ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่1031 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจ แต่โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน(1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่1031 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจ แต่โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน(1)
ถังจื่อโม่ขยับร่างกาย ค่อยๆลุกขึ้นยืน เขาคิดว่าเขาควรที่จะออกไป ออกไปเผชิญหน้ากับเย่ซือเฉิน!
เพื่อแม่!!
แม้ว่าถังจื่อโม่จะยังเด็ก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเขาก็จะไม่หลบหนี เรื่องอะไรที่เขาต้องเผชิญเขาก็จะเผชิญหน้ากับมัน
เวินลั่วฉิงมองไปที่เย่ซือเฉิน แม้ว่าคำพูดเมื่อกี้ของเย่ซือเฉินจะยังไม่ทันได้พูดจบ แต่เธอรู้ว่าเย่ซือเฉินต้องการจะพูดอะไร
เวินลั่วฉิงไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ในตอนนี้เองถังจื่อโม่ก็ได้ตัดสินใจ ดังนั้นเขาจึงคลานออกจากกล่องที่ซ่อนตัวอยู่ แต่เพราะเสื้อของเขาถูกเกี่ยวเอาไว้ กล่องไม้นี้เป็นกล่องไม้เก่า งานฝีมือเฟอร์นิเจอร์สมัยก่อนคงไม่ได้ประณีตเท่าสมัยนี้ ตะปูที่อยู่ด้านในโผล่พ้นออกมา แล้วเกี่ยวเสื้อผ้าของถังจื่อโม่เอาไว้
ถังจื่อโม่ทำได้เพียงกลับเข้าไปในกล่องอีกครั้ง อยากจะแกะตะขอที่เกี่ยวเสื้อผ้าอยู่ออก
“เวินลั่วฉิง ที่คุณไม่พูดนี่คือยอมรับใช่ไหม ?”เมื่อเย่ซือเฉินเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูดอะไร ก็คิดไปว่าเธอยอมรับมัน ดวงตาเรียวเล็กก็เย็นชาลง:“คุณเลือกถังจื่อโม่จริงๆใช่ไหม ?”
“คุณชายสามเย่ นี่คุณกำลังทำให้ฉิงฉิงลำบากใจอยู่ ? เป็นไปไม่ได้ที่ฉิงฉิงจะไม่เลือกถังจื่อโม่” ฉู่หลิงเอ๋อเห็นสภาพของเย่ซือเฉินในตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัว เธออยากจะพูดให้มันกระจ่าง แต่เธอก็ไม่อาจที่จะไม่ฟังคำของถังจื่อโม่ได้ เพราะฉะนั้นคำพูดเธอก็แฝงความหมายให้แล้ว
เธอคิดว่าคุณชายสามเย่ที่ฉลาดขนาดนี้ ย่อมต้องคิดได้ หากคุณชายสามเย่ยังไม่เข้าใจ ก็ย่อมต้องถามต่อ ถึงตอนนั้นเธอก็สามารถพูดเป็นนัยๆให้อีกสักสองสามคำได้ ถึงตอนนั้นคุณชายสามเย่ก็น่าจะพอเข้าใจแล้ว
แต่เย่ซือเฉินในตอนนี้แทบไม่มีความนิ่งเหมือนที่เคยเป็น และไม่มีความฉลาดเฉลียวเหมือนเวลาปกติเอาซะเลย เพราะฉะนั้นเย่ซือเฉินจึงฟังในสิ่งที่ฉู่หลิงเอ๋ออยากจะสื่อไม่ออกเลย อีกทั้งยังเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก
เย่ซือเฉินเข้าใจผิดคิดว่าเวินลั่วฉิงต้องการที่จะเลือกถังจื่อโม่จริงๆ
“ได้ ได้ ผมเข้าใจแล้ว ผมเข้าใจแล้ว” จู่ๆเย่ซือเฉินก็หัวเราะออกมา แต่รอยยิ้มนั่นไม่ได้สื่อไปถึงแววตา:“ในเมื่อคุณต้องการให้ผมไป ผมก็จะไป ”
ในตอนนี้ถังจื่อโม่เองก็กำลังแกะเสื้อผ้าที่ถูกตะขอเกี่ยวออกอยู่ และตะขอที่เกี่ยวก็อยู่ตรงหน้าเขา เขามองมันไม่เห็น ดังนั้นจึงแกะออกได้ยาก และในตอนนี้ที่เขาเองก็กำลังร้อนใจตะขอที่อยากจะแกะออกก็เหมือนจะยิ่งแกะยากเข้าไปอีก
