยิงมาโดยตลอด ทีแรกคิดว่า การพูดคุยกันของก่อนหน้านี้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นมาไม่น้อย สุดท้ายวันที่สอง หลิวหยิงไม่สนใจซือถูมู่หรงอีกแล้ว นี่เป็นการละเลยอย่างสิ้นเชิง ต่อให้หลิวหยิงพบเห็นซือถูมูหรงก็ตาม ก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น นี่ทำให้ซือถูมู่หรงหดหู่ใจอย่างมาก
เพียงแต่ว่าซือถูมู่หรงไม่โกรธ ยังคงตามหลังหลิวหยิง หลิวหยิงไปไหน เขาตามไปตลอด แต่ว่าไม่เข้าไปรบกวน หลายวันผ่านไป ซือถูมู่หรงคงมีควาสุขกับบรรยากาศแบบนี้ หลิวหยิงทำธุระของตัวเอง เขาอยู่เป็นเพื่อนอย่างเงียบๆ
หลิวหยิงคิดว่า ซือถูมูหรงคงโกรธ คิดไม่ถึงเลยว่าตามติดเธออย่างใจเย็น ที่สำคัญไม่รบกวนเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้แสดงท่าทีความต้องการ ก็แค่ตามติดเฉยๆ สภาพแบบนี้ มีความรู้สึกว่าชีวิตช่างสงบดีนักหลิวหยิงพบว่าตัวเองถึงกับรู้สึกว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ตอนที่กลับไป ซือถูมู่หรงยังคงตามหลัง มองดูหลิวหยิงซึ่งกำลังมีความสุขกับบรรยากาศรอบๆที่อบอุ่นและสวยงาม รอยยิ้มกว้างมากขึ้น เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นแบบนี้มาโดยตลอด
บรรยากาศแบบนี้ สวยงามและเงียบสงบดี แต่ว่า เสียงเบรครถยนต์ที่แหลมคม ทำให้คนรอบๆหดหู่ใจขึ้นมา
ทีแรกหลิวหยิงยืนรอสัญญาณไฟจราจรอยู่ข้างถนนเดิมทีที่นี่เป็นที่ที่ปลอดภัย หลิวหยิงก็เลยไม่ค่อยกังวล เพียงแต่ว่ามีรถยนต์คันนึงวิ่งชนเข้ามาโดยตรง กระทบต่อรถยนต์คันอื่น มีรถยนต์คันนึงพุ่งไปที่หลิวหยิงโดยตรง หลิวหยิงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยด้วยซ้ำ
ชนมาพร้อมกัน ซือถูมู่หรงแทบจะสังเกตุถึงความวุ่นวายข้างหลังในพริบตาเดียว เขาก็วิ่งเข้ามาเลย รับตัวหลิวหยิงและถอยหลังออกไปหลายก้าว แต่ว่าเหตุการณ์กะทันหันเกินไป ล้มลงไปที่พื้นโดยตรง ซือถูมู่หรงคิดได้ว่าหลิวหยิงกำลังตั้งครรภ์ ไม่สามารถได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นตอนที่ล้มลงไป อุ้มหลิวหยิงไว้ในอ้อมกอดทั้งคน ข้างหลังและแขนถลอกเป็นแผล มีเลือดซึมออกมาด้วย
เสียงตกใจตะโกนของคนรอบๆข้าง หลิวหยิงคลานขึ้นมา เมื่อกี้ซือถูมู่หรงปกป้องเธออย่างดี นอกจากขาพลิกแล้ว ส่วนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เธอมองดูซือถูมู่หรง คนคนนี้ตอนที่วิ่งเข้ามา เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุตรงหน้า ถ้าซือถูมู่หรงไม่ลากตัวเธอออกไป เกรงว่า คงตายไปแล้ว?