ดวงตาของเวินลั่วฉิงไหววูบ อยากที่จะเอ่ยปากพูด
“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมถึงทะเลาะกันได้ ? ”และในตอนนี้เอง ท่านย่าถังที่ได้ยินเสียงทะเลาะกันก็ขึ้นมาดู เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็มึนงง :“ มีอะไรก็คุยกันดีๆ ทำไมถึงทะเลาะกันขึ้นมาได้ ”
“ฉิงฉิง มีอะไรก็คุยกันดีๆ ”แม้ว่าปรกติท่านย่าถังจะไม่ค่อยชอบเย่ซือเฉิน แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอจะเข้าข้างเวินลั่วฉิงฝ่ายเดียวไม่ได้เด็ดขาด
ท่านย่าถังเข้าใจดีสองสามีภรรยาเวลาทะเลาะกันสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการที่ผู้ใหญ่ไม่แยกถูกแยกผิดลำเอียงปกป้องแต่คนของตัวเอง
“คุณย่าถัง ผมขอตัวกลับก่อนครับ”เย่ซือเฉินเหลือบมองที่เวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่รอให้เวินลั่วฉิงได้พูด ก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ ทำไมถึงไปดื้อๆแบบนี้ ?”ท่านย่าถังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น:“มันเกิดอะไรขึ้น ?”
“เย่ซือเฉินเข้าใจผิด”ฉู่หลิงเอ๋อแบฝ่ามือออกอย่างจนใจ
“เข้าใจผิด ? เข้าใจผิดเรื่องอะไร ?”ท่านย่าถังนิ่งอึ้ง จากนั้นก็หันไปมองที่เวินลั่วฉิง:“ฉิงฉิง ใช่เรื่องคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่หรือเปล่า ? ฉิงฉิง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเย่ซือเฉิน แต่ในอนาคตเธอทั้งสองคนเท่านั้นที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หนูต้องเชื่อว่าเย่ซือเฉินจะจัดการเรื่องนี้ได้ ”
ท่านย่าถังเข้าใจการกระทำของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ เธอเองก็เป็นกังวลกลัวว่าฉิงฉิงแต่งเข้าตระกูลเย่ไปแล้วจะถูกผู้อาวุโสทั้งสองรังแกเอา แต่ตอนนี้ลูกของเย่ซือเฉินกับฉิงฉิงก็โตแล้ว เธอก็คงจะไม่ขัดขวางอะไรพวกเขาอีก
“ไม่ใช่เพราะพวกเขา”แม้ว่าการกระทำของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะเกินไปอยู่บ้าง แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่เคยมาทะเลาะกับเย่ซือเฉินเพราะเรื่องของผู้อาวุโสตระกูลเย่ทั้งสอง
“แล้วเพราะอะไร ? ความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับเย่ซือเฉินก็ดีกันมาตลอดไม่ใช่เหรอ ? และตอนนี้เขาเองก็รู้เรื่องของพวกเด็กๆแล้ว จะยังเข้าใจอะไรผิดอีก ?”ท่านย่าถังก็ยิ่งมึนงงไม่เข้าใจ
“คุณชายสามเย่รู้เรื่องของถังจื่อซี แต่คุณชายสามเย่ยังไม่รู้ว่าถังจื่อโม่เป็นลูกชายของเขา เพราะเรื่องของถังจื่อโม่คุณชายสามเย่จึงเข้าใจฉิงฉิงผิด”ฉู่หลิงเอ๋อก็อธิบายเพิ่มเติมไป
“เขาเข้าใจเรื่องถังจื่อโม่ผิด ? เขาเข้าใจผิดคิดว่าถังจื่อโม่เป็นลูกหนูกับคนอื่น ? ”ท่านย่าถังตะลึง ใบหน้าฉายแววความโกรธเล็กน้อย:“เจ้าโง่นี่ เข้าใจหนูผิดเรื่องนี้ได้ยังไง ฉันจะไม่อภัยให้เขาแน่”
เวินลั่วฉิง:“……”
ฉู่หลิงเอ๋อ :“……”
ถังจื่อโม่ที่เพิ่งจะคลานออกมาจากกล่อง:“……”
“ท่านย่าถัง ความคิดท่านช่างประเสริฐจริงๆ”พอฉู่หลิงเอ๋อคิดได้ก็หัวเราะออกมาทันที :“หากเย่ซือเฉินกล้าที่จะเข้าใจผิดแบบนี้ ท่านไม่ต้องลงมือเองหรอกค่ะ หนูจะเป็นคนแรกที่ไม่ให้อภัยเขาเด็ดขาด ”
“แล้วเขาจะเข้าใจผิดอะไรได้อีก ? ”ท่านย่าถังคิดว่าเหตุผลนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาด ไม่มีทางที่จะเข้าใจผิดด้วยเรื่องแบบนี้แน่นอน
“เย่ซือเฉินเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นลูกติดของแม่”ถังจื่อโม่ที่ติดอยู่ในกล่องได้เดินเข้ามาในตอนนี้ แล้วพูดเสริมขึ้นมา คำพูดนี้ของถังจื่อโม่ก็ทำให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
“ไอ้คนโง่ ปรกติก็เห็นฉลาดดี แต่พอมาเรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมถึงได้เลอะเลือนไปได้ ถังจื่อโม่ก็ตัวเท่านี้ เขา……”คำพูดของท่านย่าถังหยุดลงทันที ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้ :“หรือเป็นเพราะเย่ซือเฉินไม่เคยเจอกับถังจื่อโม่?”
“ใช่ค่ะ ยังไม่เคยเจอกัน ถังจื่อโม่บอกว่ายังไม่อยากทำความรู้จักเขาในตอนนี้ แถมยังข่มขู่พวกเราห้ามบอกเรื่องเขาให้คุณชายสามเย่ได้รู้ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่กล้าพูด”ฉู่หลิงเอ๋อมองไปที่ถังจื่อโม่ แล้วถอนหายใจออกมา:“ ดังนั้น จึงได้แต่ปล่อยให้คุณชายสามเย่เข้าใจผิดไปแบบนั้น ”
“ถังจื่อโม่ยังไม่อยากทำความรู้จักกับเย่ซือเฉิน ? ” ท่านย่าถังมองไปที่ถังจื่อโม่ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน:“ หนูยังไม่ยอมรับเขาอีกเหรอ ?”
“เขาฟ้องแม่เรื่องของผม แล้วยังว่าร้ายผมอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมยังไม่อยากทำความรู้จักกับเขา”ถังจื่อโม่ไม่ได้บอกว่าเดิมทีเขาก็อยากจะโผล่ออกมา แต่เพราะถูกตะขอเกี่ยวเอาไว้ จึงไม่ทันได้ออกมา
เรื่องแบบนี้ เขาก็อายที่จะพูดมันเหมือนกัน ?!
หากเย่ซือเฉินกลับช้าอีกสักนิด เขาคงออกมาแล้ว !!
“อืม ได้ หากถังจื่อโม่ยังไม่อยากรู้จัก เราก็ยังจะไม่รู้จักไปก่อน ยังไงเขาก็เป็นพ่อของหนู สิ่งนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแน่นอน เขาก็ไม่ได้หนีไปไหน หากเขาจะเข้าใจผิดก็ปล่อยเขา หากเขาจะโกรธก็ปล่อยเขาโกรธ ใครให้เขาโง่กันล่ะ ยิ่งโมโหได้ก็ยิ่งดี ”
อายุอานามท่านย่าถังขนาดนี้แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่จะอ่านไม่ขาด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นถังจื่อโม่ เธอก็รู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ฉลาด รู้ความ และดูเข้มแข็ง แต่ก็มีด้านที่เปราะบางด้วยเช่นกัน
เป็นเด็กที่ใครเห็นใครก็รักและเอ็นดู!!