คุณเป็นไรมั๊ย? ซือถูมู่หรงลุกขึ้นยืน มองดูหลิวหยิงตั้งแต่หัวจรดเท้า พยุงเธอและหมุนตัวรอบนึง เพื่อดูให้แน่ใจ
ไม่เป็นไร ก็แค่ขาพลิก หลิวหยิงไม่ได้ปิดบัง ปฏิกิริยาของคนคนนึง น่าจะเป็นความจริงทางจิต?ขณะที่เกิดอันตรายซือถูมู่หรง ปกป้องตัวเองก่อน หลังจากลุกขึ้นมา เธอก็ถามไถ่ตัวเอง แสดงว่า เขาก็มีความจริงใจให้กับตัวเองอยู่นะ?หลิวหยิงคิดในใจ และมองหน้าซือถูมู่หรงด้วยสายตาที่ชื่นชม
ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ซือถูมู่หรงโล่งใจ งั้นเราก็ต้องไปตรวจที่โรงบาลสักหน่อย ซือถูมู่หรงพูดต่อ ตอนนี้หลิวหยิงไม่ปกติ ต้องรับรองความปลอดภัยของเธอกับลูก
ได้เลย คุณก็ได้รับบาดเจ็บด้วย หลิวหยิงพยักหน้า โดยไม่ปฏิเสธ รอบข้างวุ่นวายตั้งนานแล้ว ทั้งคู่ก็ไม่รีรอ ขับรถไปที่โรงบาลเอง
หลิวหยิงขาพลิก เดินลงจากรถไม่ค่อยสะดวกนัก ซือถูมู่หรงพยุงไว้ตลอดเวลา หลิวหยิงมองดูคราบเลือดบนเสื้อเชิ้ตของซือถูมู่หรง หดหู่ใจบ้าง ตอนนี้ความสนใจของซือถูมู่หรงทั้งหมดอยู่ที่ตัวเธอแล้ว เหมือนกับว่าไม่ได้สังเกตุเห็นเลยว่าตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เข้าไปในโรงบาล ซือถูมู่หรงก็ให้คนอื่นพาหลิวหยิงไปตรวจเช็คและรักษาก่อน รู้ตัวอีกทีมีคนข้างๆเตือน เขาถึงจะดูแลบาดแผล ซือถูมู่หรงได้สติปุ๊บ ไม่ให้พวกเขาช่วยทำแผล กลับนั่งอยู่ข้างๆเพื่อรอหลิวหยิงออกมา
ผลตรวจของหลิวหยิงไม่ค่อยนานมากนัก หนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ร่างกายของหลิวหยิงไม่เป็นไร ลูกก็ไม่เป็นไร แค่ขาพลิก กระดูกไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยรวมแล้ว ร่างกายไม่เป็นไรนะ หลิวหยิงสบายใจเลยไม่น้อย ความจริงเธอกลัวที่สุดก็คือ ลูกจะได้รับบาดเจ็บรึเปล่า หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่เป็นไร ตอนที่ออกมาสีหน้าผ่อนคลายสุดๆ ยังดีใจอีกต่างหาก เพราะหมอพูดว่า ไม่มีอุบัติเหตุแล้วละก็ เด็กไม่มีปัญหานะ ดีกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย แต่ว่าก่อนสามเดือนต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
หลิวหยิงลูบท้อง คิดอยู่ว่าชีวิตช่างเข้มแข็งเหลือเกินใครจะไปคิดล่ะว่า ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ยังกังวลอยู่เลยว่าลูกจะรอดรึเปล่า ตอนนี้ หมอพูดว่าดูแลดีๆ เป็นเพราะลูกคนนี้ หลิวหยิงมีความรู้สึกว่า ชีวิตของตัวเองมีค่าขึ้นมา เธอจะปกป้องลูกคนนี้ โดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ
รอยยิ้มของหลิวหยิงตอนออกจากห้อง ขณะที่เห็นซือถูมู่หรงแข็งทื่อทันที เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ระเบียงทางเดินคนเดียว ก้มหน้าก้มตา เหมือนกับหมดแรง เสื้อผ้ายับเยิน คราบเลือดบนเสื้อแข็งตัวแล้ว ดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่า บาดเจ็บสาหัสรึเปล่า
หลิวหยิงโกรธทันที เธอเดินเข้าไปเร็วไว เพิ่งอยากจะถามซือถูมู่หรง ขณะที่เขาเห็นตัวเองในพริบตาเดียว ดวงตาสดใส และกอดเธอโดยตรง เหมือนกับว่าได้เกิดใหม่และบ่นๆว่า ดีนะที่คุณไม่เป็นไร ฉันตกใจแย่เลย
พริบตาเดียวคำพูดที่โกรธเคืองหลิวหยิงพูดไม่ออกแล้ว คนตรงหน้า แรงที่กอดเธอ เหมือนกับต้องการบีบเธอให้เละไปเลย เป็นความวูบวามที่เหมือนกับได้เกิดใหม่ หลิวหยิวเกิดความเสียใจขึ้นมา ทำไมนะ?พวกเขามาถึงขั้นนี้แล้ว เลิกกันดีๆไม่ดีหรือ?ตัดบัวยังเหลือใย แล้วก็ไม่สามารถคบกันอย่างสบายใจ ทรมานแบบนี้ ทำไมกันล่ะ?ซือถูมู่หรงไม่เข้าใจหรือไง?เมื่อก่อนหลิวหยิงคิดว่า ซือถูมู่หรงไม่เข้าใจ หลังจากนั้นถึงพบว่า ซือถูมู่หรงเข้าใจเรื่องพวกนี้มาก แต่ว่าเขาทำไม่ได้ ได้แต่รั้งเธอเอาไว้อย่างสุดชีวิต ไม่ให้เธอจากไปไหน เหมือนกับว่าขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน พวกเขาก็ยังเป็นแฟนกันอยู่